Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 826
“พี่ชายหม่า ถ้ามีเรื่องบางเรื่องที่พี่ชายทำไม่ไหว ก็ควรให้เป็นหน้าที่ของข้า…” หลิงฮันตัดบทพูดและชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า
ถ้าเปิดสวรรค์ได้สำเร็จก็ดีไป แต่ถ้าหากล้มเหลวล่ะ? สวรรค์และปฐพีจะต้องลงทัณฑ์อย่างเกรี้ยวกราดแน่นอน ไม่เช่นนั้นแล้วจักรวรรดิโบราณของหม่าตั้วเปาในอดีตจะถูกทำลายได้อย่างไร?
ที่พวกเขาต้องหลับใหลเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี บางที่นั่นอาจจะเพื่อหลบซ่อนจากสายตาของสวรรค์และปฐพี
หม่าตั้วเปาส่ายหัว “พวกเรามีเวลาไม่มากแล้ว ถ้าเกิดการชำระล้างเริ่มขึ้น พวกเราก็จบสิ้น”
เมื่อการหลอมโลกให้เป็นเม็ดยาเริ่มขึ้น ตัวตนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะลงมา และถึงแม้พวกเขาจะถูกปิดกั้นพลังเอาไว้ที่ระดับทลายมิติ แต่พลังต่อสู้ของพวกเขาก็ยังคงแข็งแกร่งและไร้เทียมทานอยู่ดี
หลิงฮันพยักหน้า พวกเขาไม่มีเวลาแล้วจริงๆ
ในวันถัดมา พวกเขาก็เริ่มต้นมุ่งหน้าลงมือจัดการกับห้านิกายโบราณ
หากมองจากมุมมองของคนทั่วไป นิกายโบราณทั้งห้านั้นตั้งอยู่ห่างไกลหลายพันไมล์ แต่ในสายตาของตัวตนระดับทลายมิติ ระยะทางเช่นนี้สำหรับพวกเขาแล้วย่อมใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน
เมื่อหม่าตั้วเปานำทัพ ราชันอีกเจ็ดคนที่เหลือก็มารวมตัวกับเขาและราชินีหยินพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังนิกายดาบสวรรค์
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้เหล่าจอมยุทธระดับสูงของห้านิกายโบราณได้ไปรวมตัวกันอยู่ที่นิกายสวรรค์เพื่อต่อต้านจักรวรรดิจันทราม่วง
นอกจากราชินีหยินกับราชันเพลิงไพศาลแล้ว ราชันคนอื่นๆก็คือราชันมหาดวงดารา ราชันมหาวารี ราชันขุนเขาเที่ยงธรรม ราชันเปิดตะวัน ราชันโลหะมัวหมอง และราชันพสุธารุ่งโรจน์ พวกเขาทุกคนล้วนแต่มีพลังต่อสู้สิบห้าดาว
ด้วยพลังเช่นนี้ย่อมไม่มีใครสามารถขวางทางพวกเขาได้ ด้วยการลงมือของราชันทั้งแปด พวกเขาสามารถเข้าใกล้ประตูของนิกายดาบสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ว
กองทัพของพวกเขามีคนไม่มาก นอกจากหลิงฮันแล้ว หม่าตั้วเปานำทหารมาเพียงหนึ่งพันคนเท่านั้น แต่พวกเขาล้วนแต่เป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ขั้นปลาย บวกกับรูปแบบอาคมหมู่ที่พวกเขาฝึกฝนแล้ว พลังต่อสู้ของพวกเขานั้นสามารถต่อสู้กับจอมยุทธระดับทลายมิติขั้นปลายได้อย่างสูสี
ศิษย์ของนิกายดาบสวรรค์ที่ขวางทางถูกจัดการหมดสิ้น ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็มาถึงด้านหน้าของประตูขึ้นเขาทางเข้านิกายดาบสวรรค์
กองทัพไม่อาจเดินหน้าได้ต่อเพราะมีรูปแบบอาคมคุ้มกันวางเอาไว้
“ให้ข้าจัดการเอง!” ราชันโลหะมัวหมองก้าวออกมาโดยถือหอกทองคำไว้ในมือ ดวงตาสองข้างของเขาเปล่งแสงสีทองออกมาพร้อมกับควบแน่นบอลแสงสีทองไว้ที่ปลายหอก ในตอนแรกบอลแสงมีขนาดเพียงเท่ากับขนาดของไข่ แต่หลังจากผ่านจากควบแน่นพลังถึงขีดสุดมันกลายเป็นมีขนาดเท่ากับลูกแตงโม
แววตาของหลิงฮันเปิดกว้าง พลังทำลายของบอลแสงนี้น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก
ทักษะที่ต้องใช้เวลารวบรวมพลังเช่นนี้ แม้ราชันโลหะมัวหมองจะไม่สามารถใช้มันในการปะทะจริงได้ แต่ตอนนี้เขามีสหายคอยช่วยคุ้มครองอยู่ ดังนั้นเขาก็สามารถใช้มันออกมาได้โดยไม่ต้องกังวล และรีดเค้นพลังของทักษะออกมาได้ถึงขีดสุด
ผ่านไปอย่างน้อยห้านาทีราชันโลหะมัวหมองก็ก้าวออกไปและใช้หอกทิ่มเข้าไปยังรูปแบบอาคมป้องกัน
‘เพล๊ง!’
