Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - บทที่ 193 ราชาโครงกระดูก Leroic
บทที่ 193 ราชาโครงกระดูก Leroic
“พระเจ้า มันสุดยอดมาก!”
“ว้าว น่าทึ่งมาก ตายไปตั้งครึ่งหนึ่งแล้ว สู้ๆ!”
“ไม่มีเลือดแล้ว รีบกินยาเร็ว!”
“เอาละ เขาฟื้นแล้ว อย่าไปที่นั่น ตรงนั้นมีมอนสเตอร์!”
ผู้ชมตกใจและกังวลยิ่งกว่าคนเล่นเสียอีก
โจวจัวตบคีย์บอร์ดและคลิกเมาส์อย่างเมามัน หลังจากเล่นไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็กำจัดมอนสเตอร์ทั้งหมดลงได้
เมื่อมอนสเตอร์สีทองล้มลง อุปกรณ์สีเหลืองหลายชิ้น เหรียญทองจำนวนมากและยารักษามากมายแตกกระจายไปทั่ว
“ว้าว สุดยอด!!”
ผู้ชมทุกคนตื่นเต้นมาก ดูคลั่งยิ่งกว่าคนเล่นเองเสียอีก
โจวจัวถอนหายใจด้วยความโล่งอก ต้องบอกว่าเขาเกือบจะตะโกนเมื่อมอนสเตอร์สีทองนั่นล้มลงกับพื้น กว่าจะจัดการมันได้ยากแสนยาก พอมอนสเตอร์ตัวนี้ปรากฏตัวก็ยกพวกมอนสเตอร์มาด้วยเป็นฝูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนพบมันในถ้ำที่มืดและแคบ เล่นเอาเขาตกใจแทบตาย
พอเขาเปลี่ยนอุปกรณ์สีเหลืองทั้งสามชิ้นนี้ หัวใจของโจวจัวพองโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“เข้าไปในมหาวิหารและจับตัว Leroic!”
ด้วยเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่นี้ทำให้โจวจัวเล่นด้วยความกระตือรือร้น
เกือบสองชั่วโมงต่อมา ในที่สุดก็ได้เวลาเผชิญหน้ากับราชาโครงกระดูก Leroic
ถือว่าใช้เวลาค่อนข้างนานเนื่องจากเฉินโม่ได้เพิ่มระดับความยากของเกมทำให้ไม่สามารถเล่นได้อย่างราบรื่นโดยไร้ความกดดัน โจวจัวค่อนข้างหมกมุ่น เขาต้องค้นหาถ้ำทั้งหมดก่อนถึงจะไปข้างหน้าได้ ดังนั้นความคืบหน้าจึงไม่เร็วมาก
เขากลับเข้าเมือง ซ่อมอุปกรณ์ทั้งหมด ทำความสะอาดสัมภาระและซื้อเสบียง
โจวจัวหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเดินทางไปยังชั้นสามของมหาวิหารผ่าน Teleportation Circle เพื่อค้นหาสุสานของราชวงศ์
ในสุสานใต้ดินที่มืดมิด ไม่มีมอนสเตอร์ ยกเว้นดาบสองมือที่ปักอยู่บนพื้นกลางห้อง
ดาบของ Leroic
โจวจัวคลิกที่ดาบ ภาพมากมายปรากฏขึ้นราวกับวิญญาณรอบๆ ตัวนักล่าปีศาจ ทั้งหมดนี้เป็นช่วงเวลาก่อนที่ Leroic จะเสียชีวิต
นักล่าปีศาจเดินหน้าต่อไป สุสานว่างเปล่าดูเหมือนไม่มีใครเคยมาที่นี่มาหลายร้อยปีแล้ว แต่เสียงกระซิบบ้าคลั่งของ Leroic ยังคงดังก้องไปทั่ว
ทันใดนั้นเงาของ Leoric ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้านักล่าปีศาจ
“เจ้ากล้านำลมหายใจแห่งชีวิตเข้ามาในสุสานของข้า!”
หลังจากเสียงคำรามของราชาโครงกระดูก เสาหินถูกเปิดใช้งานทีละต้น โครงกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนก็ตื่นขึ้น พวกมันลุกขึ้นจากพื้นและพุ่งเข้าหานักล่าปีศาจ!
“เชี่ย!”
โจวจัวผงะ เขารีบควบคุมนักล่าปีศาจให้กลิ้งไปรอบๆ เพื่อหลบการโจมตีอย่างรวดเร็ว หน้าไม้ในมือทั้งสองข้างปล่อยลูกดอกออกมารัวๆ กวาดล้างโครงกระดูกเล็กๆ พวกนั้นจนหมดสิ้น
“เฮ้อ เกมมันน่าตื่นเต้นจริงๆ” โจวจัวถอนหายใจออกยาว
เกมนี้ต่างจาก ‘Warcraft’ มอนสเตอร์ใน ‘Diablo’ มีจำนวนมากกว่า แม้ว่าจะมีตัวละครที่สามารถเล่นได้เพียงแค่ตัวเดียว แต่เพราะมีทักษะมากมายก็ยังต้องใช้ทักษะการต่อสู้และการดำเนินการบางอย่างเพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้ของตัวละครให้ได้สูงสุด
หลังจากผ่านอุปสรรคต่างๆ ในที่สุดเขาก็มาถึงสุสานของราชาโครงกระดูก
เพราะถูกกัดเซาะเป็นเวลานานหลายปี สุสานทั้งหมดได้พังทลายลงเป็นส่วนใหญ่ นักล่าปีศาจจึงต้องเดินหน้าไปตามเส้นทางเดียวที่เหลืออยู่
หลังจากจัดการกับฝูงโครงกระดูกจำนวนมาก ในที่สุดเขาก็มาอยู่ตรงหน้าราชาโครงกระดูก
ภายในห้องโถงอันกว้างขวางนี้ ศพของ Leoric นั่งอยู่บนบัลลังก์ และถึงร่างกายของเขาเหลือแต่กระดูกแต่ยังคงรักษาท่าทางเมื่อตอนถูกลอบสังหารได้
โจวจัวลองคลิกที่ร่างของราชาโครงกระดูก นำมงกุฎของ Leoric ไปสวมลงบนหัวของราชาโครงกระดูกอีกครั้ง
ทันใดนั้นหน้าจอเกิดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ลำแสงสีฟ้าน่ากลัวจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาร่างของราชาโครงกระดูกจากทุกทิศทุกทาง ชิ้นส่วนของชุดเกราะเริ่มเชื่อมติดกัน ค้อนสงครามที่ตกอยู่บนพื้นก็กลับมาอยู่ในมือของราชาโครงกระดูกอีกครั้ง
ราชาโครงกระดูกตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาลุกขึ้นจากบัลลังก์และมองตรงไปยังนักล่าปีศาจด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ
“ให้ตายเถอะ มันเป็น BOSS!” พวกคนดูเบิกตากว้างด้วยกลัวว่าจะพลาดอะไรไป
โจวจัวรีบถอยห่างออกมาเพราะกลัวว่าจะถูก BOSS โจมตี
ในฐานะ BOSS ด่านแรก ทักษะของราชาโครงกระดูกจึงไม่ซับซ้อนเกินไป มีเพียงสองทักษะหลักเท่านั้นคือการฟันอย่างต่อเนื่องและการเรียกสมุนโครงกระดูก
ตัวละครที่โจวจัวเลือกคือนักล่าปีศาจ ดังนั้นเขาไม่สามารถโจมตีอย่างเอาเป็นเอาตายได้ จำเป็นต้องเว้นระยะห่างและร่วมมือกับทหารรับจ้างเพื่อโจมตีราชาโครงกระดูกจากระยะไกล
แต่เลือดของราชาโครงกระดูกนั้นมีมากเกินไป บางครั้งเขาถูกราชาโครงกระดูกโจมตีถึงสองครั้งจนเสียเลือดไปครึ่งหนึ่งทันที หากไม่ใช้ทักษะในการหลบหลีกเขาก็อาจตายได้ ดังนั้นโจวจัวต้องใช้สมาธิอย่างสูงในการเล่น
“ระวังนะ มันกำลังโจมตีอีกครั้งแล้ว รีบหลบเร็ว!”
“รีบจัดการโครงกระดูกลูกกระจ๊อกเหล่านี้ซะ ถ้ามันเพิ่มจำนวนมากขึ้นจะยิ่งลำบาก”
“สู้เขา เลือดเหลือหนึ่งในสามแล้ว!”
“บ้าเอ๊ย โคตรประหม่าเลย!”
คนดูเหงื่อแตกพลั่ก กระวนกระวายยิ่งกว่าโจวจัว
ในที่สุดเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นพร้อมกับร่างของราชาโครงกระดูกที่แตกสลาย ชุดเกราะของเขากระจัดกระจายไปทั่วพื้น เหรียญทองและอุปกรณ์จำนวนมากระเบิดออกมา
จากนั้นก็มีเสียง ‘ติ๊ง’ แสงสีส้มปรากฏขึ้นข้างๆ ร่างของราชาโครงกระดูก
โจวจัวรีบเลื่อนเมาส์ไปดู “มงกุฎของ Leoric เหรอ อุปกรณ์สีส้ม!”
คนดูก็ตกใจเหมือนกัน
“บ้าเอ๊ย อุปกรณ์สีส้ม นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นอุปกรณ์สีส้มใช่ไหม”
“สุดยอด ฉันรู้สึกสุดยอดมาก”
“เร็วเข้า รีบดูคุณสมบัติเร็ว”
“อย่ากังวล ใส่มันก่อน!”
โจวจัวตรวจสอบมงกุฎก่อนที่จะสวมมัน
เพิ่มความว่องไวและความแข็งแกร่ง คุณสมบัติดีกว่าหมวกเกราะสีเหลืองก่อนหน้านี้มาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมีคุณสมบัติพิเศษ : ‘เพิ่มเอฟเฟ็กต์ของอัญมณีที่ใส่ลงในไอเท็มนี้ 100%’
“เอฟเฟ็กต์ของอัญมณีจะเพิ่มขึ้น 100% แบบนี้หมายความว่าถ้าฝังบุษราคัมเพิ่มโอกาสเก็บสมบัติ โอกาสจะเพิ่มเป็นสองเท่าใช่ไหม”
“เชี่ย รวยแล้ว!”
โจวจัวสวมมงกุฎของ Leoric และขนกระเป๋าที่เต็มไปด้วยสิ่งของที่ปล้นมาได้กลับไปพักผ่อนที่เมือง New Tristram อย่างมีความสุข
“รู้สึกสนุกมาก!”
“ใช่ ถึงแม้จะเป็นมุมมองบุคคลที่สาม แต่มันให้ความรู้สึกแตกต่างจากเกม RPG เก่าๆ พวกนั้นอย่างสิ้นเชิง”
“มันเจ๋งมากที่ได้ต่อสู้กับมอนสเตอร์ เป็นไปได้ไหมว่าผู้จัดการได้รับแรงบันดาลใจจากแผนที่ RPG ใน Warcraft”
“ฉันรู้สึกว่าเกมนี้สนุกกว่าเกม RPG ใหญ่ๆ บางเกมอีก โดยเฉพาะบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม มันทำให้รู้สึกอยากต่อสู้”
“ยังมีทักษะ อุปกรณ์ การต่อสู้กับ BOSS โครงเรื่อง ฉันรู้สึกว่ามีรายละเอียดมากมาย ถ้านี่เป็นเกมมุมมองบุคคลที่หนึ่ง มันคงเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุด!”
“ใช่ แต่ทำไมต้องใช้มุมมองบุคคลที่สามด้วย ฉันไม่เข้าใจ”
“ผู้จัดการ เราอยากเล่นด้วย!”
ทุกคนต่างไปรุมล้อมเฉินโม่เพื่อขอเล่นเกม ‘Diablo’ ด้วย
เฉินโม่ส่งฮาร์ดดิสก์พกพาให้ “ไปติดตั้งเอาเองนะ เกมนี้เล่นเป็นทีมได้ ลองดูสิ”