Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 491
หลิงฮันโจมตีและทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างดุเดือดอีกครั้ง ‘ปัง ปัง ปัง’ โชคดีที่นักดาบคนที่สองสูญเสียแขนและขาไปอย่างละข้างแล้ว พลังต่อสู้ของเขาจึงลดลงอย่างมาก ในที่สุดก็เป็นหลิงฮันที่ได้เปรียบ
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับอีกฝ่ายมากกว่าหนึ่งพันกระบวนท่าก่อนที่จะกำจัดอีกฝ่ายได้สำเร็จ หลิงฮันรู้สึกเหนื่อยจนแทบจะฟุบลงนอนกับฟื้น
“เจ้าสามารถพักผ่อนได้สิบนาที” รูปแบบอาคมวิญญาณปรากฏตัวและสะบัดมือ ทันใดนั้นบาดแผลบนร่างของหลิงฮันก็หายไปหมดสิ้น
หลิงฮันนั่งลงทำท่าขัดสมาธิ เขายื่นมือซ้ายออกไปและรวบรวมพลังปราณไปยังฝ่ามือเล็กน้อย ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็กลายเป็นปิติยินดี นั่นเพราะรูปแบบอาคมวิญญาณสามารถจำลองปราณอสูรบนฝ่ามือของเขาได้
นี่คือสิ่งที่เขาได้รับมาจากจักรพรรดิจอมอสูรที่เป็นตัวตนระดับพระเจ้า พลังทำลายของมันจึงน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง พลังของฝ่ามือนี้เทียบได้กับระดับตัวอ่อนวิญญาณยี่สิบดาวเป็นอย่างน้อย
หลิงฮันเปลี่ยนใจและพูด “ครั้งนี้ข้าต้องการต่อสู้กับระดับตัวอ่อนวิญญาณยี่สิบดาว!”
…
ในห้องทดสอบห้องอื่น หลงไหเชวียนกำลังต่อสู้กับตัวตนระดับบุปผาผลิบาน
ข้างกายของมันมีทหารซากศพเกราะเงินซึ่งมีพลังเทียบเท่ากับจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน!
“ถ้าไม่ใช่เพราะพลังบ่มเพาะของข้ายังต่ำเกินไปจนไม่สามารถปรับแต่ซากศพของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณได้ ข้าคงจะเลือกคู่ต่อสู้ที่มีพลังบ่มเพาะระดับตัวอ่อนวิญญาณแล้ว!” ใบหน้าของหลงไหเชวียนเต็มไปด้วยความทะนงตน “แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว! พลังบ่มเพาะของข้าอยู่ที่ระดับแก่นแท้จิตวิญญาณขั้นสาม แต่ข้าสามารถชนะระดับบุปผาผลิบานห้าดาวได้ ผลลัพธ์เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะเทียบข้าได้!”
มันชี้นิ้วไปยังคู่ต่อสู้ระดับบุปผาผลิบานและออกคำสั่งกับทหารซากศพ “สังหารมัน!”
“โฮกก!” ทหารซากศพพุ่งเข้าใส่ศัตรูทันที
…
ในห้องทดสอบอีกห้องหนึ่ง ร่างของหยานเทียนจ้าวปรากฏขึ้นมา
ตั้งแต่ที่เข้ามายังเขตแดนลี้ลับมันก็แอบซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาตลอด ไม่ใช่เพราะมันกลัวหลิงฮัน แต่มันเพียงแค่รอหาจังหวะในการขโมยกุญแจที่อยู่ในมือหลิงฮัน ตอนนี้คู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้ามันคือตัวระดับบุปผาผลิบาน
“ฮ่าๆๆ ที่นี่คือมิติแห่งพลังวิญญาณ ตัวข้าที่ผสานเข้ากับความทรงจำของพระเจ้า แน่นอนว่าสัมผัสสวรรค์ของข้าจะต้องแข็งแกร่งกว่าทุกคน!” มันพูดด้วยความภาคภูมิใจ “แม้พลังต่อสู้ที่แท้จริงของข้าจะอยู่ที่ระดับแก่นแท้จิตวิญญาณ แต่หากเป็นมิติที่ใช้สัมผัสสวรรค์ การต่อกรกับระดับบุปผาผลิบานนั้นไม่ใช่ปัญหา!”
