Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 740
เซียวหย่งเหนียนผาดมือไว้ได้หลังและพูดว่า “เจ้ากำลังรนหาที่ตาย?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ที่จริงข้าปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้จนถึงวันนี้และเจ้า-” เจียนฉีเจิงชี้ไปที่เซียวหย่งเหนียน “ข้าได้เห็นความแข็งแกร่งของเจ้ามามากพอแล้ว และความลับจุดอ่อนของทักษะค่ายกลมีจุดอ่อนอยู่ทุกที่ในสายตาของข้า!”
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จะมอบเทคนิคบ่มเพาะพลังให้กับข้าหรือจะให้ข้าสังหารเจ้า!” เจียนฉีเจิงกล่าว
เขากวัดแกว่งดาบสีดำในมือและทันนั้นกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวก็หลั่งไหลออกมา
ช่วยไม่ได้ที่สีหน้าของเซียวหย่งเหนียนจะเปลี่ยนไปซีดขาว ชายชราผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับตัวอ่อนวิญญาณ และมีอาวุธวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวมากอยู่ในมือ พลังต่อสู้ของเขาจะต้องมากกว่าสิบดาวอย่างแน่นอน! และตัวเขาเป็นเพียงแค่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณขั้นเจ็ดเท่านั้น และมีพลังต่อสู้แค่แปดดาว มันไม่ใช่คู่มือของชายชราเลย
ทหารในกองทัพจักรวรรดิจันทราม่วงนั้นไม่ได้มีอัจฉริยะมากมายนัก แต่เมื่อผ่านสงครามที่ยาวนาน พวกเขาจะมีวินัยและก้าวหน้าขึ้น สิ่งที่พวกเขาทำได้ดีคือการต่อสู้เป็นกลุ่ม ซึ่งสามารถเอาชนะศัตรูที่ไม่สามารถเอาชนะได้ แต่พลังต่อสู้ของพวกเขาแต่ละคนนั้น…มันธรรมดามาก
ปัญหาคือตอนนี้เขาตัวคนเดียว และทหารหน้าใหม่เพิ่งจะถูกฝึกฝน เขาจะสามารถใช้งานได้อย่างไร? อีกด้านเองก็รู้ถึงความลับของทักษะค่ายกล ซึ่งมันง่ายมากที่จะทำลาย
“พวกเจ้าจงกลับไปที่ค่ายฝึกเดี๋ยวนี้!” เขารีบตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
“อาจารย์!” ทุกคนส่งเสียงเรียกเขา
“ทำตามคำสั่ง!” เซียวหย่งเหนียนตะโกน
เจียนฉีเจิงแสยะยิ้มและพูดว่า “คิดว่าข้าจะปล่อยไปหรือ? จะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวได้กลับไป!” เขาไม่อยากถูกจอมยุทธของจักรวรรดิจันทราม่วงไล่ล่า ดังนั้นเขาจะต้องสังหารทุกคนที่อยู่ที่นี่ แล้วมันก็จะไม่มีใครล่วงรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
“ไปซะ!” เซียวหย่งเหนียนพูด “ข้าจะต้านมันไว้เอง!”
“เจ้าคิดว่าจะหยุดข้าได้อย่างนั้นรึ?” เจียนฉีเจิงแสยะยิ้ม เขายกดาบสีดำขึ้นมา แต่ไม่ได้ฟาดฟันลงมาทันที ดูเหมือนว่าเขากำลังจะมองหาเป้าหมายอยู่
ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ อีกฝ่ายเป็นถึงจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับตัวอ่อนวิญญาณ และยังมีอาวุธวิญญาณอยู่ในมือ แล้วใครจะสามารถต่อกรด้วยได้? เห็นได้ชัดว่าใครจะเป็นฝ่ายถูกฆ่าตาย แล้วพวกเขาจะไม่รู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไร?
หลิงฮันพร้อมที่จะกระโจนออกไปช่วยทุกเมื่อ ทุกคนฝึกฝนร่วมกันมาสองเดือน แล้วเขาจะไม่รู้สึกผูกพันได้อย่างไร?
ปัง!
