Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - บทที่ 260 'The Stanley Parable' และ 'ICEY'
- Home
- Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!
- บทที่ 260 'The Stanley Parable' และ 'ICEY'
บทที่ 260 ‘The Stanley Parable’ และ ‘ICEY’
ที่ชั้นสองของ Experience Store ใหม่ พื้นที่ชมการฉายภาพโฮโลแกรม
เฉียนคุนกำลังเล่น ‘Diablo’ และผู้เล่นหลายคนกำลังดูอยู่
บนอุปกรณ์ฉายภาพโฮโลแกรม คนป่าเถื่อนที่ควบคุมโดยเฉียนคุนกำลังหมุนไปรอบๆ อย่างบ้าคลั่ง และพายุเฮอริเคนจำนวนนับไม่ถ้วนก็หมุนรอบตัวเขา กวาดล้างสัตว์ประหลาดที่อยู่รอบๆ
การแสดงการฉายภาพโฮโลแกรม ภาพรวมทั้งหมดจะเป็นสามมิติควบคู่ไปกับเอฟเฟ็กต์พิเศษที่แพรวพราวสร้างประสบการณ์การรับชมที่น่าพึงพอใจอย่างไม่น่าเชื่อ
ผู้ชมต่างก็รู้สึกประทับใจมาก
“ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเครื่องฉายภาพโฮโลแกรมนี้จะสนุกแบบนี้ ไม่ว่าจะเกม ‘Warcraft’ หรือ ‘Diablo’ ต่างทำงานได้ดีมาก”
“มันจะเจ๋งไหมถ้าใช้สิ่งนี้เป็นหน้าจอแสดงผล”
“นั่นไม่ดีเลย หน้าจอใหญ่เกินและใช้งานยากเกินไป แค่ขยับเมาส์ไปรอบๆ ก็ยากแล้ว”
“แต่มันดูเท่จริงๆ”
“มันแพงมากด้วย ฉันคิดว่าอันเล็กราคาหลายแสน และอันใหญ่นี้ราคาหลายล้านหยวน ใครจะยอมซื้อสิ่งนี้เพื่อเล่นเกมกัน ราคานี้ซื้อ Coding Pod ได้หลายเครื่องเลย”
“ใช่แล้ว ต่อให้มีเงินซื้อมันก็ไม่มีที่วาง…เครื่องฉายภาพโฮโลแกรมขนาดใหญ่แบบนี้อาจเพียงพอสำหรับห้องนั่งเล่น แต่พอนึกถึงราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแล้ว…”
“ช่างมันเถอะ ฉันจะมาเสพที่นี่ก็พอ”
หลังจากย้าย Experience Store เหล่าลูกค้าประจำก็พบที่อยู่ใหม่ของ Experience Store อย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ไกลจาก Experience Store เก่า ดังนั้นลูกค้าประจำเหล่านี้จึงตามมาด้วย
นอกจากลูกค้าประจำเหล่านี้แล้ว เมื่อเกมของบริษัท Thunder มีชื่อเสียงมากขึ้นก็มีลูกค้าหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่กำลังสนทนา ซูจิ่นอวี๋ก็เดินมาหา
“เฉียนคุน ผู้จัดการเรียกประชุม!”
