Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 496
ถึงแม้เขาจะไม่อยากได้เม็ดยาเป็นของรางวัล แต่เขาก็ไม่ต้องการเสียโอกาสไปเช่นกัน
เม็ดยาทั้งสามนั้นไม่ใช่เม็ดยาระดับต่ำ และบังเอิญเป้นอย่างมากที่หนึ่งในนั้นคือเม็ดยาพยัคฆ์ซ่อนชะตาสวรรค์ ดังนั้นหลิงฮันจึงเลือกเม็ดยาชนิดนี้
เม็ดยาอีกสองชนิดคือเม็ดยาที่เอาไว้ช่วยเหลือในการทะลวงผ่านระดับสวรรค์ แต่หลิงฮันไม่ต้องการมัน แถมเขาก็ยังสามารถหลอมพวกมันขึ้นมาได้ด้วยตนเอง เพราะหากถึงตอนที่พลังบ่มเพาะของพรรคพวกของเขาบรรลุระดับก้าวสู่เทวา เขาก็คงไม่ขาดแคลนสมุนไพรที่ใช้หลอมเม็ดยาชนิดนี้แล้ว
นี่คือรางวัลสำหรับจูเสวียนเอ๋อ
“ยังเหลือการทดสอบสุดท้ายอยู่ คนที่ไปถึงที่นั่นทันภายในระยะเวลาสิบวันจะมีคุณสมบัติเข้าร่วมการทดสอบ” รูปแบบอาคมวิญญาณกล่าว
ทุกคนออกเดินทาง แม้คนที่ไม่ผ่านการทดสอบที่สองก็สามารถเข้าร่วมการทดสอบที่สามได้หากพวกเขาสามารถไปถึงสถานที่ทดสอบได้ทันเวลา
พวกหลิงฮันเองก็ออกเดินทางเช่นกัน และในเมื่อเขาได้รับทักษะกายาเก้ามังกรทรราชมาสองส่วนแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่หลิงฮันจะอยากได้ส่วนสุดท้ายเพื่อทำให้ทักษะนี้สมบูรณ์
ขณะที่เดินทางเขาก็เริ่มทำการศึกษาทักษะไปด้วย
ทักษะกายาเก้ามังกรทรราชแตกต่างกับทักษะทั่วไป มันไม่ใช่ทักษะที่มีไว้เพื่อฝึกฝนปราณก่อเกิด มันคือทักษะสำหรับฝึกฝนกายหยาบของมนุษย์ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดจนมีกายหยาบที่เทียบได้กับพระเจ้า
สำหรับหลิงฮัน ทักษะกายาเก้ามังกรทรราชนั้นราวกับถูกสร้างมาเพื่อเขา เพราะว่าตัวเขานั้นฝึกฝนคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ทำให้มีกายหยาบที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับเดียวกัน และถ้าหากเขาบรรลุกายาเพชรได้ กายหยาบของเขาจะน่าสะพรึงหลัวยิ่งกว่านี้อีก!
ด้วยกายหยาบที่แข็งแกร่ง หากเขาฝึกฝนทักษะกายาเก้ามังกรทรราชไปพร้อมๆกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะมากกว่าเดิมสองเท่า
แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้ทำการฝึกฝน นั่นเพราะรูปแบบอาคมวิญญาณให้เวลากับพวกเขาเพียงสิบวันเท่านั้น แถมเส้นทางที่ต้องเดินผ่านยังเต็มไปด้วยภัยอันตรายอีกด้วย
หลังจากเดินไปได้ซักพักพื้นที่ราบอันกว้างใหญ่ได้หายไปจนไม่มีเส้นทางให้เดินต่อ แต่กลับกัน บนกลางอากาศได้ปรากฏก้อนหินรายเรียงกันสูงไปถึงขอบฟ้า
“สถานที่ทดสอบที่สาม… หรือว่าจะเป็นบนฟ้า?”
“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น”
“นี่คือบันไดหินที่เชื่อมต่อกับสรรค์?”
