Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - ตอนที่ 59 อนิเมะตอนแรก
ตอนที่ 59 อนิเมะตอนแรก
ในร้านสัมผัสประสบการณ์ซูจินหยู่ตั้งหน้าตั้งตาทํางานที่ เคาน์เตอร์ต้อนรับ
เจียเผิงและชางซิ่วหยาพากันกระซิบกระซาบ
“ฉันได้ยินมาว่าเมื่อวานหลังจากจินหยู่เห็นเอกสารออกแบบก็ไปหาผู้จัดการร้านใช่มะ? แล้วเป็นยังไงบ้าง?” ชางซิ่วหยาถาม
เจียเผิงส่ายหัว “ไม่รู้ สองคนนั้นคุยกันราวหนึ่งชั่วโมงและซูจินหยู่ลงมาก็เริ่มทําโปรเจคใหม่ตามเอกสารออกแบบของผู้จัดการร้าน”
ชางซิ่วหยากระซิบ “เธอไม่ได้พูดอะไรเลยเรอะ?”
เจียเผิงส่ายหัวอีกครั้ง “ไม่ได้พูดอะไร”
ชางซิ่วหยาก็สงสัยว่า “ หรือว่าเธอเห็นด้วยกับความคิดของผู้จัดการ?ยอมรับเกมแล้วเรอะ?”
เจียเผิงลังเล “ไม่รู้สิ แต่ท่าทางเธอเหมือนกับ “ระงับข้อโต้เถียงและพัฒนาร่วมกัน” ”
ชางซิ่วหยาก็ค่อนข้างกังวล “งั้นฉันจะทํายังไงดี?”
เจียเผิงก็พูดว่า “เราจะทําอะไรได้ล่ะ อย่าคิดมากเลยผู้จัดการร้านต้องมีความคิดของตัวเองอยู่แน่ เราจะเพิ่มความวุ่นวายเสียเปล่า ๆ เมื่อเข้าไปยุ่ง”
ชางซิ่วหยาพยักหน้า “ได้ มาวาดการ์ดมอนสเตอร์ต่อกันเถอะ
บรรยากาศภายในร้านสัมผัสประสบการณ์ค่อนข้างน่าเบื่อ
เนื่องจากทุกคนไม่ได้มองเกมใหม่ที่ชื่อ ” My name is mt”ในแง่ดี ดูจากกฏและระบบเกมมันค่อนข้างพูดไม่ออก
นายจะสร้างเกมที่ไม่เคยมีมาก่อนได้งั้นเหรอ?
“สวัสดีครับ นี้ใช่ร้านสัมผัสประสบการณ์ธันเดอร์เกมรึเปล่าครับ?”
ซูจินหยู่ผงะและเงยหน้าขึ้น เห็นคนส่งของอยู่ที่ประตูเธอก็ตอบว่าใช่
“ใช่ค่ะ คุณมีของมาส่งเหรอค่ะ ฝากไว้ที่ฉันได้เลยค่ะ”
คนส่งของเดินเข้ามาพร้อมกล่อง “คุณเฉินโม่สั่งโปรเจคเตอร์ไว้โปรดแกะกล่องดูก่อนเถอะครับ ถ้าไม่มีปัญหาผมจะช่วยติดตั้งให้”
โปรเจคเตอร์?
เฉินโม่ซื้อโปรเจคเตอร์มาทําไม?
เฉินโม่ลงมาข้างล่าง “แกะกล่องได้เลยโปรเจคเตอร์ติดตั้งบนเพดานและม่านหน้าจอติดไว้ที่ฝาผนัง”
มือของคนส่งของดําเนินการอย่างว่องไว แกะกล่องยกของและติดตั้ง ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงจึงเสร็จ
“คุณลองเปิดมันดูครับว่าเป็นยังไง” พี่ชายคนส่งของปาดเหงื่อ
โปรเจคเตอร์เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของซูจินหยู่เฉินโม่ก็ปิดม่านหน้าต่างหลายบานในร้านสัมผัสประสบการณ์และปรับเอฟเฟคการฉากภาพ
ผลลัพธ์นั้นไม่เลว
“โอเครครับ ถ้าเกิดมีปัญหาผมจะติดต่อไปหาคุณเพื่อใช้บริการหลังการขายน่ะ” เฉินโม่เอ่ย
“ด้วยความยินดีครับ” คนส่งของรวบรวมขยะใส่กล่องแล้วนําออกไป
เจียเผิงแปลกใจ “ผู้จัดการร้านครับ คุณซื้อโปรเจคเตอร์มาใช้ทําอะไรเหรอครับ?”
เฉินโม่พูดกับซูจินหยู่ “ช่วยเปิดวิดีโอที่ผมส่งให้คุณทีครับ”
“วิดีโอ?” ซูจินหยูมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองอันที่จริงเฉินโม่เพิ่งส่งไฟล์วิดีโอที่ชื่อ “ซีซันแรกของ “My name is MT” ” ให้เธอเมื่อสิบนาทีที่แล้ว
วิดีโอเปิดขึ้น ภาพในวิดีโอปรากฏขึ้นบนโปรเจคเตอร์
เฉินโม่พูด “ทุกคนขยันทํางานหนักกันมาก ตอนนี้มาผ่อนคลายด้วยภาพยนตร์กันสักหน่อยเถอะครับ”
ทุกคนสงสัย นี่เป็นอนิเมะที่เฉินโม่เคยวุ่น ๆอยู่รึเปล่า?
เกี่ยวกับอนิเมะเรื่องนี้ ตั้งแต่การเขียนบท(สคริปท์) เฉินโม่เป็นคนจัดการทําทั้งหมด คนอื่นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโครงเรื่องแม้แต่นิด พวกเขาคิดว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะทําออกมาจนเสร็จแต่ตอนแรกไม่ออกมาเร็วไปหน่อยเหรอ?
บนหน้าจอฉากภาพ โลโล้ของธันเดอร์อินเตอแอคทีฟอินเตอเทนเมนต์และออโรร่าประกายสตูดิโอส์ก็กระพริบผ่าน
แอนิเมชันเปิดขึ้นด้วยภาพวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ใน BGM เริ่ม บรรยายถึงภูมิหลังของโลก
“ในทวีปอาเซรอธอันกว้างใหญ่ มีเผ่าพันธุ์มากมายอาศัยอยู่การขยายของเผ่าพันธุ์ได้เพิ่มขึ้นหลายเท่า จงร่วมสู้ไปด้วยกันเพื่อสร้างอารยธรรมที่งดงามกันเถอะ”
“นับตั้งแต่พันธมิตรและชนเผ่าได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไห้ล่กันต่อต้านการรุกรานของ Burning Legion” เป็นเวลาหลายปีแม้การต่อสู้จะช่วยทวีปอาเซรอธได้สําเร็จแต่ข้อตกลงอันแสนเปราะบางระหว่างชนเผ่าและพันธมิตรก็หายไปตามกาลเวลาที่ผันผ่าน”
“บัดนี้ เสียงกลองดังสนั่นสะเทือนขึ้นอีกครั้ง ฝ่ายพันธมิตรที่นําโดยมนุษย์และฝายชนเผ่าที่นําโดยพวกออร์คก็กําลังจะต่อสู้กันอีกครั้ง”
“เรื่องราวของพวกเราเริ่มขึ้นมาจากเผ่าทอเรน…”
หลาย ๆ ฉากผ่านไป โดยมีเมืองสตอร์มวินด์อันงดงามออร์กริมมาร์ที่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ดาร์นสซัสที่ใฝ่หาความเงียบสงบ..เผ่าพันธ์ต่าง ๆ ภูมิประเทศที่หลากหลายและผืนทวีปอาเซรอธทั้งหมด ถูกเปิดเผยออกมาในการบรรยายสั้น ๆ
จากนั้นช็อตสุดท้ายกล้องก็หันไปหาทอเรนน่ารัก ๆ ตัวหนึ่ง
เหวินหลิงเหว่ยและซูจินหยูนั่งดูด้วยกันทั้งคู่รู้สึกประหลาด
คุณภาพของอนิเมะเรื่องนี้สูงมาก
เหนือสิ่งอื่นใด ก็เป็นผลงานการผลิตของออโรร่าประกายสตูดิโอส์ ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียงประกอบ การบรรยายและรายละเอียดปลีกย่อยล้วนทําได้ดีมากทั้งหมด สัมผัสได้ถึงความจริงใจของผู้อํานวยการผลิตอย่างชัดเจน
คาดว่าผู้จัดการร้านคงจ่ายไปไม่น้อย
นอกเหนือจากนี้ การบรรยายและฉากก็ยังดึงดูดความสนใจของทุกคนอีกด้วย
แม้จะฉายไม่ค่อยมาก แต่โลกทัศน์ของอนิเมะทั้งเรื่องก็ดูกเปิดเผยออกมาได้ครบถ้วน เห็นได้ชัดว่านี่คือโลกแฟนตาซีแบบตะวันตกที่มีเผ่าพันธุ์คลาสสิกมากมายในฝั่งโลกตะวันตกอย่างเช่น ออร์ค คนแคระ เป็นต้น รวมถึงฉากแฟนตาซีแบบตะวันตกคลาสสิก ๆ บางฉากด้วย
ยิ่งกว่านั้น โลกทัศน์ของอนิเมะก็สมบูรณ์แบบมากด้วยเช่นกัน สามารถสัมผัสได้จากการบรรยายอย่างคร่าวๆในวิดีโอ
โลกทั้งใบถูกเรียกว่าอาเซรอธ มีอย่างน้อยเจ็ดถึงแปดเผ่าพันธุ์มีฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายชนเผ่าที่มักจะต่อสู้กันระหว่างชนเผ่าในตอนนี้น่าจะแบ่งได้เป็นสองฝ่าย หนึ่งคือพันธมิตรที่นําโดยมนุษย์อีกหนึ่งคือชนเผ่าที่นําโดยออร์ค และทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกัน
“โลกทัศน์ของเรื่องนี้ค่อนข้างกว้างมาก แต่พล็อตเรื่องหลักๆก็ยังดูเก่าอยู่น่ะ” เหวินหลิงเหว่ย
พอเปิดหัวข้อก็ทําเอาเรียกความสนใจของทุกคนทันที
นี่แหละคือสิ่งที่เฉินไม่ต้องการ
ทําไมเฉินไม่ถึงมั่นใจใน My name is MT ? เพราะโลกทัศน์ของมันมาจาก ”World of Warcraft” ยังไงล่ะและโลกทัศน์ของ ”World of Warcraft” ก็มีความสามารถในการส่งออกวัฒนธรรมอย่างแข็งแกร่งอีกด้วย
แม้เกม “World of Warcraft” จะเก่าอีกแล้ว แต่โลกทัศน์และพล็อตเรื่องนั้นไม่เป็นสองรองใคร
เหมือนกับ “Harry Potter” ก่อนที่จะโด่งดัง มีกี่คนกันที่จะรู้จักและชื่นชอบวัฒนธรรมพ่อมดแม่มด? หลายคนไม่รู้เรื่องนี้เลยแต่เรื่องนี้ก็ไม่เห็นมีผลกับความโด่งดังของ “Harry
Potter”
ผลงานคลาสสิกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เป็นผลงานคลาสสิกแม้เอาไปแสดงที่อื่น ยังไงก็ยังเป็นผลงานคลาสสิก
ดูผิวเผินเหมือนเฉินโม่กําลังก็อบบี้ “My name is MT” แต่ความจริงเขากําลังผสมระหว่าง “My name is MT” และ “World of Warcraft” โดยใช้พล็อตเรื่องของ “My name is MT” ในส่วนที่ตรงกับ “World of Warcraft” ซึ่งเป็นภูมิหลังของเรื่องเพื่อทําให้ “My name is MT” ออกมาเป็นงานที่สมบูรณ์แบบ
เช่นเดียวกับการเปิดเรื่องด้วยการบรรยายและการสลับฉากไปมา มันจะทําให้ผู้ชมได้รับทราบถึงภูมิหลังของเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทําให้พวกเขายอมรับการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับทวีปอาเซรอธและกลุ่มเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ได้
ตอนนี้เฉินโม่เทียบได้กับไททันที่จับนักรบสองคนด้วยมือคนละข้าง มือข้างซ้ายคือ “My name is MT” และมือข้างขวาก็คือ World of Warcraft”
ผู้ชมในโลกนี้ไม่เข้าใจ “World of Warcraft” ใช้ไหม?ก็ไม่เป็นไร เฉินโม่สามารถตีความโลกทัศน์ของ “World of Warcraft” ได้อย่างเต็มที่ลงในเนื้อเรื่องของ “My name is mt”ด้วยความสามารถพล็อตเรื่องขั้นแรกระดับสูงสุดจากนั้นก็ป้อนให้กับผู้ชมในโลกนี้
แน่นอนว่าถ้าในอนาคตเฉินไม่มีความสามารถมากกว่านี้เขาจะนําวัฒนธรรมในโลกเก่ามาสู่โลกใบนี้ให้หมดแต่ตอนนี้สําหรับเฉินโม่ การสร้างแอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นขีดจํากัดของเขาแล้ว เขาในตอนนี้ไม่สามารถที่จะสร้างเกมระดับบิ๊กอย่าง “World of Warcraft” ได้ และไม่มีแม้แต่เงินที่จะสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Warcraft ด้วยซ้ํา