Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - ตอนที่ 23 วันแรกไม่มีลูกค้า
ฉินโม่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ เขาจะมองเห็นเมื่อลูกค้าเข้ามาได้ตลอดเวลา
เฉินโม่ย้ายโน๊ตบุ๊คมาตั้งบนเคาน์เตอร์ ไม่มีลูกค้าเขาจึงเล่น Plants vs Zombies ต่อเพื่อดูว่าต้องปรับปรุงอะไรอีกหรือไม่
เฉินโม่พัฒนาเกม ‘Plants vs Zombies’ ได้กว่าสามเดือนแล้วตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนธันวาคมซึ่งนี่ก็ใกล้ถึงฤดูหนาวแล้ว
ช่วงนี้อากาศข้างนอกเริ่มเย็นลง คนเดินเท้าจึงสวมใส่กางเกงขายาวและเสื้อแจ็คเกต อากาศของวันนี้อบอุ่นมากกว่าวันก่อน ไม่มีลมจึงเหมาะแก่การเดินทาง
เฉินโม่เล่น ‘Plants vs Zombies’ อยู่หนึ่งชั่วโมง แล้วไม่เจอความผิดปกติอะไร เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปภายในร้าน
เขารู้สึกเจ็บปวดนักเพราะไม่มีลูกค้าเข้ามาเลย
เฉินโม่เปิดโค้กแล้วกลับมานั่งที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง
ทันใดนั้นเฉินโม่ก็นึกขึ้นได้ว่า ‘Flappy Bird’ หมดช่วงเวลาฟรีแล้ว ตอนนี้เกมสามารถวางขายบนแอปสโตร์ได้อย่างเป็นทางการ
เฉินโม่ตั้งใจจะเปิดตัว ‘Flappy Bird’ และ ‘Plants vs Zombies’ พร้อมกัน เขาคิดว่าจะโฆษณา ‘Plants vs Zombies’ ในช่องโฆษณาของ ‘Flappy Bird’ ด้วย
อันที่จริงช่วงเวลาที่ ‘Flappy Bird’ ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือช่วง 2-3 เดือนแรกที่เพิ่งเปิดตัว ตอนนี้ก็ผ่านมาสามเดือนแล้ว ผู้เล่นที่สนใจเกมนี้คงเล่นกันจนเลิกเล่นหมดแล้ว ความร้อนแรงไม่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ตอนนี้ ‘Flappy Bird’ ไม่น่าจะทำเงินให้มากนัก
ส่วนวิธีทำเงินที่เฉินโม่คิดได้นั้นดูท่าทางจะยากเกินไปเพราะในช่วงทดลองเล่นฟรี ข้อมูลเกมทั้งหมดอยู่ในมือคณะผู้จัดแข่งหมดแล้ว เฉินโม่เองก็ไม่ทราบว่าโฆษณาเกม ‘Flappy Bird’ ถูกแพร่กระจายไปมากน้อยเท่าไหร่
“ช่างมันเถอะ ฉันจะคิดเสียว่าเป็นวิธีที่ดีในการลดความโชคร้ายแล้วกัน”
แม้เฉินโม่จะคิดว่าเพิ่งพลาดเงินหลายร้อยล้านหยวนไปแต่เขาก็โล่งใจในไม่ช้าเพราะยังมีโอกาสอีกมากที่จะทำเงินในอนาคต เขาจึงไม่รีบร้อนอะไร
ขณะที่เฉินโม่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยนั้นเองก็มีพี่สาวคนหนึ่งกำลังยืนชะโงกมองซ้ายมองขวาอยู่ที่ประตูทางเข้าร้าน
หญิงสาวแต่งตัวสบายๆ ใส่เสื้อแจ็คเก็ตแบบบางและเกงกางยีนส์ เธอดูราวอายุ 26 ปี แม้กระทั่งแก่กว่าเฉินโม่เล็กน้อยและไว้ผมทรงหางม้าที่ทำให้มีความรู้สึกเป็นธรรมชาติอย่างมาก เธอมีท่าทางที่สวยงาม และดูมีความสามารถและประสบการณ์สูง
เฉินโม่ทักทายเธอ “สวัสดีครับ”
พี่สาวยืนอยู่ที่หน้าประตูกำลังสอดส่องสายตาเข้ามาในร้านค้าประสบการณ์ “คุณเป็นนักออกแบบเกมเหรอ? ที่นี่เป็นร้านค้าประสบการณ์เกมใช่ไหม?”
เฉินโม่พยักหน้า “ใช่ครับ”
พี่สาวตบหน้าอกตัวเอง “โอ้ว ดีเลย ฉันคิดอยู่นานว่าเป็นร้านอินเตอร์คาเฟ่เปิดใหม่ ทำให้ฉันกังวลแทบแย่แหละ”
เฉินโม่ “???”
พี่สาวเดินเข้ามาข้างในแล้วอธิบายว่า “โอ้ว ฉันเป็นเจ้าของ ‘ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ฟิงเกอะเอดจ์’ ตรงหัวมุมโน้น มาเพื่อสอดแนมสถานการณ์ของศัครู”
บัดซบ เธอไม่ใช่ผู้เล่นแต่เป็นเจ้าของร้านเหมือนกัน!
เฉินโม่ถึงกับพูดไม่ออก พี่สาวคนนี้มีร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อลองเล่นเกม เธอแค่มาเพื่อดูลาดราวร้านนี้ว่าเป็นร้านอินเตอร์คาเฟ่หรือร้านประสบการณ์ และจะมาขโมยธุรกิจของเธอหรือไม่
พี่สาวยิ้มเชิงขอโทษ “โทษทีนะ ในเมื่อที่นี่ไม่ได้เป็นร้านอินเตอร์คาเฟ่แต่เป็นร้านประสบการณ์ งั้นไม่เป็นไรละ พวกเราจะเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว เดี๋ยวพวกเราค่อยมาเยี่ยมเยียนกันให้บ่อยขึ้นน่ะ”
ร้านอินเตอร์คาเฟ่และร้านประสบการณ์มีฟังก์ชันคล้ายคลึงกัน แต่ความจริงแล้วไม่มีการแข่งขันกันโดยตรงเพราะในด้านของร้านประสบการณ์ ผู้เล่นทำได้แค่เล่นเกมที่เป็นผลงานของนักออกแบบเกมซึ่งมีเทียบได้กับเข้าสู่เกมก่อนคนอื่นนั่นเอง
ตามปกตินักออกแบบเกมจะไม่ชอบเล่นเกมของคนอื่น และพวกเขาก็ไม่ยอมให้ผู้เล่นเล่นเกมของคนอื่นในร้านประสบการณ์ของตัวเองเช่นกัน
เฉินโม่พยักหน้า “ไม่เป็นไร ว่างๆคุณก็เข้ามานั่งเล่นที่นี่ได้น่ะ ผมคิดว่าลูกค้าคงมีไม่เยอะนักหรอก”
“ได้สิ” หญิงสาวลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นคนนอก เธอนั่งลงบนโซฟาขณะที่เตรียมจะเปิดขวดโค้ก
เฉินโม่เอ่ยว่า “เอ๊ย…เครื่องดื่มนั่นไม่ฟรี”
พี่สาววางโค้กกลับเข้าที่ “โทษทีๆ ฉันชอบทำแบบนี้ที่ร้านตัวเอง ฮิฮิ”
พี่สาวมองที่ล็อบบี้ “นายมีร้านที่กว้างขวางมาก มีกี่เครื่องเหรอ? สิ้นเปลืองพอควรเลย”
เฉินโม่เอ่ยว่า “อ้อ ร้านประสบการณ์มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เล่นลองเกม ไม่มีไว้ใช้เพื่อหากำไร ตัวร้านจึงสร้างให้โล่งแบบนี้แหละ”
พี่สาวพูดว่า “ว้าว ฉันชักจะอิจฉานักออกแบบเกมที่ใหญ่โตทุกคนแล้วสิ โอ้ว ใช่แล้วฉันลืมแนะนำตัวเองเลย ฉันชื่อโจวเหยา”
เฉินโม่พูด “ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อเฉินโม่ ผมมีเกมใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดตัว คุณอยากลองหน่อยไหม?”
โจวเหยาโบกมือ “ฉันไม่ค่อยว่าง ยังมีงานที่ต้องทำที่ร้านอีกน่ะ ฉันเพิ่งขอแอบออกมาเอง ไว้วันหลังฉันจะมาลองเล่นแล้วกัน”
เฉินโม่พยักหน้า “ได้สิ ยินดีต้อนรับคุณเสมอ”
โจวเหยาลุกขึ้นแล้วเตรียมจะออกไป จู่ๆเธอก็คิดบางอย่างได้แล้วถามว่า “นายเก็บเงินชั่วโมงละเท่าไหร่เหรอ?”
เฉินโม่พูด “ 5 หยวน”
โจวเหยาพูดอย่างตกตะลึง “แพงไปหน่อยหรือเปล่า? ตรงล็อบปี้ของร้านฉันเก็บแค่ 4 หยวนเอง ร้านประสบการณ์ของนายเป็นร้านใหม่ น่าจะมีเกมอยู่สองหรือสามเกมใช่ไหมละ?”
เฉินโม่พูด “ตอนนี้มีอยู่เกมเดียว”
โจวเหยาเตือน “ฉันคิดว่านายควรตั้งราคาต่ำกว่านี้แบบฟรีเลยไรงี้ นายเปิดร้านประสบการณ์ แล้วไม่ต้องการ
แสวงหากำไร ราคาของนายออกจะ…ไม่เฉียดเข้าใกล้คนเลย”
เฉินโม่ยิ้ม “ผมคิดดีแล้ว”
โจวเหยาพยักหน้า “โอเค ฉันไปก่อนล่ะกัน แล้ววันหลังค่อยมาอีกน่ะ และก็นายควรสร้างเกมยอดนิยมขึ้นมาเร็วๆนะ ร้านของฉันจะได้รับส่วนแบ่งบ้าง”
เฉินโม่ยิ้มแล้วพูด “พูดน่ะมันยาก”
หลังโจวเหยาจากไป ร้านประสบการณ์ของเฉินโม่ก็กลับมาว่างเปล่าอีกครั้ง
เฉินโม่ไม่ได้รีบร้อน ร้านประสบการณ์แบบนี้ต้องใช้เวลา เฉินโม่ไม่ได้โฆษณาแต่อย่างใด จึงเป็นธรรมดาที่ไม่มีใครเข้ามา
ในแง่ของทำเลที่ตั้ง ที่ตั้งของร้านประสบการณ์อยู่ในกึ่งทำเลที่ดีและทำเลไม่ดี ที่ตั้งค่อนข้างปิดแต่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยและพื้นที่ที่กระแสผู้คนค่อนข้างมาก
ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็มีลูกค้าที่สอง
ลูกค้าคนนี้มีดวงตาขุ่นมัวและผมเป็นมันวาว มองผ่านๆ เขาดูเหมือนคนอดหลับอดนอน แต่ไม่ใช่อะไรหรอกเขาก็เป็นแค่วัยรุ่นที่ติดเกม
เขาเดินเข้ามาหยุดที่ประตูทางเข้าของร้านประสบการณ์แล้วมองที่ป้าย ‘ร้านประสบการณ์ธันเดอร์เกม’ ก่อนพูดกับตัวเองว่า “ธันเดอร์เกม ฉันไม่เคยได้ยิน”
เด็กหนุ่มตรงเข้าไปที่เคาน์เตอร์แล้วถามเฉินโม่ว่า “ผมอยากถามว่า ที่นี่เป็นร้านประสบการณ์? หรือร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ครับ?”
เฉินโม่พยักหน้า “อ้อ ไม่ได้เป็นร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่”
“โอ้ว” วัยรุ่นติดเกมค่อนข้างผิดหวัง เห็นได้ชัดเจนว่าเขากำลังตามหาร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่อยู่ แม้ว่าคุณจะเล่นเกมที่ร้านประสบการณ์ได้เหมือนกันแต่ว่าคุณเล่นได้แค่เกมของบริษัทนี้อย่างเดียว และมีเกมไม่มาก
อย่าพูดถึงว่าเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับของบริษัทนี้มาก่อน
วัยรุ่นติดเกมลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดกับตัวเองว่า “ช่างมันเถอะ ละแวกนี้ไม่มีร้านคาเฟ่ที่มีที่นั่งว่างเลย ฉันก็แค่ตรวจสอบร้านนี้ซักเดี๋ยวเป็นการฆ่าเวลาแล้วกัน”
เขาหยิบบัตรประจำตัวประชาชนและมือถือออกมา “เจ้าของร้าน ชั่วโมงละเท่าไหร่”
เฉินโม่พูด “ 5 หยวน”
วัยรุ่นติดเกมตกตะลึง “ห๊ะ? 5 หยวน? งั้น…ไม่เป็นไร”
วัยรุ่นติดเกมหันหลังกลับ
“…”
เฉินโม่ถึงกับพูดไม่ออก สหายนายนี่ก็ง่ายจริงๆ! 5 หยวนต่อชั่วโมงแล้วไม่พูดอะไรอีก จะหันหลังแล้วออกไปเลยเรอะ?
5 หยวน!
5 หยวนนายทำอะไรได้บ้างวันนี้? ไม่ใช่ว่าซื้อไอติมได้แค่ 2 แท่งงั้นเรอะ?
ยังไม่พอให้ซื้อเกมเก็บเงินครั้งแรกซึ่งก็คือ 6 หยวนด้วยซ้ำ!