ทุกคนรู้สึกว่าบันไดหินไม่ใช่สถานที่ทดสอบ เพราะจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานสามารถบินบนอากาศได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่สามารถบินรวดเดียวไปถึงบนสุด แต่พวกเขาก็ยังสามารถหยุดพักระหว่างทางได้
“ลองดูก่อน” หลิงฮันกระโดดขึ้นไป แต่สีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปทันที ขณะที่กระโดด เขารู้สึกได้ถึงแรงโน้มถ่วงที่รุนแรงผิดปกติ โดยปกติแล้วเขาสามารถกระโดดได้สูงอย่างน้อยหลายร้อยฟุต แต่ตอนนี้แค่ห้าฟุตก็ทำได้ยากแล้ว
โชคดีที่เขายังกระโดดไปหยุดอยู่ที่หินที่ลอยอยู่
เรื่องที่น่าแปลกก็คือหลังจากที่เขาไปยืนอยู่บนก้อนหินกลางอากาศ แรงโน้มถ่วงที่รุนแรงได้กลับสู่สภาพปกติ
ดูเหมือนว่าแรงโน้มถ่วงจะมีไว้เพื่อยับยั้งการบินบนฟ้าของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน และทำให้พวกเขาทุกคนก้าวไปต่อได้ยากขึ้น
ความรุนแรงของแรงโน้มถ่วงก็น่าจะขึ้นอยู่กับระดับพลังของแต่ละคนเช่นกัน
“พวกเจ้าขึ้นมา เส้นทางนี้ดูเหมือนจะไม่ง่ายเสียแล้ว” หลิงฮันพูด
เส้นทางนี้คล้ายคลึงกับทางเข้าเมืองในการทดสอบแรก แต่ประเด็นก็คือรูปแบบอาคมวิญญาณกล่าวเอาไว้ว่าพวกเขาต้องไปถึงสถานที่ทดสอบภายในสิบวัน… นั่นหมายถึงอะไร?
เส้นทางที่จะไปถึงสถานที่ทดสอบสุดท้ายต้องไกลมากแน่นนอน!
ทุกคนเริ่มกระโดดตามขึ้นมาทีละคน บางคนที่กระโดดได้ไม่สูงพอก็ต้องกระโดดใหม่อีกครั้ง นี่เป็นเพียงก้อนหินก้อนแรกเท่านั้น ส่วนก้อนหินที่ลอยอยู่ปลายทางสุดท้ายนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าเส้นทางนี้จะไกลขนาดไหน
ในตอนแรก ทุกคนนั้นเต็มไปด้วยกำลังใจที่ฮึกเหิมและพวกเขากระโดดข้ามก้อนหินไปทีละคน แต่หลังจากผ่านไปสิบนาที ความเร็วของพวกเขาก็เริ่มช้าลงจนแผ่นหลังเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
หลิงฮันยังคงก้าวกระโดดอย่างผ่อนคลาย ที่จริงเขาสามารถให้พวกหลิวอู๋ตงและคนอื่นๆเข้าไปยังหอคอยทมิฬและพาพวกเขาขึ้นไปยังจุดบนสุดได้ แต่เขาไม่ทำเช่นนั้น ในสายตาของหลิงฮัน บันไดหินนี้จะทำให้พวกพัฒนาขึ้นอย่างมาก
คนที่สามารถก้าวขึ้นไปยังจุดบนสุดได้ภายในเวลาสิบวัน คนคนนั้นไม่ใช่แค่มีพรสวรรค์ในด้านศาสตร์แห่งวรยุทธ แต่ยังเป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกเขามีจิตใจที่ไม่ย่อท้ออีกด้วย
ดังนั้นหลิงฮันจึงไม่ได้หยุดรอคนอื่นและกระโดดข้ามก้อนหินไปอย่างรวดเร็ว
ในสถานที่แห่งนี้ จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานก็ต้องใช้วิธีก้าวกระโดดเช่นกัน แถมยิ่งมีระดับพลังสูงเท่าไหร่ แรงโน้มถ่วงก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น
ผ่านไปสักพักหลิงฮันก็ทิ้งทุกคนไว้เบื้องหลัง คนเดียวที่ยังตามเขามาติดๆคือฮูหนิว
ความเร็วของเด็กสาวเองก็ถูกจำกัดเอาไว้เช่นกัน แต่ถึงอย่างไรนางก็ยังรวดเร็วอยู่ดี อย่างน้อยๆนางก็ไม่ได้เชื่องช้าไปกว่าหลิงฮันเลย
เมื่อใดก็ตามที่เหนื่อยล้า พวกเขาก็จะนั่งพักบนก้อนหินที่ลอยอยู่กลางอากาศและดูดซับพลังวิญญาณรอบๆเพื่อฟื้นฟูพลังและบ่มเพาะพลังไปพร้อมๆกัน
หลังจากฟื้นฟูพลังและบ่มเพาะพลังเสร็จ หลิงฮันก็ทำการฝึกฝนทักษะกายาเก้ามังกรทรราช
หลิงฮันขยับตัวด้วยท่าทางที่แปลกประหลาด ‘แกร่ก แกร่ก แกร่ก’ กระดูกทั่วร่างของเขาเริ่มแตกหักจนร่างของเขาเกือบโค้งงอ พลังปราณและโลหิตในร่างของเขาไม่สามารถโคจรได้ตามปกติ เขารู้สึกเจ็บปวดจนเกือบจะกระอักเลือดออกมา
ทักษะกายาเก้ามังกรทรราชขั้นต้นมีทั้งหมดสิบสองท่าทาง ก่อนที่เขาจะได้รับส่วนที่สองมา ส่วนขั้นต้นของทักษะนี้มีเพียงหกท่าทางเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนว่าทักษะกายาเก้ามังกรทรราชที่สมบูรณ์จะมีทั้งหมดสิบแปดท่าทาง