‘ตูม’ ฝ่ามือของคู่ต่อสู้ของมันพุ่งโจมตีใส่ราวกับพายุ ศัตรูของมันคือตัวตนระดับบุปผาผลิบานที่น่าสะพรึงกลัว
…
ต่อสู้กับระดับแก่นแท้จิตวิญญาณยี่สิบห้าดาวอาจจะเป็นขีดจำกัดของหลิงฮันแล้ว
แต่คราวนี้คู่ต่อสู้ของเขาคือระดับตัวอ่อนวิญญาณยี่สิบดาว!
แม้พลังทำลายของเขาสามารถจัดการอีกฝ่ายได้ แต่กุญแจหลักที่จะทำเช่นนั้นได้สำเร็จคือเมื่อนักดาบคนที่สามปรากฏตัว เขาจะต้องเตรียมปลดปล่อยปราณอสูรในมือซ้ายออกไปให้ทันเวลา
“ตามที่เจ้าต้องการ” หลังพูดเสร็จรูปแบบอาคมวิญญาณก็หายไปอีกครั้งพร้อมกับการปรากฏตัวของนักดาบคนที่สาม อีกฝ่ายแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าหลิงฮันเตรียมดักรอโจมตีเอาไว้แล้วจนเขาไม่สามารถใช้ชักดาบได้ทัน อีกฝ่ายก็ใช้สัมผัสสวรรค์โจมตีใส่หลิงฮันทันที
สัมผัสสวรรค์ของตัวตนระดับตัวอ่อนวิญญาณนั้นรวดเร็วและแข็งแกร่งขนาดไหน? แค่ถูกสัมผัสเบาๆ จอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณก็ถูกบดขยี้หลายร้อยครั้งแล้ว
แต่ใครคือหลิงฮัน? เขามีเศษเสี้ยวสัมผัสสวรรค์ของระดับสวรรค์ คิดจะใช้สัมผัสสวรรค์จู่โจมเขาง้นรึ?
‘ตูม’ ภายใต้การโจมตีด้วยสัมผัสสวรรค์ของนักดาบคนที่สาม หลิงฮันไม่ปรากฏแม้แต่รอยขีดข่วน มือซ้ายของเขาประทับเข้ากับร่างของนักดาบคนที่สามพร้อมกับอักขระปราณอสูรที่ส่องประกายออกมา ‘ปัง’ ร่างของนักดาบคนที่สามจางหายไปทันทีหลังจากที่ปรากฏตัว
รูปแบบอาคมวิญญาณปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับท่าทางที่ไร้คำพูด หลิงฮันใช้เล่ห์กลในการต่อสู้ครั้ง แต่ก็เป็นตัวมันเองไม่ใช่หรือที่จำลองความสามารถเช่นนั้นของหลิงฮันขึ้นจนทำให้เกิดช่องโหว่ในการต่อสู้ครั้งนี้?
แต่กลับกัน หากหลิงฮันไม่มีสัมผัสสวรรค์ที่แข็งแกร่ง ร่างของเขาก็คงจะถูกสัมผัสสวสรรค์ของอีกฝ่ายบดขยี้และไม่สามารถใช้เล่ห์กลได้สำเร็จ
“ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะผ่าน” รูปแบบอาคมวิญญาณพูดด้วยความเศร้าหมอง เมื่อครู่มันเพิ่งพบเจอกับสัตว์ประหลาดตัวน้อยมา… มันไม่สามารถชักนำสัมผัสสวรรค์ของเด็กสาวตัวน้อยให้เข้ามายังห้องทดสอบได้ ทำให้เด็กสาวไม่สามารถเข้าร่วมการทดสอบ
“ข้าออกไปได้รึยัง?” หลิงฮันถาม
“รอจนกว่าทุกคนจะทดสอบเสร็จ สามอันดับแรกจะได้รับของรางวัลในทันที” รูปแบบอาคมวิญญาณพูด
หลิงฮันพยักหน้าและรอคอย
ผ่านไปหนึ่งวันการทดสอบก็สิ้นสุด ผลการประเมินจะตัดสินจากการทดสอบทั้งสามครั้งของทุกคน
‘ฟุบ ฟุบ ฟุบ’ สัมผัสสวรรค์ของทุกคนที่ไม่ติดสามอันดับแรกค่อยๆจางหายออกไปจากห้องทดสอบ
“อะไรกัน ข้าชนะคู่ต่อสู้ที่มีพลังต่อสู้เจ็ดดาวได้ แต่กลับไม่ติดสามอันดับแรก?”
