Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - บทที่ 144 เพลงหลัก
บทที่ 144 เพลงหลัก
เวลาเล่นของ ‘Wulin Legend’ ขึ้นอยู่กับผู้เล่น หากเป็นผู้เล่นที่มีทักษะสูงในการเล่นเกมเพียงเพื่อเนื้อเรื่องอาจใช้เวลา 30 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นคนที่ใหม่กับเกมนี้และต้องการเล่นจนได้ตอนจบแบบเป็นเจ้ายุทธจักรเลยอาจใช้เวลามากกว่าห้าสิบชั่วโมง
แน่นอนหากต้องการสัมผัสตอนจบทั้งหมดและเนื้อเรื่องย่อยที่แตกต่างกันเช่น บางคนต้องการทำภารกิจทั้งหมดในเมืองลั่วหยางให้สำเร็จก่อนที่จะฝากตัวเป็นศิษย์ ซึ่งก็นับเวลาไม่ได้
มือใหม่อย่างหลินเสวี่ยเล่นเกมนี้โดยไม่มีกลยุทธ์เลย อาจจะต้องลองเล่นสองสามรอบก่อนถึงจะจบลงด้วยการเป็นเจ้ายุทธจักร
อย่างไรก็ตาม เธอยังไม่รู้ข้อเท็จจริงที่โหดร้ายนี้และยังคงเล่นด้วยความสนใจอย่างมาก โดยลืมเรื่องแก๊งเฉินโม่ไปเสียสนิท
…………
Chanyi Entertainment
เหยาอวี่ยังคงยุ่งอยู่กับการเตรียมประชาสัมพันธ์และโปรโมต ‘กระบี่ถามรัก’
“ใช่ CG ช่วงนี้ตัดฉากสวยๆ ใส่ลงไป ยังมีระบบการต่อสู้ เน้นแสดงคาถาที่เจ๋งๆ หน่อย สีของภาพนี้มืดเกินไป ลบออก ปรับความอิ่มของสีให้สูงขึ้นหน่อย แล้วอันนี้…”
อันที่จริงการประชาสัมพันธ์และการโปรโมตสิ่งสำคัญคือการทำให้ผู้เล่นสนใจเกมนี้ผ่านรูปภาพและวิดีโอโปรโมต เหยาอวี่มีประสบการณ์มากในด้านนี้และงานทั้งหมดจะถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ
ในตอนนั้นเอง ผู้ช่วยคนหนึ่งของเขาพูดขึ้นว่า “มีข่าวเกี่ยวกับเกมใหม่ของเฉินโม่แล้วครับ เป็นธีมจอมยุทธ์!”
เหยาอวี่ตกตะลึง “ธีมจอมยุทธ์เหรอ หรือว่าเขาวางแผนที่จะเข้าร่วมการคัดเลือกนี้ด้วย”
ผู้ช่วยพยักหน้า “ต้องใช่แน่ครับ แต่ธีมจอมยุทธ์อ่อนขนาดนั้น ทำไมเขาต้องพยายามทำเกมแนวนี้ด้วย”
เหยาอวี่พูดว่า “มีวิดีโอไหม เอามาให้ฉันดูหน่อย”
เหยาอวี่ค่อนข้างประหม่าเมื่อได้ยินว่าเฉินโม่เข้าร่วมด้วย
หากเป็นนักออกแบบเกมระดับ B คนอื่นเหยาอวี่จะไม่ใส่ใจเลย เขาจะเดินหน้าทำทุกอย่างที่เขาต้องการ แล้วอีกอย่างธีมจอมยุทธ์เป็นธีมที่ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าใช้การไม่ได้ นั่นไม่เป็นการขุดหลุมฝังศพตัวเองเหรอไงกัน
แต่เฉินโม่แตกต่างออกไป คนคนนี้ชั่วร้ายมาก เขาสามารถสร้างเกมที่ทุกคนคิดว่าไม่สามารถสร้างได้ และเหยาอวี่ก็ไม่กล้าที่จะประมาท
ผู้ช่วยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และในนั้นมีคลิปทดลองเล่น ‘Wulin Legend’ ที่แฟนๆ โพสต์ไว้
เฉินโม่ไม่ได้พยายามซ่อนมันเพราะแม้ว่านักออกแบบคนอื่นๆ จะเห็นคลิปเหล่านี้ แต่ก็ไม่มีประโยชน์ เวลากิจกรรมใกล้จบลงแล้ว เกมก็ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ถึงแม้ว่านักออกแบบเกมคนอื่นๆ ต้องการที่จะคัดลอกมันก็ไม่มีเวลาหรอก
สำหรับเหยาอวี่นั้นไม่จำเป็นต้องลอกเลียนแบบ เพราะแผนของ ‘กระบี่ถามรัก’ นั้นสมบูรณ์แบบแล้วและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก เขาแค่ต้องการทำความเข้าใจเกมใหม่ของเฉินโม่ด้วยการดูวิดีโอนี้เท่านั้น
เหยาอวี่ขมวดคิ้วและดูคลิปทั้งหมดที่กินเวลาเกือบสิบนาที
“แผนที่ขนาดใหญ่พร้อมโหมดฝึกฝนงั้นเหรอ มันคืออะไร ไม่เห็นเข้าใจเลย” เหยาอวี่สับสนเล็กน้อย
เนื้อหาของ ‘Wulin Legend’ นั้นเข้มข้นมาก ขนาดผู้เล่นเองอาจยังไม่เข้าใจ แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ดูเพียงไม่กี่ตอน เหยาอวี่ดูอีกรอบถึงแน่ใจว่าความสามารถในการแข่งขันหลักของ ‘Wulin Legend’ อยู่ที่รูปแบบการเล่นเป็นหลัก ส่วนเรื่องอื่นๆ เขายังมองไม่ออก
ผู้ช่วยถาม “คุณว่าพวกเราควรทำยังไง”
เหยาอวี่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง “ยื่นหนังสือขอทุนประชาสัมพันธ์เพิ่ม ฉันต้องการให้ทั้งโลกรู้! เกมของเขาน่าจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการเล่นและเนื้อหาที่เข้มข้น การเริ่มต้นในช่วงแรกจะต้องยากมาก คราวนี้เราจะเล่นเกมโฆษณาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เล่น ตราบใดที่เกมของเขาไม่เป็นที่นิยมจะต้องแพร่กระจายช้ามากแน่”
ผู้ช่วยพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ!”
ถึงเกมนี้สร้างเพื่อร่วมการคัดเลือก แต่ยอดจำหน่ายและบทวิจารณ์ของผู้เล่นก็ถูกนำมาพิจารณาด้วย หากกรรมการเห็นว่าเกมนั้นดี แต่ยอดจำหน่ายไม่ดีมันจะส่งผลต่อการเลือกอย่างแน่นอน
ความคิดของเหยาอวี่นั้นชัดเจนมาก ‘Wulin Legend’ ยากที่จะเรียนรู้ในเบื้องต้นแล้วยังมีนวัตกรรมมากมาย ในเรื่องการประชาสัมพันธ์ไม่มีทางสู้ ‘กระบี่ถามรัก’ ได้แน่ๆ ถ้า ‘Wulin Legend’ มีเสถียรภาพในแง่ของการประชาสัมพันธ์และการโปรโมตละก็ สำหรับเขาแล้วรางวัลที่หนึ่งคงเป็นสิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้
นอกจากนี้เหยาอวี่ยังรู้นิสัยบางอย่างของเฉินโม่ เขาไม่ชอบใช้เงินมากเกินไปในการโฆษณา ดังนั้นเหยาอวี่จึงมั่นใจว่าตราบใดที่เขาได้รับคำวิจารณ์ที่ดีจากแฟนๆ ในช่วงต้นและมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น เขาจะชนะอย่างแน่นอน
แล้วถ้า ‘Wulin Legend’ ได้รับความนิยมในภายหลังล่ะ ถึงตอนนั้นอันดับหนึ่งก็ได้รับการตัดสินแล้ว!
……………
วันนี้เฉินโม่ไม่ได้อยู่ใน Experience Store
ณ Xuandong Aurora Studio เฉินโม่กำลังพูดคุยกับกัวเฟิง
“อะไรนะครับ หานักร้องได้แล้วเหรอ ถ้าร้องออกมาไม่น่าพอใจผมไม่จ่ายเงินนะ” เฉินโม่พูด
กัวเฟิงหัวเราะ “วางใจได้ครับ พวกเราทำงานร่วมกันมานาน คุณไม่เชื่อใจผมเหรอ แต่ CG ที่คุณทำครั้งนี้มันง่ายเกินไป แล้วเมื่อไหร่คุณจะสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่อย่าง ‘Warcraft’ อีกเหรอครับ”
เฉินโม่กลอกตา “ดูคุณสิ! คุณหวังจะให้ผมจ้างสตูดิโอของคุณตลอดเลยเหรอไง อีกอย่าง คุณยังสร้าง CG หลังจากนั้นของ ‘Warcraft’ ยังไม่เสร็จเลย!”
