Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 915
ตั้งแต่หลิงฮันกลับที่พักมาเขาได้นั่งแค่ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เมื่อเขามองผ่านไปตูไปก็ต้องตกตะลึง
สุ่ยเยี่ยนยวี่!
‘แกร่ก’ ไม่ต้องรอให้เขาตัดสินไปว่าจะเปิดประตูดีหรือไม่ สุ่ยเยี่ยนยวี่ก็เป็นฝ่ายเดินชนกำแพงเข้ามาและมองมาที่เขาอย่างเย็นชา
“ศิษย์พี่สุ่ย ท่านกำลังบุกรุกที่พักของคนอื่นอยู่นะ ข้าคิดว่ามันถูกต้องมั้ง?”
“งั้นที่เจ้าแอบเข้าไปในบ่อน้ำพุหยกดำทั้งๆที่เป็นวันของผู้หญิงคือสิ่งที่ถูกต้องงั้นสิ?” สุ่ยเยี่ยนยวี่กัดฟัน ใบหน้าอันงดงามของนางเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ศิษย์พี่ นั่นมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!” หลิงฮันกล่าว
“ถ้าเป็นการเข้าใจผิด เจ้าจะแอบดูข้าเท่าไหนก็ได้ งะ งะ งั้นรึ…” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าวอย่างตะกุกตะกัก
หากนางจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีความอาย นางก็ต้องสังหารหลิงฮันก่อน
หลิงฮันถอนหายใจ “จะอย่างไรข้าก็เป็นผู้ชาย ข้าจะรับผิดชอบเอง”
สุ่ยเยี่ยนยวี่เค้นเสียง “เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไร? หากคิดจะแต่งงานกับข้า เจ้าคงฝันหวานเกินไป!”
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าว “ตอนนี้ข้าไม่มีทั้งพลังและอำนาจ แต่ขอเวลาข้าหนึ่งร้อยปี! ข้าจะไม่ขอให้ศิษย์พี่แต่งงานกับข้าแน่นอนเพราะข้ามีคนรักแล้ว แต่สักวันข้าจะรับผิดชอบท่านโดยวิธีอื่นแทน”
ทำไมรุ่นเยาว์ผู้นี้ถึงได้มั่นใจในตัวเองขนาดนี้?
ด้วยพรสวรรค์ของเขาแน่นอนว่าการบรรลุระดับพลังของพระเจ้านั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่นั่นก็แค่ระดับภูผาวารีเท่านั้น เจ้าจะต้องติดอยู่ในระดับพลังที่ว่าอย่างน้อยพันปี ซึ่งนี่เป็นในกรณีของสุดยอดอัจฉริยะ หากเป็นจอมยุทธทั่วไป พวกเขาจะต้องใช้เวลาเป็นแสนปี!
เช่นนั้นแล้วแค่ร้อยปีเจ้าจะทำอะไรได้?
สุ่ยเยี่ยนยวี่ส่ายมือปฏิเสธและกล่าว “ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากขนาดนั้น คำขอของข้าเป็นเพียงเรื่องง่ายๆ ในขณะที่อยู่ในสำนัก เจ้าต้องแสร้งเป็นคนรักของข้า!”
พรวด!
หลิงฮันสำลักออกมา เจ้าบอกว่าอย่าให้ข้าฝันหวานเกินไปแต่เจ้ากลับเป็นฝ่ายบอกให้ข้าแสร้งเป็นคนรักของเจ้าเนี่ยนะ?
“อย่าเข้าใจผิด ข้าแค่จะยืมมือเจ้าเพื่อสลัดใครบางคนให้หายไปจากชีวิตข้าเท่านั้น” สุ่ยเยี่ยนยวี่อธิบาย นางไม่อยากให้หลิงฮันเข้าใจผิด
“จ้าวหลุน?” หลิงฮันกล่าว
สุ่ยเยี่ยนยวี่พยักหน้า ชายคนนี้คือฝันร้ายที่คอยตามตื้อนางไม่เลิก
หลิงฮันยิ้ม “ท่านเข้าใจหาปัญหาให้ข้าจริงๆ ศิษย์พี่จ้าวไม่ใช่จอมยุทธระดับภูผาวารีทั่วไป แต่ยังเป็นบุตรชายของนายพลอีกด้วย ท่านคิดว่าข้าจะขัดขืนเขาได้? บางทีเมื่อเราปล่อยข่าวที่ว่าเราเป็นคู่รักเราออกไป วันรุ่งขึ้นข้าอาจจะได้ไปนอนนิ่งอยู่ข้างถนนก็ได้”
“เจ้ามีอุปกรณ์มิติ มีรึที่จะตายง่ายๆ?” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าวในเชิงตำหนิ
หลิงฮันหัวใจเต้นแรง แต่หน้าของเขายังคงสงบนิ่ง “อุปกรณ์มิติอะไร?”
“เจ้ารู้อยู่แก่ใจ!” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าว “แล้วคำตอบของเจ้าล่ะ?”
