Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 2069 สําแดงอํานาจ
ตอนที่ 2069 สําแดงอํานาจ
ปัง!
หลิงฮันปล่อยหมัดออกไปและร่างมนุษย์ทมิฬได้แหลกสลายในทันทีเพียงแต่ที่น่าประหลาดใจก็คือเศษซากร่างมนุษย์ทมิฬได้กลับมารวมตัวกันที่ด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็วและกวัดแกว่งแขนที่ยาวเหยียดเข้าใส่แผ่นหลังของเขา
ร่างมนุษย์ทมิฬพวกนี้… เป็นสิ่งมีชีวิตที่ฆ่าไม่ตายงั้น?
หลิงฮันกระโดดหลบการโจมตี
เขาคาดเดาในใจว่าร่างมนุษย์ทมิฬเหล่านี้น่าจะมีพลังอยู่ในระดับตัดวิญญาณปฐพีถึงแม้พวกมันแข็งแกร่ง เท่าพวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนที่เป็นสุดยอดจักรพรรดิหรือจักรพรรดิทั่วไปอย่างตู้เส่าจขึ้นแต่พวกมันก็ถือว่าเป็นภัยคุกคามที่น่าสะพรึงกลัว
นั้นเพราะพวกมันไม่มีวันตาย
“อ้ากกก!” เสียงร้องโอดครวญดังก้องไปทั่ว มีใครหลายคนประมาทความน่าสะพรึงกลัวของร่างมนุษย์ทมิฬและคิดว่าตนเองสามารถกําจัดพวกมันในด้วยหนึ่งกระบวนท่า จึงถูกโจมตึกลับอย่างสาหัส
ร่างมนุษย์ทมิฬเหล่านี้อุกอาจเป็นอย่างมากพวกมันจํานวนหลายพันตัวกระหน่ําโจมตีพร้อมกันโดยที่ส่วนใหญ่เพ่งเล็งไปยังกลุ่มของเทียนชิงเย่
ทําไมน่ะ?
เพราะกลุ่มของพวกเขามีจํานวนคนมากสุดจึงตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย
ในพริบตาเดียวทางฝั่งของเทียนชิงเต่ก็มีคนตายไปหลายสิบคนและจํานวนคนที่ถูกสังหารก็ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงว่าทําไมคนเก่าแก่ถึงกล่าวว่าฝ่ายที่แข็งแกร่งใช่ว่าจะชนะเสนอไปภัยคุกคามจากร่างมนุษย์ทมิฬเหล่านี้ไม่ใช่น้อยเลยจริงๆหากกลุ่มของเทียนชิงเยถูกรุมโจมตีไม่หยุดไม่หย่อนต่อไปเช่นนี้พวกเขาจะอยู่รอดถึงสิบวันรึเปล่าก็ไม่รู้
“เร็วเข้า รีบตั้งวงล้อมป้องกัน!” เทียนชิงเยู่และสุดยอดจักรพรรดิคนอื่นๆกล่าววิธีการนี้สมควรเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการโต้ตอบสถานการณ์ในตอนนี้
“คนส่วนหนึ่งพักในขณะคนอีกส่วนหนึ่งช่วยกันป้องกันการโจมตีแล้วพวกเราจะแบ่งกะกันเป็นระยะ”
จอมยุทธที่มีพลังต่อสู่ในระดับตัดวิญญาณปฐพลงมือตอบโต้อย่างต่อเนื่องและสามารถบดขยี้ร่างมนุษย์ทมิฬให้เป็นเศษซากได้อย่างง่ายดายแต่ทว่าร่างมนุษย์ทมิฬเองก็ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและสร้างภัยคุกคามให้พวกเขาต่อไป
โชคดีที่มีเทียนชิงเยู่และจักรพรรดิคนอื่นๆ คอยสนับสนุนอยู่ด้วยอัตราคนที่เสียชีวิตจึงลดลงในทันทีและอย่างน้อยก็ไม่มีใครตายในเวลานี้
จีอู่หมิงแสยะยิ้มและทะยานร่าง ปัง ปัง ปัง”ร่างมนุษย์ทมิฬมากมายถูกบดขยี้อย่างง่ายดายเขาเพ่งเล็งการโจมตีไปยังพวกเทียนชิงเย่และไม่ลังเลที่จะนําดาบพิฆาตห้วงจิตออกมาใช้พร็บ พรึบ พรึบ ปราณดาบมากมายตัดผ่านอากาศไปอย่างน่าสะพรึงกลัว
“ม!” เทียนชิงเยู่กับเซี่ยโหวถงตอบโตโดยการปล่อยหมัดที่ทรงพลังออกไปพร้อมกัน
ตูม!