ในขณะนั้น แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายไปทั่วทำให้ทุกคนรู้สึกหายใจไม่ออกและอ้วกออกมา
ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวอย่างเงียบเชียบ แล้วพูดว่า “ใครคือหลิงฮัน?”
เจียนฉีเจิงเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะกะทันหัน เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเป็นใครกันถึงกล้าเข้ามาขัดจังหวะข้า?”
พรึบ!
เขาเพิ่งจะพูดจบประโยค ร่างกายของเขาก็ถูกผ่าเป็นสองส่วนแล้ว และโลหิตของเขาสาดกระจายไปทั่วใส่ผู้คนหลายคนที่อยู่ใกล้เขา ทำให้ใบหน้าของพวกเขาเปื้อนไปด้วยเลือดและเนื้อของเจียนฉีเจียงและดูน่าสยดสยอง
ทุกคนจ้องมองไปที่ชายชราด้วยความหวาดกลัว เขาแข็งแกร่งเกินไปและสามารถสังหารเจียนฉีเจิงที่เป็นจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับตัวอ่อนวิญญาณได้ในพริบตา หรือว่าเขาจะเป็นจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาหรืออาจจะสูงกว่านั้น?
“ท่านผู้อาวุโส ท่านมีนามว่าอะไรอย่างนั้นหรือ?” เซียวหย่งเหนียนไม่ตอบคำถามของชายชราแม้ว่าอีกฝ่ายจะกำจัดปัญหาใหญ่ให้พวกเขาก็ตาม “หลิงฮัน” เป็นคนที่อยู่ใต้บัญชาการของเขา และอีกฝ่ายคงไม่ตามหาหลิงฮันเพื่อเชิญเขาไปดื่มชาอย่างแน่นอน
ในฐานะอาจารย์ เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องชีวิตคนของเขา
ชายชรากวาดสายตามองไปที่เซียวหย่งเหนียนและพูดว่า “ข้ามาจากตระกูลหยีและไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับจักรวรรดิจันทราม่วง ดังนั้นส่งเด็กที่ชื่อหลิงฮันมาให้ข้า และชายชราผู้นี้จะรีบจากไปทันที”
ตระกูลหยี?
หลิงฮันรู้สึกตกตะลึงทันที หรือว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้อาวุโสเจ็ดของตระกูลหยี ก่อนหน้านี้ที่เขตแดนลี้ลับ เขาได้สังหารชายที่ชื่อว่าหยีเสวียนหมิง แต่ถ้าให้ตามจริงฮูหนิวเป็นคนฆ่าต่างหาก แต่อีกฝ่ายคิดว่าเขาเป็นคนสังหารเลยกลับมาเพื่อแก้แค้น
นี่คือจอมยุทธระดับสวรรค์ ซึ่งไม่ใช่ตัวตนที่เซียวหย่งเหนียนจะสามารถต่อกรด้วยได้ อย่างไรก็ตาม ตามที่ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลหยีพูด เขาไม่ต้องการเป็นศัตรูกับจักรวรรดิจันทราม่วง ดังนั้นเขาคงไม่ได้มาเพื่อฆ่าหลิงฮันหรอกมั้ง?
หลิงฮันเดินออกมาอย่างองอาจ ต้นเหตุของเรื่องมันเป็นเรื่องเขา แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการให้คนอื่นถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้เซียวหย่งเหนียนไม่มีทางต่อกรกับอีกฝ่ายได้ แล้วเขาจะปล่อยให้เซียวหย่งเหนียนตายอย่างไร้ค่าได้อย่างไร?
“หลิงฮัน กลับไปซะ!” เซียวหย่งเหนียนตะโกนออกมาทันที เมื่อเห็นหลิงฮัน
หลิงฮันโบกมือและพูดว่า “อาจารย์ อีกฝ่ายเป็นผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลหยี และยังเป็นถึงจอมยุทธระดับสวรรค์”
พรวด!
