Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - บทที่ 280 ยกเลิกค่าธรรมเนียมรูนและฮีโร่
- Home
- Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!
- บทที่ 280 ยกเลิกค่าธรรมเนียมรูนและฮีโร่
บทที่ 280 ยกเลิกค่าธรรมเนียมรูนและฮีโร่
เมื่อเขามีความตั้งใจที่จะสร้าง ‘League of Legends’ แต่จะทำยังไงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
พูดตามตรงแล้ว ‘League of Legends’ เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างมาก แต่ในแง่ของความสมดุลและความสามารถในการแข่งขัน ยังมีข้อบกพร่องบางประการในการเพิ่มระดับธุรกิจ
มันสามารถคงความนิยมได้เป็นเวลาหลายปีโดยอาศัยการอัปเดตเวอร์ชันอย่างต่อเนื่อง โดยใช้การเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งนี้เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้เล่นอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความไม่สมดุลของเกมให้น้อยที่สุด
ไม่ว่าวิธีนี้จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้หรือไม่ อย่างน้อยก็แก้ปัญหาได้ดี
ให้ผู้เล่นได้เล่นฮีโร่ทรงพลังตัวใหม่ทุกครั้งที่มีการอัปเดตเวอร์ชัน เพื่อรับความสนุกที่แตกต่าง
ในมุมมองของเฉินโม่ เหตุผลที่ ‘League of Legends’ รุ่นก่อนใช้วิธีนี้นั้นซับซ้อนมาก แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าสองเหตุผล หนึ่งคือตำแหน่งของเกม และอีกอันคือลักษณะเฉพาะของบริษัท
ในแง่ของการวางตำแหน่ง ‘League of Legends’ เป็นเกมที่มีเป้าหมายสูงสุดในการสำรวจ ขยาย และรวมตลาดให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อจุดประสงค์นี้พวกเขาจึงพยายามลดความยากในการทำความคุ้นเคย (แม้จะเสียสมดุลของเกมไปก็ตาม)
ดังนั้นกลยุทธ์การดำเนินงานและการอัปเดตเวอร์ชันที่ตามมาจึงต้องดำเนินต่อไปตามเป้าหมายนี้ ซึ่งได้รับการพิจารณาตั้งแต่เริ่มต้นและสืบทอดต่อกันมา
ในแง่ของลักษณะบริษัทหมายความว่า Riot Games ไม่ใช่บริษัทขนาดใหญ่ที่มีเงินและความมั่งคั่งมากมายในตอนเริ่มต้น แต่ค่อยๆ พัฒนาไปอย่างช้าๆ กับเกม ‘League of Legends’ การเปิดตลาดและพัฒนาเกมล้วนต้องใช้เงิน ดังนั้นจึงต้องคำนึงถึงความสามารถในการสร้างรายได้ของเกมด้วย
นี่เป็นเหตุผลเดียวกับที่เฉินโม่ต้องทำเกมเติมเงินในตอนเริ่มต้น
สำหรับผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องอธิบาย ทุกคนในโลกรู้ว่าพวกเขาชอบเงินหรือไม่
แน่นอน หลังจากการประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของ ‘League of Legends’ Riot Games ไม่ขาดแคลนเงิน ผู้คนจำนวนมากขึ้นก็เริ่มพิจารณาที่จะเปลี่ยนสไตล์ของพวกเขา เช่น การนำขีดจำกัดของเลเวลและระบบรูนออก
ถือว่าเป็นการยกเลิกค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้เล่นในเกม ‘League of Legends’ โดยสิ้นเชิงและใช้กิจกรรมและเกมอื่นๆ เป็นหลักในการทำกำไร(เช่นเดียวกับกีฬาแบบดั้งเดิม)
ชีวิตก่อนของเฉินโม่ มี ‘League of Legends’ หลายเวอร์ชันและทุกการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะเปลี่ยนทั้งเกม ดังนั้นเขาจึงต้องคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเวอร์ชันที่จะสร้าง
……………….
ในสตูดิโอ เฉินโม่เริ่มเขียนแนวคิดการออกแบบสำหรับ ‘League of Legends’
นี่อาจเป็นฉบับร่างที่เขียนนานที่สุดเท่าที่เขาเคยเขียน แม้ว่าเขาจะคุ้นเคยกับเนื้อหาส่วนใหญ่ของเกม ‘League of Legends’ แต่เขาต้องคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการเลือกประเด็นสำคัญบางประการ
จุดที่สำคัญที่สุดคือรูปแบบสุดท้ายของเกมควรเป็นยังไง
ในแง่ของเป้าหมาย ตอนนี้เฉินโม่นั้นเหมือนกับ Riot Games ในชีวิตที่แล้วของเขา เขาต้องการเกม MOBA ที่เริ่มต้นได้ง่าย เกมยอดฮิตที่จะครองตลาดคอมพิวเตอร์ไปอีกนาน และตัดขาดเกม MOBA อื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นออกไป
ดังนั้น ‘League of Legends’ ที่เฉินโม่ต้องการจะทำก็ต้องเป็นเกมที่ค่อนข้างง่าย
หากทำให้ซับซ้อน เกม MOBA อาจถูกยึดด้วยเกม MOBA ที่ดำเนินการง่ายกว่าและจะไม่สามารถบรรลุผลของการครอบงำโดยรวมได้
ประการที่สอง เกมนี้ควรมีการแข่งขันสูงและมีความสมดุลแค่ไหน
ในชีวิตก่อน ‘League of Legends’ ถูกวิจารณ์เรื่องความสามารถพิเศษและระบบรูน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบรูนทำให้เกมนี้ค่อนข้างไม่ยุติธรรมเพราะมันทำให้ผู้เล่นที่มีชั่วโมงการเล่นเกมต่างกันมีพลังต่อสู้ที่แตกต่างกันเมื่อเข้าสู่เกมเดียวกัน
แน่นอนว่าระบบรูนมีความหมายเช่น :
1. ให้ผู้เล่นรู้สึกถึงการเติบโตและการแสวงหาระยะยาว
2. จับคู่อักษรรูนที่แตกต่างกันกับฮีโร่ที่แตกต่างกันเพื่อสร้างรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย
3. ทำเงิน
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา Riot Games ก็ได้ยกเลิกการออกแบบอักษรรูนในระหว่างการแก้ไข
การตัดสินใจของเฉินโม่คือการรักษาความสามารถพิเศษของ ‘League of Legends’ ไว้และรูนจะถูกตัดออก
ผู้เล่นจะยังมีเลเวลสูงสุดที่สามสิบ แต่ความสามารถพิเศษจะปลดล็อกเต็มที่ที่ระดับสิบ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือตราบใดที่ผู้เล่นพยายามขึ้นเล็กน้อยเพื่อไปถึงระดับสิบได้ เขาจะไม่มีคุณสมบัติที่แตกต่างเมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่นๆ
การจับคู่นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงเนื้อหารายได้ : ฮีโร่ทั้งหมดฟรีและรายได้ทั้งหมดมาจากสกินและบริการเสริมอื่นๆ ที่ไม่ส่งผลต่อกำลังรบ
การตัดค่าธรรมเนียมจากรูนและฮีโร่จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของ ‘League of Legends’ อย่างแน่นอน แต่เฉินโม่รู้ดีว่ามีประโยชน์มากกว่านั้น
เขาต้องการทำให้ ‘League of Legends’ เป็นเกมการแข่งขันที่ยุติธรรมอย่างยิ่ง วิธีนี้มันจะเป็นมืออาชีพมากขึ้น
เหตุผลที่เฉินโม่กล้าทำเช่นนี้เพราะเขาอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างจาก Riot Games หาก Riot Games เริ่มต้นด้วยการต้านลม งั้นเขาจะเริ่มต้นด้วยการไปตามทิศทางแรงลม
Riot Games ต้องคำนึงถึงความสามารถในการทำกำไรของเกม แต่เฉินโม่ไม่ได้คำนึงถึง
ตอนนี้เงินทุน R&D ของเฉินโม่มีมากมาย และแม้ว่าเขาจะมีไม่เพียงพอ เขาก็สามารถสร้างเกมเติมเงินได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ ‘League of Legends’ เพื่อรวบรวมเงินจากผู้เล่น
ในช่วงหกเดือนหรือหนึ่งปีแรก มันไม่สำคัญว่า ‘League of Legends’ จะทำเงินไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่สามารถเพิ่มจำนวนผู้เล่นและสร้างต้นแบบของ e-sports ได้ มันคงยากที่จะไม่ทำเงินในอนาคต
ในด้านอื่นๆ เฉินโม่กำลังพิจารณาที่จะใช้เฟรมเวิร์กของ ‘League of Legends’ ในซีซัน 3 โดยมีการปรับเปลี่ยนบางอย่าง
ซีซัน 1 และ ซีซัน 2 ของ ‘League of Legends’ เทียบเท่ากับช่วงเริ่มต้นและพัฒนา มีเพียงใน ซีซัน 3 เท่านั้นที่สร้างสไตล์ของตัวเองอย่างแท้จริงและมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางทั่วโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ฤดูกาลที่สาม ‘League of Legends’ เริ่มผลิตฮีโร่สไตล์ LOL จำนวนมาก เช่น Jayce, Zyra, Moon, Rengar, Syndra, Kha’Zix, The Spider Queen, Zed, Thresh, Zack เป็นต้น
ฮีโร่เหล่านี้ล้วนเป็นฮีโร่ทั่วไปที่คำนึงถึงกลไกและการทำงานของฮีโร่ เป็นเพราะฮีโร่เหล่านี้เองที่ ‘League of Legends’ มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง ทำให้มันดังระเบิดได้อย่างสมบูรณ์ในซีซัน 3 และสร้างตำแหน่งที่โดดเด่นในที่สุด
หากฮีโร่ที่ค่อนข้างเรียบง่ายเช่น Amumu Malphite และ Garen เป็นรากฐานที่สำคัญของ ‘League of Legends’ พวกฮีโร่ ‘มะเร็ง[1]’ ที่สามารถอวดโฉมได้ก็คือโฉมหน้าของ ‘League of Legends’
ฮีโร่ที่มีความสามารถเหล่านี้ทำให้เกมนี้รองรับผู้เล่นส่วนใหญ่และมีชีวิตชีวาในระยะยาว
แน่นอนว่า ‘League of Legends’ ที่เฉินโม่ต้องการจะทำนั้นแตกต่างจากเวอร์ชันใดๆ ในชีวิตก่อนหน้าของเขา
เฉินโม่ยังพิจารณาที่จะปรับระบบสมดุลตัวเลขทั้งหมดของ ‘League of Legends’ ในทุกด้าน เพื่อให้สามารถใช้ฮีโร่ส่วนใหญ่ได้และเกมจะมีความหลากหลายมากขึ้น
…………………
[1] มะเร็งในที่นี้เป็นนิยามของตัวละครที่ดูเท่ดูดี คนนิยมเลือกมาเล่น แต่ดันเป็นตัวละครที่เล่นยาก ต้องใช้เวลาฝึก หาวิธีไปเรื่อยๆ แต่ถ้ายังเล่นไม่เก่งตัวละครนี้ก็อาจจะเป็นภาระแทน