Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 974
หลิงฮันไม่มีความสามารถเข้าไปในหลุม แม้กระทั่งหินยังแหลกเป็นผุยผงได้อย่าง่ายดาย
นี่แสดงให้เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่าเขามาก
แต่อีกฝ่ายไม่สามารถออกมาได้ มิฉะนั้นมันคงไม่พูดล่อลวงเขา
“เผ่ามนุษย์เอ๋ย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?” ใบหน้าอ้าปาก แต่หลังจากนั้นชั่วครู่เสียงของมันก็ดังอยู่ในจิตใจของหลิงฮัน “เปิดทางให้ข้า แล้วข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นผู้ปกครองจักรวรรดิ”
หลิงฮันรู้สึกสนใจตัวตนของอีกฝ่ายมาก เขาเลยพูดว่า “โอ้ว แล้วเจ้าเป็นใครกันล่ะ?”
เสียงหรือสัมผัสสวรรค์ของเขาไม่สามารถถ่ายทอดไปยังอีกฝ่ายได้ แต่อีกฝ่ายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่ง เขาสามารถเข้าใจที่หลิงฮันพูดแล้วแสยะยิ้มและพูดว่า “ข้าเป็นหนึ่งในจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้ เจ้าสามารถเรียกข้าว่าจอมมารก็ย่อมได้!”
หลิงฮันรู้สึกแปลกใจและพูดว่า “เจ้าเป็นคนของดินแดนใต้พิภพ!”
โดยทั่วไปแล้วจะมีแค่สิ่งมีชีวิตจากดินแดนใต้พิภพเท่านั้นที่จะเรียกตัวเองว่าปีศาจ ในดินแดนใต้พิภพมันถือเป็นเรื่องปกติและแสดงถึงอำนาจพลังเช่นเดียวกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในเมื่ออีกฝ่ายเรียกตนเองว่าจอมมาร แล้วเขาจะแข็งแกร่งระดับไหน?
หลิงฮันไม่รู้อะไรมากนัก แต่รู้ว่าบางทีจอมมารอาจแข็งแกร่กว่าจักรพรรดินีซะอีก!
ตำนานกล่าวไว้ว่าเขตแดนลี้ลับถูกสร้างขึ้นจากจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่ง หากเป็นแบบนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเป็นจุดอ่อนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับดินแดนใต้พิภพ ซึ่งสามารถทะลุผ่านทั้งสองดินแดนได้
ดังนั้น ร่างของมันเลยติดอยู่ระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับดินแดนใต้พิภพ?
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ข้าเป็นจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพ! เผ่ามนุษย์เอ๋ย จงรีบช่วยเหลือข้าเปิดทางออกเสีย แล้วข้าจะมอบปีศาจรับใช้และทักษะให้แก่เจ้า!” จอมมารยังคงพูดล่อลวงหลิงฮัน
“เจ้าคิดว่าข้าจะหลงกลเชื่อเจ้า?” หลิงฮันแสยะยิ้ม “เจ้ายังต้องอยู่ที่นี่!”
“เจ้ามนุษย์!” จอมมารคำราม “กำแพงนี่สามารถต้านทานข้าได้แค่ไม่กี่ร้อยไม่กี่พันปีเท่านั้น! แล้วข้าได้มอบโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้กับเจ้าแล้ว เจ้าอย่าได้โยนโอกาสที่ข้ามอบให้กับเจ้าจะดีกว่า!”
“ถ้างั้นข้าจะรอ!” หลิงฮันหัวเราะ “และเจ้าเป็นจอมมารจริงหรือ ถึงต้องให้จอมยุทธระดับภูผาวารีอย่างข้าช่วย”
จอมมารถึงกับไร้คำพูด ในความเป็นจริงถ้าเขาไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย เขาจะร้องขอความช่วยเหลือจากจอมยุทธระดับภูผาวารีหรือไม่? เขาเค้นเสียงและพูดว่า “เผ่ามนุษย์ นี่คือโอกาสสุดท้ายของเจ้า จงคิดให้รอบคอบ!”
หลังจากที่หลิงฮันทราบตัวตนของอีกฝ่าย เขาจึงไม่มีความคิดที่จะสมคบคิดกับอีกฝ่าย แล้วเปลี่ยนความสนใจเข้าไปในหอคอยทมิฬ เขาเห็นโขดหินสีดำมีอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่มีความซับซ้อนมากสลักอยู่
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงถูกกักขังอยู่ที่นี่
หลิงฮันไม่กล้าโลภมากและตัดสินใจนำโขดหินสีดำออกมาจากหอคอยทมิฬ เมื่อมันปรากฏออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่า มันก็ตกลงสู่หลุมดำทันที
ใบหน้าของจอมมารแสดงความโกรธเกรี้ยวออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่แล้วในไม่ช้ามันก็ถูกโขดหินสีดำทับ ตู้ม และใบหน้าของมันก็กลับหายเข้าไปในหลุมลึกทันที
“ม่ายยยยยยย-“ เสียงของจอมมารดังก้องอยู่ในจิตใจของหลิงฮัน แต่ในไม่ช้าเสียงของมันก็ขาดหายไปอย่างกะทันหัน นี่แสดงให้เห็นว่าโขดหินสีดำนี่คือผนึกนั่นเอง
หลิงฮันนั่งลงบนพื้นและครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
ถ้าเขตแดนลี้ลับดำรงอยู่เพื่อยับยั้งการเดินทางระหว่างทั้งสองโลก แล้วทำไมมันถึงเข้ามาได้?
