Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1996 ดําดิ่งสู่กันมหาสมุทร
ตอนที่ 1996 ดําดิ่งสู่กันมหาสมุทร
จากข้อมูลที่หลิงฮันรู้มา ความบริสุทธิ์ของหินวิญญาณหยางนั้นมีอยู่ทั้งหมดเจ็ดระดับ โดยเรียงลําดับจากสีแดง สีส้ม สีอําพัน สีเขียว สีฟ้าใส สีครามเข้ม และสีม่วง
ไม่น่าแปลกใจที่ทําไม การทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณจะเป็นเรื่องยาก นั่นเพราะทุกคนจําเป็นต้องสังหารสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างปลาหมึกยักษ์ ซึ่งเป็นตัวตนระดับตัดวิญญาณหยินที่แม้แต่ราชาในหมู่ราชาระดับสี่นิพพาน ก็ทําได้เพียงหลบหนี
เพราะงั้นนอกจากจักรพรรดิแล้วจอมยุทธคนอื่นๆ จึงทําได้เพียงไล่ล่าฝูงปลาตัวเล็ก และรวบรวมหินวิญญาณหยางมาหลอมรวมกันทีละน้อยถึงจะทะลวงผ่านเป็นระดับแบ่งแยกวิญญาณได้
หลังจากที่มหาสมุทรวิญญาณหยางเบิดออก มันจะคงสภาพอยู่เป็นเวลานานหลักร้อยปีโดยที่การเปิดในแต่ละครั้งไม่มีระยะเวลาที่แน่นอน ระยะเวลาที่สั้นที่สุดที่เคยมีมาคือหนึ่งร้อยปีและระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดก็เจ็ดร้อยปี
การที่จอมยุทธทั่วไปจะได้ครอบครองหินวิญญาณสีอําพัน ที่มีขนาดเท่ากําปั้นในระยะเวลาเจ็ดร้อยปีนั้น เป็นเรื่องที่ยากลําบากมาก
ทั้งสี่คนดําลึกลงไปยิ่งกว่าเดิม ยิ่งพวกเขาดําลงไปลึกเท่าไหร่ สิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่พบเจอที่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น และหินวิญญาณหยางที่ได้รับก็ยิ่งบริสุทธิ์มากขึ้นด้วย
เพียงแต่เมื่อพวกเขาดําลงมาถึงความลึกระดับหนึ่ง แรงกดดันของมหาสมุทรก็ยกระดับขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว
พวกเขามองกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวตรงหน้า และพบเห็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่ตรงหน้า
มันคือกุ้งทะเลขนาดใหญ่ ที่เปลือกเป็นสีครามใส จนสามารถมองเห็นอวัยวะภายในได้
กุ้งทะเลยักษ์จ้องมองมายังพวกเขา ดวงตาขนาดใหญ่ทั้งสองของมันส่องประกายแสงเย็นชาและพุ่งเข้ามายังทิศทางของพวกเขาทั้งสี่อย่างรวดเร็ว
“พรึบ” มันกวัดแกว่งก้ามขนาดใหญ่อย่างรุนแรง ตราประทับแห่งเต๋มากมายพรั่งพรูออกมาก่อเกิดให้เป็นพลังทําลายล้างอันไร้ที่สิ้นสุด
หลิงฮันยื่นมือออกไป หมับ” ก้ามขนาดใหญ่ของกุ้งทะเลหนีบเข้าที่ข้อมือของเขา
กุ้งทะเลยักษ์เผยแววตาโหดเหี้ยม ด้วยการที่มันเป็นสิ่งมีชีวิตในระดับแบ่งแยกวิญญาณต่อให้มันจะถือกําเนิดขึ้นในสถานที่แปลกประหลาดแห่งนี้ และในจิตใจมีเพียงความคิดอยากจะเข่นฆ่า แต่สติปัญญาของมันก็ไม่ได้ต่ำต้อย
มันมั่นใจว่าเมื่อถูกก้ามของมันหนีบเข้าไปแบบนี้ ข้อมือของมนุษย์ตัวจ้อยตรงหน้าจะต้องขาดแน่นอน
กุ้งทะเลออกแรงหนีบแรงขึ้น แต่เหตุการณ์ที่มันคาดคิดเอาไว้ก็ไม่เกิดขึ้น ในทางกลับกัน ข้อมือของหลิงฮันได้มีตราประทับแห่งเต๋ปรากฏขึ้นมา และต้านทานแรงหนีบของก้ามของมันเอาไว้ได้
นี่มันไม่สามารถตัดมือของมนุษย์ผู้นี้ได้งั้นรี?