เฉียนคุนไม่ตอบสนอง
ซูจิ่นอวี๋ทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เธอพูดเสียงเบา “ห้องนี้เก็บเสียงได้ดีจริงๆ”
เธอเดินไปที่ห้องเก็บเสียง เคาะกระจกและทำท่าทางบอกให้เฉียนคุนออกมา
เฉียนคุนเปิดประตู
ซูจิ่นอวี๋พูด “ไปกันเถอะ ผู้จัดการเรียกประชุม”
“โอเค” เฉียนคุนออกจากเกมและตามซูจิ่นอวี๋กลับไปที่ชั้นสี่
…………………
ในห้องประชุม ทุกคนมากันเกือบครบแล้ว
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมายอดจำหน่ายของเวอร์ชันคอมพิวเตอร์ เวอร์ชันมือถือและเวอร์ชันต่างประเทศของ ‘Minecraft’ ค่อนข้างออกมาดี เฉินโม่ยังไม่ได้ประกาศแผนการพัฒนาเกมใหม่ในตอนนี้ ทุกคนจึงผ่อนคลายมากขึ้นและเล่นเกมของตัวเอง
ด้วยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ ‘Minecraft’ ความมั่นใจของพวกเขาก็สูงขึ้นมาก
‘Minecraft’ เป็นก้าวแรกของ Thunder Entertainment สู่วงการ VR และอาจกล่าวได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เกมนี้บรรลุวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมจุดแข็งและหลีกเลี่ยงจุดอ่อน พวกเขาสามารถสร้างเกมแซนด์บ็อกซ์ที่ครองใจผู้เล่นหลายล้านคนจนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงแม้ว่ากราฟิก โมเดล และฉากจะยังมีข้อบกพร่อมอยู่ก็ตาม
ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอ ว่าเฉินโม่จะวางแผนยังไงต่อไป
เขาอาจวางแผนที่จะเจาะลึกเข้าไปในด้าน VR ต่อและเริ่มลองเกม VR ขนาดใหญ่พวกนั้นใช่ไหม
FPS เกมผจญภัยมุมมองบุคคลที่หนึ่ง หรืออาจจะเป็น MMORPG?
ทุกคนรออย่างใจจดใจจ่อ
เมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่ที่นี่ เฉินโม่ก็ลุกขึ้นยืน
“มากันครบแล้ว งั้นมาเริ่มประชุมกันเลย”
“ก่อนอื่นทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่า ‘Minecraft’ เวอร์ชันคอมพิวเตอร์และเวอร์ชันมือถือนั้นประสบความสำเร็จอย่างมากและความคืบหน้าของเวอร์ชันต่างประเทศก็ดีมากเช่นกัน ‘Minecraft’ เป็นสิ่งที่ทุกคนร่วมกันพัฒนาดังนั้นต้องขอบคุณทุกคนในที่นี้ด้วย”
หลังจากที่เฉินโม่พูดจบ ทุกคนก็ปรบมือ
แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นความพยายามที่เหลือเชื่อของเฉินโม่ แต่ทั้งหมดก็เป็นความพยายามของทีมในการพัฒนา ทุกคนทำงานร่วมกันและใช้ความพยายามอย่างมากกับเกมนี้
ตอนนี้ ‘Minecraft’ ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจ
เฉินโม่พูดต่อ “ต่อไป ผมจะพูดถึงประเด็นสำคัญสองสามข้อ”
“อย่างแรกคือการรับสมัครคน ทีมปัจจุบันของเราได้รับการขยายเมื่อปีที่แล้ว หลังจากทำงานในสองโปรเจกต์เกมสำคัญอย่าง ‘Diablo’ และ ‘Minecraft’ แล้ว ถือได้ว่าผ่านการทดสอบ โดยเฉพาะทีมงานสร้างสรรค์หลัก ทุกคนทำได้ดีมาก”
