Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 783
“เจ้าต้องการอะไร?” หยูเจี่ยนเชินระงับอารมณ์โกรธและเอ่ยถามหลิงฮันด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
หลิงฮันยิ้มและตอบ “ถ้าเจ้ามีอะไรชดเชยให้จิตใจที่เจ็บปวดของข้าดีขึ้น ข้าก็จะปล่อยไป”
ทุกคนในห้องโถงอ้าปากค้าง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเขาได้พบเห็นคนที่ไร้ยางอายเช่นนี้
ถ้ามีแค่หลิงฮันคนเดียว หยูเจี่ยนเชินคงจะจับหลิงฮันทุบตีไปแล้ว แต่มารไร้ยางอายคนนี้ดันเป็นบุตรเขยของตระกูลเฮ่อเหลียน ถ้าเขาลงมือรุนแรงกับอีกฝ่าย ตระกูลเฮ่อเหลียนคงไม่ยอมแน่
หยูเจี่ยนเชินกลืนความคับแค้นใจลงไปและสะบัดมือด้วยความโกรธ ทันใดนั้นสมบัติบางอย่างก็ปรากฏอยู่ที่พื้น มันคือปะการังที่มีสีแดงเข้มราวกับโลหิต มันมีขนาดพอๆกับกำปั้นและส่องแสงสว่างเจิดจ้า มีจอมยุทธระดับทลายมิติไม่น้อยที่แววตาส่องประกายขึ้นมาด้วยความโลภชั่วขณะ
“พอใจรึยัง?” หยูเจี่ยนเชินกล่าว
หลิงฮันยิ้ม เขาเก็บสมบัติขึ้นมาและพึมพำ “ปะกะรังโลหิต มันมีประสิทธิ์สูงมากหากใช้คู่กับการบ่มเพาะกายา เทียบกับไข่มุกพันปีแล้วแม้จะด้อยกว่าอยู่บ้างแต่ก็ยังนับว่ายอดเยี่ยมอยู่ดี ไม่เลวๆ”
หลิงฮันเก็บสมบัติและกล่าวกับหยูเจี่ยนเชิน “ขอบคุณมาก! แต่ผู้อาวุโสคงจะรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยที่ต้องเสียสมบัติไปแบบเปล่าๆ ถ้างั้นพวกเรามาพนันกันเป็นอย่างไร?”
“เจ้าต้องการพนันอะไร?” หยูเจี่ยนเชินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่รู้ว่ารุ่นเยาว์เผ่ามนุษย์ตรงหน้านั้นกล้าหาญหรือโง่เขลากันแน่
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสบอกว่าจะสั่งสอนข้าไม่ใช่รึ? เรามาพนันกันเรือ่งนั้นเป็นอย่างไร ถ้าผู้อาวุโสชนะข้า ข้าจะคืนสมบัติให้ท่าน”
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดหลิงฮัน พวกเขาต่างรู้สึกไปในทางเดียวกันเลยว่าหลิงฮันช่างบ้ายิ่งนัก นี่เขาเบื่อจนไม่มีอะไรจะทำแล้วรึไง?
ใครจะไปเชื่อกันล่ะว่าจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาจะสามารถสู้กับจอมยุทธระดับทลายมิติได้?
แม้แต่หยูเจี่ยนเชินยังคิดเลยว่าที่หลิงฮันเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะอยากปรับความเข้าใจกัน เขาอดที่จะยิ้มไม่ได้และกล่าวออกไป “ตกลง!” ถึงอย่างไรหลิงฮันก็เป็นบุตรเขยของตระกูลเฮอเหลียน เพราะงั้นเขาจะไม่ลงมือหนักจนเกินไป
“เผ่ามนุษย์ เข้ามา! ข้าจะให้เจ้าโจมตีก่อนสิบกระบวนท่า” เขายอมให้หลิงฮันเป็นฝ่ายโจมตีก่อน ซึ่งแค่นี้ก็นับว่าเขายอมไว้หน้าหลิงฮันแล้ว ไม่เช่นนั้นถ้าหากปะทะกันตรงๆจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาจะมีโอกาสจู่โจมจอมยุทธระดับทลายมิติได้ถึงสิบกระบวนท่ารึ?
หลิงฮันกล่าว “แล้วถ้าผู้อาวุโสหยูแพ้ล่ะ?” เขาคร้านที่จะเรียกชื่อเต็มของอีกฝ่ายว่าผู้อาวุโสหยูเจี่ยนเชิน จึงเปลี่ยนไปเรียกชื่อตำแหน่งของอีกฝ่ายแทน
‘เจ้าคิดว่าจะชนะ? สมองของเจ้ามีส่วนไหนผิดปกติรึเปล่า?’ หยูเจี่ยนเชินครุ่นคิด แต่บางทีที่หลิงฮันกล่าวออกมาเช่นนั้นก็เพราะอยากให้ตนเองเหลือศักดิ์ศรีเอาไว้บ้างก็ได้ “ถ้าเจ้าชนะ ข้าจะมอบสมบัติที่มีค่าทัดเทียมกับปะการังโลหิตให้เจ้า”
“งั้นก็ขอขอบคุณผู้อาวุโสหยูมาก” หลิงฮันกล่าว
หยูเจี่ยนเชินไม่เก็บสิ่งที่หลิงฮันกล่าวมาใส่ใจ เขาคิดว่าหลิงฮันแค่พูดออกมาตามมารยาทเท่านั้น“เริ่มได้!”
