Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - ตอนที่ 15 ขาดจุดประกาย
AGD : ตอนที่ 15 ขาดจุดประกาย
บ่าย 4 โมงรถเฟอร์รารี่สีแดงมาจอดที่ทางเข้าร้านสัมผัสประสบการณ์
จ้าวจือฮาวออกมาจากรถแล้วเห็นทางเข้าหลักของร้าน “โอ้! ร้านสัมผัสประสบการณ์แห่งนี้ไม่เล็กเลย เฉินโม่เอาโชคมาจากไหนกันน่ะ”
หลินหม่าวมองเขาอย่างดูถูก “พูดเหมือนนายไม่ได้เป็นเจ้าของร้านใหญ่ ๆ งั้นแหละ?”
จ้าวซือฮาวกล่าว “เฮ้ๆ นั่นมันธุรกิจของพ่อแม่ฉัน ไม่ใช่ของฉันซักหน่อย เฉินโม่ได้รับมันมาด้วยตนเองซึ่งแตกต่างกัน ลองเข้าไปดูข้างในกันเถอะ”
ชายหนุ่มสองคนก็เรียกเฉินโม่แล้วรอให้เฉินโม่ออกมาเปิดประตู
จ้าวซือฮ่าวใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ ถ้าเมื่อกี้เขาไม่ได้ออกมาจากรถเฟอร์รารี่ คงไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะเป็นคนรวยรุ่นที่สอง
อันที่จริงเสื้อผ้าที่เขาใส่ราคาแพงมากแต่จากเหตุผลบางอย่างเสื้อผ้าของเขาจึงดูไม่ต่างจากร้านแผงลอย
หลินหม่าวแต่งตัวเรียบร้อย ใส่เสื้อเชิ้ตพับแขนและกางเกงลำลอง นิสัยของเขาสุขุมเยือกเย็นทำให้เขาดูน่าเชื่อถือ
ประตูเปิดออก
“เข้ามาข้างในสิ”เฉินโม่ทักทายสหายทั้งสอง
จ้าวจือฮาวเข้ามาแล้วมองซ้ายมองขวา “โอ้โห้ เฉินโม่ร้านนี้ดูดีมาก วันหลังฉันจะต้องเรียกคุณเจ้าของร้านเน็ตคาเฟ่เฉินโม่แล้วสิ”
เฉินโม่พูดว่า “จริงจังหน่อยสิ นี่คือร้านสัมผัสประสบการณ์เลยนะ”
หลินหม่าวหันไปมองด้วยความอิจฉา “ทุกอย่างที่นี่ถูกจัดเตรียมโดยคณะผู้จัดแข่งเหรอ? น่าอิจฉาจริงๆ จนตอนนี้ฉันยังไม่มีร้านสัมผัสประสบการณ์เป็นของตัวเองเลย”
เฉินโม่พูดว่า “นายก็ยังเข้าร่วมการแข่งได้หนิ”
หลินหม่าวยิ้ม “เฮ้อ ฉันเคยเข้าแข่งแล้วแต่มันเกินไปที่จะเป็นแชมป์ รสนิยมคนดูส่วนใหญ่ค่อนข้างแปลกนะ ครั้งก่อนที่ฉันเข้าแข่งเกมก็ดีมากน่ะแต่คนดูไม่คิดอย่างนั้นนะสิ ฉันได้ที่สองและฉันก็ไม่กล้าเถียงคนอื่นหรอก”
ทั้งสามคนพูดคุยกันซักพักขณะที่เดินออกจากร้านและพบร้านอาหารใกล้ๆ
พวกเขาสามคนไม่ได้กินเยอะนัก แม้จ้าวจือฮาวจะร่ำรวยเขาก็ไม่ได้จุกจิกเรื่องอาหาร เขาสั่งอาหารห้าจานและเบียร์สองขวดมากินคู่กัน
“จือฮาว สตูดิโอของนายเป็นยังไงบ้าง?”เฉินโม่ถาม
จ้าวจือฮาวตักอาหารใส่ปากคำหนึ่งพลางพูดว่า “ก็แบบนั้นแหละ ฉันไม่ได้หวังให้ทำเงินให้หรอก ถึงยังไงมันก็มีไว้แค่เล่นเกมกับฉัน ถ้าฉันเอาชนะคนอื่นในเกมไม่ได้ ฉันก็จะเรียกคนหรือซักกลุ่มมารุมมัน”
หลินหม่าวพูดว่า “ให้ความหวังพวกเขาบ้างสิ”
จ้าวจือฮาวพูดอย่างโกรธ “งั้นฉันจะให้คนเหล่านี้ไปทำอะไรละ? ไม่ใช่แค่ให้ต่อสู้เพื่อฉันในเกมงั้นเหรอ”
เฉินโม่พูดว่า “ในเกมนายชอบวิ่งหนีไม่ใช่เหรอ?”
