Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - บทที่ 165 สัมภาษณ์อีกครั้ง
บทที่ 165 สัมภาษณ์อีกครั้ง
ในไม่ช้า แพ็กเกจอิโมจิต่างๆ ก็ปรากฏขึ้นบน Weibo และฟอรัม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการแสดงออกต่างๆ ของเฉินโม่ในระหว่างการสตรีม โดยทั้งหมดนี้มีข้อความที่แตกต่างกัน
“ฉันสงสัยว่าเกมนี้ไม่มี SSR เลย”
“น้ำตาของผู้โชคร้าย”
“อย่าร้องไห้เลย คนโชคร้ายอยู่ฝั่งเดียวกับคุณ”
“ฉันที่จั่วไม่ได้ SSR ทำอะไรไม่ถูกเลย”
“จั่วก่อนนอนหนึ่งครั้ง ได้ R ทั้งสิบใบ!”
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนอย่างรวดเร็วในฟอรัมของ ‘Onmyoji’ ในวันนั้น และ ‘เฉินโม่ถ่ายทอดสดจั่วการ์ด’ ก็กลายเป็นประเด็นร้อนใน Weibo
เดิมผู้เล่นโกรธและต้องการระบายใส่เฉินโม่ในรายการสด แต่ใครจะรู้ว่าขนาดเขาที่จริงจังกับการจั่วการ์ดยังจั่วไม่ได้การ์ด SSR เลย!
เขาดูมืดมนยิ่งกว่าผู้เล่นทั่วไปอีก!
ผู้เล่นหลายคนฟื้นสมดุลทางจิตใจในทันที ดูเหมือนว่าเกมนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เกมนี้ไม่มีลูกเล่นและเทคนิคใดๆ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าคุณโชคดีแค่ไหน แม้แต่นักออกแบบเกมเองก็หนีไม่พ้น!
ท่ามกลางเสียงหัวเราะ ความสงสัยก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความน่าจะเป็นของการโกง ‘Onmyoji’ นั้นถูกระงับไปเสียส่วนใหญ่
ผู้เล่นหลายคนคิดได้แล้วว่าเนื่องจากความน่าจะเป็นเหมือนกันจึงเป็นปัญหาของตัวเองที่ไม่สามารถจับ SSR ได้!
ด้วยวิธีนี้ ความขัดแย้งระหว่างผู้เล่นและผู้จำหน่ายเกมได้เปลี่ยนเป็นความขัดแย้งระหว่างผู้โชคดีและผู้เคราะห์ร้ายเพราะการถ่ายทอดสดของเฉินโม่ ตั้งแต่นั้นมาผู้โชคดีและผู้โชคร้ายก็ยุ่งอยู่กับการต่อสู้กันเอง และไม่มีเวลาที่จะออกมาบ่นเกี่ยวกับเฉินโม่
สำหรับแวดวงเกมมือถือในประเทศก็ได้รับการล้างบาปอีกครั้ง
คนเหล่านี้สามารถศึกษาวิธีการของ ‘My name is MT’ ได้อย่างชัดเจน และยังมี ‘Onmyoji’ ที่ออกมา ที่แย่กว่านั้นคือทั้งสองเกมดูเหมือนจะไม่มีความคล้ายคลึงกันเลย
ก่อนหน้านี้ ‘My name is MT’ ทำเงินในขณะที่ถูกด่าและคะแนนไม่สูง แต่ ‘Onmyoji’ ทำเงินในขณะที่ถูกด่าและคะแนนก็สูงมาก!
นักออกแบบเหล่านี้กำลังคิดหาวิธีลอกเลียนแบบ ‘Onmyoji’ แต่ไม่นานก็รู้ว่าลอกเลียนแบบไม่ได้!
แม้กระทั่งตอนนี้ นักออกแบบเกมหลายคนก็ยังไม่รู้ว่า ‘Onmyoji’ ได้รับความนิยมได้อย่างไร
…………………
นักออกแบบเกมต่างไม่เข้าใจ สื่อเกมไม่เข้าใจยิ่งกว่านั้นอีก
หานลู่นักข่าวจากช่องเกมของ Tianji.com กำลังจัดเรียงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ‘Onmyoji’
เธอสัมภาษณ์เขาตอนที่ทำเกม ‘My name is MT’ แต่เธอไม่ได้อะไรเลย ซ้ำยังถูกเฉินโม่ทำสับสนจนหัวหมุนติ้ว
อย่างเช่น ‘สร้างความสุขด้วยหัวใจ’ ‘ความรัก ความจริงใจ ความมุ่งมั่น’ ‘ทำอย่างนั้นก็เพื่อผู้เล่น’ เป็นต้น ล้วนกลายเป็นมุกตลกที่ผู้เล่นเขาบ่นกัน
และต้นฉบับที่เขียนโดยหานลู่ ‘บทสัมภาษณ์กับเฉินโม่ : การสร้างความสุขด้วยหัวใจ’ ก็ถูกทุบตีเหมือนม้าตายครั้งแล้วครั้งเล่า มีความคิดเห็นมากมายที่ทำให้หานลู่ปวดหัวอย่างมาก
หลังจากเปิดตัว ‘Onmyoji’ ก็ได้รับแรงผลักดัน หัวหน้ากองบรรณาธิการเห็นโอกาสนี้และขอให้หานลู่สัมภาษณ์เฉินโม่
หานลู่ไม่พอใจกับเรื่องนี้ แต่ทัศนคติของหัวหน้ากองบรรณาธิการก็มั่นคงมากเช่นกัน
“ไม่เป็นไร ถึงจะถามอะไรจากเขาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แม้ว่าคุณจะเผยแพร่บทความเหมือนครั้งที่แล้ว มันจะนำมาซึ่งการคลิกจำนวนมากมาที่เว็บไซต์ของเรา คุณเข้าใจเรื่องนี้หรือเปล่า”
หานลู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสัมภาษณ์เฉินโม่อีกครั้ง
แต่คราวนี้เธอตัดสินใจขยายขอบเขตของคำถาม แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ ‘Onmyoji’ เธอสามารถถามคำถามเกี่ยวกับ ‘Warcraft’ และ ‘Wulin Legend’ ได้เช่นกัน บางทีถามเกี่ยวกับสามเกมนี้กลับไปกลับมาอาจทำให้เฉินโม่เวียนหัวจนพูดความจริงออกมาก็ได้!
หลังจากเตรียมสถิติและเนื้อหาบางอย่างแล้ว หานลู่ก็นั่งแท็กซี่ไปที่ Experience Store ของเฉินโม่ด้วยความรู้สึกเศร้าที่ต้องต่อสู้จนถึงที่สุด
……………………
หานลู่เดินเข้าไปใน Experience Store และพบว่ามีผู้เล่นมากกว่าแต่ก่อนมาก ที่นั่งก็เกือบจะเต็มแล้วอย่างกับร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในสถานีรถไฟ มีแม้กระทั่งการพูดคุยกันระหว่างต่อคิวของพวกเขา
นอกจากนี้ยังมีหลายคนที่ไม่ได้มาที่นี่เพื่อเล่นเกม มีคนหนึ่งกำลังต่อคิวกับรูปปั้นคางุระ
รูปปั้นคางุระนี้สูงประมาณ 1.5 เมตร โดยพื้นฐานแล้วสูงเท่ากับโลลิทั่วไป มันดูใกล้เคียงกับในเกมมากและมีรายละเอียดสูงด้วย มือขวาเหยียดออกไปข้างหน้า ซึ่งเป็นท่าเดียวกับหนึ่งในโปสเตอร์ ‘Onmyoji’
ด้านหลังรูปปั้นคางุระมี Garage Kit เรียงเป็นแถว หานลู่มองใกล้ๆ และพบว่าพวกมันเป็น Shikigami SSR ทั้งหมด มีโอเท็งงุ, ชุเท็น โดจิ, อิบารากิ โดจิ, อาโออันดน เป็นต้น พวกมันเรียงรายอยู่บน ชั้นวางของด้านหลังคางุระ
เดิมที Experience Store ค่อนข้างกว้างขวาง แต่ทันทีที่วางรูปปั้นและ Garage Kit ก็มีคนจำนวนมากเข้าคิวข้างหน้า ทำให้สถานที่ดูแน่นขนัดขึ้นมาทันที
แต่ผู้เล่นไม่สนใจ ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์เป็นหลัก ใช้ทรัพยากรในเกมอย่างเมามัน
หานลู่รู้สึกสงสัยเล็กน้อย พวกเขากำลังทำอะไร
เธอเห็นผู้เล่นเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ และเมื่อถึงตาของตัวเองก็ประสานมือกันแล้วแตะมือขวาของคางุระ จากนั้นอธิษฐานไปว่า “โปรดประทานชุเท็น โดจิกับผมด้วยเถอะ!”
หานลู่สับสน “ยังทำแบบนี้กันอยู่เหรอเนี่ย”
เธอสุ่มถามผู้เล่นคนหนึ่ง “ไหว้สิ่งนี้แล้วพรจะเป็นจริงเหรอ”
ผู้เล่นพูดว่า “ใครจะรู้กันละ แต่ยังไงก็มาที่นี่แล้วก็ต้องมาขอพร มันเป็นเรื่องของความเชื่อ”
หานลู่กุมหน้าผาก “พระเจ้า ผู้เล่นผิดปกติกันหมด!”
เนื่องจาก ‘Onmyoji’ ยังคงเป็นที่นิยม ผู้เล่นใหม่จึงมาที่ Experience Store ทุกวัน เฉินโม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าจะให้ผู้เล่นที่เดินทางมาไกลไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงสั่งทำรูปปั้นและ Garage Kit SSR บางส่วนวางไว้ใน Experience Store เพื่อให้ผู้เล่นอธิษฐาน
ซึ่งผลออกมาค่อนข้างดี หลังจากขอพร ผู้เล่นหลายคนได้รับ SSR จริงๆ เมื่อสมหวังแล้วพวกเขายังสนับสนุนให้ผู้เล่นคนอื่นในฟอรัมมารวมตัวกัน
ในท้ายที่สุด ผู้เล่นหลายคนในเมืองหลวงเดินทางมาที่นี่และเข้าคิวเป็นเวลานานเพียงเพื่อขอพร
ไม่เพียงแค่นั้น เฉินโม่ยังขาย Garage Kit ได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ได้กำไรเล็กน้อย
เฉินโม่ยังทำอะไรไม่ถูกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใครให้เขาประเมินความมุ่งมั่นของผู้โชคร้ายที่อยากเป็นคนโชคดีต่ำเกินไปละ
……………………
ซูจิ่นอวี๋พาหานลู่ไปที่ชั้นสอง
เหมือนในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุด เฉินโม่ยังคงรอหานลู่อยู่ในสตูดิโอ เขารินน้ำให้เธอหนึ่งแก้วอย่างระมัดระวัง
เมื่อจวนใกล้จะเผชิญหน้ากับศัตรูแล้ว ก่อนเขาประตูไปหานลู่ตรวจสอบอุปกรณ์ที่เธอเตรียมมาอีกครั้ง
เฉินโม่มองเธอ “รู้สึกเหมือนคุณประหม่านิดหน่อย ไม่เป็นไร มันเป็นแค่การสัมภาษณ์”
หานลู่ “…”
อะไรเนี่ย เธอถูกปฏิบัติเหมือนเป็นแขกอีกแล้ว! ตกลงฉันสัมภาษณ์เขาหรือเขาสัมภาษณ์ฉันกันแน่
หานลู่สงบสติอารมณ์และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เราพบกันอีกแล้ว คุณเฉินโม่ การสัมภาษณ์ครั้งก่อนของเราได้ใจแฟนๆ ค่อนข้างดี ฉันหวังว่าคราวนี้เราจะสามารถแสดงให้ผู้เล่นเห็นได้มากขึ้น”
เฉินโม่พยักหน้า “อืม ไม่มีปัญหาครับ”
หานลู่พูด “ก่อนอื่นฉันขอแสดงความยินดีด้วย ข้อมูลปัจจุบันของ ‘Onmyoji’ ดีมากจนอาจกล่าวได้ว่าครองอันดับหนึ่งในรายการเกมมือถือที่ขายดีที่สุด ทิ้งห่าง ‘Demon Slayer 2’ ไปไกล ตามที่คุณบอกมา รายได้ต่อเดือนของ ‘Onmyoji’ สูงถึงกว่า 300 ล้านแล้ว คุณประเมินเกม ‘Onmyoji’ ยังไงคะ”