“ต่อไป เราอาจพัฒนาเกมที่ซับซ้อนขึ้นและความคืบหน้าอาจถูกเร่งให้เร็วขึ้น หากพวกคุณรู้สึกว่าขาดบุคลากร คุณสามารถไปหาหลินเสี่ยวได้โดยตรงและนัดสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง หลังจากสรุปผลผู้สมัครแล้ว ผมจะทำการสัมภาษณ์ขั้นสุดท้ายเอง ส่วนจะรับสมัครกี่คนหรือเลือกใครผมให้อิสระพวกคุณในการตัดสินใจ แน่นอน ผมต้องเป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้าย”
“หวังว่าการพัฒนาเกมในอนาคตจะไม่มีใครมาบอกผมว่า ‘กำลังคนไม่พอ’ นะ ผมจะถามแค่ว่าสามารถดำเนินการตามคำขอของผมได้ทันเวลาหรือไม่”
เฉินโม่มองดูปฏิกิริยาของทุกคน และทุกคนค่อนข้างสงบ เห็นได้ชัดว่าเห็นด้วยกับคำพูดนี้
เฉินโม่พูดต่อ “อย่างที่สองคือแผนการต่อไป”
“ผมจะบอกทุกคนก่อนว่า ในช่วงเวลาระยะสั้นนี้ ประมาณสองเดือนผมไม่ได้วางแผนที่จะพัฒนาเกมขนาดใหญ่ เพราะช่วงนี้ผมมีเรื่องอื่นเข้ามายุ่งทำให้ต้องคิดหลายเรื่อง”
“แน่นอนว่าเราไม่ได้สร้างเกมใหญ่ แต่จะทำเกมขนาดเล็ก ส่วนจะเป็นมินิเกมประเภทไหน…เดี๋ยวค่อยว่ากัน”
“ในช่วงเวลานี้ ทุกคนทำการวิจัยและพัฒนาอย่างสบายใจได้ ปลาทอง คุณนำควบคุมความคืบหน้าของการวิจัยและพัฒนาได้ไหม”
ซูจิ่นอวี๋พยักหน้า “ได้ค่ะผู้จัดการ ไม่มีปัญหา!”
เฉินโม่พูดต่อ “มีบางเรื่องที่ผมอยากจะพูดถึงเกี่ยวกับทิศทางทั่วไปของการพัฒนาในอนาคตของเรา เรายังไม่มีเกมมากมายบนแพลตฟอร์มเกม Thunder แม้ว่าจะมีเกมคุณภาพสูงมากมาย แต่ในแง่ของปริมาณ เกมเหล่านี้ยังห่างไกลจากการเทียบเคียงกับแพลตฟอร์มใหญ่ๆ เช่น Dichao Game Platform และ Shenhuan Game Platform”
“ดังนั้นช่วงเวลาต่อไป เราจะขยายจำนวนเกมบนแพลตฟอร์มเกม Thunder สองเกมถัดไปที่เราจะพัฒนาก็เพื่อจุดประสงค์นี้”
“แน่นอน ถ้าพวกคุณมีไอเดียที่ดี พวกคุณก็สามารถส่งแบบร่างการออกแบบให้ผมดูได้ ถ้าไอเดียนั้นดีจริงๆ คุณสามารถใช้ทรัพยากรของบริษัทเพื่อสร้างมันขึ้นมาและติดตั้งลงไว้บนแพลตฟอร์มเกม Thunder และการแบ่งกำไร…”
เฉินโม่ชะงัก “ผมยังไม่เปิดเผยในตอนนี้ แต่จะมากกว่าแพลตฟอร์มอื่นอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ สายตาของทุกคนเป็นประกาย
อันที่จริงแล้ว ซูจิ่นอวี๋ เฉียนคุนและเจิ้งหงซีทำเกมร่วมกับเฉินโม่มาหลายปี ถึงแม้ตอนแรกๆ ฝีมือจะยังอ่อนอยู่ แต่หลังจากสะสมประสบการณ์ที่ยาวนาน พวกเขาก็เป็นผู้ใหญ่มากแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของแนวคิดการออกแบบนั้นมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่านักออกแบบเกมอิสระหลายคนเสียอีก
พวกเขาเองก็มีความคิดดีๆ เช่นกัน แต่เนื่องจากงานยุ่งมาก พวกเขาจึงไม่มีเวลาที่จะตระหนักถึงมัน
พอได้ยินเฉินโม่บอกว่าพวกเขาสามารถใช้ทรัพยากรของบริษัทได้ก็มีความสุขและกระตือรือร้นที่จะลอง
เฉินโม่พูดต่อ “เอาละ ทั้งหมดก็ประมาณนี้ เรื่องต่อไปก็คือเกมใหม่สองเกมที่เราจะพัฒนากัน”
“ ‘The Stanley Parable’ และ ‘ICEY’ ”
…………………