Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 2093
ตอนที่ 2093 ราชานิรันดร์มาไม่ขาดสาย
ราชานิรันดร์อีกคนปรากฏตัว แถมยังเป็นราชานิรันดร์ระดับสี่เหมือนกันด้วย
หวี่ไห่หรงเผยท่าที่ระมัดระวัง แม้นางจะมาจากขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับเก้านางก็ไม่กล้าประมาทอีกฝ่าย เพราะคนบ้างที่สามารถก้าวสู่ระดับราชานิรันดร์ได้โดยที่ไม่ใช่สุดยอดอัจฉริยะ?
“เจ้ามีนามว่าอะไร?” หวี่ไห่หรงมองไปยังราชานิรันดร์อีกคน
ราชานิรันดร์ผู้นั้นยิ้ม “เฉวียนเฟิงแห่งนิกายถ้วหลัว”
หวี่ไห่หรงพยักหน้า “หวี่ไห่หรงแห่งตําหนักมัจฉาวายุภักษ์”
“ที่แท้ก็ราชินีมหาสมุทรสวรรค์ที่เลื่องลือนี่เอง!” ราชานิรันดร์เฉวียนเฟิงผสานมือ “ข้าได้ยินชื่อของราชินีมหาสมุทรสวรรค์มานานแล้ว ในที่สุดก็ได้เห็นตัวจริงในวันนี้”
“ไม่ต้องถ่อมตัวเกินไป” หวี่ไห่หรงยิ้ม อีกฝ่ายเป็นราชานิรันดร์เหมือนกันซึ่งไม่อาจดูหมิ่นได้
“ตําหนักมัจฉาวายุภักษ์รับเพียงศิษย์ที่เป็นสตรีอย่างเดียว เพราะงั้นเจ้าหนูนั่นย่อมไม่เกี่ยวข้องอันใดกับขุมอํานาจของเจ้า” ราชานิรันดร์เฉวียนเพิ่งเปลี่ยนหัวข้อกลับมาเรื่องหลิงฮันอีกครั้ง “หวังว่าราชินีมหาสมุทรสวรรค์ จะไว้หน้าบ้าและยอมมอบตัวเจ้าหนูนั่นมา”
หวี่ไห่หรงส่ายหัว “เรื่องนั้นคงเป็นไปไม่ได้”
“ราชินีมหาสมุทรสวรรค์ เจ้ากําลังทําให้ข้าอับอาย!” ราชานิรันดร์เฉวียนเฟิงกล่าวด้วยท่าทีที่ดูเหมือนเสียหน้า
“เหอๆๆ”หวี่ไห่หรงยิ้ม นางมีพลังที่สามารถกําราบอีกฝ่ายได้ที่ไม่ลงมือก็เพราะไม่ต้องการสร้างศัตรูที่ทรงพลังให้กับตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ แต่ถ้าจําเป็นต้องลงมือจริงๆ นางเองก็ไม่หวาดกลัว
ขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับเก้านั้นมีทักษะบ่มเพาะที่ทรงพลังมากมายให้ฝึกฝน นางจึงมั่นใจว่าในระดับพลังเดียวกันนางย่อมมีชัยเหนือกว่า
“ฮ่าๆๆ ให้ข้าร่วมวงด้วยหน่อยเป็นไง?” เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกันบุรุษอีกคนได้ก้าวเดินเข้ามาจากท้องฟ้าที่ห่างออกไปพันฟุต รอบดายของคนผู้นี้เองก็มีคลื่นแสงแห่งเต๋าสี่สีปกคลุมอยู่
ราชานิรันดร์ระดับสี่อีกคน!