ทุกคนแทบกระอักเลือด ภายใต้ดวงอาทิตย์จะมีจอมยุทธระดับทลายมิติสักกี่คนกัน? ต่ำกว่าจอมยุทธระดับทลายมิติคือจอมยุทธระดับสวรรค์ และพวกเขาสามารถฆ่าพวกเขาทุกคนได้ด้วยนิ้วเดียว
เซียวหย่งเหนียนรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย แต่เขาก็พูดออกมาอย่างเด็ดขาดว่า “ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าแน่นอนว่าข้าจะต้องปกป้องเจ้า มันจะต้องข้ามศพข้าไปก่อนและจะไม่มีใครได้สัมผัสแม้แต่ปลายผมของเจ้า”
“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ต้องการตั้งตัวเป็นศัตรูกับจักรวรรดิจันทราม่วง แต่ถ้าเจ้ายังยืนกรานเช่นนั้นก็ไปลงนรกซะ!” ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลหยีเริ่มโจมตีใส่เซียวหย่งเหนียน
ปัง!
พื้นดินเบื้องล่างปรากฏหลุดลึก และเซียวหย่งเหนียนนั้นได้หายไปแล้ว
ผู้อาวุโสเจ็ดกวาดสายตามองและเผยสีหน้าไม่พอใจแล้วพูดว่า “เจ้าปกป้องตัวเองยังเป็นเรื่องยาก แต่ยังกล้าที่จะเข้ามาแทรกแซง?”
หลิงฮันวางเซียวหย่งเหนียนลง ถ้าเขาช่วยเซียวหย่งเหนียนไม่ทัน เขาคงจะกลายเป็นศพไปแล้ว
เซียวหย่งเหนียนรู้สึกตกตะลึง เมื่อหลิงฮันกระโจนออกมา เขาพบว่าอีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าเขามาก เพราะตัวเขาเองไม่มีทางหลบการโจมตีเมื่อครู่นี้ได้อย่างแน่นอน
“อย่างน้อยตอนนี้ข้าก็ยังมีชีวิตอยู่มิใช่รึ?” หลิงฮันยิ้มหัวเราะและพูดว่า “อาจารย์ ตรงนี้ให้ข้าเป็นคนจัดการเอง”
ผู้อาวุโสเจ็ดไม่รีบร้อนที่จะลงมือและพูดว่า “คนที่ฆ่าคนของตระกูลหยีของข้า เจ้าถูกกำหนดให้ต้องตาย! แต่ทว่า ชายชราอย่างข้าเป็นคนที่มีเหตุผล ข้าเลยอยากเสนอให้เจ้าเลือกว่าอยากจะตายแบบไหนดี?”
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ทำไมข้าจะต้องเป็นฝ่ายเลือกก่อนกันล่ะ?”
“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!” ผู้อาวุโสเจ็ดแสยะยิ้มและพูดว่า “เจ้าถูกกำหนดให้ต้องตายวันนี้!”
“ข้าไม่ยอมให้เจ้าทำเช่นนั้นกับเขา!” เสียงของใครบางคนดังมาจากระยะไกล
“เจ้าเป็นใคร!” ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลหยีรีบตะโกนออกไปทันที แต่ก็ตรวจสอบไม่พบอีกฝ่ายด้วยพลังของเขา
“หืม ทำไมข้ารู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงนี้?” หลิงฮันพูดพึมพัม นี่เป็นเสียงของผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความห้าวหาญ
“โผล่หัวออกมาซะ!” ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลหยีตะโกนออกไปอีกครั้ง เขากวาดสายตามองรอบทิศ “เจ้ากล้าที่จะขัดจังหวะข้า แต่กลับไม่กล้าโผล่หัวออกมาอย่างนั้นรึ? หึ่ม ข้าเบื่อที่จะให้ความสนใจเจ้าแล้ว และจะสังหารเจ้าเด็กนี่ซะเดี๋ยวนี้!”
เขาชี้ไปที่หลิงฮันและปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา
“ออกไปให้พ้นจากที่นี่ หรือเจ้าอยากจะตาย!” เสียงของใครบางคนดังขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าก็แค่แสร้งทำเป็นลึกลับ!” ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลหยีจ้องไปที่หลิงฮันและยกมือขึ้น