Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 653
โดยปกติแล้ว ไม่มีทางเลยที่หลิงฮันจะผสานรวมเข้ากับสายฟ้าสวรรค์นี้
นี่คือสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อีกไม่ช้าจะกลายเป็นจิตวิญญาณอัสนี อัสนีบาตเมฆาม่วงนั้นคือสายฟ้าที่ติดสิบอันดับแรกของสายฟ้าที่ทรงพลังที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย แล้วจอมยุทธที่มีระดับต่ำกว่าระดับสวรรค์จะผสานรวมกับมันได้อย่างไร? ถ้ารุ่นเยาว์เช่นหลิงฮันต้องการผสานรวมกับอัสนีบาตเมฆม่วง เขาต้องได้รับการช่วยเหลือจากจอมยุทธระดับสวรรค์หรือไม่ต้องระดับทลายมิติ ไม่เช่นนั้น แม้ว่าจะเป็นอัจฉริยะขนาดไหน ร่างกายก็จะแหลกสลายอยู่ดี
แต่หลิงฮันไม่ต้องทำเช่นนั้นเพราะเขามีหอคอยทมิฬ
ในหอคอยทมิฬ เขาคือพระเจ้าที่ไม่ว่าใครก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา จิตวิญญาณสายฟ้าเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
แต่ขั้นตอนในการผสานรวมเองก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างดีหลิงฮันคิด
ระดับของอัสนีบาตเมฆาม่วงนั้นสูงเกินไป
แม้หลิงฮันจะได้รับพลังบ่มเพาะของชีวิตเก่าคืนมาก็ไม่ใช่เรื่อง่ายที่จะผสานเข้ากับมัน
หลิงฮันไม่เร่งรีบอะไร เพราะยังเหลือเวลาอีกตั้งประมาณสี่เดือน สำนักสวรรค์ถึงจะเริ่มรับสมัครลูกศิษย์
ที่เขาตัดสินใจเข้าร่วมสำนักสวรรค์ก็เพื่อกลายเป็นแบบอย่างให้กับรุ่นเยาว์มากมายในยุคสมัยนี้ หากทำเช่นนั้นได้ ในอนาคตก็จะมีรุ่นเยาว์มากมายยินดีที่จะติดตามเขา
อำนาจแห่งสายฟ้าแผ่ซ่านเข้ามาในร่างหลิงฮันและค่อยๆเปลี่ยนทุกๆส่วนของกล้ามเนื้อของเขาให้กลายเป็นพลังอัสนี
นับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
เขาบ่มเพาะกายาเหล็กไหล ซึ่งทำให้เขามีกายหยาบที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับ แต่หากเขาบรรลุกายาอัสนี ร่างของเขาก็จะกลายเป็นสายฟ้าที่ไม่อาจจับต้องได้
ตำนานโบราณเรื่องหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขา ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เขาเคยได้ยินมาในชีวิตที่แล้ว
นอกจากกายาอัสนีที่เขากำลังบ่มเพาะอยู่ ก็ยังมีกายาเพลิง กายาเหมันต์ และกายาอื่นๆอยู่อีก… ซึ่งกายาเหล่านี้ถูกเรียกว่ากายาวิญญาณ คุณสมบัติที่พิเศษที่สุดของวิญญาณคือมันสามารถเมินเฉยต่อการโจมตีต่างๆได้ ต่อให้เจ้าโจมตีข้ามาสิบครั้ง ร้อยครั้งหรือพันครั้ง ข้าก็สามารถเปลี่ยนร่างตนเองให้กลายเป็นสายฟ้าหรือไม่ก็เปลวเพลิงได้ ทีนี้เจ้าจะทำให้ข้าบาดเจ็บได้รึเปล่า?
นั่นมันเรียกว่าไร้พ่ายเลยไม่ใช่รึไง?