“บัดซบ ข้าชนะได้แม้กระทั่งแปดดาว!”
ทุกๆคนเริ่มใคร่ครวญ ทั้งๆที่พวกเขาแข็งแกร่งขนาดนั้นแล้วทำไมถึงยังไม่สามารถติดสามอันดับแรกได้ ช่างไร้สาระยิ่งนัก
อวี่คุนหลุน หยานจุนฮ่าวและอันดับหนึ่งของบันทึกอัจฉริยะหลายรุ่นก่อนมีท่าทีปั้นยาก พวกเขาสามารถชนะได้แม้แต่คู่ต่อสู้ที่มีพลังต่อสู้สิบดาวแต่ก็ยังไม่สามารถติดสามอันดับแรกได้ ช่างน่าตกตะลึงยิ่งนัก
สีหน้าของอ้าวเฟิงและคนอื่นๆที่อยู่ในช่วงอายุสามสิบกว่าปีกลายเป็นมืดมน พวกเขาสามารถชนะคู่ต่อสู้ระดับบุปผาผลิบานที่มีพลังต่อสู้ห้าดาวได้ หากเทียบแล้วความยากในการต่อสู้กับระดับบุปผาผลิบานห้าดาวก็เทียบได้กับระดับแก่นแท้จิตวิญญาณสิบดาว และยิ่งระดับพลังสูงขึ้นก็ยิ่งสู้ข้ามระดับได้ยากขึ้น หรือว่ารูปแบบอาคมวิญญาณจะไม่พิจารณาเรื่องเหล่านี้?
ทุกคนมองไปรอบๆและเห็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานสิบห้าคนอยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้ระดับบุปผาผลิบานที่เข้าร่วมทดสอบก็มีสิบห้าคน นั่นหมายความว่าไม่มีระดับบุปผาผลิบานคนใดเลยที่ติดสามอันดับแรก
“ข้าไม่ยอมรับ!”
“ข้าไม่ยอมรับเช่นกัน!”
“พวกเราทุกคนไม่ยอมรับ!”
ทุกคนเริ่มตะโกนส่งเสียงคัดค้าน พวกเขาอยากได้คำอธิบายจากรูปแบบอาคมวิญญาณ
รูปแบบอาคมวิญญาณปรากฏตัวและพูด “พวกเจ้าสงสัยในความยุติธรรมของข้า?”
“นายท่านรูปแบบอาคมวิญญาณ ท่านได้คำนึงถึงความยากลำบากในการต่อสู้ข้ามระดับของระดับบุปผาผลิบานรึเปล่า?” อ้าวเฟิงถามอย่างสุภาพ
รูปแบบอาคมวิญญาณที่มีรูปร่างเหมือนเด็กแสดงท่าทีเย้ยหยัน “นายท่านผู้นี้มีชีวิตมานานกว่าเจ้าหลายพันเท่า เจ้ากล้าถามคำถามเช่นนั้นกับนายท่านผู้นี้ได้อย่างไร?”
ใครบางคนพูดขึ้น “นายท่านรูปแบบอาคมวิญญาณ เช่นนั้นแล้วสามอันดับแรกสามารถชนะคู่ต่อสู้ที่มีพลังต่อสู้กี่ดาวได้กัน?”
“นั่นสิ บอกพวกเราหน่อยเถอะ!”
“ข้าอยากจะรู้ว่าสามอันดับแรกมีความแข็งแกร่งขนาดไหน!”
รูปแบบอาคมวิญญาณหยุดนิ่งไปชั่วขณพก่อนที่จะพูดออกมา “ย่อมได้ อันดับสามคือจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณที่ชนะคู่ต่อสู้ระดับบุปผาผลิบานขั้นห้าได้”
‘พรวด!’
ทันใดนั้นทุกคนก็สำลักน้ำลายและเปิดเผยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อออกมาทันที
ทุกคนรู้ดีว่าความแตกต่างของระดับแก่นแท้จิตวิญญาณและระดับบุปผาผลิบานนั้นกว้างใหญ่จนไม่อาจข้ามผ่าน แต่กลับมีจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณที่โค่นคู่ต่อสู้ระดับบุปผาผลิบานได้จริงๆ? แถมยังเป็นระดับบุปผาผลิบานขั้นห้าด้วย นั่นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นใช่หรือไม่?