Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - ตอนที่ 8 นี่คือสาเหตุที่คุณตีคะแนนขึ้นมาเหรอ
- Home
- Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!
- ตอนที่ 8 นี่คือสาเหตุที่คุณตีคะแนนขึ้นมาเหรอ
คำวิจารณ์ของหลินไห่เฉไฉไปมาก เขาไม่อยากล่วงเกินทั้งสองฝ่าย เขาจึงไม่มีท่าทีเจาะจงไปทางฝ่ายไหน
ผู้ชมเริ่มกระซิบกระซาบ
คำวิจารณ์ของซือฮัวเจ่อก็มีบทบาทมากเช่นกัน นักออกแบบเกมระดับอาวุโสบอกว่าไม่เห็นด้วยรวมถึงคำวิจารณ์ของเขาก็สมเหตุสมผล ผู้ชมหลายคนรู้สึกลังเลแล้ว บางคนเริ่มสงสัยว่าเกมควรค่าให้การแนะนำหรือไม่?
คำวิจารณ์ของหลินไห่เหมือนจะยุติธรรมแต่เปล่าประโยชน์ เพราะผู้ชมจะจดจำแต่คำวิจารณ์ของซือฮัวเจ๋อ ทุกคนจะลืมสิ่งที่หลินไห่พูดอย่างรวดเร็ว
เฉินโม่ไม่ได้กังวล
หากหลินไห่กระโจนเข้ามาคัดค้าน <ฟลัฟฟี้เบิร์ด> อีกคนเหตุกาณ์จะแตกต่างออกไป ผู้ชมที่เป็นแฟนคลับของกรรมการสองคนจะสร้างผลกระทบต่อผู้ชมโดยรวมอย่างมาก หลินไห่ก็วางตัวเป็นกลางซึ่งก็ไม่เลวร้าย
อย่างไรก็ตามเฉินโม่ยังลดการ์ดไม่ได้
ตอนนี้เป็นรอบของฉิวเหริงหยางกรรมการที่อายุน้อยสุด กรรมการหนึ่งคนไม่เห็นด้วยและกรรมการอีกคนวางตัวเป็นกลาง สำหรับตอนนี้เจตนาของเขาจะตัดสินชะตากรรมของเกมๆหนึ่งเลย
ฉิวเหริงหยางอดไม่ได้ที่จะหวาดหวั่น สหายคุณต้องการคำอธิบายจากฉันงั้นเหรอ? ต้องการให้วิจารณ์แหกคอกจากสองกรรมการงั้นเหรอ? เขาได้ดูฟิชเจอร์พิเศษของเกมนี้หรือไม่?
ซือฮัวเจ๋อจ้องมองฉิวเหริงหนางด้วยสีหน้าอึ้งทึ่ง เขาอยากรู้ว่าฉิวเหริงหยางจะพูดอะไร
ฉิวเหริงหยางพูด “เกมนี้หากฉันไม่รู้สถิติใหม่ ฉันจะให้ 8 คะแนนแต่หลังจากฉันเห็นสถิติใหม่ ฉันคิดว่าจะให้ 9 คะแนน แน่นอนว่าที่ฉันให้คะแนนอย่างนี้มาจากการเปรียบเทียบกับเกมอื่นๆแล้ว”
“นั่นคือคำวิจารณ์ของฉัน ฟลัฟฟี้เบิร์ดคู่ควรกับอันดับหนึ่ง”
ทุกคนในสนามแข่งเกิดความโกลาหล!
บัดซบ 9 คะแนน? เต็ม 100 คะแนนหรือป่าว
ฟังดูจากน้ำเสียงและการกระทำของฉิวเหริงหยางแล้วจะต้องเป็น 9 เต็ม 10 คะแนนแน่ๆ
หลายคนในผู้ชมนั้นสนุกกับการเล่น <ฟลัฟฟี้เบิร์ด> แต่ทุกคนไม่รู้ว่าเกมสร้างขึ้นมาอย่างหยาบๆ ผลประเมินที่ดีสุดที่ทุกคนจะให้ก็คือ 7 คะแนน สำหรับ 9 คะแนนมันโอ้อวดเกินไป
ฉิวเหริงหยางเมินเฉยต่อความประหลาดใจของผู้ชม เขาพูดต่อว่า “โปรดอย่าพึ่งแปลกใจ นี่คือความแตกต่างระหว่างนักออกแบบเกมมืออาชีพและผู้เล่นทั่วไป”
“คุณเห็นว่ามันคือเกมมินิที่มีรูปแบบเรียบง่ายพร้อมกับการเล่นที่ง่ายๆ แต่สิ่งที่ฉันเห็นมันคือชิ้นงานที่แท้จริงที่มีการออกแบบอย่างประณีตและความคิดชั้นสูง”
“ทำไมฉันพูดแบบนั้นเหรอ? โปรดฟังฉัน”
ตอนนี้ทุกคนล้วนถูกฉิวเหริงหยางดึงดูดแล้ว ผู้ชมหลายคนเริ่มจริงจังแล้ว ฉิวเหริงหยางโอ้อวดเกมไว้อย่างน่าอัศจรรย์ เขาจะหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้ยังไง?
การแข่งขันมีการถ่ายทอดสดและบันทึกเทป หากฉิวเหริงหยางพูดเรื่องไร้สาระ เขาจะเสียหน้าในวงการเกม!
ฉิวเหริงหยางพูด “จากนั้นฉันจะขอถามสักสองสามข้อ คุณไม่ต้องตอบเพียงแต่คิดไว้ในใจก็พอ”
“คำถามแรก ทุกคนบอกว่าเกมนี้มีรูปแบบเรียบง่ายมาก แล้วฉันขอถามคุณคิดว่านกตัวนี้น่าเรียจจริงๆเหรอ? หรือคุณคิดว่านกตัวนี้ดูโง่ๆแต่เวลามันร่วงลงไปตายคุณไม่คิดว่าดูน่าสนใจเลยเหรอ?”
“คำถามที่สอง มีใครสักคนไหมที่คำนวณความเร็วของนกจริงๆ? นกจะบินขึ้นได้สูงแค่ไหนหลังจากออกตัวบินแล้ว?”
“คำถามที่สาม ทำไมถึง เกมโอเวอร์ ทันทีที่คุณแตะหน้าจอ? ทำไมเกมง่ายๆ ถึงมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและฟิชเจอร์จัดอันดับด้วยล่ะ? คุณรู้ไหมว่าทำไม?”
“คำถามที่สี่ คุณเคยสังเกตไหมว่ามีแถบโฆษณาบนหน้าจอ?”
“ลองคิดถึงปัญหาพวกนี้ดูสักนิดสิ”
หลังฉิวเหริงหยางพูดจบ เขาปิดไมค์โครโฟนทันทีและให้ผู้ชมมีเวลาคิดถึงคำถามสองสามนาที
ผู้ชมพลันพากันถามหาปัญหากัน
ทุกคนที่นี่ต่างชื่นชอบเกม ทุกคนชอบศึกษาและสนใจเกมแนะนำสำหรับมือใหม่ มากกว่านั้นคนส่วนใหญ่เองก็ยังติดใจ <ฟลัฟฟี้เบิร์ด> คำถามของฉิวเหริงหยางจึงชวนให้ผู้ชมคิดถึงปัญหาขึ้นมา
เฉินโม่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยเพราะปัญหาที่ยกมาของฉิวเหริงหยางตีคีย์หลักของเกมออกทั้งหมดซึ่งไม่น่าเหลือในมุมมองของเฉินโม่
เพราะปรัญชาออกแบบเกมของโลกนี้ล้าหลังมาก เต็มไปด้วยความอคติ
ฉิวเหริงหยางคนนี้ไม่ธรรมดาเลย เขาวางอคติลงแล้วศึกษาปัจจัยความสำเร็จของเกมอย่างจริงจัง แทนที่จะบอกว่า “บังเอิญ” ซึ่งในมุมมองของเฉินโม่ก็คือคุณสมบัติที่สำคัญสุดของนักออกแบบเกม
ดูจากคำวิจารณ์ของเขาแล้ว ต่อให้เขาจับโยนฉิวเหริงหยางเข้าไปในโลกเก่า ฉิวเหริงหยางจะยังคงเป็นนักออกแบบเกมมือฉกาจอยู่ดี
ฉิวเหริงหยางคิดว่าผู้ชมคงคิดกันเสร็จแล้ว เขาจึงพูดต่อ “ทุกคนคงกำลังรู้สึกไม่ค่อยชัดเจนอยู่ แต่ขอแสดงความยินดีด้วย คุณกำลังเข้าสู่ขั้นแรกของนักออกแบบเกมแล้ว”
“คำถามแรก เกมนี้มีรูปแบบแย่จริงๆหรือ?”
“ดูที่นกน้อยตัวนี้ ทุกคนรู้สึกยังไงบ้าง? น่ารัก? เซ่อซ่า? โง่? ความน่าสนใจอยู่ที่รูปแบบพิกเซลของเกม ตัวนกโง่ใช้ลายเส้นและสีที่เรียบง่ายมากๆ แต่ใช่ว่าจะร่างภาพนกโง่ที่ตาโต+ปากไส้กรอก+ปีกเล็กๆ ได้เลย”
“และภาพนกตัวนี้ยังสอดคล้องกับเนื้อหาของเกมอีกด้วย ความโง่ของนกช่วยลดข้อบกพร่องของเกมได้เป็นอย่างดีส่งผลให้คุณรู้สึกว่านกโง่เองแทนที่จะเป็นคุณ ใช่ไหมละ?”
ทันทีที่เสียงของฉิวเหริงหยางหยุดลงเท่านั้นแหละก็มีคนระเบิดหัวเราะออกมาทันที
ฉิวเหริงหยางพูดต่อ “คำถามข้อสอง ทำไมฉันจะต้องถามถึงความเร็วและความสูงในการบินของนกหลังจากออกตัว? ไม่ต้องคิดลึก ที่จริงง่ายมากๆ เพราะความขับข้องใจของเกมนี้จะช่วยให้แข็งแกร่งขึ้น คนส่วนใหญ่จะไม่เล่นกันนานหรอก”
“กลับไปเกมเดิมไหม? เกมนี้ง่ายเกินไป! ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าได้หลายสิบคะแนนมาง่ายๆ เมื่อเล่นนานๆจะเริ่มรู้สึกว่าเกมน่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ และยอมแพ้อย่างรวดเร็ว”
“ดังนั้นในความเห็นของฉัน การออกแบบด้านคำนวณของเกมนี้ฉลาดมาก มันมีจุดสมดุลที่ดี การทำให้เกมมีความยากมากขึ้น ผิดแปลกมากขึ้น เพื่อไม่ให้ทุกคนได้รับคะแนนสูงแต่ให้ความหวังเล็กน้อยว่าคุณจะได้รับคะแนนเรื่อยๆหากพยายามต่อไป”
“คำถามข้อสาม ที่นักออกแบบจงใจออกแบบหน้าจอเกมโอเวอร์ง่ายๆ เพราะตอนที่เริ่มเกมใหม่จะได้สะดวกขึ้นเพื่อลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก คุณจะเริ่มเกมรวดเร็วขึ้นนั่นเอง ด้วยการทำแบบนี้เรื่อยๆ มันจะส่งผลให้คุณหัวหมุนกับเกมโอเวอร์และคุณจะรู้สึกหลงลืมเวลาไป”
“ส่วนการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและฟิชเจอร์จัดอันดับ ฉันจะบอกว่านี่เป็นไฮไลท์ของเกม หากปราศจากฟังก์ชันการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ข้อมูลสถิติจะเหลือหนึ่งในสามแม้แต่น้อยกว่า”
“ทำไม? เพราะเกมประเภทนี้ ต้องการการเปรียบเทียบ คะแนนของคุณจะต้องมีความหมาย มิฉะนั้นต่อให้คุณได้ 100 คะแนน 1000 คะแนน คุณก็แสดงคะแนนให้คนอื่นรับรู้ไม่ได้ว่าได้คะแนนเท่าไหร่?”
“ตอนที่ฉันกล่าวถึงการแสดงคะแนน ฉันไม่ได้หมายถึงให้คนอื่นดูคะแนนของฉันผ่านโทรศัพท์แต่ให้ดูผ่านรายชื่อจัดอันดับคะแนนของผู้เล่นทุกคนในเกม ฉันช่างยอดเยี่ยมจริงๆเลย! มาดูกี่คนกันที่ได้รับคะแนนที่ดีที่สุดเหมือนฉัน??”
ผู้ชมมากมายพากันยกมือขึ้น
ฉิวเหริงหยางพยักหน้า “นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจะบอก การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและฟิชเจอร์จัดอันดับเป็นไฮไลท์ของเกมนี้!”
ผู้ชมแถวหน้าคนหนึ่งตะโกนออกมา “อาจารย์ฉิว นี่คือสาเหตุที่คุณได้ 39 คะแนนแล้วใช้ชื่อตัวเองเหรอ?”
ทุกคนในสนามแข่งพากันหัวเราะไม่หยุด