Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 588
เกาะไม้ทมิฬ
หลิงฮันพยักหน้าและพูด “พาข้าไปที่นั่น”
“แต่หัวหน้าสั่งข้าเอาไว้ว่าข้าสามารถไปที่นั่นเพื่อมอบสตรีให้เขาเพียงหนึ่งครั้งต่อเดือนเท่านั้น” ต้าเถี่ยโถวพูดอย่างขมขื่น “เกาะไม้ทมิฬนั้นเป็นเขตหวงห้าม หากหัวหน้าอารมณ์ไม่ดี ใครที่บุ่มบ่ามเข้าไปจะต้องถูกสังหาร”
หลิงฮันกวัดแกว่งดาบและสะบั้นลงไป ทันในนั้นโลหิตสายหนึ่งก็กระฉูดออกมาทันที
“อ้ากก!” ต้าเถี่ยโถวกรีดร้อง
“อ้ากก!” ลูกสมุนร่างสูงกรีดร้องเช่นกัน
หลังจากกรีดร้องไปได้สักพัก ต้าเถี่ยโถวก็หันไปพูดกับลูกสมุนร่างสูง “ข้าเป็นคนที่ถูกตัด เจ้าจะกรีดร้องไปทำไม?”
“หัวหน้า ครั้งนี้ไม่ใช่ท่านแต่เป็นข้า!” หยาดน้ำตาของลูกสมุนร่างสูงไหลนองท่วมใบหน้า
“ว่าไงนะ?” เมื่อต้าเถี่ยโถวมองลงไปและเห็นว่าโคนของมันยังอยู่ที่เดิมมันก็ถอนหายใจโล่งอกและอดที่จะยิ้มหัวเราะอย่างเบิกบานใจออกมาไม่ได้
หลิงฮันทำเสียงเคร่งขรึมและพูด “ใครจะเป็นคนพาข้าไปยังเกาะไม้ดำ?”
ต้าเถี่ยโถวและลูกสมุนร่างสูงส่ายหัวพร้อมกัน แม้พวกมันจะเป็นโจรสลัดใต้สังกัดของเฝิงเหว่ยฉี แต่ถ้าหากพวกมันไปที่นั่นโดยที่ไม่ได้รับการอนุญาตเสียก่อน จุดจบของพวกมันก็คือความตายเช่นกัน ไข่กับโคนของพวกมันนั้นจะมีค่าเท่ากับชีวิตของพวกมันได้อย่างไร?
หลิงฮันยิ้มและพูด “ใครก็ตามที่พาข้าไปข้าจะยอมไว้ชีวิตคนคนนั้น ส่วนใครที่ไม่เชื่อฟัง ก็จงรอเวลากลายเป็นปุ๋ยอยู่ที่นี่ไปซะ”
“ข้าจะพาไป!” ต้าเถี่ยโถวและลูกสมุนร่างสูงตะโกนออกมาพร้อมกัน
“ไม่ใช่ว่าพวกเจ้ามีความจงรักภักดีต่อหัวหน้าใหญ่รึไง?” หลิงฮันยิ้ม
“อะไรคือความจงรักภักดี? มันกินได้รึไง?” ทั้งสองคนกล่าวออกมาอย่างหน้าด้าน
หลิงฮันอดรู้สึกสงสารคนที่โชคร้ายที่มีลูกน้องอย่างสองคนนี้ไม่ได้ เมื่อเขาออกมาจากหอคอยทมิฬ เขาก็พบว่าร่างของเขาจมอยู่ใต้ทะเลสาบจึงรีบลอยขึ้นมา
เมื่อเขาโผล่พ้นน้ำขึ้นมา เขาก็เห็นเงาดำเงาหนึ่งพุ่งเข้ามารัดคอเขา “ฮันฮัน! ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่โผล่มาแทบแย่!” เงานั่นคือเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน
“อย่าทำเช่นนี้อีก ไม่งั้นข้าจะต้องตายแน่ๆ!” หลิงฮันสำลักออกมา สตรีนางนี้ไม่รู้อะไรเกี่ยววิถีแห่งวรยุทธ ดังนั้นนางจึงไม่รับรู้เลยว่าพลังของตัวนางนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน หากเขาไม่บ่มเพาะกายาเหล็กกล้า การรัดคอเมื่อครู่คงทำให้เขาตกตายไปแล้ว
