Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1971 จี่อู๋หมิงลงมือ
ตอนที่ 1971 จี่อู๋หมิงลงมือ
“เข้าปะทะ!”
หลิงฮันคํารามและเป็นคนแรกที่ลงมือ พลังต่อสู้ของเขาฟื้นฟูกลับมาเพียงเล็กน้อยก็จริง แต่ด้วยพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน เขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย
ด้วยการนําของเขา เอี๋ยนเซียนลู่และคนอื่นๆ เองก็เริ่มลงมือตาม
ทุกคนอดทนมาเป็นเวลานานแล้ว เมื่อได้โอกาส พวกเขาจึงตอบโต้กลับไปอย่างรวดเร็ว
ซูหย่าหรงถอนหายใจ ร่างของนางพุ่งทะยานมาขัดขวางหลิงฮันพร้อมกับผลักฝ่ามือออกไป “น้องชายหลิง ช่วยยั้งมือด้วย พวกเราทุกคนควรมองภาพรวมเป็นอันดับแรก”
“ภาพรวมงั้นรึ?” หลิงอันแสยะยิ้ม “เจ้าจะบอกให้ข้ามองภาพรวมในตอนนี้น่ะ? ในตอนที่มีคนคิดจะลงมือกับข้าเมื่อครู่ ไหนล่ะภาพรวมของเจ้า? ในตอนที่มีคนคิดจะแย่งชิงดาบของข้าไปไหนล่ะภาพรวมของเจ้า?”
“ภาพรวมที่เจ้าว่า จะมีก็ต่อเมื่อในตอนที่ฝั่งของตนเองเดือดร้อนงั้นสินะ?”
หลิงฮันรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก ในตอนแรกก็เป็นฝั่งของอาณาเขตสวรรค์กว่างถึงที่ดูหมิ่นพวกเขา แถมตอนนี้ยังปองร้ายต่อเขาอีก เขาจึงไม่คิดจะอดทนอีกต่อไป
เขาโจมตีตอบโต้อย่างเกรี้ยวกราด ทางด้านของฮูหนิวเองก็คํารามเสียงดังปลดปล่อยพลังต่อสู้ทั้งหมดออกมา เงาของมัจฉาวายุภักษ์กระพืออีกอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดเป็นคลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัว จักรพรรดินีเองก็ไม่น้อยหน้า ร่างแยกทั้งเก้าถูกเรียกออกมา และโคจรปลดปล่อยทักษะนิรันดร์มากมายพร้อมกัน
ในขณะที่มีทั้งสามคนเป็นแกนนําหลัก เอี๋ยนเซียนลู่ ซานจี้ถงและเหลาซงก็ได้ผสานพลังกันด้วยค่ายกลบางอย่าง ทําให้พลังต่อสู้ของพวกเขาไม่อาจดูถูกได้
เย่หลินเฟิงคําราม และนําอัจฉริยะทางฝั่งของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งโจมตี
แก่นแท้แห่งเต๋านั้น ถึงแม้ทุกคนจะสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ แต่จํานวนของคนที่ใช้ได้ก็มีจํากัด จอมยุทธทางฝั่งอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง จึงไม่ต้องการแบ่งผลประโยชน์ให้กับทางฝั่งอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน และฝั่งของอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน ก็ไม่ต้องการแบ่งผลประโยชน์ให้กับฝั่งอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง
ทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด
ในด้านของจํานวนจักรพรรดินั้น ทางฝั่งของอาณาเขตสวรรค์ไท่อันนั้นเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีกันอยู่เพียงหกคนเท่านั้น ในขณะที่อาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งมีจักรพรรดิมากถึงสิบคน เพียงแต่ด้วยความแข็งแกร่งของหลิงฮัน ฮูหนิว และจักรพรรดินี สถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายจึงกลายเป็นสมดุลกัน
“ธิดาซู อย่าได้ลังเลที่จะกําจัดสวะเหล่านี้!” เหล่าราชาในหมู่ราชาของอาณาเขตสวรรค์ กว่างล๋งส่งเสียงตะโกน โดยที่พวกเขาไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะเข้าร่วมการต่อสู้
ซูหย่าหรงลังเล จากสถานการณ์แล้ว เห็นได้ชัดว่าทั้งสองฝ่ายไม่อาจเป็นสงบศึกกันได้อีกต่อไป และนางจําเป็นต้องจําเป็นต้องรีบสะสางความวุ่นวายให้เร็วที่สุด
“ฮ่าๆๆ คนหมู่มากรังแกคนหมู่น้อยงั้นรึ?” เสียงหัวเราะดังขึ้น พร้อมกับร่างหนึ่งได้พุ่งทะยานเข้ามา “พรึบ” ร่างนั้นยกมือขึ้นและยิงลูกศรอันรวดเร็วเกินพรรณนา เข้าใส่จักรพรรดิผู้หนึ่งของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง
จักรพรรดิผู้นั้นกําลังเข้าน้ำนั่นกับฮูหนิวอยู่ เมื่อเห็นว่ามีลูกศรพุ่งเข้ามา เขาก็คํารามอย่างเกรี้ยวกราดและโคจรทักษะนิรันดร์เอื้อมมือไปยังลูกศร
“ฟุบ” เขาคว้าจับลูกศรเอาไว้ แต่ลูกศรนั้นเคลื่อนที่รวดเร็วเกินไป สิ่งที่เขามองเห็นตรงหน้าจึงมีเพียง โลหิตที่สาดกระจายออกมาจากฝ่ามือ และตัวลูกศรได้แทงทะลุมือไปยังหน้าอกของเขา
จักรพรรดิผู้นั้นเค้นเสียงและกระโดดล่าถอย
โชคดีที่เขาคว้าลูกศรเอาไว้ทัน พลังทําลายของลูกศรจึงลดลงไปบางส่วน
แต่ถึงอย่างไรใบหน้าของเขาก็ยังคงเปลี่ยนเป็นซีดเผือด และพลังชีวิตได้ถูกเผาผลาญไปอย่างรวดเร็ว
คนที่ลอบโจมตีคือจี่อู๋หมิง!
ธนูในมือของเขาคืออุปกรณ์นิรันดร์ที่แท้จริง ต่อให้พลังของมันจะถูกจํากัดเอาไว้ด้วยพลังบ่มเพาะของตัวจี่อู๋หมิงเอง แต่พลังของมันก็ยังน่าสะพรึงกลัวอยู่ดี
จี่อู๋หมิงแสยะยิ้ม กลิ่นอายอันชั่วร้ายที่ไม่อาจบรรยาย ได้พรั่งพรูออกมาจากร่างของเขา ร่างของเขาพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว และมาปรากฏตัวที่ด้านหลังจักรพรรดิผู้นั้นในพริบตา
“ช่างกล้านัก!” จักรพรรดิผู้นั้นผลักฝ่ามือโจมตี โดยไม่แม้แต่หันหลังกลับไปมอง
เขาเป็นถึงจักรพรรดิ ต่อให้ได้รับบาดเจ็บจนพลังต่อสู้ลดลง แต่พลังทําลายของฝ่ามือก็ยังคงน่าสะพรึงกลัวอยู่ดี
จี่อู๋หมิงอ้าปากกว้าง ก่อนจะมีภาพที่น่าตกตะลึงเกิดขึ้น ปากของเขาขยายใหญ่ราวกับกลายเป็นสัตว์อสูรแสนหิวโหย และเขมือบจักรพรรดิผู้นั้นหายไป จนเหลือเพียงอากาศที่ว่างเปล่า
ถูกเขมือบลงไปทั้งเป็น!
ทุกคนที่มองดูต่างรู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วแขนขา ช่างน่าหวาดกลัวอะไรอย่างไร จอมยุทธที่เป็นถึงจักรพรรดิ กลับถูกกลืนลงไปภายในคําเดียว
ตูม! ตูม! ตูม!
ท้องของจี่อู๋หมิงปรากฏรอยหมัดออกมาจากด้านใน เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิที่ถูกกลืนลงไป พยายามกระหน่ำต่อยท้องของเขาอยู่ เพียงแต่ท้องของจี่อู๋หมิงนั้นทนทานอย่างน่าอัศจรรย์ แม้จะถูกกระหน่ำต่อยอย่างไร ก็ไม่ปรากฏรอยฉีกขาดเลยแม้แต่นิดเดียว
จี่อู๋หมิงตบต้องด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังคนอื่นๆ
“จี่อู๋หมิง!” ซูหย่าหรงคํารามเสียงดัง ก่อนจะกวัดแกว่งดาบเข้าจู่โจมจี่อู๋หมิง
คนผู้นี้ช่างกล้าที่บังอาจลงมือกับจอมยุทธของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งต่อหน้านาง ยิ่งกว่านั้นคนที่ว่ายังเป็นจักรพรรดิอนาคตรุ่งโรจน์ ที่จะกลายเป็นราชานิรันดร์ในอนาคตอีกด้วย
“ฉัวะ” ดาบของนางพุ่งทะลวงเข้าใส่เป้าหมาย
จี่อู๋หมิงยกคันธนูในมือขึ้นมา “ปัง” คันธนูความยาวหนึ่งฟุตยืดออกเป็นห้าฟุตอย่างรวดเร็วและปัดป้องดาบที่พุ่งเข้ามา
“ทําไมเจ้าต้องโกรธด้วย?” เขากล่าวอย่างไม่แยแส
ซูหย่าหรงเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม เปลวเพลิงปะทุออกมาแผดเผาเส้นผมของนาง ก่อนจะลุกลามไปทั่วร่าง จนนางดูราวกับกลายเป็นมนุษย์เพลิง นางพุ่งทะยานร่างจากพื้น และกวัดแกว่งดาบออกไปอีกครั้ง
จี่อู๋หมิงส่ายหัว “ข้าเสียเวลากับการปะทะกับถังหมิงหลงนานเกินไป และไม่อยากจะมาเสียเวลาไปกับเจ้าอีกคน!” ร่างของเขาเคลื่อนที่หลบการโจมตี ของซูหย่าหรงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งต่อไปหาราชาในหมู่ราชาผู้หนึ่ง
ราชาในหมู่ราชาผู้นั้นพยายามตอบโต้อย่างสุดความสามารถ
แต่เพียงแค่จี่อู๋หมิงอ้าปาก เขาก็ถูกกลืนลงท้องไปในพริบตา
ไม่ใช่แค่คนอื่นๆ เท่านั้น แต่ต่อให้เป็นหลิงฮันก็ยังเหงื่อตก คนผู้นี้ช่างโหดเหี้ยมอะไรอย่างนี้ แม้แต่คนเป็นๆ ก็ยังกล้ากลืนลงไป แน่นอนว่าเขารู้ว่าที่จี่อู๋หมิงทําเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะต้องการเติมเต็มความกระหายหิว แต่ทําไปเพื่อเสริมแกร่งพลังต่อสู้ไม่ก็กายหยาบ
“น่าขยะแขยง!” ฮูหนวกอดรัดแขนตัวเองและเผยสีหน้ารังเกียจ
ถึงแม้นางจะเป็นจอมตะกละ แต่นางก็ไม่เคยคิดจะกินคนเลยสักครั้ง
“จี่อู๋หมิง ข้าจะฆ่าเจ้า!” ซูหย่าหรงทะยานร่างไล่ตาม
“เจ้าเอาแต่พูดคําเดิมๆ อยู่ได้ ข้าได้ยินชัดเจนแล้ว ไม่จําเป็นต้องพูดซ้ำก็ได้ เดี๋ยวหูของข้าก็หนวกกันพอดี” จี่อู๋หมิงแคะหู ก่อนจะเคลื่อนที่หลบหลีกต่อ เขาไม่เข้าปะทะกับซูหย่าหรง และเล็งเป้าหมายไปยังคนอื่นแทน
คันธนูในมือของเขานั้นทรงพลังอย่างแท้จริง เขาฉวยโอกาสในขณะที่จอมยุทธของอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน กับอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งกําลังปะทะกันอยู่ ลอบโจมตีไปจักรพรรดิผู้หนึ่งของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง และกลืนกินจักรพรรดิผู้นั้นลงไปทันที
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนั้น เหล่าจอมยุทธของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งก็กลายเป็นวิตกกังวลและหมดกระจิดกะใจจะสู้ต่อในทันที
แต่ทางด้านของอาณาเขตสวรรค์ไท่อันนั้นสึกเหิมยิ่งกว่าเก่า ถึงแม้จี่อู๋หมิงผู้นี้จะน่าสยดสยอง แต่อีกฝ่ายก็ถือว่ากําลังยื่นมือช่วยพวกเขา
เหล่าอัจฉริยะของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งเผ่นหนี โดยไม่สนใจแก่นแท้แห่งเต๋าอีกต่อไป หากต้องนําชีวิตมาทิ้ง ต่อให้ได้สมบัติมาจะมีประโยชน์อะไร?
“ฮ่าๆๆ เปลี่ยนมาเป็นคราวของพวกเจ้าบ้าง!” ดวงตาของจี่อู๋หมิงส่องประกายชั่วร้าย และจู่ๆ กันหันมายังจอมยุทธของอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน
ทันทีที่เขาอ้าปากกว้าง ราชาในหมู่ราชาผู้หนึ่งก็ถูกกลืนลงไปในคําเดียว