หากคิดเช่นนั้นก็ผิดแล้ว แม้การโจมตีทั่วไปจะทำให้บาดเจ็บไม่ได้ แต่พลังปราณสามารถทำได้
ปราณดาบ ปราณกระบี่ ตราบใดที่เป็นปราณ ย่อมสามารถสร้างความเสียหายต่อวิญญาณได้ แต่จะสร้างความเสียให้ได้ขนาดไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต่างระหว่างพลังของทั้งสองคน บางทีอาจจะไม่ได้ผลเลย หรือบางทีอาจจะก็ได้รับบาดเจ็บหนัก
ไม่ว่าเมื่อไหร่ พลังก็คือราชัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผู้ที่สร้างปราณได้ถึงถูกเรียกว่าราชัน ปราณเป็นสิ่งที่เดียวที่สามารถสร้างความเสียหายต่อวิญญาณ แน่นอนว่าถ้าหากปราณทำได้ รัศมีก็ต้องทำได้เช่นกัน
กายาเหล็กไหลนั้นต่างออกไป มันความสามารถที่ช่วยเสริมสร้างกายหยาบ ความทนทานของร่างกายที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับเดียวกัน ปราณดาบธรรมทั่วไปย่อมไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้!
“หากพูดจากมุมมองในด้านพลังป้องกัน กายาเหล็กและกายาเพชรยอดเยี่ยมกว่ามาก เพราะอย่างไรมันคือทักษะของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ที่ได้รับมาจากหอคอยทมิฬ!” หลิงฮันกล่าวในใจ แต่กายาอัสนีก็ไม่ได้แย่อะไร อย่างน้อยมันก็ช่วยเพิ่มความเร็วให้เขาได้หลายเท่าตัว
“แน่นอนว่ายิ่งมีไพ่ลับเยอะก็ยิ่งดี”
สิ่งที่คาดไม่ถึงคือไม่ใช่แค่ทักษะอัสนีบาตเกาทิวาเท่านั้นที่ดูดซับพลังจากสายฟ้า แต่คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เองก็ดูดซับพลังจากสายฟ้าแข่งกับทักษะอัสนีบาตเก้าทิวาเช่นกัน แต่คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์นั้นทรงพลังกว่ามาก ทักษะอัสนีบาตเก้าทิวาจึงทำได้เพียงดูดซับพลังสายฟ้าส่วนน้อยในขณะที่คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ดูดวับพลังสายฟ้าส่วนใหญ่
แต่ที่ข้ากำลังจะฝึกฝนคือกายาอัสนี เจ้าจะมาดูดซับพลังสายฟ้าด้วยทำไม? การจะบรรลุกายาเพชรข้าสามารถใช้สมบัติธรรมชาติชิ้นอื่นได้ ข้าไม่ต้องการสิ้นเปลืองพลังสายฟ้าที่ได้มา!
หลิงฮันรีบยับยั้งการโคจรของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นทักษะอัสนีบาตเกาทิวาก็เริ่มดูดซับพลังสายฟ้าอย่างตะกละตะกลาม
เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างเงียบสงบ หลิงฮันใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการผสานเข้ากับอัสนีบาตเมฆาม่วงทั้งวันทั้งคืน
ตอนนี้เขาบรรลุระดับตัวอ่อนวิญญาณขั้นสูงสุดแล้ว แถมยังขัดเกลารากฐานของระดับพลังไปถึงจุดสมบูรณ์ ตอนนี้ไม่มีช่องว่างให้เขาพัฒนาต่อแล้ว ดังนั้นแม้จะบ่มเพาะพลังต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
โชคดีที่หอคอนทมิฬที่พื้นกว้างขวาง มีดอกไม้และต้นไม้นับไม่ถ้วนปลูกเต็มไปหมด นอกจากนั้นก็ยังมีทั้งภูเขา แม่น้ำ รวมไปถึงสัตว์อสูรหลากหลายชนิด แถมเขายังมีจูเสวียนเอ๋อและฮูหนิวอยู่ข้างกาย หลิงฮันจึงไม่รู้สึกเหงา
หลังจากจูเสวียนเอ๋อทะลวงผ่านมายังระดับบุปผาผลิบาน นางก็เริ่มบ่มเพาะพลังอาจขะมักเขม้น
แต่เดิมแล้วนางก็เป็นถึงในสุดยอดอัจฉริยะของภูมิภาคเหนือที่มีศักยะภาพไม่ด้อยไปกว่าเหวินอี้เจียนและมู่หลงชิง ตอนนี้นางมีทัพยากรอันไร้ที่สิ้นสุดคอยสนับสนุนอยู่ พลังบ่มเพาะของนางจึงพัฒนาอย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่านั้นนางก็ยังรู้สึกไม่พอใจในตนเองด้วย ทุกครั้งที่พบเจอันตราย นางจะต้องเป็นคนแรกที่เขามาซ่อนในหอคอยทมิฬ ในขณะที่ฮูหนิวสามารถร่วมเผชิญอันตรายกับหลิงฮันได้ เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพลังของนางไม่แข็งแกร่งพอแลพจะกลายเป็นตัวถ่วงหลิงฮัน
นางอยากแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้!
หนึ่งเดือน… สองเดือน…
ในที่สุดหลิงฮันก็ฝึกฝนอัสนีบาตเก้าทิวาขั้นต้นสำเร็จ ซึ่งมันทำให้เขาสามารถเปลี่ยนกายหยาบให้กลายเป็นสายฟ้าได้แล้ว ด้วยทักษะอัสนีบาตเก้าทิวาทั้งพลังและความเร็วของเขาจะเพิ่มขึ้นมหาศาล
ต้นกำเนิดพลังของเขาคืออัสนีบาตเมฆาม่วง พลังของมันสามารถคุกคามได้แม้กระทั่งจอมยุทธระดับสวรรค์ ถ้าไม่ใช่เพราะมันยังไม่กลายเป็นจิตวิญญาณสายฟ้า หลิงฮันจะสามารถครอบครองมันได้ง่ายๆรึ?
หลิงฮันยังไม่ลุกขึ้น เพราะพลังสายฟ้ายังเหลืออยู่หนึ่งในสาม แน่นอนว่าเขาไม่อาจทิ้งมันไปได้ เขาไม่ยับยั้งคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์อีกต่อไปและให้มันเริ่มดูดซับพลังแห่งสายฟ้า
อัสนีบาตเมฆาม่วงมีระดับที่สูงเกินไปจนหลิงฮันรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขากำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าอัศจรรย์ บางครั้งบางคราวร่างกายของเขาจะส่องแสงสว่างสีทองออกมา
กายาเพชรเป็นสิ่งที่ยากจะบรรลุ
พลังของมันจะทำให้กายหยาบของเขาทนทานเหนือกว่าแร่เหล็กในระดับเดียวกันอย่างน้อยหนึ่งระดับ อย่างเช่นหลิงฮันที่เป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน หากเขามีกายหยาบเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับเจ็ดที่เกิดจากกายาเพชร แม้เขาจะนอนเล่นอยู่เฉยๆ จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้เขาได้
ที่สำคัญคือกายาเพชรสามารถทำให้เขางอกแขนขาใหม่ได้!
ตอนนี้เขาสามารถสร้างหยดวารีอมตะได้หกหยด และถ้าหากเขาสร้างกายาเพชรได้สำเร็จ ขีดจำกัดในการสร้างจะเพิ่มเป็นสิบหยด
หลิงฮันดูดซับพลังของสายฟ้าอย่างบ้าคลั่งและเริ่มควบแน่นรัศมีดาบขึ้นมา เมื่อใดที่บรรลุกายาเพชนและควบแน่นรัศมีดาบได้สำเร็จ เขาจะทำการทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณและพลังของเขาเปลี่ยนไปอย่างแท้จริง