Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 825
ปัง เจ้ากระต่ายบินอยู่บนฟ้าอย่างรวดเร็วและกระแทกเข้ากับใบหน้าของผู้อาวุโสแปด แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เจ้ากระต่ายม้วนตัวและโจมตีออกไปด้วยอุ้งเท้าทั้งสี่ข้าง ทำให้ใบหน้าของผู้อาวุโสแปดเกิดรอยแผลขีดข่วนและมีโลหิตไหลออกมา
นี่ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงมาก อย่างน้อยผู้คนของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์สาขาเหนือก็รู้ว่าฮูหนิวเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก แต่ไม่เคยคิดเลยว่ากระต่ายที่พวกเขามาด้วยจะแข็งแกร่งขนาดนั้น
“อ๊าก ข้ากลัวแทบแย่ แต่ข้าไม่เจ็บ!” เจ้ากระต่ายลงมาจากท้องฟ้าและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นี่ทำให้ทุกคนโกรธมาก เจ้าไม่ได้ถูกทำร้ายสักหน่อย แต่เป็นผู้อาวุโสแปดต่างหากที่ถูกเจ้าทำร้าย! ผู้อาวุโสแปดเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ แล้วเขาจะยอมรับความอับอายที่เกิดขึ้นในที่สาธารณะแบบนี้ได้อย่างไร?
จะไปว่าเจ้ากระต่ายนั่นพูดได้ด้วย?
ผู้อาวุโสแปดโกรธจนตัวสั่น และชี้นิ้วไปที่ฮูหนิว “จ… เจ้า!”
มันเป็นความอัปยศที่น่าอับอายยิ่งนัก ทั้งที่เขาเป็นถึงจอมยุทธระดับสวรรค์แต่โดนเจ้าเด็กน้อยที่ทำให้อับอาย!
“ตาแก่นี่เป็นอะไรของเขากัน ข้าไม่ได้ทำร้ายเจ้าถึงตายสักหน่อย จะว่าไปใบหน้าของเจ้าแข็งยิ่งนักเกือบทำให้กรงเล็บของข้าหัก” เจ้ากระต่ายจ้องมองด้วยท่าทางดุร้าย
ผู้อาวุโสแปดผลักดันความโกรธไปที่เจ้ากระต่าย มันกำลังเยาะเย้ยเขา!
“ตาย!” เขากระโจนเข้าหาเจ้ากระต่ายทันที
“บรรพบุรุษตัวน้อย ช่วยข้าด้วย!” เจ้ากระต่ายกรีดร้อง มันเป็นแค่สัตว์อสูรระดับก้าวสู่เทวา แต่ก่อนหน้านี้มันกล้าที่จะข่วนหน้าผู้อาวุโสแปด แต่เมื่อเผชิญหน้ากันโดยตรงมันจะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไร?
เจ้ากระต่ายรีบวิ่งหนีทันที และไปหลบอยู่ด้านหลังฮูหนิว และชี้อุ้งเท้าไปที่ผู้อาวุโสแปด “บรรพบุรุษตัวน้อยจัดการมันเลย!”
ฮูหนิวยกแขนเสื้อขึ้น การต่อสู้เป็นอะไรที่นางชื่นชอบที่สุด!