จ้าวจือฮาวส่ายหน้า “เฮ้ พูดแล้วสองวันนี้ทำให้ฉันเสียอารมณ์”
เฉินโม่ถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? นายถูกสั่งสอนมาเหรอ?”
จ้าวจือฮาวพูดว่า “<เอิร์ทออนไลน์> เกมวีอาร์ต่างประเทศที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้ ฉันเพิ่งไปเล่นมาแล้วมันทำให้ฉันเสียอารมณ์จริงๆ”
เฉินโม่ถามว่า “ยังไง?”
จ้าวจือฮาวพูดว่า “อย่าพูดถึงมันเลย นักออกแบบของเกมนี้เหี้ย! ฉันบอกนายเลยว่าทุกคนที่เข้าเกมจะถูกส่งตรงไปเกิดที่ถนนและมีเงินติดตัว 500 เหรียญ ทุกคนจะต้องทำงานเหมือนในโลกจริงเพื่อหาเงิน!”
“นายคิดว่าฉันจะเล่นเกมของมันเพื่อสัมผัสชีวิตแบบคนงานเหรอ? และฉันไม่พบวิธีเติมเงินในเกมเลย!”
“สิ่งที่น่าโมโหที่สุดคือมักมีคนโง่ๆมาหานายแล้วพยายามยัดความผิดให้นี่สิ และเมื่อนายตบตีพวกมันตำรวจจะมาจับนายทันที เพราะพวกมันชอบหาเรื่องนายฉันก็ต้องไปขอความช่วยเหลือจากพี่น้องของฉันแต่น่าเจ็บใจที่ฉันจะต้องนั่งรถไฟเพื่อไปตามหาพวกเขาเพราะเราไม่ได้เกิดเมืองเดียวกัน!”
เฉินโม่ยิ้ม “เหมือนจริงเกินไปหน่อยไหม?”
หลินหม่าวถอนหายใจ “นักออกแบบเกมต่างประเทศคนนี้ก็น่าทึ่งจริงๆ ไอเดียอย่างนั้นเขาก็ทำออกมาได้”
จ้าวจือฮ่าวรู้สึกไม่พอใจและพูดว่า “เขาน่าทึ่งแล้วไงแต่ฉันคิดว่าเป็นนักออกแบบโง่ๆมากกว่า เขาไม่คิดว่าจะมีประโยชน์อะไรถ้าถูกรังเกียจโดยผู้เล่น? ไม่ใช้เทคโลโนยีนี้ทำอย่างอื่นยังเป็นประโยชน์เสียกว่า?”
เฉินโม่พูดว่า “ไม่มีเหตุผลหรอก ที่จริงเราเจอประสบการณ์แบบนี้หลายครั้งแล้ว ก่อนอื่นเนื้อเรื่องหลักในเกมคืออะไร?”
จ้าวจือฮ่าวพูดต่อว่า “ส่วนที่น่าโมโหคือฉันมีเงินแต่เติมไม่ได้อยากจะซื้ออะไรนายต้องหามาเอง! เกมยังห้ามไม่ให้แลกเงินนอกเกมด้วยไม่งั้นเมื่อตรวจพบบัญชีจะถูกแบน ฉันไม่มีวันเล่นเกมนี้อีกแล้ว”
เฉินโม่ยิ้มแล้วพูดว่า “อย่าคิดมากหน่า รอให้ฉันสร้างเกมเสร็จนายจะใช้เงินซื้อของเทพๆแล้วกร่างท่าที่ต้องการเลยดีไหม!”
จ้าวจือฮ่าวส่งเสียงยี่ “จริงเหรอเฉินโม่ ฉันจะตั้งตารอเกมของนายและเติมเงินซื้อของเทพๆ! อย่าให้ต้องพูดฉันจะเติมซักพันหยวน!”
เฉินโม่ยิ้มแล้วพูดว่า “พันหยวน? พันหยวนจะรับรองได้แค่นายตายสมศักดิ์ศรีนิดหน่อยในเกมน่ะ”
“หืม?” จ้าวจือฮ่าวตกตะลึง “พันหยวนยังน้อยอีกหรือ? ตั๋วในการเข้าเล่นโคซเบต้าของ <เอิร์ทออนไลน์> แค่ 500 หยวนเอง”
เฉินโม่ก้มหน้าแล้วจิบชา “เอาล่ะ นายจะรู้เองถึงตอนนั้น”
หลินหม่าวพูดว่า “เฮ้ๆ อนาคตยังทางอีกยาวไกล จือฮ่าวธุรกิจหลักของสตูดิโอที่ทำตอนนี้คืออะไรเหรอ? มีผู้เล่นกี่คน?”
