Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 766
คำพูดของเซียนหยู่เฉิงฟังดูมีเหตุผล ความสามารถฟื้นฟูที่น่าทึ่งแบบนั้นจะไม่มีค่าตอบแทนได้อย่างไร
แต่เขารู้หรือไม่ แม้ความฉลาดหลักแหลมและสติปัญญาของหลิงฮันยังต้องใช้เวลาถึงหนึ่งหมื่นปีในการทำความเข้าใจคัมภีสวรรค์นิรันดร์ส่วนแรก แล้วมันจะไม่เป็นการฟื้นฟูที่น่าทึ่งได้อย่างไร?
“ถ้าข้าพูดว่าวันนี้จะเป็นวันตายของพวกเจ้าทั้งสองคน มันก็จะต้องเป็นเช่นนั้น!” หลิงฮันโจมตีออกไปด้วยทักษะผนึกพลิกปฐพีอีกครั้ง ขณะใช้เนตรแห่งสัจธรรมเพื่อมองหาจุดอ่อนและทักษะอัสนีเก้าทิวา
ใช่แล้ว เขากำลังใช้ทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ออกมาพร้อมกันสามทักษะ แต่ประสิทธิภาพของมันไม่ได้ด้อยกว่าการใช้ทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ทักษะเดียว
“ตาย! ตาย! ตาย!” เซียนหยู่เฉิงบังคับร่างเงามังกรที่แท้จริงเพื่อโจมตีใส่หลิงฮัน
ตู้ม
เกิดการปะทะอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลิงฮันถูกผลักกระเด็นไปด้านหลังหนึ่งพันฟุตและมีกระดูกหลายจุดที่แตกหัก
แต่ทว่าเขากลับยิ้มออกมาและพูดว่า “แม้ว่าร่างเงามังกรที่แท้จริงจะถูกเรียกออกมา แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่มังกรที่แท้จริง มันมีเพียงแค่เศษเสี้ยวของเจตจำนงแห่งเต๋าเท่านั้น มิฉะนั้นบาดแผลของข้าคงไม่สามารถฟื้นฟูได้ง่ายแบบนี้ ทว่ากายอัสนีของข้ายังได้รับผลกระทบส่วนหนึ่ง”
ตามทฤษฎีแล้ว หลังจากกลายเป็นสายฟ้า เขาสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีทางกายภาพได้ทั้งหมด แต่อีกฝ่ายสามารถทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ
ดังนั้น แม้จะเป็นแค่ร่างเงาของมังกรที่แท้จริงก็สามารถคุกคามกายอัสนีของหลิงฮันได้ แต่ด้วยการป้องกันของกายาเพชร มันยังไม่เพียงพอที่จะฆ่าหลิงฮัน
หากไม่สามารถฆ่าเขาได้ภายในพริบตา นั่นหมายความว่าพลังฟื้นฟูของกายาเพชรก็จะทำงาน
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “นี่คือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเจ้าแล้ว? แค่นี้เองรึ!”
ใบหน้าของเซียนหยู่เฟิงกระตุก เขาอยากจะพูดพิสูจน์ว่าไม่ใช่ แต่ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี
ร่างเงามังกรที่แท้จริงมีพลังของระดับทลายมิติ ตามทฤษฎีแล้ว หลิงฮันควรจะถูกฆ่าตายไปนับหมื่นครั้ง แต่ในความเป็นจริงล่ะ? แม้ว่าอีกฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะ แต่ความสามารถในการฟื้นฟูของเขานั้นมันรวดเร็วเกินไป
ไม่ใช่เพราะร่างเงามังกรที่แท้จริงนั้นไร้พลัง แต่มันเป็นเพราะความเร็วในการฟื้นฟูของอีกฝ่ายผิดปกติอย่างมากต่างหาก!
ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถฟื้นฟูบาดแผลได้รวดเร็วแบบนั้นได้ตลอด!
เซียนหยู่เฉิงตะโกนและร่างเงามังกรที่แท้จริงเองก็คำรามใส่หลิงฮัน
หลิงฮันไม่คิดที่จะหลบ อีกฝ่ายเป็นแค่จอมยุทธระดับสวรรค์ การโจมตีของเขาเพียงพอที่จะคุกคามชีวิตอีกฝ่าย ยิ่งการโต้กลับของเขารุนแรงมากเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็จะจบชีวิตลงเร็วขึ้นเท่านั้น
ทั้งคู่ตัดสินใจแล้วว่ากลยุทธของอีกฝ่ายไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไป และพวกเขาจะได้ปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดออกมาเพื่อปลิดชีพของอีกฝ่ายให้ได้ก่อน
อย่างไรก็ตาม หลิงฮันยังคงสุขุม
อย่างน้อยเขาก็ยังมีพรศักดิ์สิทธิ์ของหอคอยทมิฬที่ยังไม่ได้ใช้งาน ไม่เช่นนั้นด้วยพลังต่อสู้ระดับทลายมิติก็เพียงพอแล้วที่จะบดขยี้อีกฝ่าย
ใบหน้าของเซียนหยู่เฉิงเริ่มบิดเบี้ยวมากยิ่งขึ้น ทำไมความสามารถในการฟื้นฟูของอีกฝ่ายถึงไม่ลดลงเลย? เป็นไปไม่ได้ แม้อีกฝ่ายจะใช้สมบัติแต่มันก็ต้องมีขัดจำกัดบ้าง
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หลิงฮันเห็นการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของอีกฝ่าย เขาเลยหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ลูกเล่นของเจ้ามีแค่นี้เองรึ?”
