Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 713
“เจ้าคิดจะหนี?” หลิงฮันหันไปมอง แต่จูปี้ก็วิ่งหนีไปแล้ว แม้ว่าเขากับฮูหนิวจะไล่ตาม แต่มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตามทัน
นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านี้ฮูหนิวกับหลิงฮันติดพันกันอยู่ มิฉะนั้น ถ้าหลิงฮันกับฮูหนิวไล่ตาม อย่างน้อยจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาก็ไม่มีทางหนีพวกเขาพ้น
“ตระกูลหยีนั้นแข็งแกร่งมากและอยู่ภายใต้การปกครองของห้านิกายโบราณ มันสามารถจัดได้ว่าเป็นขุมพลังอันดับต้นๆ” เหวินเหรินกล่าวด้วยสีหน้ากังวล
จอมยุทธระดับสวรรค์สามคนจะเป็นขุมพลังที่อ่อนแอได้อย่างไร?
“และลุงเจ็ดของตระกูลหยีเองก็ได้เข้ามาในโบราณสถานแห่งนี้ด้วย ถ้าจูปี้บอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ พวกเขาจะตกที่นั่งลำบาก” เหวินเหรินเซียนเซียนพูดเสริม
หลิงฮันไม่รู้สึกกลัว เขามีหอคอยทมิฬ ตอนนี้เขาไม่สามารถรับมือกับคนพวกนั้นได้ แต่ถ้าเป็นช่วงท้ายปี เขาเดาว่าตัวเองจะทะลวงผ่านระดับก้าวสู่เทวา และเมื่อเวลานั้นมาถึงจอมยุทธระดับสวรรค์ทั่วไปก็จะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาอีกต่อไป
ด้วยการมีอยู่ของหอคอยทมิฬ เขาสามารถต่อสู้ได้แม้กระทั่งจอมยุทธระดับทลายมิติ
ดวงตาของเขากวาดไปมองที่ฝูงชนและพูดว่า “จอมยุทธระดับสวรรค์กำลังมา ข้าไม่มีวิธีรับมือด้วย แต่มันเกี่ยวข้องกับความลับของข้า ข้าสงสัยว่าข้าจะเชื่อใจพวกเจ้าได้หรือไม่”
หลิงฮันกวาดสายตามองทีละคนทีละคนด้วยสายตาสะกดข่มพวกเขา ว่าพวกเขาจะไม่ทรยศ
หลิงฮันหยุดจ้องมองและพูดว่า “ข้าจะแสดงสมบัติให้พวกเจ้าได้เห็น แต่พวกเจ้าจะต้องไม่ต่อต้านข้าและห้ามคิดที่จะทรยศ! ดังนั้น ผู้ที่ต้องการจะอยู่ต่อให้อยู่ที่นี่ ส่วนใครจะจากไปก็เชิญ”
แน่นอนว่าเขากำลังพูดกับสองพี่น้องตระกูลหลี่ เหวินเหรินเซียนเซียน เหยียนเฮิงเหอและเจ้ากระต่าย
สองพี่น้องตระกูลหลี่มองหน้ากันไปมา และพูดว่า “ข้าและน้องสาวยินดีที่จะติดตามนายน้อยฮันไม่ว่าจะก้าวเดินไปข้างหน้าหรือถอยหลังก็ตาม!” พวกเขาไม่สงสัยความแข็งแกร่งและศักยภาพของหลิงฮันเลย
เหยียนเฮิงเหอเองก็พูดว่า “ข้าเป็นผู้ติดตามของนายน้อยฮัน”
เจ้ากระต่ายเคี้ยวแครอทและพูดว่า “เจ้ายังติดโสมโลหิตราชามังกรทรราชของข้าอยู่สองค้น แน่นอนว่าข้าจะไม่ไปไหนเด็ดขาด”
มีเพียงแค่เหวินเหรินเซียนเซียนเท่านั้นที่ลังเล นางเองก็มีเกียรติและความภาคภูมิใจเป็นของตัวเอง
และเมื่อมองดูตัวตนของหลิงฮัน มันเห็นชัดอยู่แล้วว่านางจะต้องกลายเป็นหนึ่งในลูกน้องของเขา
นางครุ่นคิดอยู่เนิ่นนานแล้วพูดว่า “พี่ชายหลิง ข้าต้องขอโทษท่านด้วย!”
หลิงฮันพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “พวกเราเป็นสหายกัน ถ้าเจ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในอนาคต เพียงแค่เจ้าพูดตรงๆออกมา ข้าก็จะไม่ปฏิเสธ”
เมื่อเหวินเหรินเชียนเชียนได้ยินแน่นอนว่าย่อมมีความสุขและรีบพูดออกมาว่า “ขอบคุณพี่ชายหลิง” นางพยักหน้าให้กับคนอื่นและรีบบินแยกตัวออกไปในระยะไกล
หลิงฮันมองคนที่เหลือและพูดว่า “ข้าจะพาพวกเจ้าทุกคนไปสถานที่แห่งหนึ่ง อย่าได้ต่อต้านสัมผัสสวรรค์ของข้า”
พรึบ เขาได้พาทุกคนเข้าไปในหอคอยทมิฬ
“หืม!” ที่นี่มัน!”
ทั้งสองคนรวมถึงเจ้ากระต่ายต่างรู้สึกตกใจ สถานที่แห่งนี้มันไม่ใช่เขตแดนลี้ลับก่อนหน้านี้ หรือว่าหลิงฮันมีช่องว่างมิติที่เทียบได้กับโลกขนาดเล็กอยู่กับตัว?
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ที่แห่งนี้คือพื้นที่ภายในอาวุธวิญญาณของข้าที่สามารถรองรับสิ่งมีชีวิตได้!”
เหยียนเฮิงเหอ พี่น้องตระกูลหยีเผยสีหน้าตกตะลึงออกมาทันที และอาวุธวิญญาณที่สามารถรองรับสิ่งมีชีวิตได้พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน!
เจ้ากระต่ายสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพูดว่า “เจ้าหนู นี่มันไม่ใช่อาวุธวิญญาณ แต่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์!”
“อาวุธศักดิ์สิทธิ์!” แม้แต่จูเสวี่ยนเอ๋อยังส่งเสียงอุทานออกมา
“ไม่เลว!” เจ้ากระต่ายพยักหน้า “แม้ว่าบรรพบุรุษของข้าจะทะยานขึ้นไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมดแล้ว แต่เมื่อนานมาแล้วมีวิธีพิเศษในการสื่อสารกับดินแดนเบื้องหลัง ดังนั้นข้าเลยรู้บางอย่างเกี่ยวกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์”
“พื้นที่ที่สามารถรองรับสิ่งมีชีวิตได้มีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำได้ และพื้นที่ที่เจ้าพกติดตัวไปไหนมาไหนได้มีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถสร้างขึ้นได้”
“เจ้าเห็นหรือไม่ก่อนหน้านี้ที่อยู่ในเขตแดนลี้ลับ มันเป็นพื้นที่ที่แยกตัวออกมาต่างหากซึ่งสามารถรองรับสิ่งมีชีวิตได้ แต่ไม่สามารถนำติดตัวไปได้ กลับกัน มันจะถูกตรึงไว้ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งและถูกแทนที่ด้วยพื้นที่ปกติ”
“มันยากเกินกว่าที่จะบีบโลกขนาดเล็กให้พกไปไหนมาไหนได้และยิ่งพื้นที่มีขนาดใหญ่เท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นเรื่องยากมากยิ่งขึ้น ดังนั้นแหวนมิติของพวกเราจึงมีขนาดเล็กมาก”
ทุกคนพยักหน้า โดยทั่วไปแล้วพื้นที่ในแหวนมิติจะมีขนาดเทียบเท่ากับกล่องเท่านั้น และหาได้ยากที่จะมีขนาดใหญ่เท่าบ้าน
ตอนแรกพวกเขารู้ว่ายิ่งพื้นที่ในอาวุธวิญญาณมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งสร้างได้ยากมากยิ่งขึ้น แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามันยากตรงไหน แต่ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้ว
ดังนั้น เขตแดนลี้ลับจึงตรึงอยู่กับที่ ไม่เหมือนกับแหวนมิติที่สามารถพกติดตัวได้ ถ้าตรึงมันไว้อยู่กับที่ มันก็เหมือนกับการสร้างบ้าน ที่สามารถวางรากฐานไว้ล่วงหน้าและเสริมสร้างกำแพง และไม่ใช่เรื่องที่จะพังทลาย
ทุกคนมองไปยังพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลจนน่าหวาดกลัวภายในหอคอยทมิฬ มันเทียบได้กับเขตแดนลี้ลับเลย!
