Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1966 บทสนาอันน่าตกตะลึง
ตอนที่ 1966 บทสนาอันน่าตกตะลึง
หากหลิงฮันและคนอื่นๆอยู่ที่นี่ เขาจะต้องรู้สึกได้แน่ว่าจีอู่หมิงแตกต่างไปจากเดิมทั่วร่างของ เขาในตอนนี้พรั่งพรูไปด้วยออร่าชั่วร้ายที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องรู้สึกกระอักกระอ่วน
“ หืม?” เขาเอนหัวเล็กน้อย “ใครบางคนกําลังมา… แถมดูเหมือนจะจัดการไม่ได้ง่ายๆ ด้วย!”
“ตุบ” เขาพูดจบยังไม่ทันไร ชายร่างสูงราวๆ ห้าฟุตก็ปรากฏตัวใบหน้าของชายผู้นี้ เต็มไปด้วยรอยย่น ราวกับสามารถหมดลมหายใจไปได้ตลอดเวลาห้าฟุต = 150กว่าเซน
ถังหมิงหลง
“เราเคยพบกันมาก่อนรึเปล่า?” ถังหมิงหลงจดจ้องไปยังจีอู่หมิง
จีอู่หมิงเผยรอยยิ้มและกล่าว “ไม่ใช่ว่าข้าเพิ่งทักทายพวกเจ้า ที่หน้าทางเข้าหุบเขาไปเมื่อไม่ กี่เดือนก่อนหรอกรึ?”
ถังหมิงหลงส่ายหัว “ก่อนหน้านั้นไปอีก”
จีอูหมิงเองก็ส่ายหัว “ข้ามาที่อาณาเขตสวรรค์ไม่อันเป็นครั้งแรกเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะ เคยพบกันมาก่อน”
ถังหมิงหลงจ้องไปที่ดวงตาของจีอู่หมิง “ที่ข้าหมายถึงไม่ใช่ในช่วงชีวิตนี้ของเจ้า!”
รอยยิ้มของบนใบหน้าขี่อู่หมิงหายไปทันทีดวงตาของเขาจดจ้องมายังถังหมิงหลง ทั้งสองจ้องมองกันโดยที่ไม่มีใครกล่าวอะไร
“ความรู้สึกที่ข้าสัมผัสได้จากเจ้า ช่างไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลยจริงๆ!” ถังหมิงหลงอย่างไร้สีหน้า “เจ้าจะไปสร้างปัญหาที่ไหนขาไม่สน… แต่หากเจ้าก้าวเข้ามาในอาณาเขตสวรรค์กว่างลงแม้แต่ก้าวเดียวข้าจะสังหารเจ้า!”
ขี่อู่หมิงแน่นิ่งไม่กล่าวอะไรไปพักหนึ่งก่อนจะยิ้มที่มุมปากและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ข้าจําได้แล้วแซ่ของเจ้าคือเซียวสินะ? ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะมีวาสนาข้ามผ่านวัฏจักรการเกิดใหม่มาได้”
“เจ้าเองก็ด้วยไม่ใช่รี?” ถังหมิงหลงกล่าวอย่างไม่แยแส
เมื่อเห็นว่าถังหมิงหลงไม่ปฏิเสธ รอยยิ้มยั่วยุจึงปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของจีอูหมิง“เซียวเทียนสยง ราชานิรันดร์ระดับแปดที่พลังต่อสู้ไม่ธรรมดาถึงแม้ชีวิตจะดับสูญไปแล้ว เศษเสี้ยวดวงวิญญาณก็ได้ถือกําเนิดเป็นชีวิตใหม่แต่เจ้าคิดว่าจะทําอะไรข้าได้?”
“อย่างน้อยพลังของข้า ก็มากพอจะสังหารเจ้า!” ถังหมิงหลงกล่าว น้ําเสียงของเขาค่อยๆ เย็ นชาขึ้นเรื่อยๆ
หากบทสนทนาของพวกเขารู้ไปถึงจอมยุทธระดับโลกียนิพพานคนอื่นล่ะก็ จะต้องเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่แน่นอน ถังหมิงหลงเป็นร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์จริงๆ ด้วยแถมยังเป็นถึงราชานิรันดร์ระดับแปดอีก อีกเพียงก้าวเดียวเขาก็จะได้ ขึ้นเป็นตัวตนที่อยู่บนจุดสูงสุดของดินแดนแห่งเซียน
จีอูหมิงไม่แสดงท่าที่หวาดกลัวใดๆ “เซียวเทียนสยง เจ้ารู้ไม่ทําไมข้าถึงได้เกิดใหม่?”
เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่คิดจะอ่อนข้อของถังหมิงหลงเขาก็กล่าวต่อ “ข้าไม่ได้ตายในชีวิตที่แล้ว แต่ ข้ายอมสละร่างกายของราชานิรันดร์เพื่อกําเนิดใหม่ด้วยตัวเอง!”
ว่าไงนะ! ครั้งนี้ในที่สุดถังหมิงหลงก็แสดงท่าที่ตกตะลึงออกมาขนทั่วร่างของเขาลุกซู่ราวกับม นุษย์ทั่วไปที่พบเห็นผี
“จะ… จะ…. เจ้า…” เขากระอักกระอ่วน จนพูดไม่เป็นคําพูด
จีอู่หมิงแสยะยิ้ม “ด้วยพลังในตอนนี้ข้าสังหารเจ้าค่อนข้างลําบากแต่สําหรับเจ้านั้น ไม่มีทางเลยที่จะสังหารข้าได้ เพราะงั้นทางที่ดีจงหลีกทางไปซะไม่เช่นนั้นหากข้าใช้ไม่ลับออกมาการจะกําจัดเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็น”
ถังหมิงหลงไม่โต้เถียงใดๆ ร่างกายของเขายังคงสั่นเทิ้มด้วยความตะลึง“ราชานิรันดร์ระดับ เก้าทั่วไปไม่มีทางเลือกที่จะกําเนิดใหม่ด้วยตัวเองได้เจ้าเป็นใครกันแน่!”
จีอู่หมิงนิ่งเงียบ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจังและใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “สงคราม ที่พรมแดนดําเนินไปเป็นเวลานานเกินไปจนข้าลืมไปแล้วว่าข้าเป็นใคร ในเมื่อเจ้าเองก็มาจากยุค สมัยเดียวกันเจ้าก็น่าจะรู้ถึงความสาหัสของสถานการณ์ในตอนนั้นดี”
“อืม!” ถังหมิงหลงพยักหน้า สีหน้าของเขาเผยถึงความเคารพและเลื่อมใส
นับว่าน่าอัศจรรย์มาก ชีวิตของเขาเป็นถึงราชานิรันดร์ระดับแปดแท้ๆในพิภพนี้กล่าวได้ว่า เขาคือตัวตนที่แทบจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดแต่กลับยังต้องแสดงท่าที่เคารพออกมาต่อหน้าใครบางคน จีอู่หมิงต้องเป็นตัวตนระดับใดกันแน่?
ราชานิรันดร์ระดับเก้า!
เกิดอะไรขึ้นกัน?
เหตุใดราชานิรันดร์ระดับเก้าถึงได้สิ้นชีพ? ไม่สิ
พูดให้ถูกคืออีกฝ่ายเลือกที่จะสละร่างกายของตนเอง
ทําไมล่ะ? ทําไมถึงต้องทําเช่นนั้น?
ไม่ใช่ว่าราชานิรันดร์ระดับเก้า คือตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดแล้วงั้นรึ?
“เพื่อที่จะกําจัดพายุมืด มีเพียงต้องบรรลุระดับมหาปราชญ์สวรรค์เท่านั้น!”จีอูหมิงเอ่ยกล่าว เสียงของเขานึกก้องกังวานราวกับข้ามผ่านไปทั่วยุคสมัย
ท่าทีของถังหมิงหลงแสดงออกถึงความเคารพมากขึ้นเรื่อยๆและกล่าว “เพื่อปัดเป่ามหันตภัย พายุมืดผู้อาวุโสไม่ลังเลแม้กระทั่งยอมสละร่างกายของตนเองผู้น้อยเลื่อมใสในเรื่องนี้อย่างมาก! เพียงแต่ว่า…” เขาทําสีหน้าลังเล“รุ่นเยาว์ในที่นี้ก็เป็นความหวังในอนาคตของเราเช่นกันข้าขอให้ผู้อาวุโสแสดงความเมตตาด้วย”
“เพื่อแผนการอันยิ่งใหญ่ การเสียสละย่อมเป็นสิ่งจําเป็น” จีอูหมิงกล่าวอย่างไม่แยแส “ข้ายอมแม้แต่สละร่างราชานิรันดร์ของตนเอง เพื่อเกิดใหม่แล้วรุ่นเยาว์เหล่านี้จะไม่คิดเสียสละอะไรเลยงั้นรึ?”