จ้าวจือฮาวคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ผู้เล่นเหรอ? บริษัทของเราเป็นสตูดิโอเราจึงไม่ต้องจัดการกิลด์โดยตรง หัวกิลด์จะจัดการผู้เล่นแทนนะ เราจึงไม่ต้องสื่อสารกับผู้เล่นโดยตรง”
หลินหม่าวถามว่า “นายออกคำสั่งหัวกิลด์ได้กี่คน ตอนที่เกมของฉันสร้างเสร็จนายสามารถดึงคนมาให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
จ้าวจือฮ่าวพูดว่า “ขึ้นอยู่กับว่านายต้องการเท่าไหร่ ฉันรู้จักหัวกิลด์หลายสิบคนอยู่และจำนวนผู้เล่นควรจะประมาณสองสามพันคนที่ดึงมาได้ มันยากที่จะพึ่งพาคนเหล่านี้สนับสนุนรายได้เกมของนายแต่ก็พอสนับสนุน”
หลินหม่าวถอนหายใจ “เกมอินดี้ที่ฉันสร้างนั้นโฆษณาลำบากและมีแต่รูโหว่ด้วย แชนเนลเหล่านั้นมองว่ามันแย่ แถมขาดทรัพยากรอีก”
จ้าวจือฮ่าวพูดว่า “นายไม่เผยแพร่ในแอปสโตร์ไปเลยละ?”
หลินหม่าวส่ายหน้า “เผยแพร่ในแอปสโตร์แล้วละ แต่ไม่มีผู้เล่นสนใจมัน ยังไม่เห็นผู้ใช้เลย”
จ้าวจือฮ่าวคิดอยู่พักหนึ่งก่อนพูดว่า “ได้ ฉันจะขอให้ตอนที่นายสร้างเกมเสร็จและฉันจะพยายามหาวิธีกระตุ้นตลาดเพื่อนายเอง ถ้าไม่ได้อีกอย่างน้อยมันก็ทำให้ภาพลักษณ์ของนายดีขึ้น วิธีนี้โม่นายมีอะไรเสนอแนะบ้างไหม?”
เฉินโม่
เฉินโม่พูดว่า “ฉันยังไม่เห็นเกมของนาย”
หลินหม่าวเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วยื่นให้เฉินโม่ “ดูสิ ทำเสร็จประมาณ 80 เปอร์เซ็นแล้ว”
เฉินโม่รับโทรศัพท์แล้วกดเกมอินดิเพนเดนที่หลินหม่าวกำลังพัฒนา
หลังเล่นมาห้านาที เฉินโม่ก็ทำการคำนวณในใจ
นี่เป็นเกมอัพเลเวล ใช้เนื้อเรื่องในยุโรปยุคกลาง มีธีมเป็นเรื่องราวของอัศวินช่วยเจ้าหญิง คล้ายๆกับเรื่องราวที่สู้กับบอสในการเอาชนะมังกร
จากมุมมองของเฉินโม่การออกแบบทำได้ค่อนข้างดีในกลุ่มนักออกแบบระดับ D แต่ยังมีข้อบกพร่องอยู่
แม้ทิศทางจะเหมาะสมมันก็ยากมากที่จะดึงผู้เล่น ต่อให้เกมราคาสิบหยวน ผู้เล่นยังจะพิจารณาว่าซื้อเกมนี้ไปทำไม
เนื้อเรื่อง? สไตล์การเล่น? ศิลปะ? แล้วแต่ดี ทว่าไม่มีอันไหนเป็นจุดเด่นให้ประทับใจเลย
เฉินโม่คิดอยู่พักหนึ่งก่อนพูดว่า “ฉันคิดว่าการคิดของนายอาจเข้าใจบางอย่างผิด”
หลินหม่าวถามว่า “เข้าใจผิดอะไรหรือ?”
เฉินโม่พูดว่า “ฉันคิดว่ามีปัญหาในการวางตำแหน่ง นายกำลังสร้างเกมอินดี้ ต่อให้มันเป็นรูโหว่จริงๆ แต่นายก็ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นรูโหว่เกมเลยหนิ”
จ้าวจือฮ่าวเกาหัว “หมายความว่ายังไง? เฉินโม่หยุดตีพุ่มไม้ไปรอบๆ(อ้อมค้อม)แล้วพูดเข้าใจซักที”
เฉินโม่พูดว่า “ตามที่เห็น นายได้สร้างมาหมดทุกด้านแต่นายสร้างตรงตามมาตรฐานรูโหว่ของเกมเกินไป พูดก็คือนายตั้งเป้าไปที่ผู้เล่นที่ชอบเรื่องราวแบบนี้และจำนวนของผู้เล่นจึงไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนยอดขายเกมยังไงละ”
หลินหม่าวยังมึนงงอยู่บ้าง “จะไม่ให้สร้างเกมที่มุ่งแต่ความต้องการของผู้เล่นใช่ไหม?”
เฉินโม่พูดว่า “ใช่ นายจะขยายกลุ่มของผู้เล่นได้อีกนิดหน่อย ให้ชัดเจนนายจำเป็นต้องทำให้คนเยอะๆเล่นเกมของนาย”
หลินหม่าวสังสัย “ไม่ยากฉันเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่นายจะทำให้คนมากมายเล่นมันยังไง?”
เฉินโม่พูดว่า “ง่ายมาก หาจุดประกาย”