เมื่อเห็นสายตาของหวี่ไห่หรงที่มองมาราชานิรันดร์ผู้นี้ก็ยิ้มและกล่าว “หยวนฟางแห่งหุบเขาเมฆาสลาย”
โฮก” ซึ่งในจังหวะนั้นเองเสียงคํารามของสัตว์อสูรก็ดังขึ้น หมู่เมฆบนท้องฟ้าเกิดการเผาไหม้พร้อมกับชายร่างกํายําได้พุ่งทะยานเข้ามาด้วยความเร็วสูง
ร่างท่อนบนของบุรุษผู้นี้เปลือยเปล่าเผยให้เห็นลวดลายหมาป่าบนหน้าอก
ลวดลายนี้ไม่ใช่รอยสักแต่เป็นลวดลายที่มีมาแต่กําเนิด บนลวดลายมีแสงแห่งเต๋าส่องประกายระยิบและปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงออกมา
“ชิงหลางแห่งนิกายอีกาทองคํา!” บุรุษร่างกํายํากล่าว น้ําเสียงของเขาดังกึกก้องจนส่งผลให้ผู้คนมากมาย ร่างกายสั่นสะท้าน
ดวงตาของหวี่ไห่หรงหรี่ลงและเผยท่าทีวิตกกังวลในที่สุด
ราชานิรันดร์คือระดับพลังที่ยากจะบรรลุถึง คนที่บรรลุเป็นราชานิรันดร์ใครบ้างที่ไม่ใช่อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ? หากเป็นการปะทะหนึ่งต่อหนึ่งนางมั่นใจแน่นอนว่าตนเองจะเป็นฝ่ายชนะ หรือต่อให้เป็นการปะทะสองต่อหนึ่ง นางก็มั่นใจว่าตนเองไม่แพ้ แต่สําหรับการปะทะสามต่อหนึ่งนั้น… เกรงว่าคงพูดยาก
ปัญหาอยู่ที่ซูหนิวเองก็อยู่ที่นี่ด้วย เด็กสาวผู้นี้เป็นประมุขน้อยของตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ที่แบกรับอนาคตของทุกคนในตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ซึ่งไม่อาจสูญเสียไปได้
เรื่องนี้เป็นอุปสรรคทําให้นางลังเลและไม่กล้าลงมือปะทะ
“พวกเราแค่ต้องการตัวเจ้าหนูนั่นเท่านั้น” ราชานิรันดร์หยวนฟางชี้ไปยังหลิงฮัน
“หากราชินีมหาสมุทรสวรรค์ไม่ยินยอม พวกเราก็คงหลีกเลี่ยงการปะทะกันไม่ได้”
“แต่… พวกข้าไม่ขอรับประกันความปลอดภัยของเด็กสาวเหล่านั้นนะ”
บุรุษไม่สามารถเป็นศิษย์ของตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ที่รับแต่สตรีได้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเด็กสาวคนใดในกลุ่มหลิงฮันที่เป็นศิษย์ของตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ แต่แค่รวบรวมลงมือกับพวกนางไปพร้อมกันเลยก็สิ้นเรื่อง
สีหน้าของหวี่ไห่หรงเผยถึงความรู้สึกลังเล หากมีการปะทะระหว่างราชานิรันดร์เกิดขึ้น ต่อให้นางนําฮูหนิวเข้าไปยังอุปกรณ์มิตซูหนิวก็คงไม่ปลอดภัยอยู่ดี
“ว่าอย่างไรราชินีมหาสมุทรสวรรค์?” ชิงหลางกล่าวเสียงดังลั่น โดยที่คําพูดของเขาแปรเปลี่ยนกลายเป็นคลี่นพลัง
หวี่ไห่หรงแสดงสีหน้าลังเล ไม่ว่าหลิงฮันจะสําคัญแค่ไหนสําหรับนางก็ไม่มีทางสําคัญไปกว่าฮูหนิว
“สตรีอัปลักษณ์ ทุบตีเจ้าพวกนั้นให้เละไปเลย!” ถึงแม้ฮูหนิวจะเป็นพวกไม่ประสีประสาแต่นางก็รับรู้ว่าหวี่ไห่หรงกําลังลังเลอยู่