“ผู้อาวุโสหยูโปรดแนะนำด้วย!” มือของหลิงฮันเคลื่อนไหวและนำดาบสั้นหนึ่งร้อยแปดเล่มออกมาวาง ‘พรึบ’ ทันใดนั้นปราณจากสวรรค์และปฐพีก็ถูกชี้นำให้มารวมตัวกันจนอุณภูมิของอากาศโดยรอบลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว
“หืม รูปแบบอาคมนั่นมันอะไรกัน ทำไมถึงได้ดูทรงพลังขนาดนี้!”
“หรือมนุษย์ผู้นี้จะเป็นปรมาจารย์รูปแบบอาคม?”
“ไม่ใช่เจ้าบอกว่าเขาเป็นนักปรุงยาระดับสวรรค์หรอกรึ? เป็นได้ทั้งปรมาจารย์นักปรุงยาและรูปแบบอาคมเช่นนี้ ช่างเป็นพรสวรรค์ที่ล้ำเลิศยิ่งนัก นี้เขาเป็นสัตว์ประหลาดรึเปล่า?”
ทุกคนกระซิบพูดคุยกัน เมื่ออุณภูมิโดยรอบลดลงเรื่อยๆ พลังวิญญาณก็ควบแน่นกลายเป็นสิ่งมีชีวิตสีขาว จอมยุทธระทลายมิติมากมายที่มองไปที่มันต่างหน้าเปลี่ยนสี
แข็งแกร่ง!
หยูเจี่ยนเชินเหงื่อท่วมหน้าผากและอยากจะสาปแช่งหลิงฮันให้ตายไปซะตอนนี้เลย
ข้าติดกับเผ่ามนุษย์คนนี้แล้ว!
รูปแบบอาคมนี้น่าสะพรึงกลัวเกินไป!
หยูเจี่ยนเชินตระหนักได้ทันที ทั้งๆที่เผ่ามนุษย์ผู้นี้สามารถเรียกใช้รูปแบบอาคมได้ตั้งแต่แรกแท้ๆ แต่เขากลับลีลาและจงใจหลอกล่อเขา! ปัญหาก็เขากล่าวออกไปแล้วว่าจะยอมให้หลิงฮันโจมตีก่อนสิบกระบวนท่า!
หยูเจี่ยนเชินรู้สึกเจ็บปวดใจด้วยความโกรธเป็นอย่างยิ่ง ผู้คนกล่าวว่าใครที่ติดกับดักเดิมๆสองครั้งคือคนโง่ และภายในเวลาที่ผ่านไปชั่วพริบตา เขาก็ถูกหลิงฮันหลอกให้ติดกับอีกครั้ง
เผ่ามนุษย์ผู้นี้ทั้งชั่วร้าย อันตรายและเลวทรามยิ่ง!
ในขณะที่หยูเจี่ยนเชินกำลังสาปแช่ง หลิงฮันก็เรียกใช้รูปแบบอาคมมังกรน้ำแข็งทลายปฐพีเสร็จสิ้น
เมื่อมังกรเหมันต์ปรากฏตัว หิมะก็ตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับบรรยากาศโดยรอยได้ถูกเปลี่ยนเป็นฤดูหนาว อุณหภูมิในตอนนี้หนาวเย็นเป็นอย่างมาก
“ลุย!” หลิงฮันชี้นิ้วออกคำสั่ง มังกรเหมันต์ก็พุ่งเข้าใส่หยูเจี่ยนเชินทันที
บรรพบุรุษต้นตระกูลของเผ่าใต้สมุทรคือมังกรที่แท้จริง การที่หลิงฮันอัญเชิญมังกรออกมาและออกคำสั่งนั้นทำให้จอมยุทธระดับทลายมิติของตระกูลเฮ่อเหลียนรู้สึกไม่สบอารมณ์ แม้มังกรนั่นจะเป็นเพียงรูปแบบอาคมก็ตามที
มังกรเหมันต์มีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติเจ็ดดาว แต่หยูเจี่ยนเชินเป็นเพียงอจมยุทธระดับทลายมิติขั้นสามเท่านั้น พลังต่อสู้ของเขาเองก็แค่สามดาว แล้วเขาจะสู้มังกรเหมันต์ได้อย่างไร?
ในระดับพลังทลายมิติ แม้พลังต่อสู้จะต่างกันแค่หนึ่งดาว แต่ความแตกต่างนั้นกลับห่างกันเหมือนสวรรค์และปฐพี ยิ่งมังกรเหมันต์ที่มีพลังต่อสู้สูงกว่าหยูเจี่ยนเชินสี่ดาว หยูเจี่ยนเชินต้องถูกบดขยี้ย่อยยับแน่นอน
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น หยูเจี่ยนเชินสามารถต้านทานการโจมตีของมังกรเหมันต์ได้เพียงเจ็ดกระบวนท่าและยอมรับความพ่ายแพ้ ถ้าเขายังฝืนสู้ต่อและถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส เขาคงจะเสียหน้ายิ่งกว่ายอมแพ้เสียอีก
หยูเจี่ยนเชินสะบัดมือวางสมบัติทิ้งเอาไว้และรีบคว้าร่างพาหยูสื่อเหอออกไปจากห้องโถง เขาไม่มีหน้าเหลือพอจะอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว