Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - บทที่ 270 The Stanley Parable
บทที่ 270 The Stanley Parable
ช่วงนี้มีผู้เล่นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เยี่ยมชม Experience Store ในช่วงสุดสัปดาห์ พื้นที่ในชั้นหนึ่งมีจำนวนเต็มมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เหลือเครื่องว่างเพียงสิบสองเครื่องเท่านั้น
จำนวนคนในพื้นที่สัมผัสประสบการณ์เกมมือถือและ VR มีน้อยกว่าแต่ก็มีความจุเต็มถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
พื้นที่รับชมการฉายภาพโฮโลแกรมรายล้อมไปด้วยผู้ที่สนใจอุปกรณ์นี้ทุกวัน แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อดูมากไปก็จะรู้สึกเหนื่อย ดูแรกๆ จะรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเห็นของใหม่แต่ผ่านไปสักพักเดี๋ยวก็ชินกับมัน
ล็อบบี้ชั้นหนึ่งของ Experience Store
เนื่องจากเป็นวันพฤหัสบดีคนจึงไม่เยอะมากนัก
เฉินโม่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มในมือ เขาพลิกดูหนังสือชุดใหม่ที่เพิ่งมาถึง
มีชั้นหนังสือขนาดใหญ่สองชั้นที่ด้านข้างของห้องโถงซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับเกมมากมาย แน่นอนว่า ส่วนใหญ่เป็นนวนิยาย การ์ตูนหรืออัลบั้มเกม นอกจากนี้ยังมีหนังสือเกี่ยวกับความรู้ด้านการออกแบบเกมอยู่บ้าง แต่น้อยคนที่จะอ่านมัน
“ผู้จัดการ” พนักงานออฟฟิศอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปีในชุดสูทรูดบัตรประชาชนของเขาที่แผนกต้อนรับและทักทายเฉินโม่
เฉินโม่พยักหน้าเป็นการทักทาย “วันนี้วันพฤหัสนี่ คุณไม่ไปทำงานเหรอ”
พนักงานออฟฟิศพยักหน้า “ผมขอลาน่ะครับ”
พนักงานออฟฟิศคนนี้มีชื่อว่าจ้าวเหล่ย เขาเป็นขาประจำของร้านและเป็นคนที่เข้ามาทำงานในปักกิ่ง ปัจจุบันกำลังทำงานในบริษัทการเงินที่มีเงินเดือนสูงและความกดดันในการทำงานสูง
จ้าวเหล่ยไม่เหมือนผู้เล่นคนอื่นๆ เขาไม่ได้มาที่ร้านเพียงเพื่อเล่นเกม เขามักจะนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่และพูดคุยกับคนอื่นๆ
จ้าวเหล่ยไม่มีวงสังคม ในวงการทำงานส่วนใหญ่คือการคบค้าสมาคม แต่ใน Experience Store นี้ เขารู้สึกสบายใจอย่างที่ไม่ได้มีมานาน
ดังนั้นจ้าวเหล่ยจึงมักมาที่นี่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ได้รู้จักกับเฉินโม่ ซูจิ่นอวี๋และลูกค้าประจำของร้าน
จ้าวเหล่ยนั่งลงบนโซฟาข้างๆ เขา สั่งกาแฟเย็นหนึ่งแก้ว และหยิบการ์ตูนจากชั้นหนังสือใกล้ๆ
เฉินโม่มองไปที่ใบหน้าที่เหนื่อยล้าของจ้าวเหล่ยแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น ช่วงนี้คุณเครียดเหรอ”
จ้าวเหล่ยพยักหน้า “อืม ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ผมมักเจอคนงี่เง่าระหว่างทำงาน ช่วงนี้ไปฉลองกับลูกค้าเยอะ สัปดาห์ก่อนผมไปดื่มตั้งสี่ครั้งแล้วต้องทำงานล่วงเวลาในสุดสัปดาห์นี้ วันนี้ผมรู้สึกไม่ไหวเลยขอลาพักผ่อน”
เฉินโม่พูดอย่างเห็นอกเห็นใจ “อืม สุขภาพสำคัญ ควรหาเวลาไปตรวจสุขภาพบ้างนะ”
จ้าวเหล่ยหัวเราะและพูดกึ่งติดตลกว่า “ผมไม่กล้าตรวจหรอกครับ กลัวว่าจะตรวจพบปัญหาร้ายแรงและไม่มีเงินรักษา”
เฉินโม่พูด “ไม่ทำอย่างนั้นสิ สุขภาพสำคัญมากนะ”
จ้าวเหล่ยพยักหน้า “แน่นอนว่าผมรู้”
“จริงสิ ผู้จัดการ คุณไม่ได้ออกเกมใหม่มาสักระยะแล้ว เป็นเพราะช่วงนี้คุณยุ่งกับแพลตฟอร์มเกมหรือเปล่า”
เฉินโม่พูด “ก็ส่วนหนึ่ง แต่ ‘Minecraft’ ออนไลน์ได้ไม่ถึงสองเดือน เกมใหม่ๆ พัฒนาได้รวดเร็วขนาดนี้ได้ยังไง มันต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป”
จ้าวเหล่ยตกตะลึง “โอ้ เพิ่งผ่านไปสองเดือนเองเหรอ เฮ้อ ผมสูญเสียแนวคิดเรื่องเวลาไปซะแล้วรู้สึกเหมือนผ่านไปครึ่งปี”
เฉินโม่พูดด้วยรอยยิ้ม “คุณเครียดเกินไป คุณควรผ่อนคลายบ้าง ถ้าคุณเครียดตลอดเวลาแบบนี้มันง่ายที่จะเกิดปัญหา”
จ้าวเหล่ยพูด “ไม่มีวิธีที่ดีในการลดความเครียดเลย ผมไม่มีเพื่อนและไม่มีงานอดิเรกอะไรเป็นพิเศษ นอกจากการทำงานหนักเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวแล้ว ผมก็แค่มาหาคุณเป็นครั้งคราวเพื่อนั่งพักผ่อนสักหน่อย”
เฉินโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อันที่จริงผมเพิ่งมีเกมที่เหมาะกับคุณ อยากลองเล่นดูไหม”
จ้าวเหล่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เกมใหม่เหรอ คุณบอกว่ายังไม่ได้พัฒนานี่”
เฉินโม่ลุกขึ้นยืนแล้วยิ้ม “คุณไม่คุ้นเคยกับประสิทธิภาพในการทำงานของผมเหรอ บอกว่ายังไม่ได้รับการพัฒนาหมายความว่าเกมยังไม่เปิดตัว แต่มีให้ทดลองเล่นแล้ว คุณตามผมมา”
จ้าวเหล่ยรีบยืนขึ้นและตามเฉินโม่ไปยังพื้นที่สัมผัสประสบการณ์เกมคอมพิวเตอร์ของ Experience Store
จ้าวเหล่ยนั่งลงที่คอมพิวเตอร์ในขณะที่เฉินโม่เข้าสู่ระบบเบื้องหลังการจัดการและดาวน์โหลดเกมที่พัฒนาขึ้นใหม่ลงในคอมพิวเตอร์เครื่องนี้
จ้าวเหล่ยมองไปที่ชื่อ “ ‘The Stanley Parable’ เหรอ”
เฉินโม่พยักหน้า “ใช่”
จ้าวเหล่ยรู้สึกงงงวยเล็กน้อย “คุณบอกว่าเกมนี้เหมาะกับผม มันเป็นเกมประเภทไหน เกมปริศนาเหรอ”
เฉินโม่ส่ายหัว “เดี๋ยวเล่นแล้วก็รู้เอง”
จ้าวเหล่ยคลิกที่ไอคอนเกมบนเดสก์ท็อปด้วยความสงสัยเพื่อเข้าสู่เกม
ไม่มีภาพโหลดเจ๋งๆ ไม่มี CG ฉากใหญ่ๆ แค่เข้าหน้าจอเกมโดยตรง
ที่ด้านซ้ายบนของหน้าจอคือชื่อเกม ‘The Stanley Parable’ และด้านซ้ายล่างคือ ‘เริ่มเกม’ ‘ตัวเลือก’ ‘ผู้สร้าง’ และ ‘ออกจากเกม’ หน้าจอทั้งหมดเรียบง่ายมาก
อย่างไรก็ตาม จ้าวเหล่ยสังเกตเห็นความแปลกประหลาดของฉากนี้อย่างรวดเร็ว
มีโต๊ะทำงานที่มีโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์อยู่หน้าจอ ตู้เก็บเอกสารทางด้านซ้ายพร้อมภาพวาดตกแต่งบนผนังเหมือนที่บริษัทส่วนใหญ่จะแขวนไว้ ภาพวาดที่ดูน่าเบื่อย่อมดีกว่าไม่มีอะไรเลย
สิ่งที่แปลกคือหน้าจอที่แสดงบนคอมพิวเตอร์ในเกมนั้นเหมือนกับหน้าจอเกม โดยมีชื่อเกม ตัวเลือก และแม้แต่เคอร์เซอร์เมาส์ขนาดเล็ก
ความรู้สึกนี้เป็นเหมือนภาพซ้อนภาพ การทำงานต่างๆ ที่ผู้เล่นทำบนเดสก์ท็อปจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กันบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ในเกม
จ้าวเหล่ยคลิกที่ปุ่มเริ่มเกมและสิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ในเกม
สิ่งนี้ทำให้จ้าวเหล่ยรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย แต่เขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แค่คิดว่านี่อาจเป็นนิสัยแย่ๆ ของเฉินโม่ ก็แค่ไข่อีสเตอร์เล็กๆ ที่น่าสนใจ
ในขั้นตอนการโหลดเกม หน้าจอเป็นสีดำสนิท แต่บรรทัดคำภาษาอังกฤษสีเทาที่ด้านล่างว่า “THE END IS NEVER THE END IS NEVER THE END…”
มันวนซ้ำไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากด้านซ้ายและสิ้นสุดที่ด้านขวาของหน้าจอ หากแยกเป็นประโยคที่สมบูรณ์ ควรเป็น ‘THE END IS NEVER THE END’ ซึ่งแปลว่า ‘จุดจบยังไม่สิ้นสุด’ หรือ ‘เกมไม่สิ้นสุด’
แต่พวกเขาได้เชื่อม ‘THE END’ ตั้งแต่เริ่มต้นและสิ้นสุดเข้าด้วยกันเพื่อสร้างลูปที่ไม่มีวันสิ้นสุด
เงื่อนงำเหล่านี้ทำให้จ้าวเหล่ยงงเล็กน้อย นี่คือเกมประเภทไหน
ในที่สุดเกมก็เริ่มขึ้นในขณะที่เขาเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย
ก่อนที่ภาพจะปรากฏบนหน้าจอ เสียงบรรยายก็ดังขึ้นในหูฟังของจ้าวเหล่ย
เสียงบรรยายเป็นเสียงผู้ชายทุ้มต่ำ เขาพูดออกเสียงชัดเจน เร็วปานกลาง มีจังหวะที่ดี เป็นการยากที่จะตีความอารมณ์ใดๆ จากคำพูดของเขาราวกับว่าเขากำลังเล่าเรื่องที่ธรรมดามาก
“นี่คือเรื่องราวของชายชื่อสแตนลีย์”
“สแตนลีย์ทำงานให้กับบริษัทในตึกใหญ่แห่งหนึ่ง เขาเป็นพนักงานห้องหมายเลข 427”
มีเสียงดนตรีคลอเบาๆ หน้าจอเกมเริ่มปรากฏขึ้น กล้องฉายผ่านโถงทางเดินเข้าไปในห้องหมายเลข 427 ชายคนหนึ่งกำลังนั่งหันหลังให้กล้อง โต๊ะทำงานของเขาเป็นแบบเดียวกับที่เห็นในหน้าจอเริ่มเกม รวมถึงคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และตู้เก็บเอกสาร ซึ่งทั้งหมดนี้เหมือนกันทุกประการ
“งานของพนักงานห้อง 427 นั้นง่ายมาก นั่งที่โต๊ะและกดปุ่มบนแป้นพิมพ์”
“หน้าจอจะแสดงคำแนะนำที่สอดคล้องกัน : ต้องกดปุ่มไหน ระยะเวลาที่ต้องกด และลำดับการกด”
กล้องจะสลับไปที่หน้าจอมอนิเตอร์ที่ด้านบน ทำให้เห็นการเคลื่อนไหวของมือตัวละครในเกมในระยะใกล้เป็นพิเศษ
สแตนลีย์จ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างว่างเปล่า มือขวาของเขากดปุ่มบนแป้นพิมพ์ซ้ำซากจำเจ เขาก้มหน้าลงและเงยหน้าเป็นครั้งคราวราวกับเครื่องจักรสายการผลิต
……………………