Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 744
ในขณะที่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนกำลังให้นมลูก นางคิดว่าถ้าต้องใช้ชีวิตอยู่กับหลิงฮันทั้งวัน นางจะไม่เผลอฆ่าเขาหรอกใช่หรือไม่?
“จริงสิ พวกนั้นไล่ตามพวกเรามานี่น่า” หลิงฮันรีบพูดทันทีว่า “เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะไปพาพวกเขาเข้ามา”
เขาแวบหายไปจากหอคอยทมิฬ และฮูหนิวกับเจ้ากระต่ายก็รีบวิ่งเข้ามาหา
“หลิงฮัน!” ฮูหนิวกระโดดเข้าหาหลิงฮันและไปอยู่ในอ้อมแขน
หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “แล้วเสวี่ยนเอ๋อล่ะ?”
ฮูหนิวยักไหล่และพูดว่า “นางขี้เกลียดวิ่งตามหลิงฮัน! พวกเราไปกันเถอะทิ้งนางไว้ที่นี่แหละ!” ฮูหนิวคิดอยู่ตลอดทั้งวันทั้งคืนว่าจะกำจัดจูเสวี่ยนเอ๋อยังไงดีแหละนี่คือโอกาสที่ดีที่สุด
หลิงฮันหัวเราะและใช้เนตรแห่งสัจธรรม เขาเห็นจูเสวี่ยนเอ๋อกำลังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่จูเสวี่ยนเอ๋อเห็นหลิงฮัน ทำให้นางรู้สึกโล่งใจ
“น่าเบื่อ!” ฮูหนิวกัดนิ้วมือของตัวเองอย่างไม่พอใจที่ไม่สามารถกำจัดจูเสวี่ยนเอ๋อได้
“แล้วผู้หญิงที่ชื่อเฮ่อเหลียนล่ะ?” จูเสวี่ยนเอ๋อถาม
“นางอยู่ในหอคอยทมิฬ ข้าจะพาพวกเจ้าไปหานางและ…ลูกชายของข้า” หลิงฮันกล่าว
ว่าไงนะ!
จูเสวี่ยนเอ๋อและฮูหนิวต่างอ้าปากกว้าง พวกเขาไปมีลูกด้วยกันเมื่อไหร่? ทำไมพวกนางถึงไม่รู้? ส่วนเจ้ากระต่ายที่ไม่รู้จักเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนแม้แต่น้อยพูดออกมาว่า “ยินดีด้วย ขออั่งปาวหน่อย”
หลิงฮันไม่รู้จักอธิบายยังไงดี เขาเองก็เพิ่งจะรู้เช่นกัน จากนั้นเขาสะบัดมือและพาทุกคนเข้าไปในหอคอยทมิฬ
สัมผัสสวรรค์ของเขาแผ่ขยายออกไปและพบว่าเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนให้นมลูกของเขาเสร็จแล้ว และพาทุกคนไปดู
“ยัยโง่!” ฮูหนิวจ้องมองไปที่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนอย่างเดือดดาล นี่เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจมากสำหรับฮูหนิว
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเพียงแค่ยิ้มและพูดว่า “เด็กน้อย!”
“ช่างเป็นเด็กทารกที่น่ารักอะไรขนาดนี้” จูเสวี่ยนเอ๋อไม่เหมือนกับฮูหนิว “ข้าขออุ้มได้ไหม?”
“อืม!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนส่งเด็กให้จูเสวี่ยนเอ๋ออุ้ม
เมื่อเจ้าตัวน้อยอยู่ในอ้อมกอดจูเสวี่ยนเอ๋อ เจ้าตัวน้อยอ้าปากและงับไปที่หน้าอกของจูเสวี่ยนเอ๋อ
จูเสวี่ยนเอ๋อรู้สึกอายมากและรีบคืนเด็กให้กับเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน เมื่อเจ้าตัวน้อยไม่ได้กินนมก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาทันที
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “เจ้าเห็นไหมแม้แต่ลูกชายของเจ้ายังไม่ชอบหน้าอกที่แบนราบของเจ้า! เฮ้อ ลูกข้าจะกินอิ่มหรือเปล่าก็ไม่รู้ช่างน่าสงสารอะไรเยี่ยงนี้”
“หลิงฮัน เจ้าอยากตายงั้นรึ?” ช่วยไม่ได้ที่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและพูดออกมาด้วยความฉุนเฉียว
หลิงฮันอุ้มลูกขึ้นมากอดและพูดว่า “เจ้าตัวน้อยมีชื่อไหม?”
“ยังไม่มี” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนส่ายหน้า
“ถ้างั้นจะตั้งชื่อว่าอะไรดี?” หลิงฮันกล่าว เนื่องจากเด็กเป็นลูกของหลิงฮัน ในอนาคตเขาจะต้องเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างแน่นอน
“หลิงหนิว!” ฮูหนิวเสนอ
“โอ้ว มันก็ฟังดูไม่เลว แต่มันยังไม่สูงส่งพอ” หลิงฮันส่ายหัว
“ถ้างั้นยอดฝีมือหลิง” ฮูหนิวกล่าว
จูเสวี่ยนเอ๋อเปิดปากพูด “แล้วหลิงเจี้ยนเสวี่ยนล่ะ?”
