Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 762
เมื่อเฉียนเฟิงพูดแบบนั้นออกมา องค์รักษ์ของเมืองดูเหมือนจะลังเล
เขาเป็นชายที่มีภูมิหลังยอดเยี่ยม มันจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ถ้าจะจับกุมเขา?
เฉียนหวูย่งคนนั้นคือสหายเก่าขององค์จักรพรรดิ ถ้าจับกุมเฉียนเฟิงเขาจะเคลื่อนไหวหรือไม่?
“เฉียนหวูย่งไม่เห็นจะรู้จัก!” จูหลิงชิงเริ่มหยิ่งผยองมากขึ้น “พี่สาวของข้าคือจูเสวี่ยนเอ๋อผู้ที่จะเป็นราชินีแห่งจักรวรรดิต้าหลิงในอนาคต!”
ฮูหนิวรู้สึกโกรธ นางต่างหากที่จะเป็นราชินีของหลิงฮัน!
หลิงฮันยังคงนิ่งเงียบ เขาอยากดูว่าองค์รักษ์พวกนั้นจะจัดการกันยังไงกับเรื่องเล็กน้อยภายใต้จักรวรรดิต้าหลิงอันยิ่งใหญ่
“นายน้อยทั้งสองท่าน โปรดอย่าได้สร้างก่อปัญหากันที่นี่เลย และกรุณาตามพวกเรามาที่ค่ายทหารเพื่อเริ่มกระบวนการตัดสิน” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว
แม้ว่าตัวตนของพวกเขาทั้งสองคนยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ที่นี่คือเมืองจักรพรรดิ จะมีสักกี่คนกันที่กล้าสร้างปัญหาที่นี่ สิ่งที่พวกเขาทำไม่ใช่ว่าเป็นการแสดงตัวตนของพวกเขาหรอกหรือ? ตัวตนของพวกเขาจะต้องได้รับการตรวจสอบและผู้ที่แอบอ้างมักจะไม่มีจุดจบที่ดี
ดังนั้น เจ้าหน้าที่คนนี้จึงระมัดระวังเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามทั้งจูหลงชิงและเฉียนเฟิงต่างปฏิเสธที่จะยอมจำนน พวกเขากัดกันไม่หยุดและเรียกร้องให้จับกุมอีกฝ่ายแทนตนเอง
เมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้นหลิงฮันส่ายหัว จักรวรรดิของเขากำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่คุณภาพของประชากรยังไม่พัฒนาตาม ไม่แปลกที่เขามักคิดถึงสองเรื่อง เรื่องแรกคือการขยายดินแดน เรื่องที่สองคือการเอาใจผู้คน แต่เขาไม่ได้คิดที่จะควบคุมจักรวรรดิอย่างเคร่งครัด
หลิงฮันลุกขึ้นยืนและพูดว่า “พาทั้งคู่ไปที่ประตูตะวันออกและเฆี่ยนตีหนึ่งร้อยครั้ง!”
“ห๊า เจ้าเป็นใครกันถึงจะเฆี่ยนตีข้า? เจ้ารู้หรือไม่พี่ชายของข้าเป็นใคร?” เฉียนเฟิงตะโกน เขารู้สึกโกรธมากแม้แต่ทหารพวกนี้ยังเคารพเขา แล้วอีกฝ่ายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?
“พี่…พี่เขย!” จูหลงชิงอุทานออกมาอย่างตกใจ
“องค์จักรพรรดิ!” เหล่าทหารเองก็คุกเข่าทำความเคารพเช่นกัน
องค์จักรพรรดิ?
เฉียนเฟิงรู้สึกตกตะลึง นี่คือจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าหลิง นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่รู้จักไปทั่วภูมิภาคเหนือ นี่เขากล้าที่จะตำหนิอีกฝ่ายได้ยังไงกัน? ต้องรู้ก่อนว่าเหล่าตระกูลภายในแคว้นพิรุณไม่ได้ตามหลังหุบเขาจันทราร่วงหล่นอีกต่อไป นั่นเป็นเพราะหลิงฮันทำให้พวกเขามีทุกวันนี้
หลิงฮันโบกมือและพูดว่า “พาพวกเขาไปและเฆี่ยนตี!”
