Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - ตอนที่ 18 เกมต่อไป
เฉินโม่พูดอย่างร่าเริง ใช่แล้วเขารู้สึกกังวลว่าจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับซาวด์เสียงประกอบและเสียงดนตรีเกมยังไงพอดี หนังสือสกิลเล่มนี้เป็นเหมือนกับการส่งถ่านไฟท่ามกลางพายุหิมะเลยทีเดียว
เดิมทีเฉินไม่รู้เรื่องดนตรีเลยแม้แต่น้อย เขาทำได้แค่ขอให้คนอื่นมาช่วยทำ BGM (background game music) และเสียงประกอบเกมได้เท่านั้น
แต่เฉินโม่เองก็สามารถบอก BGM ของเกมคลาสลิกได้แค่เพียงบางส่วน ผลลัพธ์จะแตกต่างจากเกมต้นฉบับโดยสิ้นเชิง มันจึงมั่นใจมากกว่าที่จะทำด้วยตัวเอง
เฉินโม่แตะใช้งานหนังสือสกิลสีน้ำเงิน และมันก็กลายเป็นจุดแสงแล้วหายเข้าไปในปลายนิ้วมือของเขา
เฉินโม่ก็หยิบคีย์บอร์ดไฟฟ้าที่ถูกจัดเตรียมโดยคณะผู้จัดการแข่งขันออกมา วันก่อนหน้านี้เขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้มัน เขาจึงแพ็กบรรจุไว้แล้วเตรียมจะเอาไปทิ้ง
หลังจากทดสอบตัวโน๊ตสองสามตัว จากนั้นเขาก็เชื่อมต่อมันเข้ากับคอมพิวเตอร์ การทำ BGM อย่างง่ายๆ ด้วยเครื่องเสียงสังเคราะห์นั้นใช้เวลาไปประมาณ 10 วินาที เฉินโม่ฟังไปเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกว่าใกล้เคียงแล้ว อย่างน้อย BGM ของเกมง่ายๆ ก็ไม่ค่อยยากนัก เขาสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
“ฮ่าฮ่า เป็นการเริ่มต้นที่ดี มาดูกันว่าหมุนสิบครั้งติดรอบสองจะได้ของดีบ้างไหม!”
เฉินโม่สูดหายใจลึกๆ แล้วกดปุ่ม [หมุนสิบครั้งติด]
“วืด วืด วืด…”
จานหมุนค่อยๆ หมุนเร็วขึ้น เมื่อเกือบ 30 วินาทีมันก็หมุนครบสิบครั้งติด สิ่งของที่หมุนได้ทั้งสิบรอบถูกจัดเรียงออกมาบนจอเสมือน
[หนังสือสกิลนักออกแบบ] : หนังสือสกิลค่าเชิงตัวเลข x3, หนังสือสกิลค่าระดับเกม x4
[หนังสือสกิลพิเศษ] : 1 เล่ม, ทักษะศิลปะเชิงแนวคิด +10
[หนังสือสกิลพิเศษ] : 1 เล่ม, ทักษะศิลปะเชิงเคลื่อนไหว +10
[ไอเท็มพิเศษ] : น้ำยากู้คืนความทรงจำ
จิตใจของเฉินโม่รู้สึกลิงโลด มันแตกต่างกันจริงๆ ความน่าจะเป็นที่จะได้สีน้ำเงินและสีม่วงนั้นสูงกว่าการหมุนครั้งเดียวอย่างมาก
เฉินโม่ตรวจสอบฟังก์ชันของไอเท็มพิเศษอย่างรวดเร็ว
น้ำยากู้คืนความทรงจำ : “หลังจากใช้งาน จะได้รับเวลา 4 ชั่วโมงในการเรียกคืนความทรงจำที่ไม่ชัดเจนและความทรงจำที่ถูกลืม”
ไอเท็มโครตดี!
ตอนนี้เฉินโม่ต้องการไอเท็มแบบนี้เอามากๆ
เขาแทบจะลืมเกมจำนวนมากที่เคยเล่นเมื่อก่อนไปหมดแล้ว แม้ว่าจะยังจำได้คลุมเครืออยู่บ้างแต่ความจำที่คลุมเครือนี้ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนให้เขากู้คืนรายละเอียดของเกมได้ทั้งหมด
ด้วยน้ำยากู้คืนความทรงจำ เฉินโม่จะสามารถค้นหาความจำของตัวเองได้ตราบใดที่มันเป็นเกมที่เขาเคยเล่นและศึกษาอย่างลึกซึ้ง เขาสามารถกู้คืนรายละเอียดส่วนใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์
ไม่ต้องพูดถึงว่าเฉินโม่ได้กินหนังสือสกิลสองสามเล่มมาก่อนหน้านี้แล้ว
ค่าเชิงตัวเลข +3, ค่าระดับเกม +4 เฉินโม่เดาว่าค่าเชิงตัวเลขที่แท้จริงของเขาตอนนี้น่าจะอยู่ประมาณ 27 คะแนน, ค่าระดับเกมคงจะอยู่ราว 35 คะแนน และด้วยน้ำยากู้คืนความทรงจำไม่น่าจะมีปัญหาที่จะจัดการกับเกมเล็ก ๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีหนังสือสกิลพิเศษศิลปะเชิงแนวคิด 1 เล่ม, และหนังสือสกิลพิเศษศิลปะเชิงเคลื่อนไหวอีก 1 เล่ม
ในระบบล็อตเตอรี่ของกำไรมือ ศิลปะและดนตรีที่ถูกรวมไว้ในหนังสือสกิลพิเศษนั้นแฝงความสามารถในการวางแผนอยู่เล็กน้อย
ศิลปะเชิงแนวคิด +10, ความสามารถศิลปะเชิงแนวคิดของเฉินโม่ก็เพิ่มขึ้นไปที่ 19 คะแนนในทันทีทำให้ใช้จัดการกับเกมง่ายๆ ได้อย่างสบายๆ
แอคชั่นคาเรคเตอร์เริ่มตั้งแต่ความรู้ในโลกเก่าจนถึงปัจจุบัน +10 รวมไว้ตั้งแต่วิธีขั้นพื้นฐานที่สุดเป็นต้นไปทำให้เฉินโม่สามารถสร้างการเคลื่อนไหว 2 D ที่ง่ายๆ ได้แล้วตอนนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
หมุนอีกรอบ!
ยังเหลือให้หมุนสิบครั้งได้อีกรอบ เฉินโม่กดปุ่มบนจอเสมือน
“วืด วืด วืด…”
จานหมุนหมุนเร็วขึ้นอีกครั้ง ไอเท็มก็เรียงรายตามลำดับออกมาบนจอเสมือน
[หนังสือสกิลนักออกแบบ] : หนังสือทักษะพล็อตเรื่อง x7, หนังสือทักษะระบบ x2
[เครื่องมือประกอบฉากพิเศษ] : แคปซูลโชคดี
เฉินโม่แทบกระอักเลือด จะแตกต่างกันเกินไปแล้ว!
มันต้องโกงแน่ๆ
ไม่มีหนังสือสกิลสีน้ำเงินออกมาแม้แต่เล่มเดียวแต่หนังสือสกิลสีเขียวกลับให้หนังสือทักษะพล็อตเรื่องและหนังสือทักษะที่เขาไม่ต้องการมากที่สุด เทียบได้กับไอเท็มไร้ประโยชน์
เฉินโม่รู้สึกเจ็บปวด
หมุนครั้งละ 100000 หยวนเชียวนะ!
อย่างไรก็ตามเมื่อเฉินโม่เห็นเครื่องมือประกอบฉากพิเศษ เขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
แคปซูลโชคดี : “หลังใช้งาน จะเพิ่มค่าโชคอย่างมากเป็นเวลา 10 นาที”
ให้ใช้ยังไงเนี้ย? เมื่อออกไปข้างนอกแล้วก็บังเอิญเก็บเงิน 5 ล้านได้ยังงี้เหรอ?
ระยะเวลาแค่ 10 นาที เห็นได้ชัดว่าแคปซูลอันนี้ใช้ได้กับการหมุนสิบครั้ง! เก็บออมซัก 10 ล้านแต้มจากนั้นหมุนสิบครั้งติด x10…
“ช่างมันเถอะ ฉันเก็บไว้ครั้งหน้าละกัน”
เฉินโม่รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยที่ใช้แต้มจนหมด เขายังมีอีก 100000 หยวนแต่มันเสี่ยงเกินไปถ้ายังคงหมุนต่อ รอให้เกมแรกเสร็จแล้วทำเงินให้ก่อนค่อยหมุนอีกครั้งดีกว่า
เฉินโม่กินหนังสือทักษะพล็อตเรื่องและหนังสือทักษะระบบ แม้ทักษะทั้งสองจะเป็นจุดแข็งของเฉินโม่อยู่แล้วแต่ยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ ดังนั้นพูดได้ว่าหนังสือทักษะทั้งสองเล่มไม่ได้ไร้ประโยชน์ซักทีเดียว
เฉินโม่ปิดจอเสมือนและอารมณ์สงบลง
หลังจากใช้เงิน 200000 หยวนหมุนหนังสือสกิลและไอเท็มพิเศษหมดแล้ว เฉินโม่ก็เริ่มวางแผนเกมแรกอย่างจริงๆจังๆ
