Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - ตอนที่ 4 กฎการแข่งขัน - novel-lucky

หลังเฉินโม่นั่งลงแล้ว เขาก็สังเกตสถานการณ์ในสนามแข่ง

ผู้ชมเข้ามาในสนามครบแล้วซึ่งมีอยู่ประมาณเจ็ดร้อยคน ทุกคนกำลังพูดคุยและหัวเราะหรือเล่นมือถือ

เทคโนโลยีสื่อสารของโลกนี้ก้าวหน้าอย่างมาก ซิมการ์ดมือถือธรรมดานั้นมีอินเตอร์เน็ตให้ใช้งานได้หลายร้อยจีเอสต่อเดือนและมีสัญญาณที่เสถียรอย่างมาก แถมอินเตอร์เน็ตไร้สายก็ครอบคลุมอย่างกว้างขวาง โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถใช้มือถือเพื่อดูวีดีโอ, ดูถ่ายทอดสด อินเตอร์เน็ตเหล่านี้ก็มากเหลือเฟื่อง

เฉินโม่รู้สึกว่านี่ควรจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เกมมือถือของโลกนี้ไม่ได้รับการพัฒนา คนส่วนใหญ่เล่นเกมวีอาร์ที่บ้าน ทุกคนเล่นเกมมือถือเมื่อรู้สึกเบื่อหน่ายเท่านั้น และใช้บางเวลาดูหนัง, ละครทีวี, วาไรตี้โชว์, ถ่ายทอดสด, ข่าว, รายการบันเทิง, และอื่นๆ

คุณต้องรู้ว่าสิ่งบันเทิงในโลกคู่ขนานได้รับการพัฒนาไปอย่างมาก หลายอย่างสามารถแทนที่เกมได้ แถมอินเตอร์เน็ตก็แทบจะไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเช่นนั้นคุณจึงดูหนัง, ดูละครทีวีเท่าไหร่ก็ได้เท่าที่ต้องการทำให้ทุกคนไม่จำเป็นต้องซื้อเกมมือถือเพิ่มเติ่มอีก

แน่นอนว่า ผู้ชมส่วนใหญ่ในสนามแข่งนั้นเป็นกลุ่มคนที่หลงใหลในการเล่นเกม คนที่ชื่นชอบเกมมือถือนับได้ว่าเป็นคนกลุ่มใหญ่

เพียงแค่คนที่ชื่นชอบเกมมือถือเท่านั้นที่จะมางานแข่งขันในครั้งนี้ในฐานะผู้ชม

เนื่องจากการแข่งขันออกแบบเกมในครั้งนี้เป็นงานแข่งของมือใหม่ ในหมู่ผู้เข้าแข่งขันเหล่านี้มีไม่กี่คนที่มีฝีมือคู่ควรกับคุณสมบัตินักออกแบบเกมระดับ D เพราะเช่นนั้นพวกเขาจะสร้างเกมระดับสุดยอดไปได้ยังไง?

อย่างมากที่สุดก็เป็นเกมแคชชวลอย่างง่ายๆ ไม่กี่เกมเท่านั้น

เป็นไปได้ว่าเหล่าผู้ชมที่มาดูการแข่งขันจะมาด้วยตั๋วฟรีที่ได้รับจากคนอื่นมากกว่า ทุกคนไม่ได้หวังอะไรกับการแข่งขันเลย

กรรมการทั้งสามท่านเพิ่งจะมาถึง

บนข้างหน้าโต๊ะของกรรมการทั้งสามท่านปรากฎป้ายแสดงตัวตนของแต่ละคน เฉินโม่ใช้มือถือค้นหาอย่างรวดเร็วแล้วพบตัวตนของกรรมการทั้งสามท่าน

ซือฮัวเจ๋ออายุ 47 ปี นักออกแบบเกมระดับ B เคยทำงานเป็นนักออกแบบเกมในเอ็มเพอเรอะ อินเตอร์แอคทีฟ อินเตอร์เทนเมนต์ เขาเกษียณตัวออกมาแล้ว ในตอนนี้ตัวตนของเขาก็คือนักเชี่ยวชาญประเมินเกม

หลินไห่อายุ 39 ปี นักออกแบบเกมระดับ B นักออกแบบเกมในสังกัดฉานหยี่ อินเตอร์แอคทีฟ อินเตอร์เทนเมนต์ เขาได้ผันตัวเข้าสู่บอร์ดบริหารและไม่มีส่วนร่วมในการออกแบบเกมแล้ว ในตอนนี้เขาเป็นนักเชี่ยวชาญการประเมินเกมเช่นกัน

ฉิวเหริงหยางอายุ 27 ปี นักออกแบบเกมระดับ B ผู้ก่อตั้งของ Hengyou.com (เหริงหยู)

กรรมการทั้งสามนั่งเรียงลำดับตามอายุเลขคณิตจาก 20 ปี, 30 ปี, และ 40 ปีตามลำดับ ตัวเลขเหล่านี้ครอบคลุมยุคทองของนักออกแบบเกม

แม้ทุกคนจะเป็นนักออกแบบเกมระดับ B เช่นกันแต่ว่าอันที่จริงพวกเขามีความสามารถไม่ใกล้เคียงกัน

เอ็มเพอเรอะ อินเตอร์แอคทีฟ อินเตอร์เทนเมนต์และฉานหยี่ อินเตอร์แอคทีฟ อินเตอร์เทนเมนต์ สองบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทพัฒนาเกมที่ดีที่สุดในประเทศจีน ตามปกติสองบริษัทเหล่านี้มีส่วนแบ่งในการตลาดเกมในประเทศเกินกว่า 80% นักออกแบบเกมมากมายมักแย่งกันเข้าร่วมบริษัททั้งสองเพื่อเพิ่มขีดจำกัดความสามารถของตัวเอง

อย่างไรก็ตามใช่ว่าหมายความว่าทุกคนที่มาจากบริษัททั้งสองจะยอดเยี่ยมทั้งหมด ยกตัวอย่าง ซือฮัวเจ๋อแม้เขาจะทำงานกับเอ็มเพอเรอะ อินเตอร์แอคทีฟ อินเตอร์เทนเมนต์ แต่ว่าผลงานที่ยอดเยี่ยมมีไม่เกินหนึ่งถึงสองชิ้น อันที่จริงเขาขาดทักษะและความรู้ที่แท้จริง ก่อนหน้าเข้าทำงานในบริษัทเขาไม่แตกต่างจากคนทั่วไปเลย

ส่วนหลินไห่ระดับการออกแบบของเขาเก่งกาจกว่าซือฮัวเจ๋อ แต่เมื่อได้รับแต่งตั้งมาเป็นสมาชิกผู้บริหาร ระดับในการทำงานของเขาก็ถดถอยอย่างชัดเจนหลังจากลาออกจาก R&D (การวิจัยและพัฒนา : research and development, R&D)

ดูเหมือนว่าฉิวเหริงหยางที่มีอายุ 27 ปีจะเก่งกาจมากที่สุดเขาได้กลายเป็นนักออกแบบเกมระดับ B ที่อายุน้อยที่สุด นอกเหนือจากนี้เขายังเป็นผู้ก่อตั้งของ Hengyou.com เขามีอนาคตที่สดใสมากกว่าสองคนนั้นอีก

“ฉันหวังว่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามท่านจะยกมือให้ อย่างน้อยซักหนึ่งท่านที่จะช่วยให้เกมฉันผ่านไปได้ด้วยดีด้วยเถอะ…”เฉินโม่ลอบอธิษฐาน

ผู้เข้าแข่งคนอื่นยังรู้สึกหวั่นวิตกเช่นกัน ในการแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าแข่ง 20 คน แต่รางวัลสูงสุดเป็นของแชมป์คนเดียวเท่านั้น

เกี่ยวกับการได้รับคุณสมบัติของนักออกแบบระดับ D ยังสำคัญสำหรับทุกคนเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าการแข่งขันในครั้งนี้มีเงินทุน 300,000 หยวนและร้านสัมผัสประสบการณ์เข้ามาเกี่ยว ถ้าพวกเขาคว้าแชมป์ไม่ได้ การแข่งขันในครั้งนี้จะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง

ไม่นานนักการแข่งขันก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

พิธีกรออกมาอุ่นเครื่อง

ผู้นำกล่าวสุนทรพจน์

กรรมการแนะนำตัว

กรรมการพูดบรรยาย

…

หลังจบการแนะนำตัวที่ยาวนานก็เข้าสู่ช่วงการแข่งในที่สุด

พิธีกรมองผู้ชมที่กำลังง่วงนอนในสนามแข่งแล้วมองอีกสี่ร้อยคนที่กำลังเล่นมือถือ

หันมองสองร้อยคนที่กำลังกระซิบกระซาบแล้วมองอีกหลายคนที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเก้าอี้

ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องข้ามพิธีการต่างๆไป

“แค๊ก…แค๊ก”

พิธีกรส่งเสียงกระแอมเพื่อปลุกผู้ชมและบงบอกว่าการแข่งขันใกล้เริ่มแล้ว

“เอาล่ะครับ ทุกคนคงจะได้รับแท็บแล็ปสำหรับการประเมินกันแล้ว และเกมทั้งยี่สิบที่สร้างโดยผู้เข้าแข่งก็ถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้ว”

เฉินโม่มองแท็บแล็ป บนโต๊ะข้างหน้าของเหล่าผู้ชมมีแท็บแล็ปหนึ่งเครื่องจัดวางไว้ให้แต่ละคน เสียงของพิธีกรค่อยๆลดลงแล้วแท็บแล็ปทุกเครื่องก็เปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

“คุณสามารถเลือกเกมบนแท็บแล็ปเพื่อประเมินเกมภายในหนึ่งชั่วโมง ในเวลาเดียวกันเราจะทำการแนะนำเกมสั้นๆบนจอใหญ่ของเรา”

“เมื่อคุณเลิกเล่นแล้ว ขอให้คุณเลือก [แนะนำ] หรือ [ไม่แนะนำ] คำแนะนำหมายถึงคุณเต็มใจแชร์เกมนี้ให้กับเพื่อนของคุณ”

“กรรมการทั้งสามท่านของเราจะทดสอบเกมทั้งหมดไปพร้อมๆกัน”

“หลังจากหมดเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว เราจะนับระยะเวลาเกมและคำแนะนำเกมสำหรับแต่ละเกม และใช้สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการจัดอันดับของเกม”

“หลังจากนั้นจะเป็นการประเมินของกรรมการ หลังกรรมการวิจารณ์แล้ว ผู้ชมจะได้รับโอกาสให้เลือก [แนะนำ] หรือ [ไม่แนะนำ] สำหรับแต่ละเกมใหม่อีกครั้ง

“ระยะเวลาเกมและจำนวนแนะนำเกมในครั้งสุดท้ายจะถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อตัดสินเกมอันดับที่หนึ่งและนักออกแบบเกมอันดับที่หนึ่งในการแข่งขันออกแบบเกมในครั้งนี้!”

พิธีกรเปลี่ยนบทสนทนาไปที่หัวอีกข้อก่อนเน้นเสียงว่า “อย่างไรก็ตามมีจุดหนึ่งที่ช่วยสร้างความสนใจให้ทุกคน ถ้าเกมอันดับที่หนึ่งถูกเลือกแล้วแต่กรรมการทั้งสามท่านไม่ยินยอม มันจะทำให้ถูกเป็นโมฆะในทันทีอันดับที่สองจะกลายเป็นอันดับที่หนึ่งแทน”

“ทุกคนเข้าใจกฎอย่างชัดเจนแล้วใช่ไหมครับ?”

“เอาล่ะครับ! ต่อไปการประเมินจะเริ่มภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ ในตอนนี้, เริ่มได้เลยครับ! ”

ไม่ต้องรอให้พิธีกรประกาศ ผู้ชมก็เริ่มเล่นด้วยความสนใจกันแล้ว

กฎเกมเหล่านี้ เฉินโม่รู้มาก่อนหน้านี้แล้ว เขาจึงไม่กังวลเกี่ยวกับกรรมการทั้งสามเลย

ในการเลือกกฎเหล่านี้ บทบาทของผู้ชมมีความสำคัญมากกว่าเพราะระยะเวลาเกมกับจำนวนคำแนะนำของผู้ชมจะตัดสินอันดับของเกม

อย่างไรก็ตามบทบาทของกรรมการก็สำคัญเช่นกัน

อย่างแรกกรรมการจะต้องออกความคิดเห็น หลังจากออกความคิดเห็นแล้วผู้ชมค่อยโหวตให้

พูดก็คือกรรมการสามารถชี้นำผู้ชมได้ ถ้าเกมสองเกมมีคะแนนใกล้เคียงกันและกรรมการก็ชอบอีกหนึ่ง ผลลัพธ์จึงชัดเจน

อย่างที่สอง กรรมการต้องมีอำนาจในการยับยั้งอย่างที่สุด ในตอนที่กรรมการทั้งสามเชื่อว่าเกมไม่เหมาะสมอย่างมติเป็นเอกฉันท์ ต่อให้พวกเขาได้อันดับที่หนึ่ง พวกเขาก็ไร้ประโยชน์และถูกตัดสิทธิ์ในทันที

นี่ก็เป็นเพราะในโลกนี้ให้ความเคารพนักออกแบบเกมมืออาชีพ แต่จากมุมมองของเฉินโม่กฎเหล่านี้ไมีมีความหมายและโง่อย่างมาก

แต่ทว่าสุดท้าย ในตอนนี้เขาก็คือผู้เข้าแข่ง เขาทำได้แค่ปฎิบัติตามกฎอย่างไม่มีหนทาง

ในตอนนี้บนจอใหญ่เพิ่งเริ่มทำการแนะนำเกมของเฉินโม่