“ปากดียิ่งนัก เผ่ามนุษย์อย่างเจ้าเป็นเพียงแค่มดปลวก แล้วข้าจะฆ่าเจ้าไม่ได้ยังไงกัน?” เซียนหยู่เฉิงปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้และทำเป็นดูถูกอีกฝ่าย เขาเริ่มโจมตีออกไปด้วยกรงเล็บมังกรอีกครั้ง แต่ทว่าพลังของเขาในตอนนี้ลดลงไปอย่างมาก
ในการต่อสู้พลังของเซียนหยู่เฉิงลดลงไปอย่างมาก แม้ว่าหลิงฮันจะสิ้นเปลืองพลังปราณและพลังกายไปมาก แต่อย่าได้ลืมว่าเขายังคงเป็นจักรพรรดินักปรุงยา
ท้ายที่สุดเซียนหยู่เฉิงเริ่มที่จะถอนตัวจากการต่อสู้ ไม่มีทางที่เขาจะทิ้งชีวิตของตัวเองไว้ที่นี่
บนท้องฟ้า ร่างเงามังกรที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังเขากระพริบอยู่สองสามครั้ง ก่อนที่จะหายไปในพริบตา
พลังสายเลือดบรรพบุรุษของเขาหมดแล้ว และมันจะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู
“ฮึ่ม วันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าไปก่อน แต่ครั้งหน้าเมื่อข้ามาที่นี่มันจะเป็นวันสุดท้ายของเจ้า!” เซียนหยู่เฉิงกล่าวและเริ่มที่จะล่าถอย
“ลุงสี่!” เซียนหยู่ตงหมิงรู้สึกตกใจมาก ทำไมเขาถึงทิ้งข้าไว้ที่นี่?
หลิงฮันแสยะยิ้มและพูดว่า “ข้าพูดแล้วว่าวันนี้จะเป็นวันตายของพวกเจ้าทั้งสองคน นี่เจ้าคิดจะหนีไปไหนรึ?” เขาเคลื่อนไหวด้วยทักษะอัสนีเก้าทิวา ทำให้ความเร็วของเขารวดเร็วกว่าเซียนหยู่เฉิงเสียอีก
แค่เร็วกว่าเล็กน้อยก็พอแล้ว
เซียนหยู่เฉิงพบว่าเขาไม่สามารถหลบหนีได้ สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด ถ้าอีกฝ่ายไม่ปล่อยเขาไป คงไม่มีทางอื่นนอกจากต่อสู้ต่อ
หลิงฮันฟาดฟันดาบสังหารออกไป ถ้าอีกฝ่ายถูกฟัน แม้จะมีกายหยาบเทียบได้กับแร่เหล็กระดับเก้าก็ยังคงได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
เซียนหยู่เฉิงไม่กล้ารับการโจมตีจากดาบสังหารโดยตรง เขายกหมัดทั้งสองข้างขึ้นมาต่อยออกไปแล้วเกิดพายุที่รุนแรงขึ้นเพื่อต่อต้านการโจมตีของหลิงฮัน
ในขณะนั้นเซียนหยู่เฟิงรู้สึกแปลกใจ พลังต่อสู้ที่แท้จริงของหลิงฮันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน อย่างน้อยมีช่องว่างห่างกันถึงห้าดาว แต่อีกฝ่ายนั้นรวดเร็วกว่าเขาและมีความสามารถฟื้นฟูที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งแม้แต่จะหลบหนีเขายังทำไม่ได้เลย
นี่อีกฝ่ายคิดจะจับเขาจริงหรือ?
เซียนหยู่เฉิงเป็นวีรบุรุษของทะเลเหนือ ถ้าเขาถูกจับ เขายังจะมีหน้าพบคนอื่นในอนาคตอีกหรือไม่?
จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่เชื่อว่าหลิงฮันจะกล้าที่จะฆ่าเขาและเซียนหยู่ตงหมิง ตระกูลราชวังศ์แห่งทะเลเหนือนั้นแข็งแกร่งและทรงพลังมากและมีจอมยุทธระดับทลายมิติมากพอที่จะส่งมาถล่มที่นี่ แล้วอีกฝ่ายจะกล้าลงมือสังหารเขาได้อย่างไร?
ท่วาพลังต่อสู้ของเขาเริ่มอ่อนแอลงและอ่อนแอลง หลังจากต่อสู้กันได้สามวัน ในที่สุดพลังของเขาก็หมดลงและถูกหลิงฮันจับกุม
เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้!
เซียนหยู่เฉิงกัดฟัน ถ้าความสามารถฟื้นฟูของอีกฝ่ายไม่น่าทึ่งเกินไป เขาไม่รู้ว่าหลิงฮันจะถูกเขาสังหารไปกี่ครั้งแล้ว แต่ตอนนี้เขาถูกจับกุมในฐานะนักโทษ แล้วเขาจะไกล่เกลี่ยกันได้อย่างไร?
“พาพวกมันไปที่ประตูตะวันออก ข้าจะลงมือสังหารพวกมันด้วยตัวเอง!” หลิงฮันตะโกนเสียงดัง และเสียงของเขาดังกังวาลไปทั่วเมืองจักรพรรดิ
“องค์จักรพรรดิทรงพระเจริญ!”
นี่เป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจว่า ใครจะไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คนที่เป็นศัตรูขององค์จักรพรรดิกลายเป็นมังกรที่แท้จริง! และองค์จักรพรรดิสามารถฆ่ามังกรได้ นี่หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ?
จักรวรรดิต้าหลิงไร้เทียมทาน!
“เจ้ากล้างั้นรึ!” ในขณะนั้นเซียนหยู่เฉิงรู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริง เผ่ามนุษย์กล้าที่จะสังหารเขา?
“ทำไมข้าจะไม่กล้า?” หลิงฮันแสยะยิ้มและโบกมือส่งสัญญาณให้พาพวกมันทั้งสองคนไปที่ประตูตะวันออก