ร่างของจอหมิงสั่นสะท้านและถูกบังคับให้ล่าถอยถึงแม้ดาบพิฆาตห้วงจิตจะทําลายการป้องกันที่ทรงพลังที่ สุดได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรในด้านของพลังต่อสู้พวกเทียนชิงเยว่และสุดยอดจักรพรรดิคนอื่นๆ ก็มีข้อได้เปรียบได้ เรื่องของระดับพลัง
จีอู่หมิงไม่แยแส เขากําาวเดินกวัดแกว่งดาบพิฆาตห้วงจิตปลดปล่อยปราณดาบเข้าใส่กลุ่มของเทียนชิงเย่อ ย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายของเขาชัดเจนมากเขาต้องการแยกกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากกัน และให้ร่างมนุษย์ทมิฬลงมือต่อ
“บัดซบ!” เทียนชิงเย่คารามเขากับเซียโหวถงร่วมมือกันสลายอานาจของดาบพิฆาตห้วงจิตแต่เพียงแค่พวกเขาสองคนจะสามารถปัดป้องการโจมตีอย่างบ้าคลั่งของจอหมิงทั้งหมดได้อย่างไร?
เพื่อหลบหลีกปราณดาบที่พุ่งเข้าใส่จอมยุทธหลายคนทําได้เพียงแยกย้ายกันเผ่นหนี้ ทําให้วงล้อมป้องกันพังทลายลงทันทีร่างมนุษย์ทมิฬถาโถมกันเข้าไปฉีกร่างของจอมยุทธหลายคนออกเป็นชิ้นๆโลหิตที่สาดกระจายไปทั่วก่อให้เกิดเป็นทิวทัศน์ที่น่าสยดสยอง
“อย่าไขว้เขว!อย่าแตกกลุ่ม!”ใครบางคนรีบตะโกนขึ้นมา
ทุกคนเห็นชะตากรรมของการแตกกลุ่มแล้วจึงได้รับกลับมารวมกลุ่มกันอย่างรวดเร็วและตั้งวงล้อมป้องกันขึ้นมาใหม่
จ่อหมิงแสยะยิ้มและกวัดแกว่งดาบพิฆาตห้วงจิตออกไปอีกครั้ง
ทุกคนกัดฟันแน่นพยายามไม่แตกกลุ่มหลบหนี
ฉวะ!
ปราณดาบกวาดผ่านและโลหิตสาดกระจายลอยขึ้นฟ้ามีอย่างน้อยสิบคนที่ถูกนั่นเป็นเศษเนื้อด้วยปราณดาบเมื่อครู่นี้
นั่นมันอุปกรณ์นิรันดร์!
ทุกคนรู้สึกหวาดผวา แล้วอย่างนี้จะหลบหรือไม่หลบดี?
ไม่ว่าเลือกทางไหนสิ่งที่รออยู่ก็มีแต่ความตาย!
“ช่วยกันกําราบหมอนั่น!”ฮุยหยินคํารามขึ้นมาและเป็นคนเปิดการโจมตี
พวกนางจงใจถีบหลิงฮันกับจีอู่หมิงออกจากพันธมิตรและใช้วิธีการบังคับให้ทั้งสองเลือกเป็นตัวแทนของเผ่าอื่นก็เพื่อจะใช้คนหมู่มากในการกําจัดทั้งสองคน
ถึงแม้ผลลัพธ์จะเป็นไปตามคาด แต่กลับไม่ส่งผลดีเลยแม้แต่น้อยเพราะท่ามกลางการรุมโจมตีจากร่าง มนุษย์ทมิฬพวกนางได้ตกเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่ฝ่ายเดียว
หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปกลุ่มของพวกนางจะต้องพังทลายลงแน่
เพราะงั้นก่อนจะเป็นแบบนั้นจึงต้องใช้ประโยชน์จากจํานวนตนที่มีมากกว่ากําจัดอู่หมิงกับหลิงฮันทิ้งไปก่อนตราบใดที่ทั้งสองคนตาย นางกับพวกเทียนชิงเย่จะคุมสถานการณ์ได้และชัยชนะก็จะตกเป็นของพวกนาง
“ฆ่า!”
คนอื่นๆ เองก็คํารามอย่างเกรี้ยวกราดตอนนี้โชคชะตาของพวกเขาคือไม่ถูกร่างมนุษย์ทมิฬฆ่าก็ต้องถูกจ่อหมิงฆ่าแต่ตราบใดที่สังหารจีคู่หมิงได้วิกฤตที่พวกเขาเผชิญอยู่ก็จะหมดไป
ความปรารถนาที่จะมีชีวิตทําให้พวกเขาระเบิดพลังต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ออกมาและนําสมบัติออกมาใช้อย่างไม่ลังเล
ทันใดนั้นเอง ทั่วท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยแสงแห่งนิรันดร์ที่อัดแน่นไปด้วยพลัง
สุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่ร่วมมือกันโจมตีจีอู่หมิงพวกเขาปล่อยให้จักรพรรดิคนอื่นๆ รับมือกับร่างมนุษย์ทมิฬและช่วยกันกับจอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์อีกสิบกว่าคนกําราบจอหมิงสุดความสามารถ
“ลืมข้าไปรึเปล่า?” หลิงชั้นคํารามเรียกร่างวิญญาณเพลิงเก้าสวรรค์ออกมาในมือของมันถือดาบอสูรนิรันดร์เอาไวและพุ่งทะยานโจมตีอย่างอุกอาจ
“ปัง ปัง ปัง ร่างของจอมยุทธมากมายถูกส่งลอยกระเด็นมีบ้างบางส่วนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆแต่ก็มีบางส่วนที่ร่างถูกบดขยี้เป็นเศษเนื้อในทันที
“อย่าปล่อยโอกาสให้ทั้งสองคนร่วมมือกัน!”จ์ขี่ยหยินค่าราม
สุดยอดจักรพรรดิทั้งส์ไม่ใช่แค่เคยเห็นการร่วมมือกันของหลิงฮันกับจอี้หมิงเพียงอย่างเดียวแต่ยังมีประสบการณ์ที่ล่าบากแสนสาหัสเพราะการร่วมมือของทั้งสองอีกด้วย
คนหนึ่งมีการป้องกันที่ไร้เทียมทานในขณะที่อีกคนหนึ่งมีการโจมตีที่รุนแรงหาใครเปรียบ ด้วยการร่วมมือกันของทั้งสองย่อมสามารถกําราบทุกสรรพสิ่งในระดับพลังเดียวกันได้
เทียนชิงเยู่กับเซียโหวถงรีบเรียกร่างวิญญาณทั้งสื่ออกมาพร้อมกันและชี้นําพวกมันให้ไปสกัดกั้นหลิงฮัน
“ฮ่าๆๆ!” หลิงฮันไม่ลังเลที่จะใช้แก่นพลังมหาพินาศโจมตี “ตูม ตูม ตูม”ร่างวิญญาณทั้งแปดถูกแรงระเบิดซัดลอยกระเด็นทันที
…พวกมันไม่ได้แข็งแกร่งเท่าร่างหลัก!
หากต้องการให้ร่างวิญญาณมีพลังต่อสู้แข็งแกร่งทําร่างหลักจําเป็นที่จะต้องผสานดวงวิญญาณราชานิรันดร์อย่างแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่เข้าไปยังร่างแยกวิญญาณ หรือไม่ก็ต้องเป็นเหมือนจ่อหมิงที่ชีวิตที่แล้วเป็นราชานิรันดร์
หากไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ก็ไม่มีทางที่ร่างวิญญาณจะมีพลังต่อสู้แข็งแกร่งเทียบเท่าร่างหลัก