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนปล่อยแขนออกจากคอหลิงฮันอย่างไม่เต็มใจ แต่มือซ้ายของนางก็ยังคงจับชายเสื้อเขาเอาไว้ในขณะที่มีก้อนอิฐถืออยู่ในมือขวา นางดูราวกับเป็นสตรีที่งดงามที่กำลังอยากจะไปทุบตีใครสักคนจะแย่อยู่แล้ว
หลิงฮันนำต้าเถี่ยโถวออกมาและให้มันนำทางไปยังเกาะไม้ทมิฬ
ท่ามกลางหมอกหนาทึบบนทะเลสาปนี้ สัญชาตญาณในการคาดเดาเส้นทางนั้นไม่สามารถเชื่อถือได้ เขามองเห็นต้าเถี่ยโถวนำเข็มทิศออกมา เมื่อครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะมันก็เดินนำทางเขาไป
หลิงฮันจ้องไปยังต้าเถี่ยโถวและพูด “เข็มทิศนั่นดูไม่เลวเลย” หากเป็นเข็มทิศธรรมดาคงไม่อาจใช้กับสถานที่แห่งนี้ได้ ดังนี้เข็มทิศที่ต้าเถี่ยโถวนำออกมาจึงถือว่าไม่ใช่เข็มทิศธรรมดา
“นี่เป็นสิ่งที่หัวหน้ามอบให้ข้า!” ต้าเถี่ยโถวพูดอย่างภาคภูมิใจ
ด้วยการนำทางของเข็มทิศ ผ่านไปสองวันเงาสีดำขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถคาดเดาขนาดได้ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าพวกเขา
“นั่นคือเกาะไม้ทมิฬ” ต้าเถี่ยโถวกล่าว “ขอข้าซ่อนตัวก่อนได้รึไม่?”
“จะซ่อนตัวไปทำไม? เจ้ากับหัวหน้าเจ้าไม่ใช่สหายกันรึไง?” หลิงฮันยิ้ม “นำทางต่อไปซะ ไม่เช่นนั้นข้าจะทุบตีเจ้า!”
“น้องชาย เจ้าจะทำกับข้าอย่างนี้ไม่ได้!” ต้าเถี่ยโถวโอดครวญ “หัวหน้าบอกเอาไว้ว่า ข้าสามารถเข้าเกาะไม้ทมิฬไปได้แค่วันเดียวในช่วงต้นเดือน หากเข้าไปตอนนี้ หัวหน้าจะต้องสังหารข้าแน่นอน!”
“ไม่มีอะไรต้องกลัว ข้าจะคุ้มครองเจ้าเอง” หลิงฮันยิ้ม
ต้าเถี่ยโถวต้าจ้องมาที่เขาอย่างลังเล เห็นได้ชัดว่ามันไม่มั่นใจในตัวหลิงฮันแม้แต่น้อย
หลิงฮันยกดาบกระดูกขึ้นมาและพูด “เจ้าก็เลือกเอาเอง ถ้าเจ้าไม่นำทางให้ข้าเจ้าจะต้องตายในทันที! แต่ถ้าเจ้านำทางให้ข้า เจ้าก็ยังมีโอกาสที่จะรอดชีวิต ถ้าเจ้ามีสมองซักนิดก็จงเลือกเอาเอง”
ต้าเถี่ยโถวฝืนใจพูดออกมา “ข้าจะนำทางให้เจ้า”
พวกเขาเดินทางไปข้างหน้าต่อ ผ่านไปไม่นานหมอกเบื้องหน้าพวกเขาก็เริ่มจางลงจนมองเห็นเกาะขนาดใหญ่ตรงหน้า เกาะแห่งนี้มีรูปร่างราวกับดวงจันทร์ ไม่ว่าจะมองไปที่ใดก็ล้วนแต่เป็นสีดำ
หากมองให้ดีๆจะพบว่าเกาะแห่งนี้มีต้นไม้อยู่มากมาย แต่ทั้งต้นไม้และพืชบนเกาะต่างก็มีสีดำราวกับเหล็ก ต้นไม้แต่ละต้นไม่มีก้านแตกหน่อออกมา ลำต้นของพวกมันชี้ตรงขึ้นฟ้าราวกับคมหอก
ต้าเถี่ยโถวเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าเกาะและพูดด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติ “พี่น้องบนเกาะ ข้าคือต้าเถี่ยโถว ข้ามาที่นี่เพื่อมอบสตรีให้กับหัวหน้าใหญ่!”
ผ่านไปชั่วขณะก็มีเสียงหนึ่งดังออกมาจากเกาะ “มอบสตรี? วันนี้เพิ่งจะวันที่สิบห้าเอง มันยังเร็วเกินไปที่จะถึงช่วงต้นเดือน! หัวหน้าต้า เจ้าไม่รู้กฎของพี่ใหญ่รึยังไง?”
“เอ่อ… สตรีที่ข้านำมาในครั้งนี้งดงามเป็นอย่างมาก เพราะงั้นข้าจึงอยากจะมอบตัวนางให้กับหัวหน้าใหญ่ไวๆ!” ต้าเถี่ยโถวกล่าวและชี้นิ้วไปยังเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน
ในระยะที่ห่างไหลเกินหนึ่งไมล์ จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานจะไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนได้ พวกเขาจะดูออกเพียงแค่ว่านางเป็นสตรี
“หัวหน้าต้า โปรดอย่าสร้างปัญหาให้พวกเรา กฎของพี่ใหญ่ไม่อาจถูกละเมิดได้!” เสียงอีกเสียงหนึ่งดังออกมาจากเกาะ
“เจ้าพวกบัดซบหัวทึ่ม ไม่คิดจะเปิดให้ข้าเข้าไปงั้นรึ?” ต้าเถี่ยโถวตะโกนออกไป “สตรีที่นำมาครั้งนี้งดงามเป็นอย่างมาก หากข้านำมาส่งให้ในช่วงต้นเดือนหน้าแล้วหัวหน้าใหญ่เกิดโมโหที่ข้าไม่พาตัวนางมาให้ไวๆ พวกเจ้าจะรับผิดชอบไหวรึ?”
ต้าเถี่ยโถวนิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนจะพูด “ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อก็ลองนั่งเรือเล็กมาดูด้วยตนเองซะ”
หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา แต่ผ่านไปเพียงชั่วขณะเดียว พวกหลิงฮันก็มองเห็นเรือขนาดเล็กที่รอยออกมาจากเกาะ
หลิงฮันตกตะลึงเป็นอย่างมาก ต้าเถี่ยโถวที่ดูงี่เง่าเช่นนี้กลับสามารถแสดงละครได้ยอดเยี่ยมนัก และเพราะท่าทีที่ดูโง่ของมัน ทำให้ไม่มีใครเชื่อว่าคนที่โง่เช่นนี้จะสามารถโกหกคนอื่นเป็น
แต่หากคิดดูให้ดี คนที่สามารถบรรลุระดับบุปผาผลิบานได้จะเป็นคนโง่ไปได้อย่างไร?
เรือขนาดเล็กลอยมาหยุดห่างจากพวกเขาสิบฟุต ด้วยระยะเช่นนี้ พวกมันจะสามารถมองได้ชัดเจน
“เป็นสตรีที่งดงามจริงๆด้วย!”
“ช่างงามล้ำ!”
“น่าดึงดูดอะไรเช่นนี้!”
บนเรือมีคนอยู่สี่คน พวกมันทุกคนต่างมองมายังเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนพร้อมกับมีน้ำไหลออกจากปาก
“เหอะ ที่นี้เชื่อรึยังว่าข้าไม่ได้โกหก?” ต้าเถี่ยโถวเค้นเสียงดูถูก
“พี่ชายต้า เจ้าหนูนั่นเป็นใครกัน?” ทั้งสี่คนจ้องมองมายังหลิงฮัน
“เขาเป็นน้องชายของข้าเอง” ต้าเถี่ยโถวกล่าวโกหกออกไปอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้า
“โอ้ พี่ชายต้า นี่ท่านบาดเจ็บรึ?” ทั้งสี่คนมองมายังช่วงล่างของต้าเถี่ยโถวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบโลหิต
“ข้าแค่ฝึกซ้อมทักษะหนักเกินไปจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น” ต้าเถี่ยโถวพูดออกมาเป็นตุเป็นตะ
“พี่ชายต้าช่างเป็นคนที่น่านับถือยิ่งนัก!” ชายทั้งสี่ชูนิ้วโป้งขึ้นมาพร้อมกัน
ส่วนหลิงฮันนั้นกำลังตกอยู่ในอาการมึนงงจนเหงื่อไหลออกมา