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนส่งเสียงกระแอม หลิงเจี้ยนเสวี่ยนมีความพิเศษอยู่ หลิงหมายถึงหลิงฮัน เสวี่ยนหมายถึงตัวนาง เจี้ยนหมายถึงการพบเจอ เมื่อนำมารวมกันความหมายของมันก็ฟังดูไม่เลว
“ข้าว่าหลิงต้าเป่าฟังดูดีกว่า” เจ้ากระต่ายกล่าว
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนหันสายตามองไปที่เจ้ากระต่าย แล้วพูดว่า “ข้าจะตั้งชื่อลูกว่าหลิงเจี้ยนเสวี่ยน” อย่างน้อยก็เป็นชื่อปกติ
หลิงฮันรู้สึกเสียใจมาก นี่เป็นลูกชายคนแรกของเขา ทำไมนางถึงตั้งชื่อลูกโดยที่ไม่ถามความเห็นของเขาเลยแม้แต่น้อย?
“เจ้าคิดว่าไง?” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนจ้องมองไปที่หลิงฮัน “หรือเจ้าจะเลือกชื่อที่ฮูหนิวตั้งให้?”
ฮูหนิวรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันทีและพูดว่า “ชื่อของหนิวดีที่สุดแล้ว!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและจูเสวี่ยนเอ๋อต่างส่งเสียงหัวเราะออกมา และแน่นอนว่าพวกนางไม่เห็นด้วย
ฮูหนิวยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันขาวสองแถวในลักษณะข่มขู่และพูดว่า “พวกเจ้าหัวเราะอะไร นี่เจ้าคิดว่าชื่อของฮูหนิวมันไม่ดีอย่างนั้นรึ?”
“ดี แน่นอนว่าต้องดีอยู่แล้ว!” หลิงฮันกอดฮูหนิว “ฮูหนิวไม่ได้ที่เป็นชื่อที่ดีอย่างเดียว แต่ในอนาคตยังเป็นหญิงสาวที่งดงามมากด้วย ผู้คนจะต้องหลงใหลและดอกไม้จะต้องเบ่งบาน!”
ฮูหนิวยิ้มอย่างมีความสุขและกอดคอหลิงฮัน “หลิงฮันเป็นคนดีที่สุดในโลกเลย!”
หลิงฮันหันหน้าไปถามเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน “แล้วมาที่นี่ได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่ามันมีกำแพงกั้นหรอกหรือ?”
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเค้นเสียงดูถูก “มันก็แค่อุปสรรคที่จอมยุทธระดับทลายมิติเป็นคนกำหนด แต่ตราบใดที่ครอบครองอาวุธวิญญาณระดับสิบ มันก็จะเป็นเรื่องง่ายทันทีที่จะผ่านเข้ามา”
“โอ้ว เจ้ามีอาวุธวิญญาณระดับสิบด้วย?”
“เรื่องของเผ่าใต้สมุทรเป็นอะไรที่ไกลเกินกว่าเจ้าจะจินตนาการได้” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “แล้วเผ่าใต้สมุทรมีประวัติการชำละล้างทุกหนึ่งหมื่นปีหรือไม่?”
“หืม นี่เจ้ารู้ได้ยังไง?” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนรู้สึกตกตะลึง
“ข้าเป็นชายของเจ้า แล้วข้าจะไม่รู้ได้ยังไง?” หลิงฮันหัวเราะ
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนไม่สนใจเรื่องพวกนั้นและพูดว่า “ข้ากำลังออกตามหาขวดหยกต้องสาป และข้าต้องการที่จะรวบรวมทะลเหนือให้กลายเป็นหนึ่งเพื่อต่อสู้กับการชำระล้างในอนาคต”
หลิงฮันส่ายหัวและพูดว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่รู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการชำระล้าง”
“มันคืออะไร?” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนถาม
หลิงฮันเล่าเรื่องหลอมโลกให้กลายเป็นเม็ดยาให้เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนฟัง และนางก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็พูดว่า “ไม่แปลกใจเลยที่มีข้อผิดพลาดในประวัติศาสตร์อยู่เสมอ ข้าจึงอ่านหนังสือโบราณมานับไม่ถ้วนเพื่อหาเบาะแส และทำให้ข้าเกิดความคิดบางอย่าง ที่แท้มันก็เป็นอย่างนี้นี่เอง!”
ทันใดนั้น สีหน้าของนางก็เปลี่ยนสีและพูดว่า “ราชวงศ์! ตระกูลราชวงศ์ดำรงอยู่มานานนับไม่ถ้วน! นี่พวกเขา…พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องจริงรึ?”
หลิงฮันขมวดคิ้วและพูดว่า “ถ้าพวกมันสามารถดำรงอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน พวกมันคงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และรอดพ้นจากการชำระล้าง”
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนส่ายหน้าและพูดว่า “ข้าเกรงความเป็นไปได้ที่พวกมันจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกันนั้นเป็นได้สูงมาก ข้าเคยเสนอให้ต่อสู้กับการชำระล้างอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถูกระงับโดยตระกูลราชวงศ์และบอกว่าเป็นการพูดเกินความจริง”
“กล่าวคือศัตรูของพวกเราไม่ได้มีแค่ห้านิกายโบราณเท่านั้น แต่ยังมีตระกูลราชวงศ์ของเผ่าใต้สมุทรด้วย!” หลิงฮันแตะคางของเขา “แล้วตระกูลราชวงศ์แข็งแกร่งแค่ไหน?”
“แข็งแกร่งมาก!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนพยักหน้า “ว่ากันว่าตระกูลราชวงศ์มีจอมยุทธระดับทลายมิตินับร้อยคน และสี่ตระกูลใหญ่ยังต้องศิโรราบ”
ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งของเผ่าใต้สมุทรยังเหนือกว่าเผ่ามนุษย์มาก
ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะดูเคร่งขรึม เดิมทีจักวรรดิจันทราม่วงเผชิญหน้าแค่ห้านิกายใหญ่เท่านั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะต้องเพิ่มเผ่าใต้สมุทรเข้าไปด้วย