Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1994 มหาสมุทรวิญญาณหยางเปิดออก
ตอนที่ 1994 มหาสมุทรวิญญาณหยางเปิดออก
ดวงตาของหลิงฮันหรี่ลง พลังต่อสู้ของจี่อู๋หมิงแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก
ตอนนี้หากให้เขาสู้กับอีกฝ่ายล่ะก็… เกรงว่าคนที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบก็คงเป็นเขา
แต่ด้วยพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน และความสามารถในการฟื้นฟูที่เหนือมนุษย์ ตราบใดที่การต่อสู้ดําเนินต่อไปเรื่อยๆ คนที่จะหัวเราะคนสุดท้ายย่อมไม่ใช่จี่อู๋หมิงแต่เป็นเขา
ดวงตาของยี่ส่องประกายสีทองเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิม จนดวงตาของเขาราวกับกลายเป็นดวงตะวันขนาดย่อมๆ สองดวง จิตวิญญาณสู้รบของเขาพุ่งทะลัก เขายกมือทั้งสองขึ้นและปลดปล่อยคมดาบสุญญากาศนับไม่ถ้วนเข้าใส่จี่อู๋หมิง
ตอนนี้หนึ่งมือของเขากําลังควบคุมห้วงเวลา ในขณะที่อีกมือหนึ่งกําลังควบคุมห้วงมิติ
สีหน้าของจี่อู๋หมิงยังคงสงบนิ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
“ครืนน” เพียงแค่เขาชี้หนึ่งนิ้วออกไปด้านหน้า คมดาบสุญญากาศทั้งหมดก็ถูกทําลายทิ้งทันที
“เป็นแก่นกําเนิดนิรันดร์ที่ยอดเยี่ยม ข้าขอรับมันไปแล้วกัน” จี่อู๋หมิงกล่าว และเริ่มเป็นฝ่ายบุกโจมตีก่อน
เขาระเบิดพลังต่อสู้ทั้งหมดออกมา ทําให้ยี่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในทันใด
อะไรกัน!
ทุกคนขนลุกและอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
พลังต่อสู้ของยี่แข็งแกร่งขนาดไหนนั้น ทุกคนตระหนักได้อย่างชัดเจน เพราะเขาสามารถจัดการจักรพรรดิทั้งสองอย่าง หลัวเชิงหยวนและชื่อบินได้อย่างง่ายดาย การที่ยี่สู้กับจี่อู๋หมิงและตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบนั้น แสดงให้เห็นว่าจี่อู๋หมิงเป็นสัตว์ประหลาดที่เหนือจินตนาการขนาดไหน
หรือเรื่องที่จอมบ้าคลั่งพ่ายแพ้ต่อจี่อู๋หมิงจะเป็นเรื่องจริง?”
“นั่นสิ พลังของจี่อู๋หมิงผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป!”
“เหตุใดสัตว์ประหลาดเช่นนี้ถึงได้ปรากฏตัวขึ้นที่อาณาเขตสวรรค์ที่อ่อนแอที่สุดกัน?”
ทุกคนอุทานออกมา มีเพียงซูหย่าหรงคนเดียวที่ยังคงยืนมองด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ ผู้อาวุโสผู้นี้แต่เดิมเคยเป็นถึงราชานิรันดร์ระดับเก้า ซึ่งการจะบรรลุเป็นราชานิรันดร์เก้าได้ในตอนที่ยังเป็นจอมยุทธระดับโลกียนิพพานอยู่ พลังต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด?
หากกล่าวตรงๆ โดยไม่เข้าข้างฝ่ายใด ต่อให้หลิงฮันกับยี่ในตอนนี้จะแข็งแกร่งเป็นอย่างมากและในอนาคตจะสามารถกลายเป็นราชานิรันดร์ได้แน่นอน แต่สุดท้ายแล้วก็ยังต้องตั้งคําถามอยู่ดีว่าทั้งสองจะบรรลุได้ถึงราชานิรันดร์ระดับใด?
บางทีอาจจะบรรลุถึงเพียงแค่ราชานิรันดร์ระดับสี่ ระดับห้า หรืออย่างมากอาจจะบรรลุถึงแค่ระดับเจ็ดและแปดเท่านั้น เพราะการราชานิรันดร์ระดับเก้า เป็นระดับพลังที่ก้าวถึงได้ยากยิ่ง
กล่าวได้ว่าในชีวิตที่แล้วของจี่อู๋หมิงนั้น ตอนที่ยังมีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับโลกียนิพพานอยู่ พลังต่อสู้ของเขาย่อมทัดเทียมกับหลิงฮันและยี่ แต่ประเด็นสําคัญคือจี่อู๋หมิงผู้นี้ได้กลับมาเกิดใหม่และมีประสบการณ์ของราชานิรันดร์ติดตัวมาด้วย เพราะงั้นเมื่อกลับมาขัดเกลาพลังต่อสู้ในระดับโลกียนิพพานใหม่ คิดว่าพลังต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
ไม่มีใครรู้ และไม่มีใครสามารถจินตนาการได้
ทางด้านของยี่ แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ ยิ่งคู่ต่อสู้แข็งแกร่งเท่าไหร่ ความดื้อรั้นและพลังต่อสู้ของเขาก็ยิ่งถูกรีดเค้นออกมา
ต่อให้ยจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่จี่อู๋หมิงก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ในระยะเวลาสั้นๆ
“ครืนนน” ซึ่งในจังหวะนั้นเอง มหาสมุทร ที่มีขนาดเล็กเท่าทะเลสาบก็เดือดพล่านขึ้นมา น้ำที่แต่เดิมเป็นสีฟ้าคราม แปรเปลี่ยนกลายเป็นหลากสี
“มหาสมุทรวิญญาณหยางเปิดออกแล้ว! ใครบางคนตะโกนเสียงดัง
เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอะไร อย่างน้อยคนกว่าครึ่งที่อยู่ที่นี่รู้อยู่แล้ว เพราะมีหลายคนที่ทะลวงผ่านระดับพลังในครั้งก่อนไม่สําเร็จ มีบางคนทะลวงระดับพลังในสอง และสามครั้งก่อนไม่สําเร็จหรือบางคนถึงขนาดทะลวงผ่านไม่สําเร็จมาเป็นพันครั้งก็ยังมี
ครืนนน!
ยี่และจี่อู๋หมิงพุ่งเข้าไปยังมหาสมุทรในทันที แต่ถึงแม้ร่างของพวกเขาจะดําลึกลงไปในมหาสมุทร เกินกว่าหนึ่งร้อยไมล์แล้ว คลื่นพลังที่เกิดจากการต่อสู้ของทั้งสองก็ยังคงอยู่ ซึ่งคลื่นพลังที่ว่านี้ ต่อให้คนที่สัมผัสโดนเป็นราชาในหมู่ราชา ก็ต้องได้รับบาดเจ็บจนอาจจะถึงแก่ชีวิต
“ไปกันเถอะ!” หลิงฮันอยากดูการต่อสู้ระหว่างจุอยู่*หมิงและยต่อ แถมจากที่ได้ยินมาจากหม่าถงกว่าง ยิ่งเข้าไปยังมหาสมุทรวิญญาณหยางได้ก่อน วาสนาที่จะได้รับจากมหาสมุทรวิญญาณหยางก็จะดียิ่งขึ้น
เขาจับร่างของสตรีทั้งสามเอาไว้ และกระโดดลงไปยังทะเลสาบ
เอี้ยนเซียนลู่เองก็ทะยานร่างตามมา ส่วนหม่าถงกวางที่อยู่ด้านหลังนั้น หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อยเขาก็กระโดดลงทะเลสาบ โดยมีหลู่เซียนหมิงตามหลังมาติดๆ
ที่ด้านบนผิวน้ำของมหาสมุทรแห่งนี้มีขนาดเล็กมากก็จริง แต่หลังจากดําลึกลงไปกว่าพันไมล์แล้ว พื้นที่โดยรอยก็เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ
หลิงฮันพบว่าเขาไม่จําเป็นต้องออกแรง เคลื่อนไหวตัวแม้แต่น้อย เพราะแรงดันน้ำจะเป็นตัวนําพาเขาร่างของเขาจมลงไปเอง
เวลาผ่านไปสามวัน เสียงกระทบของน้ำก็ดังขึ้น และร่างของพวกเขาก็หลุดออกมาจากคลื่นน้ำ
เบื้องหน้าของพวกเขาปรากฏ มหาสมุทรขนาดใหญ่อีกครั้ง เพียงแต่ว่าขนาดของมหาสมุทรตรงหน้านี้ มีขอบเขตที่กว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด และเหนือหัวของพวกเขาปรากฏน้ำตกที่ไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
ที่แท้ทางเข้าของมหาสมุทรวิญญาณหยาง ที่พวกเขาดําลงมาก็เป็นเพียงน้ำตก!
หลิงฮันและสตรีทั้งสามคนโคจรทักษะบ่มเพาะ เพื่อเหยียบเดินบนผิวน้ำ เมื่อเข้ามาอยู่ในสถานที่แห่งนี้แล้ว พวกเขาไม่สามารถเหาะเหินได้ เนื่องจากหากเท้าลอยห่างจากผิวน้ำเพียงเล็กน้อย แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวก็จะถาโถมลงมา บังคับให้ร่างของพวกเขาร่วงกลับลงมาที่ผิวน้ำ
“ที่นี่คือมหาสมุทรวิญญาณหยางงั้นรึ?” หลิงฮันกวาดมองรอบด้าน เขาพบเห็นผู้คนมากมายเดินอยู่บนผิวน้ำ และเดินแยกย้ายหายกันไปในทันที
ยี่และจี่อู๋หมิงก็ไม่อยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าพวกเขายังต่อสู้กันอยู่ในระยะที่ห่างออกไปไกล หรือว่ายุติการต่อสู้ชั่วคราวแล้วกันแน่
เหนือศีรษะ ณ บริเวณท้องฟ้าที่อยู่สูงขึ้นไป มีสายรุ้งเส้นหนึ่งพาดโค้งลงมาราวกับสะพานขนาดใหญ่
สถานที่แห่งนี้แม้จะไม่มีต้นกําเนิดแสง แต่ก็พื้นที่รอบด้านก็ยังสว่างไสว
วิธีการทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณนั้นง่ายมาก เพียงแค่สังหารสิ่งมีชีวิตในสถานที่แห่งนี้ก็พอ สิ่งมีชีวิตในสถานที่แห่งนี้นั้น จะสร้างบางสิ่งที่เรียกว่าหินวิญญาณหยางขึ้นมาในร่างกาย ซึ่งหินวิญญาณหยางที่ว่านี้จะทําหน้าที่กักเก็บวิญญาณเอาไว้ชั่วคราว จนกระทั่งเปลือกนอกพังทลาย จอมยุทธก็จะทะลวงผ่านเป็นระดับตัดวิญญาณหยางได้
หินวิญญาณหยางนั้นมีการแบ่งขนาด และความบริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน ยิ่งขนาดของหินมีขนาดใหญ่ และบริสุทธิ์เท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น
แล้วถ้าหากในกรณีที่หา หินวิญญาณหยางที่มีขนาดใหญ่และความบริสุทธิ์มากพอไม่ได้ล่ะ?
นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หินวิญญาณหยางก้อนเล็กหลายก้อน สามารถนํามาหลอมรวมกันเป็นหินวิญญาณหยางก้อนใหญ่ได้
แต่ก็แน่นอนว่าหินวิญญาณหยางที่ถูกหลอมรวมเช่นนั้น ย่อมไม่บริสุทธิ์เทียบเท่าหินวิญญาณหยาง ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติจากสิ่งมีชีวิตของที่นี่
อีกอย่างคือหินวิญญาณหยางนั้น ไม่สามารถเอาไปจากสถานที่แห่งนี้ได้
“เอาล่ะ มาเริ่มล่ากันเถอะ”
ทั้งสี่คนก้าวเดินต่อไปด้านหน้า
สถานที่แห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอยู่มากมาย เพราะไม่ต่อให้ไม่ต้องออกตามหา ก็สามารถพบเห็นพวกมันได้ทุกที่
กลุ่มของพวกเขาออกเดินทางมาได้เพียงชั่วครู่ จู่ๆ สีของน้ำทะเลก็เปลี่ยนไป จากสีฟ้าครามกลายเป็นสีม่วง ซึ่งหากมองให้ดี จะพบว่าไม่ใช่น้ำทะเลที่เปลี่ยนสี แต่เป็นฝูงปลาจํานวนมากที่ว่ายกันอยู่เป็นกลุ่ม
ปลาเหล่านี้แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก จมูกของพวกมันยืดยาวออกมาราวกับช้าง และมีเกล็ดหนาราวกับจระเข้
“หนิวจัดการเอง!” ฮูหนิวปล่อยหมัดเข้าใส่มหาสมุทร จนพื้นผิวน้ำกลายเป็นรูขนาดใหญ่
ฝูงปลาที่อยู่ใต้น้ำตกใจ และรีบแหวกว่ายดําลึกลงไปอย่างรวดเร็ว
ภายในชั่วอึดใจเดียว สีน้ำที่เป็นสีม่วงก็แปรเปลี่ยนกลับมาเป็นสีฟ้าครามดังเดิม โดยที่การโจมตีของฮูหนิวไม่ได้ผลกับปลาเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย