Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 918
ทุกคนยอมรับว่าหลิงฮันเป็นคนที่หยิ่งยโสและภาคภูมิใจในตัวเอง ถึงกล้าเผชิญหน้ากับจอมยุทธระดับสุริยันจันทราที่สามารถทำให้ทุกคนต้องคุกเข่าและเชื่อฟัง
แต่ตอนนี้หลิงฮันกล้าพูดแบบนั้นออก ทำให้ปากของทุกคนกระตุกเล็กน้อย นอกจากเขาจะหยิ่งยโสแล้วยังไร้ยางอายด้วยที่คิดจะใช้ประโยชน์จากอีกฝ่าย
สีหน้าของหลัวข่ายเฟิงดูมืดมน
แม้ตระกูลหลัวจะเป็นตระกูลที่มั่งคั่ง ผลึกก่อเกิดหนึ่งหมื่นก้อนไม่ใช่ปัญหา แต่อีกฝ่ายเป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติเท่านั้น หากพวกเขายอมรับเงื่อนไขของอีกฝ่าย ไม่ใช่ว่าตระกูลหลัวของพวกเขาจะต้องเสียหน้าหรอกหรือ?
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวเลวร้ายมากสำหรับตระกูลหลัว
“หนึ่งหมื่นหรือแปดพันก้อนมากเกินไป ข้าให้เจ้ามากสุดได้แค่หนึ่งร้อยก่อนเท่านั้น! หลัวข่ายเฟิงกล่าว
อึก!
ศิษย์หลายคนถึงกับอ้าปากค้าง หลิงฮันกล้าที่จะต่อรองกับอีกฝ่าย!
หลิงฮันส่ายหัวและพูดว่า “แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นกับข้าล่ะ?ถ้าศิษย์พี่กู่หลิงยื่อมาช่วยข้าไม่ทันเวลา ข้าคงถูกแรงกดดันของผู้อาวุโสบดขยี้ไปแล้ว! แค่นั้นยังไม่พออีกหรือ? ผลึกก่อเกิดห้าพันก้อน น้อยกว่านั้นข้าไม่ยอมรับ”
กู่หลิงยื่อเป็นอัจฉริยะแห่งศาสตร์ปรุงยา นางพยักหน้าเห็นด้วยทันทีและพูดว่า “การกลั่นแกล้งข่มเหงนักปรุงยาอย่างพวกเรา แค่ผลึกก่อเกิดหนึ่งพันก้อนยังไม่เพียงพอ”
หลิงฮันรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฆ่าสองพี่น้องตระกูลลั่ว ดังนั้นเขาจึงเรียกร้องค่าชดเชยแทน
หลัวข่ายเฟิงโกรธจนอย่างจะฆ่าคน อีกฝ่ายถูกลั่นแกล้งหรือไม่? ไม่ใช่ว่าเป็นตระกูลหลัวของพวกเขาหรอกหรือที่ถูกกลั่นแกล้ง? หลัวป้าถูกตบหน้าสองครั้งจนหน้าบวม ทำไมเจ้าถึงไม่พูดถึงเรื่องนั้นเลย? แน่นอนว่าเขาไม่เห็นกู่หลิงยื่ออยู่ในสายตา แต่เขาไม่อาจมองข้ามฝ่ายปรุงยาที่อยู่เบื้องหลังของนางได้
หลัวข่ายเฟิงกะแอมและพูดว่า “ผลึกก่อเกิดห้าร้อยก้อน!”
“สี่พัน!”
“หนึ่งพัน!”
“สามพัน”
“สองพัน”
“ตกลง”
หลัวข่ายเฟิงสบัดมือนำผลึกก่อเกิดออกมา หลิงฮันเก็บผลึกก่อเกิดพวกนั้นเข้าไปในหอคอยทมิฬทันทีโดยที่ยังไม่ตรวจสอบ
“กลับ!” หลัวข่ายเฟิงตะโกนใส่สองพี่น้องตระกูลหลัว หากไม่ใช่เพราะเจ้าเด็กสองคนนี่กับอีกแค่จอมยุทธระดับทลายมิติทำไมเขาจะจัดการด้วยไม่ได้?
สีหน้าของสองพี่น้องตระกูลหลัวเหมือนเด็กที่ทำความผิด พวกเขาไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวและเดินจากไปอย่างเชื่อฟัง
บริเวณโดยรอบศิษย์หลายคนต่างส่งเสียงฮือฮา
เหว่ยเชียนฉู่รู้สึกประหลาดใจ การมาถึงของกู่หลิงยื่อได้ช่วยหลิงฮันเอาไว้ แต่ถึงแม้ว่านางจะไม่มา การที่หลิงฮันเป็นนักปรุงยาก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เช่นกัน
เจ้าเด็กนี่ช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นฝ่ายชนะตั้งแต่แรก แต่ก็ยังทำเป็นยอมเพื่อใช้ประโยชน์จากตระกูลหลัว
นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก
พูดตามตรง แม้แต่เหว่ยเชียนฉู่เองก็ยังไม่กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลหลัว ว่ากันว่าตระกูลหลัวไม่ได้มีแค่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราสิบคนเท่านั้น แต่ยังมีจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดอยู่ด้วย หากไม่ใช่จอมยุทธระดับดาราเป็นคนจัดการ จะไม่มีใครสามารถต่อกรกับเขาได้เลย
ใครมันจะกล้าสวมหัวใจสิงเพื่อใช้ประโยชน์จากตระกูลหลัว?
“เจ้าจงระวังตัวเอาไว้ด้วย!” เหว่ยเชียนฉู่กล่าว แววตาของเขาดูเป็นกังวลเล็กน้อย
แม้ครั้งนี้หลิงฮันจะไม่เป็นไร ไม่เพียงแค่เขาจะตบหน้าหลัวป้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังได้รับผลึกก่อเกิดมาด้วย แล้วตระกูลหลัวจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร?
“ขอบคุณผู้อาวุโสเหว่ยที่เป็นห่วงข้า ศิษย์จะระมัดระวังตัวให้มาก” หลิงฮันกล่าวด้วยความเคารพ ในเมื่ออีกฝ่ายหวังดีกับเขา เขาก็ต้องทำดีกลับ
เหว่ยเชียนฉู่พยักหน้าและจากไป
“หลิงฮัน หลิงฮัน ตกลงเจ้ามีเทคนิคปรุงยาพิเศษหรือไม่?” กู่หลิงยื่อถามด้วยแววตาที่เปล่งประกาย นางยังคงไม่ลืมที่จะถามหลิงฮัน
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ใช่แล้ว ข้ามีเทคนิคพิเศษ”
“เจ้าสอนข้าได้ไหม?” กู่หลิงยื่อรีบถามออกมาทันที
“เอ่อ…”
หลิงฮันไม่คิดที่จะปกปิด เพราะนี่เป็นเทคนิคที่เขาคิดค้นขึ้นมาเอง ทว่ามีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่สามารถใช้สามเพลิงชี้นำได้เต็มประสิทธิภาพ
ถึงแม้ว่าเขาจะสอนนาง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่นางจะใช้ได้เหมือนกับเขา!
อย่างไรก็ตาม หลิงฮันมองผู้หญิงคนนี้ออก นางเป็นคนชอบแสวงหาความรู้และมีพรสวรรค์ด้านการปรุงยาที่ไม่ธรรมดา
หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งและพูดว่า “พวกเรามาคุยเรื่องนั้นกันเถอะ”
เขาไม่สามารถสอนสามเพลิงชี้นำให้กับคนอื่นที่เพิ่งรู้จักได้ แต่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายเกี่ยวกับเทคนิคการปรุงยาได้
กู่หลิงยื่อตอบตกลงทันที
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็พูดคุยกันอย่างยาวนาน จนท้องฟ้ามืดครึ้มโดยที่ไม่รู้ตัว
……
ณ ตระกูลหลัว
สองพี่น้องตระกูลหลัวอยู่ในห้องโถงหลัก ขณะที่ผู้นำตระกูลหลัวหลัวหงกำลังนั่งด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง
“เจ้ารู้หรือไม่ทำไมข้าถึงอยากลงโทษพวกเจ้า?” หลัวหงถาม
หลัวป้ากล่าวว่า “เพราะพวกเราได้ทำให้ตระกูลหลัวต้องอับอาย!”
หลัวหงส่ายหัวและพูดว่า “เรื่องแค่นั้นถือว่าเล็กน้อย แต่เรื่องที่สำคัญกว่าคือพวกเจ้าสองคนทำให้ข้ารู้สึกผิดหวังมาก เจ้าเคลื่อนไหวโดยที่ยังไม่ตรวจสอบให้ดี และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ตั้งแต่เริ่มแล้ว”
“ขอรับ!” สองพี่น้องตระกูลหลัวพยักหน้า แม้จะกู่หลิงยื่อจะไม่ปรากฏตัวออกมา แต่หลิงฮันก็สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เช่นกัน
“ครั้งหน้าหากพวกเจ้าต้องการเล่นงานอีกฝ่าย พวกเจ้าจะต้องหาจุดอ่อนให้ดีเสียก่อนและอย่าปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสพลิกสถานการณ์” หลัวหงกล่าวแนะนำ
สองพี่น้องตระกูลหลัวพยักหน้า
“แล้วเจ้ามั่นใจว่าจะจัดการอีกฝ่ายได้หรือไม่?” หลัวหงถามอีกครั้ง
หลัวป้าอยากจะจัดการหลิงฮันให้ได้ แต่ในตอนที่เขาถูกหลิงฮันตบหน้า ทำให้ความมั่นใจของเขาหายกระเจิงแต่ตอนนี้เขาอยู่ต่อหน้าผู้นำตระกูล เขาจึงพูดได้คำเดียวเท่านั้นว่า “ข้ามั่นใจ!”
“หึ่ม!” หลัวหงกล่าวด้วยความไม่พอใจอีกครั้งว่า “พวกเจ้าคิดที่จะจัดการอีกฝ่าย แล้วพวกเจ้ารู้ประวัติของเขาหรือไม่?”
“ประวัติ?” สองพี่น้องตระกูลหลัวดูงง พวกเขาจำเป็นต้องรู้ประวัติจากคนที่มาจากโลกใบเล็กด้วยรึ?
“โง่เขลา!” หลัวหงตะคอก “คนที่เจ้าจะจัดการไม่ได้เป็นจอมยุทธที่มาจากโลกใบเล็ก แต่เขาเป็นผู้ที่เปิดสวรรค์ขึ้นมา!”
สีหน้าของสองพี่น้องตระกูลหลัวกลายเป็นตกตะลึงทันที