หอกทิ้มทะลุเข้าไปในรูปแบบอาคมป้องกัน ทันใดนั้นเองบอลแสงก็ปลดปล่อยแสงสว่างอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา แสงสว่างที่ส่องประกายรุ่งโรจน์เช่นนี้ ผู้คนโดยรอบย่อมไม่อาจเปิดตาขึ้นมามองได้
‘ครืน ครืน ครืน’ พื้นดินและภูเขาของนิกายดาบสวรรค์เกิดการสั่นไหว แต่ผ่านไปไม่นานรูปแบบอาคมที่ถูกแทงทะลุก็กลับมามีสภาพมั่นคงเช่นเดิม
แม้แต่การโจมตีที่แข็งแกร่งของราชันโลหะมัวหมองที่ต้องใช้เวลารวบรวมพลังถึงห้านาทีก็ไม่สามารถทะลวงผ่านรูปแบบอาคมป้องกันตรงหน้าได้?
“ฮ่าๆๆ!” ในตอนนั้นเอง ราชันอีกเจ็ดคนที่เหลือก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“เฒ่าเจ็ด นี่พลังของเจ้าถดถอยถึงขนาดไม่สามารถทำลายรูปแบบอาคมป้องกันได้เลยงั้นรึ!”
“หรือเมื่อคืนเจ้าจะใช้แรงหนักไป?”
ราชันทั้งเจ็ดกล่าวหยอกล้อออกมาอย่างไม่ไว้หน้า
ใบหน้าของราชันโลหะมัวหมองบูดบึ้งและกล่าว “รูปแบบอาคมนี้แข็งแกร่งกว่าที่พวกเราเคยทำลายมาครั้งก่อนมากนัก”
หม่าตั้วเป่ายิ้มและเปิดปากพูดปลอบใจ “นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก หลังจากที่พวกมันเคยพ่ายแพ้พวกเรามาในสงครามก่อนๆ เหล่าห้านิกายโบราณจะต้องรู้สึกเจ็บปวดเน้นไปที่เพิ่มพลังป้องกันของพวกเขาเองแน่นอน เพราะงั้นการที่จะไม่สามารถทำลายรูปแบบอาคมป้องกันนี้ได้ก็ไม่ได้น่าแปลกใจ”
“เหอะ ก็สามารถป้องกันการโจมตีของข้าได้แค่ครั้งนี้เท่านั้นแหละ รอให้ข้ากลับมาอีกครั้งแล้วข้าจะบดขยี้รูปแบบอาคมนี้ให้ดู!” ราชันโลหะมัวหมองไม่อาจยอมรับได้
“กว่าจะถึงวันนั้นต้องเสียเวลาไปอีกเท่าใด!” ราชินีหยินส่ายหัวและก้าวออกมา “ให้ข้าจัดการเอง”
“พี่หญิงสี่! ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะทำลายมันเอง!” ราชันโลหะมัวหมอง ไม่คิดจะเลิกล้มความตั้งใจ
“อะไร? หรือเจ้าต้องการจะให้ข้าสั่งสอนเจ้า?” ราชินีหยินเลียริมฝีปาก รอบกายของนางปลดปล่อยกลิ่นอายอันชั่วร้ายออกมา
ราชันโลหะมัวหมองสะดุ้งตกใจกลัวทันที พี่สาวสี่ของเขานั้นมีนิสัยโหดเหี้ยมและขี้โมโห แม้แต่จักรพรรดิของพวกเขาก็ไม่กล้าแข็งข้อกับนาง
“เอาน่า เช่นนั้นก็ให้ข้าจัดการเอง” หม่าตั้วเปาเดินออกมาพร้อมกับพุงพลุ้ยคู่ใจและยิ้ม “ไม่จำเป็นต้องทำลายรูปแบบอาคมนี้ก็ได้ เพราะอย่างไรขอแค่พวกเราเจาะรูช่องว่างผ่านมันไปได้ก็พอ”
“เพียงแค่ผ่านไปก็พอ? องค์จักรพรรดิ ทำไมท่านถึงได้ทำตัวอ่อนแอเช่นนี้!” ราชินีหยินคัดค้านทันที
“นั่นสิ องค์จักรพรรดิทำไมท่านถึงไม่แสดงอำนาจออกมาให้มากกว่านี้!”
“ทำลายรูปแบบอาคมดีกว่า!” ราชันอีกเจ็ดคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน
หม่าตั้วเปาหัวเราะด้วยแววตาที่หรี่ลง “สหายรักทั้งหลาย หรือพวกเจ้าไม่พอใจในการตัดสินของข้า?”
“ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นแน่นอน!” ราชันทั้งแปดส่ายหัวอย่างว่าง่าย
ล้อเล่นรึเปล่า องค์จักรพรรดิของพวกเขาที่เห็นว่าปกติชอบพูดเล่นเช่นนี้ หากเมื่อใดเขาจริงจังขึ้นมา แม้แต่พระเจ้าก็ไม่อาจหนีพ้นจากการถูกสังหาร
“ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว!” หม่าตั้วเปายิ้มก่อนที่จะชี้นิ้วออกไปสุ่มๆ ‘ตูม’ รูปแบบอาคมป้องกันถูกผ่าเกิดเป็นช่องว่างทันที ขนาดของรูนั้นกว้างพอให้กองทัพผ่านเข้าไปได้พอดี
แข็งแกร่ง!
หลิงฮันแอบตกตะลึงอยู่ในใจ ก่อนหน้านี้การที่ราชันโลหะมัวหมองพยายามจะทำลายรูปแบบอาคมกับการที่หม่าตั้วเปาจะเปิดช่องว่างรูปแบบอาคมนั้นแม้ความยากจะต่างกัน แต่การที่เขาแค่ชี้นิ้วออกไปลวกๆก็สามารถเปิดช่องว่างบนรูปแบบอาคมป้องกันที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ก็สมแล้วกับที่เขาสามารถเป็นจักรพรรดิของราชันทั้งแปด
เขาแหงนมองไปบนเขา ตอนนี้นิกายดาบสวรรค์อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว