Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 612
ไร้ยางอาย
การกระทำดังกล่าวไม่ใช่แค่ชางเย่เท่านั้นที่คาดไม่ถึง แม้แต่เหอหลันหยุนเองก็คาดไม่ถึง
นางเปิดปากพูดออกมาเพื่อเกลี้ยกล่อม แต่ไม่คิดเลยว่าจะถูกจับมาเป็นตัวประกัน
“ชางเย่ เหอหลันหยุนนั้นชื่นชอบเจ้ามาก แล้วเจ้าจะปล่อยให้นางตายอยู่ที่นี่งั้นหรือ?” มือขวาของโฉวจื่อเฟยจับดาบแน่นขึ้นและคมดาบกดทับไปที่ผิวของนาง ทำให้มีโลหิตหลั่งไหลออกมาและเหอหลันหยุนก็กรีดร้อง นางทั้งรู้สึกโกรธและเสียใจ
ชางเย่จ้องมองไปที่เจิงเจี้ยนเซินและคนที่เหลือแล้วพูดว่า “พวกเจ้าอยู่ฝ่ายเขาหรือเปล่า?”
เจิงเจี้ยนเซินและคนอื่นไม่ตอบคำถาม แต่เดินไปอยู่ด้านซ้ายและด้านขวาของโฉวจื่อเฟย เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่ปล่อยโอกาสให้ชางเย่เข้ามาช่วยเหลือเหอหลันหยุนและแสดงคำตอบของพวกเขาด้วยการกระทำ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” หูชิ่งฟางหัวเราะลั่น เรื่องที่เกิดขึ้นมันกลับตาลปัดไปหมด แม้แต่มันก็ไม่คาดคิด
ศัตรูของศัตรูคือมิตร
มันพูดว่า “พวกเจ้าจะเข้ามานั่งในรถม้านี่ก็ได้ และมันจะปกป้องพวกเจ้า”
โฉวจื่อเฟยและคนอื่นรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและตะโกนว่า “อย่าขวางทางข้า ปล่อยให้พวกเราผ่านไป”
ชางเย่จ้องมองไปที่ใบหน้าอันงดงามของเหอหลันหยุน มือของเขาสั่นไปมาเล็กน้อย
“เจ้ายังจะยืนขวางทางพวกข้าอยู่ทำไม? หรือเจ้าจะให้ข้าเปลืองผ้านางก่อนถึงจะหลบ?” โฉวจื่อเฟยตะโกน
แววตาของหูชิ่งฟางสดใสขึ้นมาทันทีและพูดว่า “เป็นความคิดที่ดี แต่ข้าต้องได้เห็นก่อนเป็นคนแรก!” มันเป็นคนของนิกายวายุจันทรา จึงไม่อายที่จะพูดแบบนั้นออกมาในที่สาธารณะ และทำให้มันรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
“เจ้ามันไม่ใช่มนุษย์!” เหอหลันหยุนกรีดร้อง ใบหน้าของนางกลายเป็นสีแดงและเลือกที่จะตายมากกว่าถูกทำให้อับอายต่อหน้าคนที่นางรัก
“ชั่วช้า!” ฉินหยีเย่วกรีดร้อง นางรู้อยู่แล้วว่าโฉวจื่อเฟยเป็นคนที่ไร้ยางอาย แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นคนที่ไร้ยางอายขนาดนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าเจ้าอยากช่วงนาง ทำไมไม่สลับตัวกับนางล่ะ!” โฉวจื่อเฟยจ้องมองไปที่หน้าอกของฉินหยีเย่ว นางดูดีกว่าเหอหลันหยุนเป็นสิบเท่าในแง่ของขนาดหรือรูปทรง ซึ่งมันทำได้แค่ฝันเพราะความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม
แต่ตอนนี้มันมีไพ่เหนือกว่า ภายใต้อารมณ์ที่รุนแรงผู้คนมักจะทำให้สิ่งที่ตัวเองต้องการ
“ชั่วช้า! ไร้ยางอาย!” ทั้งฉินหยีเย่วและจูเสวี่ยนเอ๋อรู้สึกโกรธ ส่วนเหอหลันหยุนเต็มใจที่จะตายเพื่อเป็นอิสระมากกว่าถูกทำให้อับอาย
