Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 531
สถานการณ์แปรปรวน
‘ตูม’ น้ำพุโลหิตเริ่มทะลักออกมารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในตอนแรกน้ำพุโลหิตพุ่งขึ้นสูงเทียบเท่ากับความสูงโดยทั่วไปของมนุษย์เท่านั้น แต่ผ่านไปไม่นานมันก็พุ่งสูงขึ้นจนบรรจบสวรรค์ โลหิตที่ทะยานขึ้นฟ้าราวกับจะสามารถย้อมโลกใบนี้ให้กลายเป็นสีโลหิต
หลิงฮันพุ่งหลบหนีอย่างรวดเร็ว ด้านใต้เท้าของเขาที่กำลังลอยอยู่ ระดับน้ำโลหิตกำลังเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจนเกือบจะตามเขาทัน ด้วยอำนาจกัดกร่อนที่รุนแรงของมัน รองเท้าของหลิงฮันเริ่มถูกย่อยสลาย เมื่อลำธารโลหิตสัมผัสกับเท้าของเขา หนังที่เท้าของเขาก็เริ่มเน่าเปื่อยจนเหลือเพียงกระดูก
ช่างน่ากลัวเป็นอย่างมาก นี่เป็นเพียงแค่ไอระเหยที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากน้ำพุโลหิตเท่านั้น หากมันมีอำนาจในการกัดกร่อนขนาดนี้ ถ้าเกิดเขากินน้ำโลหิตเหล่านี้เข้าไป ไม่ใช่ว่าร่างของเขาจะสลายไปเลยรึไง?
ต้องรู้ก่อนว่าเขานั้นบ่มเพาะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งเทียบเท่ากับอาวุธวิญญาณในระดับเดียวกัน หากเป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานคนอื่น ไอระเหยนี้คงทำให้พวกเขากลายเป็นแอ่งเลือดแล้ว
หลิงฮันรีบนำฮูหนิวเข้าไปในหอคอยทมิฬและทะยานตัวขึ้นสูง
หรือว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นผนึกอาคมขนาดใหญ่และขวดหยกคือแก่นอาคม? การที่เขาดึงแก่นอาคมออกมาทำให้ผนึกหยุดทำงาน สิ่งที่ถูกผนึกเอาไว้จึงได้ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ?
ถ้าเช่นนั้นเขาก็เป็นตัวการก่อให้เกิดหายนะน่ะสิ?
โชคดีที่คนเหมืองถูกส่งออกไปด้านนอกแล้ว ไม่เช่นนั้นร่างของพวกเขาก็สลายกลายเป็นโลหิตแน่นอน
‘ฟุบ’ หลิงฮันทะยานขึ้นฟ้าล่องลอยอยู่เหนือเหมืองโบราณ
น้ำพุโลหิตทะยานขึ้นสูงเสียดฟ้าและเริ่มไหลกลับลงมา โลหิตมากมายได้เปลี่ยนทั่วทั้งเหมืองโบราณให้กลายเป็นทะเลสาปโลหิตในทันที
หลิงฮันยืนปิดจมูกอยู่ริมทะเลสาบ กลิ่นของโลหิตเหล่านี้มีกลิ่นฉุนเป็นอย่างมาก แค่การสูดดมพวกมันเข้าไปก็ทำให้เขารู้สึกกระหายเลือดและกลายเป็นอสูรที่รู้จักแต่เพียงการไล่ล่าสังหาร
น้ำสีแดงเหล่านี้ใช่โลหิตจริงๆรึ? ถ้าเกิดใช่จริงๆล่ะก็ ต้องมีสิ่งมีชีวิตมากมายขนาดตกต้องถึงจะได้โลหิตจำนวนขนาดนี้?
