Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 822
หลิงฮันรอคอยอยู่หน้าประตู เขารอเวลานี้มาหลายปีแล้ว เพราะงั้นแค่รอต่อไปอีกสักหน่อยย่อมไม่ใช่ปัญหา
ฮูหนิวนั้นรู้สึกเบื่อหน่ายและเริ่มเตะหินตามทางเล่น ราวกับว่าจู่ๆนางก็เสพติดการเตะหิน นางเริ่มออกแรงเตะแรงขึ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“อ้าก ใครกล้าทำร้ายนายน้อยผู้นี้!” รุ่นเยาผู้หนึ่งเดินเข้ามาโดยเอามือกุมหน้าผากไว้
เมื่อฮูหนิวเห็นเช่นนั้น นางก็แลบลิ้นออกมาและรีบเดินไปหลบหลังหลิงฮัน นางยื่นมือเล็กของนางชี้ไปที่จูเสวียนเอ๋อและกล่าว “เป็นสตรีผู้นี้ที่ทำร้ายเจ้าด้วยก้อนหิน หนิวเห็นเหตุการณ์ชัดเจนเลย!”
เด็กตัวแค่นี้จะพูดโกหกเป็นรึ?
รุ่นเยาว์ผู้นั้นมองมายังจูเสวียนเอ๋อตามมือของฮูหนิว แต่ทันใดนั้นเขาก็ต้องแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา
สตรีผู้นี้ช่างงดงามนัก! ในเมืองฮันแห่งนี้ไม่มีใครเลยที่จะเทียบนางได้!
ราวกับว่าจู่ๆหน้าผากของเขาก็หายเจ็บ เขารีบเปลี่ยนท่าทีให้ดูสุขุมและยิ้ม “ตัวข้ามีนามว่าเฟิงหยีเซียว ไม่รู้ว่าข้าจะเรียกแม่นางว่าอะไรดี?”
จูเสวียนเอ๋อชำเลืองมองไปยังอีกฝ่ายและกล่าว “พวกเราก็แค่คนที่เดินผ่านไปมาทั่วไป ไม่เห็นจำเป็นต้องรู้ชื่อแซ่กัน”
“ข้าชอบคนนิสัยเช่นเจ้า!” เฟิงหยีเซียวยิ้มหวานมากกว่าเดิม “ในโลกที่กว้างใหญ่เช่นนี้พวกเรายังมาพบกันได้ หรือนี้จะเป็นวาสนา? แม่นาง เจ้าช่างงดงามอะไรเช่นนี้ มีเพียงสตรีเช่นเจ้าเท่านั้นที่เข้าตาข้า!”
จูเสวียนเอ๋อเลือกที่จะเมินเฉย
“แม่นาง ความงามของเจ้าแม้จะรุนแรงเหมือนยาพิษ แต่ข้าก็ชอบมัน!”
“ข้าตกหลุมรักเจ้าเสียแล้ว ได้โปรดให้ข้าได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กดับเจ้าด้วยเถิด!”
“……”
เฟิงหยีเซียวพล่ามคำหวานไม่หยุด ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาและปากอันแสนหวานของเขา แน่นอนว่าย่อมมีสตรีมากมายตกหลุมพราง
แต่น่าเสียดายที่นั่นไม่ใช่กับจูเสวียนเอ๋อ ใบหน้าของนางเริ่มกลายเป็นเย็นชายิ่งขึ้น
“เจ้าคนโง่ จะมัวพูดไร้สาระอยู่ทำไม ชกนางให้สลบแล้วแบกกลับไปเลย!” ฮูหนิวทนดูต่อไม่ไหวและพูดเสนอแนะ
“นั่นไม่ใช่วิธีที่ดีเท่าไหร่!” เฟิงหยีเซียวนำมือกุมหน้าผากและส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
หลิงฮันหัวเราะและเอ่ยถาม “เจ้าต้องการอะไร?”
เฟิงหยีเซียวขนลุกและกล่าว “นายน้อยผู้นี้ไม่มีความสนใจต่อบุรุษ ไม่ต้องมาพูดจาเล่นลิ้นกับข้า!”
หลิงฮันแสยะยิ้ม “ถ้าเจ้ากล่าวเช่นนั้น งั้นข้าก็ขอเล่นกับเจ้าหน่อยแล้วกัน!”