“จงคิดให้ดีราชินีมหาสมุทรสวรรค์!” สายตาของราชานิรันดร์เฉวียนเฟิงจดจ้องไปยังฮูหนิว
ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกันแต่ก็เขาก็เคยได้ยินเรื่องราวมาบ้าง เพราะอย่างไรตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ก็เป็นถึงขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับเก้าที่แม้แต่ในดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกก็มีอยู่น้อยนิด
ในอดีตตําหนักมัจฉาวายุภักษ์นั้นรุ่งเรืองและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ในขุมอํานาจแห่งนี้มีราชานิรันดร์ระดับเก้าคอยคุ้มกันอยู่ถึงสองคน ทําให้แทบจะกล่าวได้ว่าเป็นขุมอํานาจที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนแห่งเซียน แต่หลังจากการตายของประมุขคนก่อน ตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ก็เสื่อมถอยลงอย่างมากและถูกรุกรานโดยตําหนักมหาสมุทรสี่ทิศ
การที่หวี่ไห่หรงหวาดกลัวต่อผลที่จะตามมาจากการปะทะ และการที่เรียกราชานิรันดร์ระดับสี่ว่า “สตรีอัปลักษณ์” ได้ สถานะของซูหนิวจึงเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจน
…ประมุขคนต่อไปของตําหนักมัจฉาวายุภักษ์!
หากจับตัวซูหนิวไปส่งมอบให้ตําหนักมหาสมุทรสี่ทิศล่ะก็ รางวัลที่ได้รับจะมหาศาลขนาดไหน?
ขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับเก้าคือขุมอํานาจที่อยู่คงกระพันมานานไม่รู้กี่ยุคสมัย ความมั่งคั่งของพวกเขาจึงมีมากมายจนน่าอัศจรรย์
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว ราชานิรันดร์เฉวียนเฟิงก็จิตใจสั่นสะท้านจนควบคุมไม่อยู่
เขาจะสังหารหวี่ไห่หรงได้หรือไม่นั้นเขาเองก็ไม่มั่นใจ แต่หากแค่ลักพาตัวรุ่นเยาว์ระดับแบ่งแยกวิญญาณสองคนล่ะก็ เขามั่นใจว่าสามารถทําได้อย่างแน่นอน
ในเมื่อเขาคิดได้ราชานิรันดร์ชิงหลางกับราชานิรันดร์หยวนฟางก็ย่อมคิดได้เช่นกัน ทั้งสองจดจ้องไปยังฮูหนิวด้วยแววตาชั่วร้าย
หวี่ไห่หรงมองไปยังแววตาของทุกคนและตัดสินใจในทันที “ตกลง ข้าจะมอบเขาให้แก่พวกเจ้า” นางไม่อาจยอมให้มีปัญหาใดเกิดขึ้นกับฮหนิวได้
“สตรีอัปลักษณ์ เจ้าพล่ามไร้สาระอันใดกัน!” ฮูหนิวตะโกนออกไปอย่างเกรี้ยวกราด
ราชานิรันดร์เฉวียนเฟิงกับราชานิรันดร์อีกสองคนมองหน้ากันและพยักหน้า ในตอนนี้ทางที่ดีอย่ายั่วยุหวี่ไห่หรงเลยจะดีกว่า เพราะอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์ระดับสีเหมือนกัน หากต้องปะทะกันจริงๆ เกรงว่าในหมู่พวกเขาย่อมมีหนึ่งหรือสองคนที่สิ้นชีพ
ยังไงก็เอาตัวหลิงฮันไปก่อนแล้วค่อยไปแจ้งเรื่องนี้ให้ราชานิรันดร์ระดับห้าหรือราชานิรันดร์ในนิกายที่แข็งแกร่งกว่านี้ทราบ พวกเขาก็จะจับกุมทั้งหวี่ไห่หรงกับฮูหนิวได้พร้อมกัน