“แต่ถึงจะอย่างนั้น” ถังหมิงหลงยังไม่เห็นด้วยกับความคิดของอีกฝ่าย
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น” จีอูหมิงกล่าวด้วยน้ําเสียงเด็ดขาด “เห็นแก่ความดีความชอบของเจ้าใน สงครามชายแดน ข้าถึงได้พูดกับเจ้ามากมายขนาดนี้หากเจ้ายังพล่ามไร้สาระอีก ข้าจะปลิดชีวิตของเจ้าซะ”
ถังหมิงหลงลังเล แต่ก็รีบกลับมากล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว “ที่ข้าได้กลับมาเกิดใหม่นี้ ข้าตั้งมั่นเอาไว้ว่าจะบรรลุกลับไปเป็นราชานิรันดร์ และไปยังอาณาเขตชายแดนเพื่อต้านทานพายุมืดอีกครั้งจุดประสงค์ของข้าคือต้องการปกป้องลูกหลานของเรา แต่ผู้อาวุโสกลับจะบอกให้ข้ามองดูเมล์ดพันธุ์แห่งความหวังถูกสังหารโดยไม่ทําอะไรเลยงั้นรึ?”
“อย่าง ยี่ แห่งอาณาเขตสวรรค์กว่างลง เขาเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นแห่งยุค และมีโอกาสบรรลุเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้าในอนาคต ซึ่งจะเป็นกําลังหลักในการช่วยเราต่อต้านพายุมืดได้”
“เมล็ดพันธุ์เช่นนั้นไม่สมควรตายด้วยมือของผู้อาวุโส แต่สมควรมอบโอกาสให้เขาได้เติบโต”
“ช่างตาตื่นัก!” จีอูหมิงกล่าว ก่อนจะผลักฝ่ามือออกมาโจมตีใส่ถังหมิงหลง ครืนนน” เพียงหนึ่งฝ่ามือโลกทั้งใบก็ราวกับตกอยู่ในความมืดมิด
นี่คืออํานาจของราชานิรันดร์ เพียงแต่อํานาจที่ว่าก็ไม่ใช่ของราชานิรันดร์ที่สมบูรณ์ เปรียบแล้วก็เหมือนกับเพลิงเก้าสวรรค์ของหลิงฮันที่แม้จะเป็นสิ่งที่อยู่ในระดับราชานิรันดร์ แต่ก็ถูกจํากัดพลังเอาไว้ด้วยพลังบ่มเพาะ
“ขอล่วงเกินผู้อาวุโส!” ถังหมิงหลงกล่าวเสียงเบา แกร่ก” กระดูกภายในร่างของเขาส่งเสียงสั่นสะเทือนร่างที่เคยสูงเพียงห้าฟุตของเขาแปรสภาพกลายเป็นร่างที่สูงเจ็ดฟุต “เจ็ดฟุต = 210กว่าเซน*
เขาตอบโต้การโจมตีที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่หวาดกลัว
หากเป็นในชีวิตที่แล้ว ถังหมิงหลงย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจีอูหมิง ถ้าให้ราชานิรันดร์ระดับแปดไปเผชิญหน้ากับราชานิรันดร์ระดับเก้า ผลลัพธ์คงมีเพียงความตาย แต่ตอน นี้ทั้งสองเป็นจักรพรรดิในระดับห้านิพพานเหมือนกันด้วยขีดจํากัดของพลังบ่มเพาะ ต่อให้เป็นอ ดีตราชานิรันดร์ระดับแปดหรือเก้าก็ไม่ได้มีพลังต่อสู้ที่ต่างกันนัก
ด้วยเหตุนี้การปะที่อุบัติขึ้นจึงดุเดือดเป็นอย่างมาก และยากที่จะมองออกว่าฝ่ายไหนที่แข็งแกร่งกว่า
นต้องใช้ทักษะลับบางอย่าง ส่วนทางด้านของถังหมิงหลง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารเขา
การปะทะอันดุเดือดได้ดําเนินต่อไป