เฉินโม่ลังเลว่าจะเลือกเกมนี้ดีหรือไม่
ถ้ามองจากด้านการทำเงินแล้วมันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเกมโมบายเก็บเงินระดับกลาง ๆ ภายในประเทศในโลกก่อน
เกมเหล่านี้ไม่ต้องการคุณภาพของเกมสูงนัก เพียงแค่พึ่งพาการจำลองเชิงตัวเลขในการดึงดูดผู้เล่นและความสามารถในการทำเงินแข็งแกร่งมาก
แต่ว่าเฉินโม่รู้สึกกังวลสองปัญหาใหญ่สุดอยู่
อย่างแรกคือความสามารถเชิงตัวเลขของตัวเอง
เกมโมบายเก็บเงินภายในประเทศอนุญาติให้ผู้เล่นเติมเงินได้ เหตุผลหลักคือการจำลองเชิงตัวเลข นี่คือการกระทำในทางเทคนิค มันเหมือนกับการขายของเทพด้วยจิตใจอันชั่วร้ายเพื่อให้เกมทำเงิน
ดังนั้นตำแหน่งในการวางแผนเชิงตัวเลขในวงการเกมภายในประเทศเป็นตำแหน่งที่สูงมาก บ่อยครั้งที่มีอำนาจเป็นรองจากนักวางแผนหลักและรับผิดชอบในการควบคุมจังหวะของเกม
ถ้าค่าเชิงตัวเลขดีแล้วมันก็เทียบได้กับการใส่จิตวิญญาณให้กับเกม ไม่ว่ากราฟฟิกจะเลวร้ายแค่ไหนหรือกราฟฟิกเก่าแค่ไหนก็มีที่ว่างให้รอดตาย แต่ถ้าค่าเชิงตัวเลขดิ่งลงเหวแล้วเกมจะตายทันที ไม่มีที่ว่างให้กลับมาอีก
ในปัจจุบันด้านความสามารถเชิงตัวเลขของเฉินโม่มีน้อยกว่า 30 แต้ม มันเสี่ยงอย่างยิ่งในการสร้างเกมแนวนี้ ต่อให้มีน้ำยากู้คืนความจำมันก็ยังเลวร้าย
ตามปกติค่าของเกมเป็นกึ่งปิดกึ่งเปิด รวมถึงกฎการต่อสู้ คุณสมบัติการเติบโต การจำกัดความสัมพันธ์ ระบบการเงิน ฯลฯ แต่ละอย่างเป็นตารางส่วนกลางซึ่งได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แม้แต่เป็นความลับของบริษัทคนทั่วไปไม่มีสิทธิ์เข้าถึง
เพราะระบบเชิงตัวเลขมีความสำคัญมากเกินไปสำหรับเกมแนวนี้ เมื่อระบบเชิงตัวเลขรั่วไหลออกไป บริษัทอื่นสามารถใช้เป็นโครงสร้างในการสร้างเกมใหม่ได้เลย
ถ้าเฉินโม่ต้องการสร้างเกมแนวนี้ เขาจำเป็นต้องสร้างระบบเชิงตัวเองเป็นของตัวเองแต่เท่าที่ความสามารถในปัจจุบันของเขาน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เขาไม่มั่นใจว่าจะควบคุมระบบเชิงตัวเลขในเกมนี้ได้หรือไม่
ปัญหาอีกอย่างคือการยอมรับของผู้เล่น
รูปแบบรายได้หลักของโลกยังขึ้นอยู่กับการขาย เกมแนวนี้มีรายได้ตามปริมาณการขาย
เป็นการขายที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกม ด้วยการเพิ่มลักษณะพิเศษหรือจุดเด่นบางอย่างให้กับเกม เพื่อทำให้เกมสามารถทำเงินได้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะของเทพแต่ไม่ใช่การขายหลักและไม่มีใครจะขายของเทพอย่างไม่มีความหมายหรอก
ถ้าคุณเปิดตัวเกมเก็บเงินทั่วๆไปและถ้าผู้เล่นพบว่าเกมขายของเทพทันที ผู้เล่นจะยอมรับมันเหรอ?
ทุกคนจะร้องเรียนแล้วมีผลต่อชื่อเสียงของตัวเองและบริษัทหรือไม่
ผู้เล่นอาจพากันมาคว่ำบาตรเกมต่อไปของเขาก็ได้?
ยากที่จะพูดว่าเหตุการณ์เล็กๆใช่ว่าจะไม่ได้หมายความว่าไม่เกิดขึ้น นี่เป็นเกมแรกของเฉินโม่ เขาไม่อยากให้มีความเสี่ยง
ความนิยมของผู้เล่นในโลกนี้คือเกมแนวอะไร ไม่ว่ายังไงเกมเก็บเงินจะต้องมีดินพอให้หยั่งราก เขาต้องพยายามไปทีละขั้นไม่งั้นร่วงลงมาได้
ดังนั้นเฉินโม่จึงตัดสินใจว่าเกมแรกต้องอยู่ในจารีตให้มาก จำกัดเป้าหมายไว้ที่ผู้เล่นเดี่ยวและขายในราคายุติธรรม
การใช้เกมนี้ในการรักษาตำแหน่งให้มั่นคง อย่างน้อยก็ให้ผู้เล่นรู้จักเกี่ยวกับธันเดอร์เกมเพิ่มมากขึ้นจากนั้นค่อยทดสอบความอดทนของผู้เล่นอย่างช้าๆ