กัวเฟิงพูด “ไม่ต้องกังวลไปครับ พวกเขากำลังทำงานอย่างหนัก”
เฉินโม่โบกมือ “เอาเถอะ เนื่องจากเราทำงานร่วมกันมานานจึงไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมค้อม ผมกำลังบอกคุณว่าเพลงนี้สำคัญมากสำหรับเกมใหม่ของผม คุณต้องใส่ใจกับมัน”
กัวเฟิงตบหน้าอกของเขา “แน่นอนอยู่แล้วครับ สตูดิโอบันทึกเสียง วงดนตรี และนักร้องนำล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แน่นอนว่ามันอาจจะยากสักหน่อยที่จะหานักร้องดังๆ แต่ตอนนี้สิ่งที่คุณกำลังมองหาคือนักร้องนำระดับแนวหน้า ทักษะการร้องไม่เป็นปัญหา…”
เฉินโม่พยักหน้า “เอาละ ยังไงก็เถอะ เนื้อเพลงและดนตรีถูกปล่อยออกมาแล้ว การเรียบเรียงก็เสร็จสิ้นแล้ว ถ้าร้องไม่ดี ฉันก็คงต้องหานักร้องดังมาร้องจริงๆ”
กัวเฟิงพูด “แน่นอน มันเป็นเพลงของคุณ คำพูดของคุณเป็นที่สุด! ตอนนี้คุณไม่ได้ขาดแคลนเงิน การเชิญราชาแห่งสวรรค์มาร้องเพลงยังเป็นเรื่องเล็กน้อยเลย”
เฉินโม่รีบโบกมือ “จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ผมรู้สึกว่าช่วงนี้คุณพูดโอเว่อร์มากเลย ช่างเถอะ คุณรีบเอาตัวอย่างมาให้ผมฟังเร็ว”
กัวเฟิงพูด “พวกเขากำลังอัดอยู่ครับ อย่าเพิ่งใจร้อน อีกเดี๋ยวน่าจะเสร็จแล้ว”
หลังจากรออีกสิบนาที กัวเฟิงก็ได้รับไฟล์เพลง
“เอาละ เสร็จแล้ว คุณลองฟังดูก่อนว่าพอใจหรือไม่ ถ้าไม่พอใจจะให้เขาร้องอีกกี่รอบก็ได้” กัวเฟิงส่งหูฟังให้เฉินโม่
เฉินโม่สวมหูฟังและฟังมันหลายครั้ง
หลังจากฟังเสร็จ เขาก็ถอดหูฟังออกและส่ายหัว “ไม่ได้”
กัวเฟิงตกตะลึง “ตรงไหนไม่โอเคเหรอครับ”
เฉินโม่พูด “ทั้งหมดเลย เปลี่ยนคนเถอะ”
กัวเฟิงงุนงง ถึงกับต้องเปลี่ยนคนเลยเหรอ
กัวเฟิงเองก็ได้ฟังเพลงนี้แล้วเหมือนกัน แม้ว่าเขาจะทำงานด้านแอนิเมชันและไม่ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับดนตรีอย่างลึกซึ้ง แต่เขาอยู่ในวงการนี้มาหลายปีแล้ว ฟังเพลงมามากมายนับไม่ถ้วนก็พอจะดูออกว่าอันไหนเพราะไม่เพราะ
เพลงนี้ถ้าให้กัวเฟิงประเมินละก็จะต้องอยู่ในระดับสูงสุดอย่างแน่นอน เนื้อเพลงและดนตรีได้รับจากเฉินโม่ทั้งหมดและยังมีนักแต่งเพลงมืออาชีพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงไม่น่าเป็นปัญหา
แต่เฉินโม่ไม่พอใจกับการร้องเพลง
แต่คนที่กัวเฟิงหามาคือนักร้องนำชั้นหนึ่งและทักษะการร้องเพลงของเขาก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะให้มองหาละเอียดไปอีกก็จะเหลือนักร้องแถวหน้าบางคนเท่านั้น
แค่เพลงประกอบเกมต้องใช้ความพยายามขนาดนั้นเลยเหรอ
กัวเฟิงพูด “คุณคิดว่านักร้องคนนี้ร้องเพลงไม่ดีเหรอครับ”
เฉินโม่พยักหน้า “ใช่ ห่างไกลจากความคาดหวังของผม”
กัวเฟิงปาดเหงื่อที่หน้าผากของเขา “แต่…ถ้าหาลึกไปกว่านั้นก็จะเป็นนักร้องระดับแนวหน้าแล้วนะครับ จากความต้องการของคุณ นักร้องแนวหน้าธรรมดาๆ อย่างเดียวไม่พอ หรือคุณอยากได้ทักษะการร้องแบบพรสวรรค์เลย”
เฉินโม่พูด “ใช่ คุณหาได้ไหมล่ะ”
กัวเฟิงกระแอมในลำคอ “ได้มันก็ได้อยู่หรอกครับ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการหาผู้จัดการของนักร้องเหล่านี้และจ้างพวกเขาในราคาตลาด แต่คุณต้องรู้ว่ามันจะเป็นเงินมหาศาล แค่เพลงประกอบเกมมันน่าลงทุนขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
เฉินโม่พูด “แน่นอนมันคุ้มค่า เอาเถอะ คุณช่วยหาให้ผมหน่อย ดีที่สุดควรเป็นคนที่เคยร้องเพลงสไตล์จีน แสดงความสง่างามออกมาได้ ไม่ต้องหานักร้องที่กำลังเป็นที่นิยมมาให้ผมนะ ผมต้องการคนที่มีพลังเสียง”
กัวเฟิงพยักหน้า “ครับ เอาตามที่คุณว่า แล้วผมจะติดต่อกลับไป”
…………
ห้องบันทึกเสียงของ Huaxiang Recording Company ในฮ่องกง
ช่วงนี้โจวอี้เฟิงมีอาการปวดหัว
ในฐานะนักร้องชายที่ได้รับความนิยมสูงสุดภายใต้ Huaxiang Records การงานช่วงนี้ของเขาเป็นไปได้ด้วยดีและก้าวหน้ามาก
แต่ไม่นานมานี้เขาปวดหัวกับอัลบั้มใหม่
เพลงในอัลบั้มใหม่เกือบจะพร้อมแล้ว แต่เพลงหลักสำหรับอัลบั้มของเขาไม่ปรากฏให้เห็น
โจวอี้เฟิงถือว่าเป็นนักร้องมากฝีมือ ถึงมีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างธรรมดา แต่เขามีทักษะการร้องเพลงที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นทั้งนักร้องนักแต่งเพลง ดังนั้นเขาจึงเป็นที่รู้จักในแผ่นดินใหญ่ด้วย
แต่ปัญหาคือนักร้องนักแต่งเพลงมักขาดแรงบันดาลใจและไม่ได้ปล่อยเพลงดังมาเกือบสองปีแล้ว แม้ว่าจะยังสามารถรักษาชื่อเสียงไว้ได้โดยการใช้เพลงก่อนหน้า แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาในระยะยาว
เนื่องจากตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แล้วยังความนิยมที่มาไวไปไว หากไม่ออกอัลบั้มเป็นเวลาหนึ่งปีก็อาจถูกตามทันได้
ผู้จัดการเดินเข้ามาหาเขา “อี้เฟิง มีคนจากแผ่นดินใหญ่เชิญคุณไปร้องเพลง ให้ราคาสูงด้วย”
โจวอี้เฟิงขมวดคิ้ว “ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ทุกอย่างจะถูกยกเลิกระหว่างการเตรียมอัลบั้มใหม่ งานแสดงแบบนี้ต่อไปไม่ต้องมาบอกผมอีกนะ”
ผู้จัดการส่ายหัว “มันไม่ใช่การแสดงเชิงพาณิชย์ แต่เป็นบริษัทเกมที่ต้องการปล่อยเพลงประกอบ และเนื้อเพลงและดนตรีก็ออกมาแล้ว เลยอยากเชิญนายไปร้อง”
โจวอี้เฟิงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย “งั้นผมไม่ว่าง ผมกำลังเตรียมอัลบั้มใหม่ เอาไว้ก่อน”
ผู้จัดการลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “แต่เพลงนี้ฉันลองฟังดูแล้ว เลยอยากให้นายได้ฟังก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ”