Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - ตอนที่ 26 เกมนี้สนุกขนาดไหนกัน
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงอาหารก็ส่งถึง
“อาหารมาส่งแล้ว ฉันกินก่อนล่ะ” เฉินโม่พูด
เหวินหลิงเหวยโบกมือ “คุณกินก่อนเลย ฉันขอจบเกมแป๊บ”
เฉินโม่ถืออาหารเข้าไปในห้องรับรอง ขณะกำลังทานอาหารก็หยิบมือถือออกมาดูข่าวเกมออนไลน์ใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดแอป
ตลาดแอปแตกต่างจากแชนแนลเล็ก ๆ แชนแนลเล็ก ๆ นั้นต้องติดต่อเจ้าของแชนแนลอีกทีเพื่อซื้อตำแหน่งโปรโมท อย่างไรก็ตามตลาดแอปไม่ต้องลำดับขั้นตอนใด ๆ แต่จะมีลำดับตามช่วงเวลาออนไลน์ ปริมาณการขายและข้อมูลของแต่ละเกม
เฉินโม่อยากดูว่ามีเกมใหม่ ๆ จากค่าย ‘อินเตอร์เทนเมนทร่วมทุนของเอ็มเพอเรอ‘ และค่าย ‘อินเตอร์เทนเมนทร่วมทุนของเจิ้น’ บ้างไหม เกมใหม่ของทั้งสองค่ายกำลังวางขายอยู่บนชั้นวางขาย เพราะว่าบนตลาดแอปมีผู้ใช้จำนวนมากจึงไม่ยากที่จะติด ‘ลิสทัวร์’ เกมใหม่ก่อนที่ผู้เล่นหน้าเก่าจะมาสนใจ
เฉินโม่มั่นใจเรื่องคุณภาพของ ‘Plants vs. Zombies’ มากทีเดียว แต่เขาไม่ได้กะจะท้าชนบริษัททั้งสองในเวลานี้
ยังดีที่ ‘ลิสทัวร์’ ตอนนี้เป็นเกมจากบริษัทเล็กๆ เฉินโม่ดาวน์โหลดเกมติดอันดับหลายเกมมาดูซึ่งมีแต่คุณภาพทั่วไป เกมอย่างดีที่สุดก็ใกล้เคียงกับ ‘Storm Knight Adventure’ ของหลินหม่าวไม่น่าจะเป็นภัยคุกคามกับ ‘Plants vs. Zombies’
ขณะเฉินโม่กำลังกินอยู่นั้น เหวินหลิงเหวยก็ผลักประตูห้องรับรองเดินเข้ามาที่โต๊ะหยิบเบอเกอร์ขึ้นมา 2-3 ชิ้นแล้วกินอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็กินเฟรนฟรายด้วยความเร็วยิ่งกว่าก่อนเอื้อมมือหยิบโคล่าบนโต๊ะแล้วโบกไปมา “ฉันเอาไปดื่มตรงที่นั่งไม่ผิดใช่ไหม?”
เฉินโม่ “…ไม่มีปัญหา”
เหวินหลิงเหวยถือโคล่าออกไปจากห้องรับรองทันที ใช้เวลาเข้าออกห้องรับรองไม่ถึง 5 นาที ด้วยซ้ำ
เฉินโม่กินแอมเบอเกอร์ครึ่งเดียวเอง
“เป็นเอามากรึเปล่า? หรือว่าเธอกำลังติดเกมนี้…”
หลังจากเฉินโม่กินเสร็จก็เช็ดโต๊ะแล้วเอาขยะออกไปทิ้ง
ในร้านประสบการณ์มีแค่เหวินหลิงเหวยและเฉินโม่กันสองคน เฉินโม่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์กำลังศึกษาเกมต่อไป เหวินหลิงเหวยนยังตั้งหน้าตั้งตาเล่นอยู่ ในตอนนี้มีเพียงแต่เสียงคลิกเมาส์ที่ดังอยู่ในร้านประสบการณ์เท่านั้น
สามชั่วโมงต่อมา
เฉินโม่ลุกขึ้นเดินออกจากเคาน์เตอร์ เขารู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นเหวินหลิงเหวยกำลังจดจ่ออยู่กับการเล่นจนเกือบฝ่าด่านที่สามของ ‘customs clearance’ แล้ว ด่านสัปดาห์ของโหมดพล็อตเรื่องจบสมบูรณ์เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงกว่า ๆ
ความเร็วค่อนข้างไวทีเดียว
ในฐานะมือใหม่ ความเร็วของเหวินหลิงเหวยไม่ช้าเลย เห็นชัด ๆ ว่าเธอเริ่มรู้เคล็ดลับแล้ว การฝ่าด่านสัปดาห์จึงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น
ทันใดนั้นเองบนโต๊ะมือถือของเหวินหลิงเหวยมีคนโทรเข้ามา
เสียงดังอยู่ 4-5 ทีเหวินหลิงเหลยก็หยิบขึ้นมารับสายอย่างไม่เต็มใจ
“ใครค่ะ?” เหวินหลิงเหวยเผลอตอบอย่างส่ง ๆ เธอยังคงจอจ่อแต่หน้าจอคอม กำลังมองที่ซอมบี้ 2-3 ตัวกำลังว่ายน้ำอย่างไม่คาดสายตา
เสียงปลายสายเป็นเด็กหนุ่ม “ลูกพี่อยู่ไหนน่ะ? พวกเรารอตั้ง 5 นาทีแล้ว”
เหวินหลิงเหวยพูด “รออยู่ 5 นาทีเหรอ? นายกำลังรอทำเพื่อ?”
เด็กหนุ่มปลายสายพูดอย่างหมดหนทาง “การประชุมปกติของชมรมสื่อโฆษณาของเราไง ช่วงบ่าย 4 โมง ไม่ใช่ว่าลูกพี่เองที่นัดเวลานี้เรอะ?”
ปลายสาย “…”
เหวินหลิงเหวยถาม “นายถึงห้องประชุมแล้วเหรอ?”
เด็กหนุ่มปลายสายพูด “ครับ พวกเรามากันครบแล้วเหลือแต่รอให้ลูกพี่เข้ามาประชุม”
เหวินหลิงเหวยมองหน้าจออย่างไม่เต็มใจ ถึงจะเซฟเกมไว้ได้แต่เธอยังไม่อยากเลิก
เหวินหลิงเหวยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูด “เอาอย่างนี้ มาประชุมกันที่ฉันอยู่ไหม? มีห้องรับรองและเครื่องดื่มพร้อมกับโซฟาด้วย หลังจากประชุมแล้วเราค่อยไปกินมื้อเย็นกัน เอาไหมล่ะ?”
เด็กหนุ่มปลายสายพูด “ห๊ะ? ก็ได้ ลูกพี่เป็นประธานคำพูดสุดท้ายอยู่ที่ลูกพี่อยู่แล้ว ว่าแต่ลูกพี่อยู่ไหน?”
เหวินหลิงเหวยพูด “อยู่ข้าง ๆ ชมรมของเราไม่ไกลจากมหาลัย นายรู้จัก ‘Finger Internet Cafe’ ไหม? ไม่ ๆ ไม่ใช่ร้านคาเฟ่ มันเป็นร้านประการณ์เกมเปิดใหม่ที่อยู่ตรงข้ามกัน ใช่ ๆ นายมาเร็ว ๆ เลยน่ะ”
เหวิยหลิงเหวยอธิบายที่ตั้งของร้านประสบการณ์ด้วยความละเอียดทางมือถือ แล้ววางหูก่อนกลับมาคลิกเกมต่อ
หลังจากนั้นราว ๆ 10 นาที คนกลุ่มหนึ่งก็มาหยุดอยู่ที่ประตูร้านประสบการณ์
ในกลุ่มเป็นชาย 4 หญิง 6 รวมกัน 10 คน ทุกคนดูเหมือนว่าเป็นนักศึกษาจากมหาลัยแถว ๆ นี้
คนนำกลุ่มคือเด็กหนุ่มร่างผอมและผมแซมดำ เขามองประตูร้าน “น่าจะใช่ที่นี่”
เด็กสาวที่ยืนไม่ใกล้ไม่ไกลสูง 160 เซนฯ แต่งตัวเรียบร้อย กำลังตะโกนด้วยเสียงเบา ๆ “ลูกพี่ พวกเราอยู่ทางนี้”
เหวินหลิงเหวยมองเห็นกลุ่มคน “โย้ว มา ๆ เจี่ยเปิง ชางซิวหยา นายสองคนพาทุกคนไปห้องประชุมก่อน เดี๋ยวฉันจะตามไป”
เจี่ยเปิงเข้าไปหาเหวินหลิงเหวย “ลูกพี่ อย่าบอกผมน่ะว่าติดเกม ที่ลูกพี่ไม่มาประชุมเพราะแบบนั้น…”
เหวินหลิงเหวยเลิกคิ้วอย่างไม่พอใจ “ห๊า? อยากสั่งสอนงั้นเหรอ?”
เจี่ยเปิงส่ายหน้าทันควันพลางก็ถอยหนี “ไม่มีครับ ไม่มีครับ!”
หลายคนในกลุ่มรวมถึงเด็กสาวน่ารักชางซิวหยาก็ฝืนหัวเราะและไม่กล้าหัวเราะออกมาดัง ๆ ก่อนถือหนังสือเข้าไปนั่งรอในห้องรับรอง
เฉินโม่ไม่สนใจมากนัก เดิมทีร้านประสบการณ์เป็นร้านเปิด แม้ว่าคนทั้งกลุ่มไม่ได้เล่นเกม พวกเขาก็สามารถเข้ามานั่งเล่นได้
เหวินหลิงเหวยกดหยุดพักเกม แล้วเข้าห้องรับรองก่อนนั่งลงตรงกลางสุด
“เอาล่ะ งั้นเริ่มกันเถอะ” เหวินหลิงเหวยมองเจี่ยเปิงและชางซิวหยา
บรรยากาศน่ากังวลนิดหน่อยแต่ทุกคนก็ปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วภายใต้ออร่าอันทรงพลังของเหวินหลิงเหวย
เจี่ยเปิงเปิดโน๊คบุ๊ค “การประชุมปกติของวันนี้ ผมมีสามหัวข้อที่สำคัญดูที่นี่ หนึ่งโปสเตอร์ของสัปดาห์ถัดไป…”
เจี่ยเปิงและชางซิวหยาทั้งสองเป็นรองประธานของชมรมประชาสัมพันธ์ การดำเนินงานหลักเป็นของพวกเขาสองคน ส่วนเหวินหลิงเหวย ตอนนี้ถึงเธอจะเป็นประธาน เธอต้องทำแต่งานใหญ่ ๆ เท่านั้น การประชุมปกตินั้นมักจะรับฟังและพูดปิดท้ายการประชุม
เจี่ยเปิงและชางซิวหยาผลัดกันพูด พวกเขากำหนดงานอย่างรวดเร็ว ถ้าพวกเขาแก้ไขไม่ได้ เหวินหลิงเหวยจะตัดสินใจเอง การประชุมทั้งหมดดำเนินไปราว ๆ ครึ่งชั่วโมง
เหวินหลิงเหวยลุกขึ้นแล้วพูด “เอาล่ะ นายเสร็จหมดยัง? ฉันจะไปก่อน”
เหวินหลิงเหวยเดินออกจากห้องรับรองแลัวกลับไปที่นั่งเริ่มสู้ศึกต่อ
เจี่ยเปิงที่เดินออกจากห้องรับรองยืนมองเหวินหลิงเหวยด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“ลูกพี่ เล่นเกมอะไรถึงได้ติดงอมแงมอย่างนั้น?” เจี่ยเผิงถามอย่างจริงจัง
เหวินหลิงเหวยเป็นประธานชมรมสื่อโฆษณา ในสายตาของเพื่อนร่วมมหาลัยเธอมักแสดงอาร่าออกมาอยู่เสมอโดยเฉพาะกับเด็กมหาลัยหญิงรุ่นน้องหลายคนแล้ว เธอชอบหลงตัวเองว่าเธอมีความรู้สึกเหมือนไปถึงเป้าหมายสูงสุดของชีวิตแล้ว
ผลก็คือ ความจริงลูกพี่เล่นเกมแล้วติดงอมงอม เกมนี้สนุกขนาดไหนกัน?