มีเพียงแค่หลิงฮันเท่านั้นที่รู้ว่าพื้นที่ภายในหอคอยทมิฬของเขานั้นใหญ่กว่าเขตแดนลี้ลับทั้งหมดที่เขาเคยเห็นทั้งหมดมารวมกันเสียอีก มันใหญ่กว่ามาก
“ที่นี่มันจะต้องเป็นสรวงสวรรค์อย่างแน่นอน!” ทุกคนอุทานออกมา
หลิงฮันยิ้ม พวกเขารู้เพียงแค่ว่าพื้นที่ภายในของหอคอยทมิฬนั้นกว้างขวาง แต่พวกเขายังไม่รู้สึกความสามารถพิเศษของหอคอยทมิฬ อย่างเช่นการเร่งการเจริญเติบโตของสมุนไพร
หอคอยทมิฬเป็นมากกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ในทางตรงกันข้าม นี่อาจเป็นเพียงแค่คุณสมบัติขั้นต่ำเท่านั้น
“ถ้าอาวุธศักดิ์สิทธิ์นี่อยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้ารับรองได้เลยว่าเจ้าจะต้องถูกหมายหัว” เจ้ากระต่ายกล่าว
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “เจ้าพูดเหมือนกับว่าเจ้าเคยไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาก่อนอย่างนั้นแหละ”
เจ้ากระต่ายเค้นเสียงกระแอมออกมา เดิมทีมันอยากจะพูดจาโอ้อวดสักเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่ดุร้ายของฮูหนิวมันจึงเบนสายตาหนีและหยุดที่จะพูดทันที
หลิงฮันพูดว่า “ดังนั้น แม้จะมีจอมยุทธระดับทลายมิติมาฆ่าพวกเรา ข้ามีความสามารถที่จะปกป้องตัวเองและคนของข้าได้ และความทะเยอทะยานของพวกเราคือการเปิดสวรรค์!”
“เปิดสวรรค์?” เหยียนเฮิงเหอและพี่น้องตระกูลหลีรู้สึกตกใจ อะไรคือการเปิดสวรรค์?
“ทะลวงผ่านท้องฟ้าและพาทวีปฮงเทียนเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์!” หลิงฮันอธิบาย
“ว่าไงนะ!” ทั้งเหยียนเฮิงเหอและพี่น้องตระกูลหลีรู้สึกตกตะลึง นี่พวกเขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? มันน่าทึ่งเกินไป ไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนทวีปฮงเทียนอย่างนั่นหรือ มันจะเป็นไปได้ยังไง?
“แน่นอนว่าการเปิดสวรรค์เป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นพวกเราจะต้องร่วมมือกันและทำให้ดีที่สุด” หลิงฮันกล่าว จากนั้นเขาอธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับการก่อตั้งจักรวรรดิและจุดเริ่มต้นของปัญหา แต่ไม่ได้กล่าวถึงห้านิกายโบราณที่สมคบคิดกันมาหลายหมื่นปี
พวกเขาทุกคนตั้งใจฟัง แม้ว่าพวกเขาจะยังเยาว์วัย แต่แน่นอนว่าพวกเขาทุกคนเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน
“นายน้อยฮํน ข้ายินดีที่จะติดตามท่าน!” เหยียนเฮิงเหอตะโกนเสียงดัง
“ใช่แล้วน้องเขย ถ้าเจ้าไม่สนใจว่าข้าจะขวางทางเจ้า ข้าก็ยินดีที่จะต่อสู้เพื่อเจ้า” หลีเฟิงหยูกล่าว
“ดี!” หลิงฮันรู้สึกพึงพอใจมาก