Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - ตอนที่ 58 ชัยชนะที่ขมขึ้น
Armipotent – จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ
บทที่ 58 ชัยชนะที่ขมขึ้น
เมื่อซอมบี้ลอร์ดถูกสับเป็นชิ้นๆ ฝูงซอมบี้ก็เริ่มคลุ้มคลั่งพวกมันโจมตีสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในสายตาของพวกมันอย่างไร้ระเบียบ
ในเวลานี้ ถังเส้าหยางก็กลายเป็นบ้าเช่นกัน เป้าหมายของเขาในตอนนี้ก็คือซอมบี้ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 เท่านั้น ส่วนที่เหลือเขาก็ปล่อยให้คนของเขาดูแลส่วนที่เหลือ
สําหรับซอมบี้วอริเออร์ ถังเส้าหยางก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก เนื่องจากการร่วมมือกันระหว่างมนุษย์และลิง
การต่อสู้ดําเนินต่อไปอีกสามชั่วโมง ด้วยความช่วยเหลือของเผ่าวานรเมฆา ฝูงซอมบี้ก็ถูกล้าง มันแสดงให้เห็นถึงชัยชนะครั้งแรกของจักรวรรดิถัง
[ ยินดีด้วย! คุณทําภารกิจผู้พิชิตสําเร็จแล้ว! ]
[คุณได้รับรางวัล +1 เลเวล, +10 คะแนนสกิลและ1ล้านเหรียญ GC ]
[ ปราสาทจักรวรรดิถัง (อาณาเขตอัจฉริยะ) ได้เลเวลอัพแล้ว! ฟีเจอร์ใหม่ถูกปลดล็อกแล้ว! ]
[10 ล้านเหรียญ GC ถูกแจกจ่ายไปยังคลังแล้ว]
ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่ผู้คนที่รอดตายเองก็ยังได้รับการแจ้งเตือนด้วยเช่นกัน นี่คือรางวัลที่พวกเขาได้รับมาจากการกวาดล้างฝูงซอมบี้
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีใครมีความสุขกับมัน พวกเขาก้มศีรษะต่ําลงเมื่อการต่อสู้จบลง แม้แต่ตั้งเส้าหยางเองก็ยังยีนตรงนั้นโดยไม่มีแม้แต่รอยยิ้มหรือความตื่นเต้น
นี่คือการออกรบครั้งแรกของเขา และเขาก็ได้ผลลัพธ์ตามที่เขาต้องการ พวกเขาชนะ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ชอบวิธีที่เขาได้รับชัยชนะ เขาสูญเสียคนไปมากมาย และนั่นก็แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความสามารถมากพอ
อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ว่ามันไม่ใช่เวลาจะมาแสดงอารมณ์หดหูเขาต้องจัดการกับผู้รอดชีวิตที่เหลือรอดมาได้และตรวจสอบรอบฐานทัพของเขา
“ มันเป็นความผิดของฉัน!” เสียงที่เศร้าสร้อยดังเข้ามาในหูของถังเส้าหยาง
เขาหันกลับมาและจางเหมิงเหยาที่ดูหดหูก็กําลังเดินเข้ามาหาเขา ใช่แล้ว เธอเป็นแม่ทัพของเขา ดังนั้นเธอจึงโทษตัวเองสําหรับการเสียชีวิตของคนในฐานทัพ
ถังเส้าหยางส่ายหัวและลูบผมของหญิงสาว “ ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของฉันเอง! ฉันคือบอส ฉันต่างหากที่ต้องถูกตําหนิ!”
“ ตะ. แต่… แต่ฉันเป็นคนวางกลยุทธ์ และ…”
* เด็กโง่! ฉันเป็นผู้นําและฉันก็เป็นคนอนุมัติกลยุ ทธ์ของเธอ!ดังนั้นหากปราศจากความตั้งใจของฉัน เราก็จะไม่ใช้กลยุทธ์ของเธอ ดังนั้นก็หยุดโทษตัวเองได้แล้ว!ฉันเป็นคนไร้ความสามารถเอง!”
จางเหมิงเหยาส่ายหัว “ ได้โปรดให้คนอื่นมาทําหน้าที่นี้แทนฉันที่เถอะ!”
ถังเส้าหยางเงียบไปเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะล้มเลิกความตั้งใจตั้งแต่การออกรบครั้งแรก และทําใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ ภูมิหลังของเธอนั้นเป็นทหารก็จริง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเคบไปออกรบจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะของผู้บังคับบัญชา
“ เด็กโง่! ไว้คุยกันทีหลัง! เราต้องกลับแล้ว! คนในฐานกําลังวิตกกังวลอยู่!”
เขาตัดสินใจที่จะไม่พูดมันออกมาตอนนี้ มันเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ที่จะปลอบโยนเธอในตอนนี้เธอเพิ่งผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมา และนั่นก็ทําให้ตอนนี้เธอกําลังแบกรับความเจ็บปวดของคนตาย
เมื่อมองไปรอบๆ ถังเส้าหยางก็จําได้ว่าเขาสามารถใช้ซอมบี้เป็นเครื่องสังเวย [อัญเชิญวิญญาณ] ได้
ราวกับว่านักดาบอสูนซาเนียสสามารถอ่านความคิดของเขาได้ เขาพูดกับถังเส้าหยาง
* ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกวิญญาณอื่นหรอก แน่นอนเจ้าจะ สามารถเรียกวิญญาณที่แข็งแกร่งขึ้นด้วยการสังเวยครั้งใหญ่ได้ แต่นายจะสามารถเอาชนะมันเพื่อทําสัญญาด้วยได้หรอ?”
“ วิญญาณที่แข็งแกร่งนั้นต่างก็มีความทรนงเป็นของตนเองและเจ้าก็คงจะไม่โชคดีได้เจอวิญญาณแบบข้าหรือคารานบ่อยนักหรอก และบางที่เจ้าก็อาจจะเสียชีวิตแทนก็ได้ ดังนั้นเจ้าเพียงแค่มุ่งมั่นทํางานหนักเพื่อให้ แข็งแกร่งขึ้นก่อนก็พอแล้ว
พรุ่งนี้เราจะเริ่มการฝึกจากพื้นฐานกัน เจ้ามีพลัง แต่เจ้าก็ยังไม่สามารถใช้ความแข็งแกร่งของเจ้าได้อย่างเหมาะสม! เจ้ากําลังต่อสู้กับความดิบเถื่อนของเจ้า และนั่นก็ทําให้เจ้าต้องสูญเสียกําลังคนของเจ้าไป”
ซาเนียสพูดยาวในหัวและถังเส้าหยางก็พบว่าซาเนียสพูดถูกเขาสามารถอัญเชิญวิญญาณดวงอื่นออกมาได้ แต่เขาก็อาจจะไม่สามารถทําให้วิญญาณเหล่านั้นลงนามในสัญญากับเขาได้
เนี้มันก็มีแค่จะ
อย่างไรก็ตาม การปล่อนซากศพไ ทําให้พวกมันเสียเปล่า
* บางทีออริจิ้นก็อาจจะมีวิธีสําหรับเรื่องนี้ “
ระหว่างทางกลับไปที่ฐาน ถังเส้าหยางก็กําลังคิดหาวิธีรักปาศพ
“ บอส ฉันขอโทษด้วย!” สู่อันเดินเข้าไปหาถึงเส้าหยางอย่างช้าๆ
ลู่อันรู้สึกผิดเหมือนกับจางเหมิงเหยา เขาโทษตัวเองว่าเขาเป็นคนที่ทําให้เกิดการเสียชีวิตโดยไม่จําเป็น เขาพากําลังเสริมมาสายเกินไป
“ อื่ม… อะไรที่ทําให้นายมาสาย?” ถังเส้าหยางไม่ได้รับคําขอโทษในทันที หากลู่อันทําผิด เขาถึงจะสมควรขอโทษ
หากความผิดพลาดของจางเหมิงเหยามาจากการขาดประสบการณ์ในการออกรบความผิดพลาดของลู่อันก็จะแตกต่าง จากเธอไปอย่างสิ้นเชิง เขาได้รับมอบหมายให้ไปนํากําลังเสริมมา และกําลังเสริมก็ควรจะมาถึงตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงแรก อย่างไรก็ตาม เขาก็มาสายไปถึงห้าชั่วโมง
ถึงกระนั้นถึงเส้าหยางก็รู้ว่ามันจะต้องมีเหตุผลสําหรับ เรื่องนั้นและนั่นคือเหตุผลที่ทําให้เขาตัดสินใจที่จะฟังเรื่องราวของลู่อัน
6มันเป็นเพราะฝูงซอมบี้อีกฝูงหนึ่ง! ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่มันมีฝูงซอมบี้อีกฝูงกําลังล้อมรอบดินแดนแห่งหมอกอยู่”
ลู่อันบอกทุกอย่างที่เขาเจอ มันยังมีฝูงซอมบี้อีกฝูงหนึ่งกําลังล้อมรอบดินแดนแห่งหมอกอยู่ ดังนั้นในตอนที่ลู่อันไปขอความช่วยเหลือ เขาจึงต้องร่วมสู้กับพวกฝูงซอมบี้ที่นั้นเช่ นกัน
และด้วยเหตุนี้เอง ลู่อันจึงต้องใช้เวลานานกว่าจะตีฝ่าฝูงซอมบี้เข้าไปได้ และในท้ายที่สุด เมื่อไพลด์ได้ยินเรื่องของถังเส้าหยาง ไพลด์ก็ตัดสินใจละทิ้งสงครามที่บ้านของตนและตอบรับการเรียกของถังเส้าหยาง
ไพลด์ตัดสินใจที่จะมาช่วยเหลือตั้งเส้าหยางในทันที แต่ถึงกระนั้นกว่าพวกเขาจะตีฝ่าวงล้อมออกมาได้นั้นมันก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมกว่าจะมาถึง
ไม่นาน พวกเขาก็กลับมาที่ฐานทัพ ไพลด์เข้ามาหาเขาในทันที “ ฝ่าบาท”
ก่อนที่ไพลด์จะได้พูดต่อ ถังเส้าหยางก็ยกมือขึ้น
เขามองไปที่อู่อันแล้ววางมือลงบนไหล่ของลู่อัน “คําขอโทษของนายได้รับการยอมรับแล้ว และความผิดพลาดของนายเองก็ได้รับการอภัยแล้วเช่นกัน! ดังนั้นเข้าไปข้างในและไปพักผ่อนเถอะ!”
หลังจากนั้น เขาก็หันกลับมาที่ไพลด์ “นายช่วยฉันปกป้อง อาณาเขตของฉัน! มันถึงเวลาที่ฉันจะต้องไปช่วยอาณาเขตของนายแล้ว!”
ถังเส้าหยางไม่ได้เข้าไปในฐานของเขา เขาเลือกแล้วที่จะไม่พักผ่อน และตัดสินใจที่จะไประบายอารมณ์ที่หดหูทั้งหมดของเขาใส่พวกซอมบี้ในสนามรบ
เมื่อเห็นดังนี้ จางเหมิงเหยาก็เข้าร่วมการสนทนาในทันที
* ให้ฉันไปด้วย! ฉันจะไม่พักจนกว่าซอมบี้ทั้งหมดจะถูกกําจัดให้สิ้นซาก!”
ถังเส้าหยางไม่ได้ลดเสียงของเขาและเขาก็ไม่ได้วางแผนที่จะปิดบังเรื่องของอันจากคนอื่นๆ พวกเขาสมควรที่จะได้รู้เรื่องนี้ทั้งหมด ดังนั้นการสนทนาระหว่างเขากับลู่อันจึงสามารถได้ยินได้อย่างชัดเจน
เมื่อพวกเขารู้ว่ามันยังมีฝูงซอมบี้อีกฝูงหนึ่ง พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะไปช่วยเผ่าวานรเมฆาในทันที
“ ให้ฉันได้เข้าสู้ด้วยเถอะ บอส สหายลิงได้ช่วยเราเอาไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นตอนนี้มันจึงถึงเวลาที่ฉันจะไปตอบแทนพวกเขาแล้ว!” จ้าวจงก้าวออกมาข้างหน้าและกล่าวกับถังเส้าหยางอย่างกระตือรือร้น
* ฉันด้วย! ฉันจะเข้าร่วมและฆ่าไอ้พวกเวรนั่นให้หมด!” เว่ยซีกัดฟันและก้าวไปข้างหน้า มันสามารถมองเห็นความเกลียดชังได้จากดวงตาของเขาเนื่องจากเขาได้สูญเสียเพื่อนไปมากในการต่อสู้
หลังจากนั้น ทุกคนก็ตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้อีกครั้งและการต่อสู้ก็ยังคงดําเนินต่อไป