Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - บทที่ 140 เกมเทพเซียนของ Chanyi Entertainment
บทที่ 140 เกมเทพเซียนของ Chanyi Entertainment
เจิ้งหงซีบิดเอว “อา ฉันเขียนพื้นหลังของตัวละครสองตัวกับเนื้อหาย่อยเสร็จแล้ว เฮ้อ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
เจี่ยเผิงพูด “ไม่ขนาดนั้นหรอก แม้แต่โครงเรื่องของ ‘Warcraft’ นายก็เขียนมาแล้วนี่”
เจิ้งหงซีส่ายหน้า “มันไม่เหมือนกัน แม้ว่าเนื้อเรื่องของ ‘Warcraft’ จะเหลือเชื่อกว่ามาก แต่ก็มีเนื้อเรื่องเดียว ก็แค่เขียนไปตามเรื่องราวก็พอ แต่เกมนี้ไม่เหมือนกัน มีเนื้อเรื่องย่อยมากมายที่ส่งผลต่อกันและกัน มันซับซ้อนกว่า ‘Lifeline’ มาก สมองฉันจะระเบิดแล้ว”
เฉียนคุนพูดไปทำงานไปว่า “คุณรีบหน่อยก็ดีนะ ผมมีวรยุทธ์กับไอเท็มอีกเป็นกองที่รอคุณเขียนเสร็จอยู่”
เจิ้งหงซีกุมหน้าผาก “โอ้พระเจ้า!”
เหวินหลิงเวยพูด “จริงสิ คุณเขียนโครงเรื่องเสร็จเอามาให้ฉันอ่านได้นะ ฉันช่วยดูให้”
เจิ้งหงซีส่ายหัวอย่างรุนแรง “ไม่ได้ นั่นเท่ากับว่าเป็นการสปอยล์ อีกอย่างคุณไม่จำเป็นต้องตรวจสอบหรอก ผู้จัดการได้อ่านมันแล้ว”
เหวินหลิงเวยพูดไม่ออก “ขี้เหนียวจัง ทำไมถึงได้ขี้เหนียวเหมือนผู้จัดการกันนะ”
เจิ้งหงซีพูด “ไม่ได้ขี้เหนียว แต่เป็นความเป็นมืออาชีพ”
เหวินหลิงเวยกลอกตา สีหน้าราวกับพูดว่า ‘ใช่ๆๆ คุณพูดถูก’
เฉียนคุนพูดอีกครั้ง “จริงสิ คุณอย่าลืมวางแผนโครงเรื่องพิเศษสำหรับวรยุทธ์และอุปกรณ์พิเศษสองสามอย่างด้วย อย่างเทพกระบี่หกชีพจร ผู้จัดการสั่งไว้โดยเฉพาะว่าคุณต้องสร้างแผนพิเศษในถ้ำอู๋เลี่ยงให้เสร็จ”
เจิ้งหงซีพยักหน้า “ฉันจำได้ ฉันกำลังวางแผนที่จะเขียนเนื้อเรื่องย่อยยาวอยู่”
เจี่ยเผิงพูดเสียงปลง “ดูเหมือนธีมรอบนี้จะเป็นจอมยุทธ์ แต่ผู้จัดการสร้างวรยุทธ์เยอะขนาดนี้ แต่ละชื่อฟังดูเท่มาก ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่า เทพกระบี่หกชีพจร พลังภูตอุดร เก้ากระบี่เดียวดาย ดูน่าประทับใจมาก”
เหวินหลิงเวยพูด “นายยังต้องสงสัยแผนการที่ผู้จัดการขี้เหนียวนั่นทำอยู่อีกเหรอ ความคิดเขาเยอะแยะมากมายจะตายไป”
เจี่ยเผิงพูด “แต่ผมรู้สึกประหลาดใจจริงๆ นะ ผมคิดว่าผู้จัดการจะไปสุดทางของแฟนตาซีตะวันตกเลย อีกอย่าง ‘Warcraft’ ก็ดังมาก ผมรู้สึกว่าภาคต่อยังสามารถทำเงินได้ แต่ทำไมถึงคิดที่จะทำเกมสไตล์จีนขึ้นมา”