ผู้อาวุโสแปดเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ฮูหนิวทันที และต่อยหมัดที่อัดแน่นไปด้วยเจตตำนงแห่งเต๋าออกไป มันดูน่าสะพรึงกลัวมาก
ดูเหมือนเขาจะโกรธจนเลือดขึ้นหน้า และลืมไปแล้วว่าที่นี่คือเมืองฮัน และระเบิดความแข็งแกร่งออกมาทั้งหมด ตอนนี้เขาอยากจะฆ่าทุกคนเพื่อปิดปาก และความอัปยศของเขาก็จะไม่มีใครล่วงรู้
ตู้ม ตู้ม ตู้ม
ฮูหนิวจับขาเจ้ากระต่ายและโยนใส่ผู้อาวุโสแปดอีกครั้ง
“ข้าอีกแล้วเรอะ” เจ้ากระต่ายกรีดร้อง เมื่อมันปะทะ มันก็ข่วนใบหน้าของผู้อาวุโสแปดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันรุนแรงกว่าเดิม และทำให้ผู้อาวุโสแปดมึนงง ก่อนที่จะรีบหลบหนีออกมา
“เจ้า! เจ้า!” ผู้อาวุโสแปดชี้นิ้วไปที่ฮูหนิวและเจ้ากระต่าย เขาไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวของทั้งสองได้ทันแม้แต่ครั้งเดียว และในขณะที่เขาก้าวเดิน เขาก็สะดุดล้มอย่างกะทันหันและล้มไปนอนกองกับพื้น
“ผู้อาวุโสแปดแพ้แล้ว!”
ผู้คนของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ใต้ที่อยู่รอบๆส่งเสียงอุทานออกมาทีละคนด้วยสีหน้าตกใจ
จอมยุทธระดับสวรรค์เกือบเป็นตัวตนไร้พ่ายในสายตาของพวกเขา แต่เขากลับพ่ายแพ้ให้กับเด็กสาวตัวน้อยและกระต่าย ถ้าพูดให้คนอื่นฟัง คนอื่นจะเชื่อที่พวกเขาพูดหรือไม่?
นี่จะต้องเป็นความฝันอย่างแน่นอน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ฮูหนิวหัวเราะคิกคักและปรบมือ “ตลก ตลกจริงๆ! เอาล่ะ ต่อไปใครอยากเล่นต่อ?” สายตาของนางกวาดมองไปที่ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสสี่ ทำให้พวกเขาทั้งสองคนรู้สึกถูกกดดันอย่างหนัก
เมื่อครู่ที่พวกเขามองการโจมตีของฮูหนิว การโจมตีของอีกฝ่ายนั้นไม่มีอะไรเลย นอกจากความเร็ว แต่นั่นมันรวดเร็วเกินไป แม้แต่พวกเขายังต้องรู้สึกทึ่ง
แม้ว่าความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสแปดจะด้อยกว่าพวกเขาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ หากพวกเขาถูกแทนที่มันอาจเป็นพวกเขาเองที่ต้องตกอยู่ในสภาพนั้น!
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ยังมีใครอีกไหมที่ต้องการให้ข้าเปลี่ยนชื่อ?”
ผู้คนของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์สาขาใต้ไม่กล้าพูดอะไรออกมา แม้แต่ผู้อาวุโสแปดยังถูกจัดการ และผู้อาวุโสอีกสองคนยังกลายเป็นใบ้ แล้วพวกเขาจะกล้าพูดได้อย่างไร?