“ขอรับ องค์จักรพรรดิ!” เหล่าทหารใจแกร่งกล้าเหมือนหมาป่าขึ้นมาทันที
“พี่เขย พี่เขย ข้าผิดไปแล้ว – พี่สาวช่วยข้าด้วย!” จูชิงหลงเห็นจูเสวี่ยนเอ๋อและกรีดร้องออกมาอย่างรวดเร็วและหวังว่าพี่สาวจะช่วยเหลือเขา
แต่จูเสวี่ยนเอ๋อเพียงแค่ส่ายหัว และไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว
ชายหนุ่มทั้งสองคนถูกลากออกไป ใครขอให้พวกเขาปากดีเองล่ะ?
เมื่อกลับไปที่พระราชวัง หลิงฮันจะเริ่มหาวิธีการแก้ปัญหาและกฎระเบียบทันที
ในความเป็นจริง อำนาจย่อมนำมาซึ่งสิทธิพิเศษ มิฉะนั้นจะมีอำนาจไปเพื่ออะไร? แต่หลิงฮันเองก็ไม่อยากให้ทุกตระกูลสะอาดใส่เหมือนกับน้ำ แต่มันก็ต้องมีเส้นที่ไม่อาจล้ำเกินไปได้
และในวันนั้นเอง จูหลงชิงและเฉียนเฟิงถูกลงโทษต่อหน้าสาธารณชน เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู
แม้ว่าทั้งสองคนจะถูกเฆี่ยนตีคนละหนึ่งร้อยครั้ง แต่ประมุทตระกูลเฉียนได้มาที่พระราชวังในยามดึกเพื่อขออภัยโทษ และคุกเข่าต่อหน้าหลิงฮันพร้อมกับน้ำตา
หลิงฮันพูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวด และบอกให้อีกฝ่ายเข้มงวดดูแลคนในตระกูลของตัวเองและขีดเส้นที่ไม่อาจล่วงเกินได้ ถ้าอีกฝ่ายล้ำเส้น เขาจะไม่สนอะไรทั้งนั้นนอกจากฆ่าทิ้ง
เฉียนเจียผู้นำของตระกูลเจียที่เป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ เขากำลังยืนอยู่ด้านหน้าหลิงฮันด้วยเนื้อตัวสั่นเทา เขาจะกล้าที่จะโกรธหลิงฮันได้อย่างไร? นอกจากนี้ ตระกูลเฉียนในปัจจุบันแข็งแกร่งกว่าตอนที่อยู่แคว้นพิรุณเป็นร้อยเท่า แล้วเขาจะกล้าไม่เคารพนับถือหลิงฮันได้อย่างไร?
วันต่อมา จูชิงหลงมาหาหลิงฮันเพื่อประจบ
ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ที่จูเสวี่ยนเอ๋อออกจากเมืองจักรพรรดิไปพร้อมกับหลิงฮัน แม้ว่าเขาจะพูดว่าตัวเองเป็นน้องชายของจูเสวี่ยนเอ๋อ กมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เชื่อ และแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรเขา แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันเป็นเรื่องจริงล่ะ?