“เจ้า! อย้าเข้ามาใกล้ข้าเชียว! ขอบอกไว้ก่อนนะว่าข้าน่ะแข็งแกร่งมาก เจ้าไม่ควรหาเรื่องไสตัว!” เฟิงหยีเซียวกล่าวพร้อมกับถือดาบไว้ในมือ
หลิงฮันเอื้อมมือออกไปพยายามคว้าร่างของอีกฝ่าย
“เจ้าคนเบี่ยงเบนทางเพศ รับกระบวนท่าของข้าไปซะ!” เฟิงหยีเซียวสะบั้นดาบ ‘พรึบ’ รัศมีดาบถูกปลดปล่อยออกมาและฟันเข้าใส่ข้อมือหลิงฮัน
ถึงจะเห็นเขาเป็นแบบนั้น แต่เขาก็เป็นรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์สูงส่ง มีจอมยุทธไม่มากนักที่สามารภบรรลุรัศมีดาบได้ในอายุเท่าเขา แต่ว่าหากเทียบกับหลิงฮันแล้วทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันราวกับอยู่คนล่ะโลก
มือของหลิงฮันจับไปยังข้อมืออีกฝ่าย
“มารดาเจ้าเถอะ!” เฟิงหยีเซียวตกตะลึง เขาพยายามดึงข้อมือออกมา แต่มือของหลิงฮันนั้นราวกับเป็นห่วงเหล็กที่รัดติดแน่นจนเขาดึงไม่ออก
“อย่าเรียกว่ามารดา จงเรียกข้าว่าพี่ชายแล้วข้าจะปล่อยเจ้า” หลิงฮันยิ้ม
“เจ้าคิดว่าตัวเองมีค่าพอให้ข้าเรียกเจ้าเช่นนั้นรึ!” เฟิงหยีเซียวเค้นเสียงเย็นชา เขาเปลี่ยนไปถือดาบอีกมือและแทงเข้าใส่หลิงฮัน
หลิงฮันใช้อีกมือคว้าจับมือของเฟิงหยีเซียวเอาไว้อีกครั้ง
เฟิงหยีเซียวตกตะลึง ทำไมชายคนนี้ถึงได้เคลื่อนไหวได้รวดเร็วเช่นนี้? เขาคำรามและใช้ฝ่ามือปล่อยเจตจำนงดาบใส่หลิงฮัน ทรงผมของเขาสยายออกกลายเป็นทรงเข็มเหมือนกับเม่น
แม้อีกฝ่ายมีกายหยาบที่แข็งแกร่ง แต่ในด้านจิตวิญญาณคงจะไม่เท่าไหร่ เมื่อถูกโจมตีด้วยเจตจำนงแห่งดาบ ร่างของหลิงฮันจะต้องแข็งค้างและเกิดอาการมึนหัวแน่นอน
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและโคจรแก่นแท้แห่งดาบ ‘พรึบ’ ทันใดนั้นเจตจำนงดาบของเฟิงหยีเซียวก็แหลกสลายทันที ใบหน้าของเฟิงหยีเซียวกลายเป็นซีดขาวราวกับว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลิงฮันปล่อยมือ ร่างของเฟิงหยีเซียวทรุดลงไปนอนขดตัวที่พื้นทันที การบาดเจ็บด้านวิญญาณนั้นไม่ใช่บาดแผลเบาๆ
“นายน้อย!” ในตอนนั้นเอง คนสองคนก็เดินออกมาจากประตู คนหนึ่งคือทหารยามก่อนหน้านี้ ส่วนอีกคนหนึ่งคือชายชราร่างผอมที่ดูมีอายุราวๆหกสิบถึงเจ็ดสิบปี ชายชรารีบพุ่งเข้ามาด้านหน้าเฟิงหยีเซียวเพื่อดูอาการ เมื่อเห็นว่าเฟิงหยีเซียวไม่มีบาดแผลอันใดเขาก็ถอนหายใจโล่งอก
ชายชราจ้องมองไปยังหลิงฮันด้วยสายตาเย็นชา “คนที่ทำร้ายนายน้อยคือเจ้า?”
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “จะพูดว่าทำร้ายก็ไม่ถูกนัก พวกข้าแค่แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันเล็กน้อย”
“เหอะ กล้าทำร้ายคนของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ที่นี่ ช่างกล้าหาญนัก!” ชายชรากล่าวอย่างเย็นชา
ชายชราผู้นี้มีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับก้าวสู่เทวา แถมพลังต่อสู้ของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ
หลิงฮันพาดมือไว้ด้านหลังและกล่าว “ดูแล้วสถานะของเจ้าคงไม่ต่ำต้อย ข้าขอถามหน่อยว่าเจ้าคุ้นชื่อเจียนเยว่ซวน หยุนหย่งหวังและคังซิวหยวนหรือไม่?”
“เหอะ แม้เจ้าจะอ้างชื่อใครมา วันนี้ก็ไม่มีใครช่วยเจ้าได้!” ชายชรากระโจนปล่อยฝ่ามือใส่หลิงฮัน ปราณก่อเกิดที่เขาปลดปล่อยออกมาแฝงไว้ด้วยพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว
หลิงฮันผลักฝ่ามือขวาเข้าใส่ชายชรา ‘ปัง’ ร่างของชายชราถูกผลักถอยเข้าใส่กำแพงนับสิบ กำแพงเหล่านั้นพังทลายพร้อมกับสติของชายชราที่หายไป
เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ มันจะไม่ดึงดูดความสนใจได้อย่างไร?
‘ตุบ ตุบ ตุบ’ คนมากมายรีบวิ่งออกมาจากที่พักและล้อมหลิงฮันเอาไว้
“ฮึ่ม!” กลิ่นอายอันทรงพลังปะทุขึ้นพร้อมกับร่างหนึ่งที่ปรากฏออกมา
“คารวะอาวุโสเจ็ด!” ทุกคนนั่งลงคุกเข่าข้างเดียว
ร่างที่ปรากฏคือชายชราผมขาว ดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจของเขาจ้องมองมายังหลิงฮัน “เจ้าหนุ่ม ความกล้าของเจ้ามีไม่น้อยเลย เจ้ากล้ามาสร้างปัญหาที่สมาคมน้ำแข็งนิรันดร์แห่งนี้!”
หลิงฮันส่ายหัว “ก็แค่การป้องกันตัวเท่านั้น แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าความอดทนของข้ามีขีดจำกัด ถ้าไม่มีใครคิดจะสนทนากับข้าดีๆ ข้าก็คงต้องทุบตีพวกเจ้าทุกคนเสียก่อนแล้วคอยดูว่าพวกเจ้าจะทำตัวว่าง่ายรึไม่”