Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 639
“หลิงฮัน ออกมารับความตายได้แล้ว!” เสียงที่แหลมคมราวกับกระบี่ดังขึ้น และทำให้ใบไม้ที่ร่วงหล่นอยู่ใกล้ๆถูกแยกออกเป็นชิ้นๆ
ผู้คนจำนวนมากแทบจะกระอักเลือดออกมา คนผู้นี้เป็นใครกัน เพียงแค่เสียก็ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บแล้ว
“น้องสาม มันเป็นศัตรูของเจ้างั้นรึ?” มู่หรงชิงถาม และพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น “ข้าจะเป็นคนจัดการมันเอง!”
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “พี่สอง ข้าเกรงว่าท่านจะไม่ใช่คู่มือของมัน!”
“โอ้ว มันเป็นใครงั้นรึ?” แม้แต่จักรพรรดิพิรุณยังรู้สึกสนใจและแสดงท่าทีกระหายการต่อสู้ออกมา
“ราชันกระบี่น้อย!”
พรึบ มีร่างของคนผู้หนึ่งโผล่ออกมา เขามีรูปร่างที่ผอมบาง รอบร่างของพวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยกระบี่ที่แตกต่างกันนับไม่ถ้วน บางเล่มสั้นบางเล่มยาว บางเล่มมีสีทองบางเล่มมีสีเงิน แต่ถูกเล่มมีอักขระฝังไว้อยู่
ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว และมีบางคนถึงกับเข่าอ่อนและตกอยู่ในภวังค์
ผู้คนทั้งหมดที่สามารถมาที่นี่ได้ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะ แต่พวกเขากลับไม่สามารถต่อต้านปราณกระบี่ของราชันกระบี่น้อยได้ นี่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน
ราชันกระบี่น้อย!
อัจฉริยะที่มารวบตัวกันอยู่ที่นี่เกือบเดือนแล้ว ทำให้อัจฉริยะที่อยู่ที่นี่มีมากขึ้น ทว่าภายใต้แรงกดดันจากปราณกระบี่ของราชันกระบี่น้อย ผู้คนหลายหมื่นคนไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงออกมา
นี่แหละคือราชันกระบี่น้อย เพียงแค่ปรากฏตัวออกมาก็ทำให้อัจฉริยะนับไม่ถ้วนต้องก้มหัว
หลิงฮันลุกขึ้นยืน จักรพรรดิพิรุณและมู่หรงชิงปลีกตัวออกไปอยู่ทางด้านซ้ายและขวาปล่อยให้หลิงฮันเป็นคนจัดการ
“หืม เขามีเรื่องกับราชันกระบี่น้อยด้วยหรือ?”
“เดี๋ยวก่อน เมื่อวันก่อนเขาเพิ่งจะต่อสู้กับเทพธิดาอีหยุนและทำให้นิกายอัสนีศักดิ์สิทธิ์ขุ่นเคือง ตอนนี้เขากำลังถูกราชันกระบี่น้อยจากนิกายกระบี่ไร้เทียนยามไล่ล่าอีก นี่เขามีความบาดหมางกับสองในห้านิกายใหญ่เลยรึ!”
“ทำไมราชันกระบี่น้อยถึงต้องการฆ่าเจ้าเด็กนี่ด้วย หรือว่าราชันกระบี่น้อยจะสนใจเทพธิดาอีหยุน?”
“ไม่มีทาง ข้าเคยได้ยินมาว่าเทพธิดาอีหยุนหลงรักหลางหยา”
“ฮ่าฮ่าฮ่าที่แท้เป็นเรื่องรักสามเศร้านี่เอง!”
“ผิดแล้ว ผิดแล้ว ถ้ารวมเจ้าเด็กนี่เข้าไปด้วย มันจะกลายเป็นรักสี่เศร้า”
ทุกคนต่างพูดว่าผู้หญิงมักชอบพูดซุบซิบนินทา ทว่ามันไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้น แม้แต่ผู้ชายก็ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลี่เฟิงหยู่
ราชันกระบี่น้อยยืนอยู่กลางอากาศอย่างภาคภูมิใจ มันตามหาหลิงฮันมานาน แต่หาไม่เจอที่มันหาหลิงฮันเจอเพราะได้ยินว่าหลิงฮันเข้าร่วมงานเลี้ยงของหวังอีหยุนเมื่อไม่กี่วันก่อน
ดวงตาของมันกวาดมองพวกหลิงฮันทั้งสามคน มันแสยะยิ้มอยู่ที่มุมปากและพูดว่า “คิดว่าพวกเจ้ามีสามคนแล้วจะหยุดข้าได้หรือ?”
“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง?” หลิงฮันกล่าวอย่างเย็นชา
“ฮึ่ม โง่เขลา!” ราชันกระบี่น้อยไม่อยากพูดให้มากความ และปลดปล่อยปราณกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
กึ่งรัศมีกระบี่!
หลิงฮันตะโกนและเรียกใช้ดาบกำเนิดมาร ต่อหน้าศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างราชันกระบี่น้อย เขาไม่อาจทำตัวอวดดีได้ มิฉะนั้นมันจะเป็นเขาเองที่ถูกจัดการ
ตู้ม ตู้ม ตู้ม ดาบของหลิงฮันรับการโจมตีจากราชันกระบี่น้อย แต่ทว่าการโจมตีของอีกฝ่ายนั้นบังคับให้หลิงฮันต้องล่าถอยและเท้าของเขาลากไปตามพื้นดิน
“ทำลาย!” หลิงฮันกรีดร้องและสะบั้นดาบ ทำให้รัศมีกระบี่ถูกผ่าออกเป็นสองส่วน ขณะที่จักรพรรดิพิรุณและมู่หรงชิงปล่อยหมัดที่ห่อหุ้มด้วยปราณก่อเกิดและเจตจำนงของตัวเองออกไปเพื่อทำลายรัศมีดาบนั่น
“ดี พวกเจ้าเป็นแค่จอมยุทธที่เพิ่งทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณแต่อยากเป็นศัตรูกับข้างั้นรึ?” ราชันกระบี่น้อยเยาะเย้ย
จักรพรรดิพิรุณแผดเสียงคำรามและปล่อยหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังปราณออกไปกลางอากาศ
“อะไรกัน?” ในที่สุดราชันกระบี่น้อยก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา
แม้ว่าการโจมตีของมู่หรงชิงจะไม่ใช่การควบแน่นพลังปราณ แต่เขาก็สร้างปราณได้ยี่สิบเก้าแล้ว พลังของเขาไม่ควรม้องข้าม
“ฮ่าฮ่าฮ่า แม้พวกเจ้าจะร่วมมือกันสามคนมันก็ยังไม่เพียงพอที่จะจัดการข้าหรอก” ราชันกระบี่น้อยสงบสติลงอีกครั้ง แม้ว่าจักรพรรดิพิรุณจะควบแน่นพลังปราณได้ แต่เขาควบแน่นพลังปราณได้แค่สิบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขามีความได้เปรียบในด้านระดับพลัง เท้าข้างหนึ่งของเขาอยู่บนระดับก้าวเข้าสู่เทวาแล้ว อย่างน้อยที่สุดเขามีพลังต่อสู้ของระดับก้าวสู่เทวาห้าดาว ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งมาก!
เมื่อมันกวัดแกว่งกระบี่ ทำให้พวกหลิงฮันทั้งสามคนต้องล่าถอยไปด้านหลังทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ราชันกระบี่น้อยหัวเราะและจ้องมองไปที่หลิงฮันที่สังหารพ่อของเขาเลยทำให้เขาโกรธแค้น และยังมีเด็กสาวตัวน้อยอีกคนที่ขโมยทักษะอสนีบาตเก้าทิวา เขาจะต้องสังหารนางด้วยเช่นกัน
หลิงฮันเค้นเสียงออกมา ร่างกายของเขากระพริบหายไปและปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าราชันกระบี่น้อยพร้อมกับสะบั้นดาบที่อยู่ในมือ
“เกิดอะไรขึ้น!” ราชันกระบี่น้อยอุทานออกมา ที่เขาอุทานออกมาไม่ได้เป็นเพราะหลิงฮันรวดเร็วเกินไป แต่อีกฝ่ายกลายเป็นสายฟ้า ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันคือทักษะอสนีบาตเก้าทิวา!
เป็นไปได้ยังไงกัน!
ทักษะอสนีบาตเก้าทิวาสามารถสืบทอดได้แค่คนคนเดียวเท่านั้น แต่ทำไมฮูหนิวและหลิงฮันถึงได้รับการสืบทอดทักษะอสนีบาตเก้าทิวาด้วยกันทั้งคู่?
-ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่านอกเหนือจากหลิงฮันและฮูหนิวแล้ว ยังมีเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนอีกคนหนึ่งที่ได้รับการสืบทอดทักษะอสนีบาตเก้าทิวา อีกฝ่ายจะแสดงสีหน้าออกมาเช่นไร? บางทีอาจตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อ
“เจ้าเรียนรู้ทักษะอสนีบาตเก้าทิวาได้ยังไงกัน!” ราชันกระบี่น้อยพูดออกมาอย่างดุเดือด
“มันไม่ใช่เรื่องของเจ้า!” หลิงฮันกล่าวและควบแน่นปราณดาบยี่สิบเก้าเล่มเป็นกึ่งรัศมีดาบโจมตีใส่ราชันกระบี่น้อย
นี่คือกึ่งรัศมีดาบที่ถูกใช้ออกมาจากอาวุธวิญญาณระดับสิบ พลังของมันจึงไม่ได้ด้อยไปกว่ารัศมีดาบที่แท้จริง ดังนั้นราชันกระบี่น้อยจึงไม่กล้าประมาท และต้องใช้กระบี่ป้องกันการโจมตีของหลิงฮัน มิฉะนั้นมันอาจได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
แววตาของราชันกระบี่น้อยดูเย็นชาและพูดอย่างเย้ยหยันว่า “เอาล่ะ ข้าแค่ฆ่าเจ้าคนเดียวก็พอ!” แม้ว่าเขาจะไม่สนใจฮูหนิว แต่ความเร็วของเด็กสาวตัวน้อยนั้นรวดเร็วจนน่าตกตะลึง และไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเขาจะฆ่านางได้
เขาใช้มือซ้ายผลักจักรพรรดิพิรุณและมู่ชิงหรงออกไป ส่วนมือขวาสะบั้นกระบี่เพื่อสังหารหลิงฮัน เขาแค่ต้องการชีวิตของหลิงฮันเพียงคนเดียวเท่านั้น
แม้ว่าพวกเขาสามพี่น้องจะร่วมมือกัน แต่ราชันกระบี่น้อยนั้นแข็งแกร่งเกินไป และพลังต่อสู้ระดับก้าวสู่เทวานั้นทำให้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด และทุกการโจมตีของเขาทำให้พวกหลิงฮันทั้งสามคนไม่สามารถต้านทานได้
หลิงฮันกินเม็ดยาเม็ดยาเม็ดยาห้าหยกพลิกผันที่เขาปรุงขึ้นมาทั้งหมดสามเม็ด ก่อนหน้านี้เขาเคยกินไปเม็ดหนึ่งแล้วตอนที่ต่อสู้กับซวนหยวนตื่อกวง และตอนนี้เขากำลังจะกินเม็ดยานี่อีกเม็ดหนึ่ง เมื่อกินเม็ดยานี้จะทำให้พลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นทันทีเก้าดาว
พลังต่อสู้ดั้งเดิมของเขาคือระดับตัวอ่อนวิญญาณสิบห้าดาว และตอนนี้เมื่อพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นอีกเก้าดาว ทำให้พลังต่อสู้ของเขาบรรลุระดับก้าวสู่เทวา