ดังนั้น ชีวิตของเขาก็ไม่ได้เลวร้ายนัก และตอนนี้ในที่สุดพี่เขยของเขาก็กลับมาแล้ว เลยแสดงนิสัยเสียออกมา และใช้สถานะข่มขู่ผู้คนที่ไม่ชอบหน้า
“พี่เขย ข้าสามารถตายเพื่อท่านได้!” เขาร้องไห้ออกมาทันทีและพุ่งเข้าหาหลิงฮันแล้วกอดขาของเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า หลิงฮัน ข้าไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าเจ้ามีลูกชายที่ตัวโตขนาดนี้!” เจ้ากระต่ายทำให้เรื่องดูสนุกขึ้น
“พี่สาว พี่เขย ดวงตาของข้าเป็นอะไรไม่รู้หรือว่าเจ้ากระต่ายกำลังพูดอยู่?” จูชิงหลงลืมเรื่องขอโทษและจ้องมองไปที่กระต่ายด้วยความตกใจ และแสดงสีหน้าประหลาดใจ
“มันแปลกหรือที่กระต่ายพูดได้? ในอดีตกาล บรรพบุรุษกระต่ายของข้าเป็นตัวตนอยู่ยงคงกระพันในโลก แค่พูดได้มันแปลกประหลาดขนาดนั้นเลยรึ?” เจ้ากระต่ายพูดโอ้อวดตัวเอง
จูหลงชิงไม่สนเรื่องพวกนั้นและยังตกใจกับความจริงที่ว่ากระต่ายสามารถพูดได้ ทันใดนั้นเองเขาจ้องมองไปที่เจ้ากระต่ายและเริิ่มที่จะประจบ
แน่นอนว่าเจ้ากระต่ายรู้สึกปิติเป็นอย่างยิ่ง และมองจูชิงหลงด้วยสีหน้าพึงพอใจ
ในเวลาเพียงแค่สองเดือน ภูมิภาคเหนือได้รวมกันเป็นหนึ่งและอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิต้าหลิง
แน่นอนว่าเป็นเพราะจอมยุทธของภูมิภาคเหนือนั้นมีระดับพลังต่ำเกินไป เพียงแค่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาก็สามารถสยบทั้งภูมิภาคได้แล้ว ยิ่งบวกกับตัวตนนักปรุงยาระดับสวรรค์ของหลิงฮัน ห้าขุมพลังต่างยอมจำนนอย่างเช่นนิกายจันทราครึ่งเสี้ยว และถ้าต่อต้านก็จะถูกทำลาย
ส่วนอีกสามภูมิภาคที่เหลือจอมยุทธที่มีระดับพลังต่ำสุดคือภูมิภาคตะวันตก แต่ก็ยังมีจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาอยู่บ้าง ในขณะที่ภูมิภาคตะวันออกและภูมิภาคใต้ต่างมีจอมยุทธระดับสวรรค์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการด้วย
หลังจากที่รวมภูมิภาคเหนือเสร็จแล้ว หลิงฮันไม่ผลีผลามที่จะบุกภูมิภาคตะวันตก แต่เริ่มที่จะคัดเลือกจอมยุทธที่มีระดับพลังเหนือกว่าระดับห้วงจิตวิญญาณเพื่อสร้างกองทัพให้แข็งแกร่งอย่างจักรวรรดิจันทราม่วง
นั่นเป็นเพราะสามภูมิภาคที่เหนือต่างมีจอมยุทธระดับสูง ทหารธรรมดาไม่มีทางที่จะต่อกรด้วยได้ เพียงแค่ฝ่ามือเดียวก็สามารถสังหารพวกเขาได้แล้ว
หลิงฮันยังมีแผนที่สูงขึ้นไปอีก เขาได้เลียนแบบจักรวรรดิจันทราม่วง ซึ่งเป็นแผนที่ล่อตาล่อใจที่สุดสำหรับจอมยุทธ
ในภูมิภาคเหนือ จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขากลับแข่งขันกันที่จะเข้าร่วมกองทัพ เพราะกลัวว่าจะถูกทิ้งไว้ด้านหลัง
ยิ่งไปกว่านั้น หลิงฮันยังเป็นนักปรุงยาระดับสวรรค์ สมาคมนักปรุงยาต่างทำงานให้เขา เม็ดยาจะถูกเพิ่มเข้าไปในของรางวัล ซึ่งน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก
ในวันนี้เอง หลิงฮันกำลังหารือกับพวกระดับสูงเกี่ยวกับภูมิภาคตะวันตก ทว่ากลับมีใครบางคนบุกเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูถูกเหยียดทุกคนภายในห้อง
“มันผู้ใดที่มีอำนาจมากที่สุดในการตัดสินใจ?” ชายคนนั้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