กุ้งทะเลยักษ์ตกตะลึง และออกแรงบีบมากขึ้น ตราประทับแห่งเต๋พรั่งพรูออกมาทั่วร่างของมัน เพื่อเสริมแกร่งให้กับพลังของก้าม
หลิงฮันส่ายหัว “เสียแรงเปล่าๆ ข้าว่าเจ้าจงลงมาอยู่ในชามข้ามของข้าแต่โดยดีจะดีกว่า”
“หนิวก็อยากกินเหมือนกัน!” ฮูหนิวกล่าวด้วยท่าที่ตื่นเต้น และมีน้ำลายไหลออกมาจากมุมปาก
กุ้งทะเลเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันใด และกวัดแกว่งก้ามอีกข้างเพื่อโจมตี
“ข้าบอกแล้วไงว่าเสียแรงเปล่า!” หลิงฮันยื่นมืออีกข้างออกไป “พรึบ” และถูกก้ามอีกข้างของกุ้งทะเลหนีบอีกครั้ง
กุ้งทะเลบีบก้ามรัดแน่น แต่ไม่ว่ามันจะออกแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถตัดข้อมือของหลิงฮันได้
“ประหลาดใจงั้นรึ?” หลิงฮันยิ้ม
กุ้งทะเลเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม มันเลิกพยายามตัดข้อมือของหลิงฮัน และปล่อยก้ามข้างหนึ่งออกมา พร้อมกับกวัดแกว่งโจมตีเข้าใส่ร่างของหลิงฮัน “ปัง” ร่างของหลิงฮันถูกชัดลอยกระเด็น
หลิงฮันผืนทรงตัวให้ร่างหยุดนิ่ง ก่อนจะทะยานร่างวกกลับมา และโจมตีตอบโต้กุ้งทะเลยักษ์
ตูม! ตูม! ตูม!
หนึ่งมนุษย์และหนึ่งกุ้งยักษ์เข้าปะทะกัน พลังของกุ้งทะเลยักษ์ตนนี้อยู่ในระดับตัดวิญญาณปฐพี ซึ่งต่อให้เป็นจักรพรรดิในระดับห้านิพพาน ก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้ เพียงแต่ด้วยการที่หลิงฮันมีข้อได้เปรียบในเรื่องกายหยาบอันไร้เทียมทาน เขาจึงสามารถตอบโต้การโจมตีกับกุ้งทะเลยักษ์ได้
การที่กุ้งทะเลยักษ์จะสังหารหลิงฮันได้นั้นเป็นเรื่องยาก แต่การที่หลิงฮันจะสังหารกุ้งทะเลยักษ์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ข้าไม่มีเวลามาเล่นกันเจ้านานนักหรอกนะ!” หลิงฮันเค้นเสียง พร้อมกับโคจรพลังของหอคอยทมิฬ “พรึบ” อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงเวลาถูกชี้นําออกมา ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของกุ้งทะเลยักษ์เริ่มเฉื่อยชา และแน่นิ่งไปในพริบตา
หลิงฮันนําดาบอสูรนิรันดร์ออกมา และทะลวงเข้าใส่ดวงตาของกุ้งทะเลยักษ์ “ฉัวะ” โลหิตสาดกระจายออกมา ปราณดาบที่คมกริบได้พุ่งทะลวงเข้าไปยังภายในร่างกายของกุ้งทะเลยักษ์ ถึงแม้ดาบอสูรนิรันดร์ในตอนนี้จะยังเป็นเพียงอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์สามดาว แต่พลังทําลายล้างของดาบสามารถเทียบเท่ากับอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์ห้าดาวได้เป็นอย่างน้อย
เพียงแค่หนึ่งดาบ ชีวิตของกุ้งทะเลยักษ์ก็ดับสูญอย่างสมบูรณ์
หลิงฮันอ้าปากพะงาบเหนื่อยหอบ ศัตรูในระดับตัดวิญญาณปฐพีเป็นตัวตนที่แข็งแกร่ง เกินกว่าที่เขาจะสังหารด้วยความสามารถของตัวเอง และเมื่อใช้ความสามารถในการหยุดเวลาของหอคอยทมิฬออกไป พลังทั่วหมดในร่างของเขาก็จะถูกเผาผลาญจนหมดไม่เหลือในพริบตา