ฮูหนิวหาวและพูดว่า”พวกเจ้าจะจบปัญหาได้ยัง หรือจะให้หนิวหนิวยื่นมือเข้าช่วย”
“โปรดช่วยข้าด้วย!” ชางเย่คำนับฮูหนิว เขาไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใครมาก่อน แต่ครั้งนี้เขาตัดสินใจที่จะขอความช่วยเหลือ
“อย่าเข้ามาใกล้!” โฉวจื่อเฟยพูดข่มขู่ ฮูหนิวเป็นคนที่น่าหวาดกลัว นางสามารถฆ่าจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณได้ด้วยหมัด ทำให้มันรู้สึกหวาดระแวงมาก
“เจ้าพูดว่าอย่าเข้ามาใกล้อย่าเข้ามาใกล้ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? คิดว่าเป็นหลิงฮันอย่างนั้นหรือ?” ฮูหนิวตะโกนและดูไม่พอใจมาก นางไม่รีรอให้โฉวจื่อเฟยเปิดปากพูด และกลายเป็นสายฟ้ากระโจนเข้าหาฝ่ายตรงข้าม
โฉวจื่อเฟยกัดฟันและพูดว่า “ข้าเตือนเจ้าแล้วอย่าเข้ามาใกล้ ข้าจะฆ่านางเดี๋ยวนี้!” มือข้างขวาของมันกำลังจะลงมือฆ่าเหอหลันหยุน
ตู้ม โฉวจื่อเฟยรู้สึกว่ามือของมันเบาลงเล็กน้อย และทันใดนั้นมันพบว่าดาบของมันถูกฮูหนิวกัด!
บ้าน่า ดาบของมันถูกสร้างขึ้นมาจากแร่เหล็กระดับหก แม้จะยังไม่ใช่อาวุธวิญญาณ แต่มันก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ดี
ปีศาจตัวน้อย!
“ฮิฮิ!” ฮูหนิวเงยหน้าขึ้น ปัง หมัดของนางต่อยไปที่เบ้าตาซ้ายของโฉวจื่อเฟย
“อ๊าก!” โฉวจื่อเฟยกรีดร้องและถอยไปด้านหลัง มันปล่อยเหอหลันหยุนและใช้มือกุมดวงตา มันรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
เมื่อเหอหลันหยุนถูกปล่อยเป็นอิสระ นางนำดาบออกมาจากแหวนมิติทันที และแทงไปที่หน้าอกของโฉวจื่อเฟยจนทะลุหัวใจ
แขนขาของโฉวจื่อเฟยกระตุกไปมาอยู่สักพักก่อนที่จะหยุดแน่นิ่งไป
“ฮึ่ม!” เหอหลันหยุนถ่มน้ำลายใส่ร่างโฉวจื่อเฟย ราวกับว่านางยังคงเกลียดชังมัน แม้อีกฝ่ายจะตายไปแล้วก็ตาม
“โอ้ว ตอนแรกหนิวว่าจะปล่อยให้หลิงฮันเป็นคนจัดการ แต่เขากลับถูกฆ่าไปแล้ว” ฮูหนิวถอนหายใจ แต่นางก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง “หนิวลืมไปเลยว่าหลิงฮันไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยแบบนี้”
เจิงเจี้ยนเซินและคนที่เหลือรู้สึกหวาดกลัว แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้เป็นคนทำ แต่พวกมันก็มีส่วนเกี่ยวข้อง และตอนนี้พวกมันไม่มีตัวประกันอยู่ในมือ แล้วพวกมันจะมีประโยชน์อะไร?
“พวกเจ้าจะฆ่าตัวตาย หรือจะให้หนิวเป็นคนลงมือให้?” ฮูหนิวยืนกอดอกและจ้องมองทั้งสี่คนอย่างเย็นชา
เจิงเจี้ยนเซินและคนที่เหลือสูญเสียจิตวิญญาณที่จะต่อสู้ไปจนหมด ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่อะไรที่พวกมันจะรับมือด้วยได้ พวกมันตะโกนออกมาว่า “นายน้อยหู โปรดช่วยพวกเราด้วย! ได้โปรด!”
ฉินหยีเย่ว ชางเย่ และคนอื่นรู้สึกตกตะลึง พวกมันสี่คนเป็นคนที่ไร้ยางอายมากถึงขั้นกล้าร้องขอความช่วยเหลือจากหูชิ่งฟางเลยหรือนี่
เมื่อได้ยินแบบนั้นช่วยไม่ได้ที่หูชิ่งฟางจะหัวเราะออกมาและพูดว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เป็นเรื่องที่ตลกจริงๆ! แต่ว่า เนื่องจากพวกเจ้าไม่มีตัวประกันอยู่ในมือแล้ว พวกเจ้าจะมีประโยชน์อะไรสำหรับข้า?”
เจิงเจี้ยนเซินและคนที่เหลือรู้สึกสิ้นหวัง พวกมันจ้องมองไปที่เหอหลันหยุนและหวังว่าอีกฝ่ายจะกลับมาพูดคุยกับพวกมันอีกครั้ง
ใบหน้าของเหอหลันหยุนแสดงความโกรธเกรี้ยวออกมา พวกมันยังคิดจะใช้ประโยชน์จากนางอยู่อีก? นางหันหน้าหนีและเลิกมองพวกมัน
“คนแบบนั้นปล่อยให้ข้าเป็นคนจัดการเอง มือของเจ้าไม่ควรสกปรกเพราะพวกมัน!” ชางเย่กระโจนออกไปพร้อมกับกระบี่ที่อยู่ในมือ และจิตสังหารที่รุนแรง
เดิมทีความแข็งแกร่งของเจิงเจี้ยนเซินนั้นด้อยกว่าชางเย่อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่ามันสูญเสียจิตวิญญาณต่อสู้ไปจนหมด และเพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้นพวกมันทั้งสี่คนก็ถูกฉางเย่ฆ่าตาย
“ฮือ!” ในที่สุดเหอหลันหยุนก็ร้องไห้ออกมาและเข้าไปในอ้อมแขนของชางเย่
ชางเย่รู้สึกตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี หลังจากนั้นสักพัก เขาก็เก็บกระบี่เข้าไปในแหวนมิติและตบไหล่ของเหอหลันหยุนเบาๆราวกับเกลี้ยกล่อมเด็ก
“ปัญญาอ่อน!”
“โง่เง่า!”
ทั้งฉินหยีเย่วและจูเสวี่ยนเอ๋อต่างแสดงความคิดเห็นออกมา
ในอีกด้านหนึ่ง การต่อสู้ระหว่างหลิงฮันและต้วนหม่าต๋าก็มาถึงจุดจบ เมื่อหลิงฮันนำดาบกำเนิดมารออกมา ในขณะที่เขากวัดแกว่งดาบ ปราณดาบยี่สิบเก้าเล่มก็ทะลวงผ่านการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม
แล้วต้วนหมิงต๋าจะรับมือหลิงฮันที่ใช้ดาบกำเนิดมารได้อย่างไร?
“ปราณดาบยี่…ยี่สิบเก้าเล่ม!” ดวงตาอันงดงามของฉินหยีเย่วเปล่งประกาย
จูเสวี่ยนเอ๋อไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนจะมีศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน!
ใบหน้าของหูชิ่งฟางกลายเป็นซีดขาว แม้มันจะพาจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับตัวอ่อนวิญญาณมาด้วย แต่ก็ยังคงจัดการอีกฝ่ายไม่ได้ มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าไปหลบซ่อนในรถม้าและตะโกนใส่สาวงามทั้งสี่คนให้รีบขับออกไป ส่วนต้วนหมิงต๋านั้นมันไม่สนใจแม้แต่น้อย ชีวิตของมันคือสิ่งสำคัญที่สุด
ตุบ หัวคนลอยตกลงมาอยู่ด้านหน้ารถม้า มันเป็นหัวของใครไม่ได้นอกจากหัวของต้วนหม่าต๋า
“เจ้าคิดจะหนีไปไหน?” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและปลดปล่อยจิตสังหารออกมา