ซูจิ่นอวี๋พูด “นายไม่รู้เหรอ เพราะคณะกรรมการเกม อ้อ เป็นแผนกที่เกี่ยวข้องกับเกมได้ออกประกาศขอให้นักออกแบบเกมพัฒนาเกมสไตล์จีนแล้วจะมีการคัดเลือก”
เจี่ยเผิงตกใจ “แบบนี้เองเหรอ ฉันคิดว่าผู้จัดการจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย”
ซูจิ่นอวี๋พูด “จริงๆ แล้ว เดิมทีผู้จัดการมีแผนจะสร้างเกมสไตล์จีนอยู่แล้ว และมันก็ได้จังหวะพอดี”
เจี่ยเผิงถาม “แล้วผู้จัดการจะได้อันดับหนึ่งไหม”
เหวินหลิงเวยพูด “ผู้จัดการขี้เหนียวนั่นเคยแพ้เสียเมื่อไร”
ซูจิ่นอวี๋รีบห้าม “อย่าเพิ่งอวยกันเลย ครั้งนี้ก็ยากที่จะพูดเพราะ Chanyi Entertainment กำลังพัฒนาเกมธีมเทพเซียนแบบผู้เล่นเดี่ยวอยู่ พวกเขาพัฒนาเร็วกว่าพวกเราหนึ่งเดือน ตอนนี้ดูเหมือนจะคืบหน้าไปเร็วมาก”
เจี่ยเผิงถาม “Chanyi Entertainment ก็เข้าร่วมด้วยเหรอ”
ซูจิ่นอวี๋พยักหน้า “แน่นอนว่าทั้ง Chanyi และ Dichao Entertainment ต่างเข้าร่วม และจำนวนเกมที่เข้าร่วมการคัดเลือกในครั้งนี้มีมากกว่าที่พวกนายคิดไว้มาก นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่แน่ใจ”
เจี่ยเผิงครุ่นคิด “ก็จริง หากครั้งนี้มีการคัดเลือกละก็ Dichao Entertainment อาจไม่มีโอกาส แต่ Chanyi Entertainment เป็นเลิศในเกมเทพเซียน และ ‘Legend of the Sword’ เป็นเกม RPG ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมีความรู้ในเรื่องนี้เป็นอย่างดี”
เจิ้งหงซีพูด “อันที่จริงมันก็ไม่แน่ ข้อได้เปรียบของ Chanyi Entertainment ไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น”
“ผมตรวจสอบเกมที่ได้รับรางวัลมากมายบนอินเทอร์เน็ตแล้วลองคาดเดาความชอบของคณะกรรมการเกม พูดง่ายๆ ก็คือ พวกเขาไม่ชอบเกมออนไลน์ แม้ว่าเกมออนไลน์จะได้กำไรมากกว่า แต่มันยากที่จะบอกเล่าเรื่องราว”
“ผู้ตัดสินเหล่านี้ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเนื้อเรื่องของเกมและนวัตกรรมการเล่นเกมแบบใหม่ นั่นหมายความว่าประเภทเกมที่ดีที่สุดคือเกมแบบผู้เล่นเดี่ยว และถ้ายิ่งมีคุณภาพสูง เรื่องราวก็ยิ่งสมบูรณ์ยิ่งขึ้น”
ซูจิ่นอวี๋พูด “แต่ถึงอย่างนั้น Chanyi Entertainment ก็ยังได้เปรียบกว่า มีภารกิจมากมายใน ‘Legend of the Sword’ Chanyi Entertainment ได้สะสมด้านนี้และหากเปลี่ยนเป็นรูปแบบผู้เล่นเดี่ยวก็คงไม่ได้เลวร้ายมากนัก”
เจิ้งหงซีพูด “มันก็ไม่แย่ แต่โครงเรื่องของพวกเราดีกว่า”
ทุกคน “เฮ้อ ที่แท้นายก็อวยตัวเอง!”