หลิงฮันอดที่จะตกตะลึงไม่ได้ เหมืองโบราณแห่งนี้มีขนาดใหญ่ขนาดไหน? เขาเห็นด้วยตาตนเองแล้ว แต่โลหิตที่ทะลักออกมาจากหลุมใต้ขวดหยกกลับสามารถกลบพื้นที่ของเหมืองโบราณได้ทั้งหมด แม้จะเป็นโลหิตของคนหลายพันคนก็ไม่เพียงพอ
“เจ้าเดาผิดแล้ว โลหิตเหล่านั้นเป็นโลหิตของคนไม่กี่สิบคนเท่านั้น” หอคอยน้อยกล่าว
“เป็นไปได้อย่างไร?” หลิงฮันอุทานออกมาทันที ถ้าเป็นโลหิตของคนเพียงสิบกว่าคนจริง ร่างกายของคนเหล่านั้นจะต้องใหญ่ขนาดไหน? ขนาดเท่าภูเขา?
“ยิ่งจอมยุทธมีระดับพลังสูง โลหิตก็มีเข้มข้นและมีจำนวนมหาศาลขึ้น โลหิตของจอมยุทธที่แข็งแกร่งบางคนสามารถมีจำนวนเทียบเท่ากับมหาสมุทรได้เลย มันมีสิ่งใดแปลกกัน?” หอคอยน้อยเอ่ยถาม “โลหิตที่เจ้าเห็นตรงหน้าเป็นเพียงโลหิตที่มีต้นกำเนิดจากคนไม่กี่สิบคนเท่านั้น”
หลิงฮันกำลังจะพูดต่อ แต่ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นร่างสีขาวหนึ่งในทะเลสาปโลหิต ร่างนั้นลอยไปตามคลื่นของทะเลสาปโลหิต ร่างนั้นคือบุรุษที่สวมชุดขาว หน้าอกของเขามีรูกลวงที่เกิดจากการถูกระเบิดหัวใจทิ้งในทันที
ทันใดนั้นในซากศพอีกซากหนึ่งก็ลอยขึ้นมา ศพนั้นคือชายหัวโล้นที่มีจุดเก้าจุดอยู่กลางหน้าผาก บริเวณหน้าอกสวมใส่สร้อยประคำเอาไว้ ช่างหน้าแปลกอย่างมาก บริเวณหัวใจของเขาก็มีรูกลวงที่เกิดจากการถูกระเบิดหัวใจเช่นกัน
“หรือว่านั่นจะเป็นศพของนักบวชบรรพกาลในตำนาน?” หลิงฮันเคยได้ยินเรื่องราวของนักบวชแห่งบรรพกาลมาบ้าง พวกเขาละเว้นการฆ่าฟันและอยู่เหนือบ่วงโซ่แห่งความชั่วร้าย
ซากศพร่างที่สามลอยขึ้นมา คราวนี้คือสตรีงดงามที่สวมชุดคลุมยาวสีแดง เมื่อชุดของนางผสมเข้ากับทะเลสาปโลหิตแล้ว ไม่สามารถแยกออกได้เลยว่าส่วนไหนคือโลหิตหรือเสื้อผ้าของนางกันแน่
ศพของนางไม่ได้ถูกระเบิดหัวใจ แต่บนหน้าผากที่งดงามของนางได้ปรากฏรูกลวงแทน
นางนั้นเป็นสตรีที่งดงามมาก หากใครมาเห็นก็ต้องรู้เสียดายที่นางต้อมางตกตายเช่นนี้
จากนั้นก็มีศพร่างที่สี่โผล่ขึ้นมา
หลิงฮันนับแล้วมีซากศพอยู่ทั้งหมดสิบสองศพ ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ซากศพของพวกเขาจะถูกฝังเอาไว้ใต้เหมือง และตอนนี้ร่างของพวกเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกับน้ำพุโลหิต
หลิงฮันสัมผัสมาแล้วว่าโลหิตเหล่านี้มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนขนาดไหน แต่ศพเหล่านั้นกลับไม่ถูกย่อยสลายหลังจากผ่านมาแล้วหลายหมื่นปี ตอนที่พวกเขายังมีชีวิตพวกเขามีพลังบ่มเพาะระดับใดกันแน่?
ระดับสวรรค์… ไม่มีทางแข็งแกร่งได้ขนาดนั้น
บางทีคนเหล่านี้อาจจะเป็นตัวตนระดับทลายมิติ
ปัญหาก็คือถึงแม้ศพเหล่านี้จะมีจุดตายที่ต่างกัน แต่สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือพวกเขาถูกสังหารด้วยหมัด ราวกับว่าพวกเขาพบเจอกับตัวตนระดับพระเจ้าและถูกสังหารในหมัดเดียว
หลังจากนั้นโลหิตของจอมยุทธที่ทรงพลังทั้งสิบสองคนจึงกลายเป็นทะเลสาบโลหิต
“นั่นมันอะไรกัน!” จู่ๆหลิงฮันก็มีท่าทีตกตะลึง บนทะเลสาบมีแมงมุมสีเงินขนาดเท่าภูเขาตัวหนึ่งลอยอยู่ ขาทุกข้างของมันแหลมคมราวกับหอก กลื่นอายอันน่าสะพรึงกลัวที่มันปลดปล่อยออกมาทำให้เขารู้สึกราวกับตัวเองเป็นถ้วยชามที่กำลังแตกร้าว
สิ่งเขารู้สึกไม่ใช่ภาพลวงตา หลิงฮันมองไปยังฝ่ามือของเขาและพบว่าบริเวณฝ่ามือปรากฏรอยแตกร้าวพร้อมกับโลหิตที่ไหลออกมา
น่ากลัวเกินไป! แค่ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ห่างไกลขนาดนี้ก็ทำให้ร่างของเขาแตกสลายได้!
ระดับสวรรค์ไม่มีอำนาจขนาดนี้แน่นอน และในโลกเบื้องล่างแห่งนี้ยอมให้มีเพียงตัวตนที่มีพลังไม่เกินระดับทลายมิติดำรงอยู่เท่านั้น ดังนั้นแมงมุมร่างเงินตัวนี้ต้องเป็นอสูรระดับทลายมิติแน่นอน
อสูรแมงมุมเงินยักษ์ชำเลืองมองหลิงฮัน แต่ท่าทีของมันไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแม้แต่น้อย ราวกับไม่แยแสใดๆต่อมดปลวกอย่างหลิงฮัน
ทั้งสองต่างอยู่ในระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลิงฮันเป็นเพียงมนุษย์ที่อ่อนแอธรรมดา มันจำเป็นต้องแสดงท่าทีข่มขู่แมลงตัวเล็กๆด้วยรึ?
เมื่อผ่านไปชั่วขณะ หลิงฮันก็พบว่าร่างกายและวิญญาณของเขารู้สึกราวกับจะระเบิดออกมา
บางทีหลิงฮันอาจจะต้องกลับไปมีพลังระดับสวรรค์ก่อน ถึงจะสามารถต่อต้านอำนาจขนาดนี้ได้
‘ตูม’ ทันใดนั้นเอง จู่ๆก็มีน้ำวนขนาดมหึมาปรากฏขึ้นที่ทะเลสาบโลหิต ระดับของทะเลโลหิตเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วจนภายในไม่กี่ลมหายใจทะเลสาปโลหิตที่หลิงฮันเห็นเมื่อครู่ก็หายไปจนหมด ซากศพทั้งสิบสองเองก็หายไปด้วย
ขาทั้งแปดของอสูรแมงมุมยักษ์สั่นไหวพร้อมกับร่างของมันที่หดตัวย่อขนาดลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นเส้นแสงมุดหายลงไปยังหลุมใต้เหมืองจนไม่สามารถมองเห็นได้อีก
ที่เหมืองโบราณแห่งนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
คิ้วของหลิงฮันขมวดเข้าหากัน ในตอนแรกเขาคิดไว้ว่ามีเพียงสมบัติต้องสาปถูกฝังเอาไว้เท่านั้น แต่หลังจากได้สมบัติต้องสาปมา กลับปรากฏซากศพของจอมยุทธทรงพลังทั้งสิบสองและอสูรแมงมุมยักษ์ขนาดเท่าภูเขาที่มีชีวิต!
เขาไม่รู้ว่าแมงมุมยักษ์สีเงินนั่นเป็นวิญญาณจากยุคสมัยหลายล้านปีก่อนหรือเป็นสิ่งที่ยังมีชีวิตอยู่กันแน่
มันแข็งแกร่งจนถึงขนาดที่เขาไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ได้ จึงไม่แปลกที่หลิงฮันจะมองไม่ออกว่าที่จริงแล้วมันคืออะไร