ยิ่งไปกว่านั้น มันสามารถเข้าได้หนึ่งครั้งในทุกสิบปี และที่สำคัญที่สุดคือจอมยุทธที่อยู่เหนือกว่าระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดจะไม่สามารถเข้ามาได้
หลิงฮันไม่เข้าใจแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้จิตใจของทุกคนมุ่งเป้าไปที่ผลึกภูผาวารี โดยธรรมชาติแล้วพวกเขาคงไม่สนเรื่องเขตแดนลี้ลับเท่าไหร่นัก
แต่นี่ไม่ใช่ทางออกระยะยาว วันหนึ่งเขตแดนลี้ลับอาจถูกเจาะก็เป็นได้
หลิงฮันเดินออกจากถ้ำ คราวนี้เขาเก็บเกี่ยวได้อย่างมหาศาล เขาได้รับผลึกภูผาวารีแปดก้อน ซึ่งเจ็ดก้อนเป็นผลึกภูผาวารีที่มีคุณสมบัติพิเศษ นอกจากนั้นยังได้รับเนื้อพลังปราณด้วย เมื่อเขากลับไปมันจะมีประโยชน์ต่อกายหยาบของเขาอย่างมาก
ระหว่างทาง เขาพบผู้คนจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่าคนพวกนั้นมาที่นี่เพื่อตามล่าสมบัติ แล้วพวกเขาก็จ้องมองมาที่เขาอยากหวาดระแวงก่อนที่จะเดินหนีจากไปอย่างรวดเร็ว
ใครจะกล้าทำตัวผ่อนคลายที่นี่กัน?
ครึ่งวันต่อมา ในที่สุดหลิงฮันก็เดินออกมาจากถ้ำ เมื่อเขาเดินออกมา เขาเห็นสตรีสองคนกำลังนั่งอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่ตรงหน้าเขา ทั้งสองคนดูงดงามมาก แต่มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน
แน่นอนว่าสตรีทั้งสองคนคือสุ่ยเยี่ยนยวี่และหูเฟยหยิน
“หลิงฮัน ในที่สุดเจ้าก็ออกมาสักที เจ้าปล่อยให้ข้าและพี่สาวสุ่ยต้องรอ!” เมื่อเห็นหลิงฮัน หูเฟยหยินพูดบ่นทันที
หลิงฮันหันไปมองสุ่ยเยี่ยนยวี่และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องเป็นห่วง”
“ข้าไม่ได้เป็นห่วงสักหน่อย!” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าวด้วยท่าทางเขินอาย นางยังคงปากแข็งเหมือนเดิม
“แล้วเจ้าฆ่ามันสำเร็จหรือไม่?” หูเฟยหยินรีบถามทันที ในเมื่อนางนั่งรอหลิงฮันมานานจึงเป็นธรรมดาที่นางอยากจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้น
สุ่ยเยี่ยนยวี่ส่งเสียงหัวเราะและพูดว่า “จ้าวอสูรลาวาเป็นสัตว์อสูรระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุด หลิงฮันจะฆ่ามันได้ยังไง? อย่างมากเขาก็แค่ขโมยผลึกภูผาวารีและรีบเผ่นออกมาเท่านั้น!”
หลิงฮันวางมือลงบนใบหน้าของสุ่ยเยี่ยนยวี่และพูดว่า “ทำไมเจ้าต้องพูดจาดูถูกสามีของตัวเองด้วย?”
สุ่ยเยี่ยนยวี่รีบกระโดดไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของนางกลายเป็นสีแดงและพูดว่า “เจ้าอันธพาล!”
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ข้าแค่จับหน้าเจ้าก็เรียกข้าว่าอันธพาลซะแล้ว เจ้าช่างใส่ซื่อยิ่งนัก!”
“เอาล่ะ ต่อไปพวกเราจะเดินทางไปที่ภูเขากังหันลมเพราะมันอยู่ใกล้พวกเรามากที่สุด” หลิงฮันมองแผนที่และชี้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
ภูเขากังหันลมเชอมีผลึกภูผาวารีที่มีคุณสมบัติพิเศษอยู่ มันมียอดเขาทั้งหมดสิบแปดยอด มันมีรูปร่างคล้ายกังหันลม ยอดเขาทั้งสิบแปดก่อตัวเป็นกงล้อ ครึ่งหนึ่งอยู่ใต้ดินและครึ่งหนึ่งอยู่บนดิน
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีสายลมที่รุนแรงมากเพียงพอที่จะฉีกร่างของจอมยุทธให้กลายเป็นชิ้นๆ
ดังนั้นถ้าต้องการผลึกภูผาวารีของที่นี่ มันจึงเป็นเรื่องยากกว่าถ้ำเปลวเพลิงซะอีก
ผลึกภูผาวารีของที่นี่จะทำให้จอมยุทธสร้างอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่แหลมคมขึ้นมา เมื่อโจมตีออกไปจะทำให้พลังทำลายล้างเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ทั้งสามคนเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันถึงครึ่งทาง พวกเขาก็รู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจบรรยายได้ พรึบ พวกเขาหายไปจากที่เดิมและปรากฏตัวอยู่ในถิ่นทุรกันดารอีกครั้ง
ไม่เพียงแค่พวกเขาเท่านั้น อย่างน้อยคนหนึ่งพันคนถูกส่งมาที่นี่
เขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์กำลังจะปิดแล้ว!
หมดเวลาแล้วหรือ?
หลิงฮันรู้สึกเสียดาย มันยังมีสถานที่อีกหกแห่งที่มีผลึกภูผาวารีที่มีคุณสมบัติพิเศษอยู่ ซึ่งเขาไปได้แค่สองที่เท่านั้น มันยังไม่เพียงพอ!
แต่หลังจากนั้นชั่วครู่ หลิงฮันก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารของคนจำนวนมากกำลังเพ่งเล็งมาที่เขา
ฉัวะ แสงดาบพุ่งเข้ามาทางเขาหมายที่จะเอาชีวิต