“งั้นหากข้าปฏิเสธ?” หลิงฮันกล่าว
“ข้าจะสังหารเจ้าและฆ่าตัวตายตาม จะอย่างไรข้าก็ถูกจ้าวหลุนตามติดอยู่แล้ว หากตายข้าก็สบายใจ” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าวอย่างสงบนิ่ง ดูเหมือนว่าความติดฆ่าตัวตายของนางจะไม่ใช่ความคิดชั่ววูบ
หลิงฮันรู้สึกสงสารนางทันที นางต้องเกลียดจ้าวหลุนขนาดไหนถึงขนาดยอมฆ่าตัวตายเพื่อหลบหนี
เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะและกล่าว “ก็ได้ข้าตกลง แต่ที่ข้ายอมตกลงไม่ใช่เพราะกลัวคำขู่ของเจ้า ข้าเพียงคิดว่าแม้เจ้าจะไม่ชอบผู้ชายคนนั้นขนาดไหน เจ้าก็ไม่ถึงกับต้องฆ่าตัวตาย”
สุ่ยเยี่ยนยวี่ประหลาดใจ นางมองหลิงฮันอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้า “ขอบคุณ!”
“ที่จริงจ้าวหลุนนั้นเป็นทั้งอัจฉริยะและเป็นบุตรของผู้อาวุโส ทำไมท่านถึงต้องเกลียดเขาขนาดนั้น?” หลิงฮันเอ่ยถาม
สุ่ยเยี่ยนยวี่ครุ่นคิดก่อนจะกล่าวตอบ “ชายคนนั้นคือความมืดมิด เมื่อใดอยู่กับเขาข้ารู้สึกราวกับอยู่ในรังเดียวกับงูเห่า เคยมีคนพูดนินทาว่าร้ายเขา เมื่อเขาได้ยินแม้เขาจะยิ้มและบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ในวันรุ่งขึ้นครอบครัวของคนที่ว่าร้ายเขาได้ถูกสังหารทิ้งทั้งตระกูล”
ร่างของหลิงฮันสั่นสะท้าน แค่พูดนินทาเล็กน้อยถึงกับต้องลงมือเหี้ยมโหดขนาดนั้นเชียว?
“เจ้าขนลุกรึ?” สุ่ยเยี่ยนยวี่ยิ้ม
“ก็นิดหน่อย แต่ไม่ว่าอย่างไรอำนาจของตระกูลจ้าวก็ยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับข้าในตอนนี้” หลิงฮันส่ายหัว อาวุโสจ้าวเป็นจอมยุทธระดับดาราขั้นต้น ซึ่งไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่าเขาในตอนนี้กี่เท่า
ถึงแม้หลิงฮันจะมั่นใจในศักยภาพของตนเอง แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะสามารถจัดการกับตระกูลจ้าวได้ในระยะเวลาหนึ่งร้อยปี
“เจ้ามีทางเลือกแค่สองทาง หนึ่งคือตายด้วยเงื้อมมือข้า สองคือตายด้วยเงื้อมมือจ้าวหลุน” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าวอย่างเย็นชา
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ข้าไม่ตายหรอก!”
เขายังมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบอีกมากมาย เขาจะมาตายที่นี่ได้อย่างไร?
“เจ้ามั่นใจในตัวเองก็ดีแล้ว แต่ถ้าเจ้าตาย ข้าจะสาปแช่งเจ้าไปตลอดชีวิต!” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าวอย่างสงบนิ่ง
หลิงฮันอดกล่าวออกไปไม่ได้ “ในเมื่อเราเป็นคู่รักกันแล้ว คืนนี้ท่านค้างนี้นี่เป็นอย่างไร?”
‘ฉึบ!’
ใบดาบจ่อเข้าที่คอหลิงฮันทันที สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเป็นคนรักกับเจ้าเพราะเจ้าไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว หากเจ้าตายข้าก็จะเป็นม่าย ซึ่งจะถือว่าข้าติดหนี้บุญคุณเจ้า แต่ถ้าเจ้าคิดจะใช้โอกาสนี้หาประโยชน์กับข้า ข้าก็จะสังหารเจ้าทิ้งซะ!”
หลิงฮันยกมือขึ้นและยิ้ม “ข้าแค่ล้อเล่น แต่ถึงแม้พวกเราจะเป็นคู่รักกันหลอกๆ แต่ทำเราจะทำให้คนอื่นๆเชื่อได้อย่างไร?”
สุ่ยเยี่ยนยวี่มองมาที่เขาก่อนจะชักดาบกลับและกล่าว “เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น พวกเราจะใกล้ชิดกันเหมือนคู่รักจริงๆ แต่เจ้าอย่าล้ำเส้นเกินไป ไม่เช่นนั้นข้าอาจจะสังหารเจ้าได้”
“เอาเช่นนั้นก็ได้” หลิงฮันลูบคอ โชคดีที่หนังเขาหนาทนทาน ไม่เช่นนั้นคอเขาคงจะมีเลือดออกแล้ว
สุ่ยเยี่ยนยวี่รู้สึกตึงเครียด นั่นเพราะอีกไม่นานนางก็จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลจ้าวแล้ว จะให้นางไม่รู้สึกกังวลได้อย่างไร?
ที่จริงแล้วสิ่งที่นางทำอยู่นี้นางใช้เวลาคิดแล้วทั้งคืนก่อนที่จะตัดสินใจอย่างหนักแน่น
ตระกูลจ้าวเป็นขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ แค่คิดก็ทำให้ผู้คนหวาดกลัวแล้ว
สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกผิด “ข้าจะให้เวลาเจ้าสามวัน เมื่อครบสามวันแล้วข้าจะประกาศเรื่องที่เราคุยกันไว้ให้ออกไป”