เจิ้งหงซีพยักหน้า “อืม”
ทุกคน “…”
เฉียนคุนโบกมือ “เอาละๆ จบบทสนทนา รีบมาพัฒนาต่อเร็ว เรายังมีงานอีกมาก เวลาเหลือน้อยแล้ว ทุกคนรีบหน่อย”
……………
ในขณะเดียวกัน Experience Store แห่งหนึ่งของ Chanyi Entertainment มีนักออกแบบเกมระดับ A ก็กำลังยุ่งอยู่เช่นกัน
เหยาอวี่เป็นนักออกแบบเกมระดับ A และเป็นหนึ่งในผู้สร้างหลักของ ‘Legend of the Sword’ โดยเป็นผู้รับผิดชอบโครงเรื่อง อีกทั้งยังเป็นนักออกแบบโครงเรื่องในประเทศที่มีชื่อเสียงและผู้แต่งนิยายแนวเทพเซียน
“ภาพวาดต้นฉบับของตัวละครที่เพิ่งออกมาเมื่อเช้านี้ บางตัวไม่มีคุณภาพ ฉันเลยส่งกลับให้ไปทำใหม่”
“ฉันได้ปรับโครงเรื่องของตำหนักยมโลกอย่างละเอียดแล้ว อย่าลืมแก้ในเกมด้วย บทสนทนาของโครงเรื่องและ CG ต้องสอดคล้องกันด้วย ควรปรับแต่งให้ดี”
“โฟกัสไปที่ระบบการต่อสู้ ถ้าไม่ดีมันจะส่งผลต่อการพัฒนาในอนาคต”
“ปรับระดับความยากใหม่อีกครั้ง ไม่ควรยากเกินไป แต่ก็ไม่ง่ายเกินไป ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของกรรมการด้วย”
“ทุกคนต้องจำไว้ว่าเกมของเราไม่ใช่สำหรับผู้เล่น แต่สำหรับผู้ตัดสิน เราต้องปล่อยให้ผู้ตัดสินรู้สึกว่าเกมนี้เป็นเกมแนวเทพเซียนแบบดั้งเดิม และให้พวกเขารู้สึกถึงความรู้สึกและความจริงใจของเรา เข้าใจไหม”
“ใช่ มันให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับ ‘Legend of the Sword’ แต่จะต้องไม่คล้ายกันมากเกินไป ถ้ามันคล้ายกันเกินไป คณะกรรมการจะรู้สึกว่าเราไม่สร้างสรรค์พอ”
เหยาอวี่ยังกำกับผู้ช่วยทั้งสี่ของตนในขณะที่พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อเกมผู้เล่นเดี่ยวในธีมเทพเซียน
อันที่จริงสำหรับเหยาอวี่แล้ว การให้นักออกแบบเกมระดับ A มาทำเกมนี้ดูจะเกินกับตัวงานที่เล็กน้อยไปหน่อย
นักออกแบบเกมระดับ S สามารถรับผิดชอบโครงการเกม VR ได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่นักออกแบบเกมระดับ A สามารถรับผิดชอบเกมออนไลน์ฝั่งคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ หรือทำงานสำคัญในโครงการเกม VR
การสร้างเกมแบบผู้เล่นเดี่ยวนั้นค่อนข้างเหมือนกับใช้มีดโคถึกฆ่าไก่[1]
อย่างไรก็ตาม เหยาอวี่ยังทราบด้วยว่าเหตุใดผู้บริหารของ Chanyi Entertainment จึงมอบความไว้วางใจให้เขาทำงานนี้ เป็นเพราะประสบการณ์ของเขาจากการพัฒนา ‘Legend of the Sword’ และทักษะการเขียนเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมของเขา
กล่าวอีกนัยหนึ่งมันเป็นภารกิจทางการเมือง การได้รับการจัดอันดับที่ดีในการคัดเลือกนี้จะช่วยยกระดับสถานะของ Chanyi Entertainment ในแวดวงเกมในประเทศ และยังช่วยเพิ่มชื่อเสียงของเขาเองด้วย
ดังนั้นเหยาอวี่จึงไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่น้อย เขาทุ่มเททั้งหมดเพื่อพัฒนาเกมธีมเทพเซียนแบบผู้เล่นเดี่ยวคุณภาพสูงและคว้าอันดับหนึ่งในครั้งนี้!
………………
[1] ใช้มีดโคถึกฆ่าไก่ : การทุ่มใช้กำลังอันมากมายเพื่อผลลัพธ์อันน้อยนิด ซึ่งมันจะไม่คุ้มค่ากับที่ได้ลงแรงไป