“ถ้างั้นพวกเราไปกันเถอะ” หลิงฮันกล่าว
“ไปกันเลย!” ฮูหนิวกระโดดโลดเต้น และคว้าหูของเจ้ากระต่ายแล้วลากไป
“อ๊าก เจ้ากำลังทำร้ายข้า!” เจ้ากระต่ายกรีดร้อง
ดวงตาที่งดงามของมู่เฟยเหยาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ครั้งแรกที่นางพบเจอกับหลิงฮัน อีกฝ่ายเป็นคนที่อ่อนแอมาก ในตอนนั้นนางสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ด้วยนิ้วมือเดียว แต่ตอนนี้นางเพิ่งจะทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบาน ในขณะที่อีกฝ่ายทิ้งนางไม่เห็นฝุ่นและนางทำได้แค่แหงนหน้ามองขึ้นไป
หลิงฮันกลับไปที่เมืองจักรพรรดิของจักรพรรดิจันทราม่วง และในอีกประมาณสิบวันหม่าตั๋วเป่าน่าจะแก้ปัญหาเรื่องตราสัญลักษณ์เสร็จ และนั่นจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับห้านิกายโบราณ
เขาไม่ต้องการที่จะพลาดการแสดงครั้งยิ่งใหญ่นี้
เมื่อหลิงฮันกลับมาถึง เขาเห็นเงาของดาบอยู่เหนือพระราชวัง นั่นน่าจะเป็นตราสัญลักษณ์ที่หม่าตั๋วเป่าสร้างขึ้น ซึ่งหลิงฮันสามารถสัมผัสถึงมันได้ และมันได้รวบรวมพลังของผู้คนจำนวนมากเอาไว้แล้ว
น่าทึ่งมาก เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จักรวรรดิจันทราม่วงนั้นก่อตั้งมานานกว่าจักรวรรดิต้าหลิงมาก ที่เหลืออยู่แค่ศรัทธาและความเชื่อมั่นของผู้คนเท่านั้น
นอกจากนี้ ภูมิภาคกลางมีขนาดกว้างใหญ่ และระดับโดยภาครวมของจอมยุทธอยู่ในระดับที่สูงมาก อีกไม่นานตราสัฐลักษณ์น่าจะเทียบได้กับระดับทลายมิติแล้ว
“โอ้ว น้องชายตัวดำ เป็นเหมือนที่เจ้าพูดเอาไว้เลย หลังจากที่ข้าสร้างตราสัญลักษณ์ มันทำให้ข้ารู้สึกเต็มไปด้วยพลัง และเหมือนข้าจะแบกรับมันไม่ไหว” หม่าตั๋วเป่ากล่าวพรางถอนหายใจ
หลิงฮันขมวดคิ้วและพูดว่า “พี่ชายหม่า ท่านฝึกฝนทักษะบ่มเพาะกายา แต่ก็ยังแบกรับพลังแห่งจักรภพไม่ไหวอย่างนั้นรึ?”
“พลังแห่งจักรภพที่สามารถแบกรับได้นั้นขึ้นอยู่กับสองปัจจัย อย่างแรกคือระดับพลัง อย่างที่สองกายหยาบ ในเรื่องของระดับพลังนั้น ข้าทะลวงผ่านระดับทลายมิติแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาต่อไป นอกจากขัดเกลาร่างกายเท่านั้น และตอนนี้กายหยาบของข้าแข็งแกร่งเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบแล้ว และดูเหมือนว่านี่คือขีดจำกัดของมัน” หม่าตั๋วเป่าส่ายหัว
แต่เขาก็หัวเราะออกมาทันที “อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับการเปิดสวรรค์ครั้งก่อน พลังแห่งจักรภพที่ข้าสามารถแบกรับได้อย่างน้อยก็เพิ่มขึ้นสองเท่า และทำให้ข้ามีความมั่นใจสามสิบเปอร์สิบที่จะเปิดสวรรค์สำเร็จ!”
แค่สามสิบเปอร์เซ็นต์!
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ อย่างแรกมันเป็นเพราะความแข็งแกร่งของหม่าตั๋วเป่า พลังต่อสู้ของอีกฝ่ายจะต้องมากกว่าระดับทลายมิติสิบห้าดาวอย่างแน่นอน และมีกายหยาบเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบ
แต่ทว่าความแข็งแกร่งและกายหยาบดังกล่าวบวกกับพลังแห่งจักรภพ โอกาสที่เขาจะทำสำเร็จยังมีแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ถ้าเป็นหลิงฮันล่ะ?
หลิงฮันถามตัวเองว่าถ้าเขาบรรลุระดับทลายมิติ โอกาสที่เขาทำสำเร็จน่าจะมากกว่าหม่าตั๋วเป่า
และพลังต่อสู้ของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่า แล้วโอกาสที่เขาจะเปิดสวรรค์สำเร็จจะเป็นเท่าใด เมื่อเทียบกับหม่าตั๋วเป่า?