ฮูหนิวทําการเก็บร่างของกุ้งทะเลยักษ์ ในขณะที่จักรพรรดินีทําการค้นหาหินวิญญาณหยาง
ยิ่งสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลแข็งแกร่งเท่าไหร่ ความบริสุทธิ์ของหินวิญญาณหยางก็จะยิ่งบริสุทธิ์ขึ้น อย่างกุ้งทะเลตัวนี้ หินวิญญาณหยางของมันมีสีเขียวมรกตส่องประกายระยิบระยับ และมีขนาดใหญ่เทียบเท่าได้กับหัวมนุษย์
กล่าวคือ หินวิญญาณหยางก้อนนี้เพียงก้อนเดียว สามารถเทียบเท่าได้กับหินวิญญาณหยาง ที่หลิงฮันทําการหลอมมาก่อนหน้านี้สองร้อยก้อน
หลิงฮันครุ่นคิด ด้วยการหยิบยืมพลังจากหอคอยทมิฬ และพลังต่อสู้ของตัวเขาเองนั้น ในระยะเวลาหลายร้อยปีย่อมสามารถเก็บเกี่ยวหินวิญญาณหยางได้อย่างมหาศาล แต่หากถามว่าจะเก็บเกี่ยวได้ถึงหินวิญญาณสีม่วงได้หรือไม่นั้น เกรงว่าคงไม่มีทางเป็นไปได้
จิตใจของเขารู้สึกหดหู ในเมื่อจะต้องทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ เขาก็อยากจะทะลวงผ่านระดับพลังไปด้วยสภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นข้อบกพร่องในเรื่องนี้ จะกลายเป็นมารที่กัดกินจิตใจของเขาไปตลอดกาล
ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์วรยุทธ หรือศาสตร์ปรุงยา เขาก็ต้องการบรรลุความแข็งแกร่งที่สมบูรณ์แบบที่สุด
เพียงแต่เรื่องเช่นนี้ไม่มีทางลัด และต้องก้าวเดินไปทีละก้าว หรือบางทีเขาจะทิ้งโอกาสทะลวงผ่านระดับในครั้งนี้ และรอไปอีกหลายล้านปีดี?
หลิงฮันเข้าไปในหอคอยทมิฬ และฟื้นฟูปราณก่อเกิดกลับมาหลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งวันเพียงแต่ถึงแม้พลังต่อสู้ของเขาจะกลับมาแล้ว แต่กว่าจะสามารถใช้พลังของหอคอยทมิฬได้อีกครั้งก็คืออีกหนึ่งเดือนให้หลัง
เพราะงั้นในขณะที่ดําอยู่ในมหาสมุทร และพบเจอสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลระดับตัดวิญญาณปฐพี พวกเขาจึงต้องหลบหนีเพียงสถานเดียว นอกเสียจากว่าศูหนิวจะใช้ทักษะลับที่ทรงพลัง
ครืนนน” จู่ๆ คลื่นน้ำใต้มหาสมุทรก็เกิดการผันผวน จนร่างของพวกหลิงฮันสั่นสะท้าน เมื่อมองไปยังต้นกําเนิดของคลื่น พวกเขาก็พบเห็นปลาโครงกระดูกขนาดมหึมา กําลังพุ่งมาทางพวกเขาด้วยความเร็วสูง
ในตอนแรกหลิงฮันคิดว่าปลาโครงกระดูกร่างมหึมาตนนั้นพบเจอพวกเขา แต่ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็พบว่า ที่ด้านหน้าปลาโครงกระดูกตนนั้นมีร่างของใครบางคนอยู่
ยี่!
คนที่หยิ่งทะนงขนาดนั้น ไม่คาดคิดว่าจะตกอยู่ในสภาพที่ต้องไล่ล่าเช่นนี้
“ฮ่าๆๆๆ หลิงฮัน พวกเราพบกันอีกแล้ว!” ถึงแม้จะกําลังว่ายน้ำหนีปลายักษ์อยู่ในสถานการณ์เป็นตาย ยี่ก็ยังมีอารมณ์มาหัวเราะทักทายหลิงฮัน