Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - บทที่ 391 ความตื่นเต้น
บทที่ 391 ความตื่นเต้น
ในห้องรับรอง เฉินโม่ฟังบันทึกการต่อสู้แบบทีมครั้งสำคัญสองครั้ง จากนั้นจึงดูข้อความที่แปลโดยนักแปล
ซุนเซียวยืนอยู่ด้านข้างและไม่พูดอะไร
เฉินโม่มองไปที่ซุนเซียว “คำแปลนี้ถูกต้องใช่ไหม”
ซุนเซียวพยักหน้า “ครับ นักแปลของเราล้วนเป็นมืออาชีพ คำพูดหยาบคายสองสามคำไม่มีทางแปลผิดอยู่แล้วครับ”
เฉินโม่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ประกาศออกไปเถอะ”
ซุนเซียวลังเล “ประธานเฉิน หลังจากประกาศออกไป มันจะกระตุ้นความเกลียดชังของผู้เล่นที่มีต่อทีมเกาหลีไหมครับ นี่มัน…”
เฉินโม่ส่ายหัว “ในเมื่อคุณได้เผยแพร่เวอร์ชันปิดเสียงไปแล้ว นั่นไม่เท่ากับ ‘ที่ตรงนี้ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง[1]’ หรอกเหรอ ยิ่งเราปล่อยให้ผู้ฟังเดามากเท่าไร บางทีพวกเขาอาจจะนึกคำที่ไม่น่าฟังยิ่งกว่านั้นก็ได้ สู้ให้บันทึกต้นฉบับแก่พวกเขาไปเลยจะดีกว่า”
ซุนเซียวพูด “แล้วเราจะทำยังไงกับผู้เล่นเกาหลีเหล่านี้ดีครับ”
เฉินโม่มองเขา “พวกคุณ Yan Huang ไม่ต้องกังวลไป ผู้เล่นเกาหลีเหล่านี้จะถูกลงโทษตามนั้นและจะต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณะ สำหรับค่าปรับและเรื่องพักการแข่งขันไม่จำเป็นเลย ท้ายที่สุด ในระหว่างการต่อสู้แบบทีม ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีอารมณ์ความรู้สึก ผมอยากเห็นทีมในประเทศเอาชนะพวกเขาในสนามมากกว่า”
ซุนเซียวพยักหน้า “ได้ครับ ผมจะรีบไปจัดการ”
เดิมทีส่วนของไมโครโฟนนั้นไม่ได้อธิบายให้ผู้เล่นฟัง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าเสียงของพวกเขาจะถูกบันทึกเสียงตลอดทั้งเกม
เนื่องจากไม่มีส่วนดังกล่าวในรอบแบ่งกลุ่มและรอบแปดอันดับแรก เห็นได้ชัดว่าผู้เล่นเกาหลีเหล่านี้คงได้ใจจนลืมตัว พวกเขาเลยพ่นคำด่ามากมายหลังจากชนะการดวลสำคัญกับทีมครั้งล่าสุด
แน่นอนว่าคุณภาพของคนเหล่านี้ไม่ได้ดีนักตั้งแต่แรก
นี่เป็นครั้งแรกที่ Yan Huang ประสบปัญหาประเภทนี้ ตอนที่เขาตัดต่อวิดีโอ เขาได้แปลต้นฉบับแล้ว ผู้รับผิดชอบไมโครโฟนลังเลและในที่สุดก็ตัดสินใจใส่เวอร์ชันปิดเสียง
ท้ายที่สุดแล้ว การต่อสู้แบบทีมนี้จะเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ของ BO5 ทั้งหมด หากการต่อสู้แบบทีมก่อนหน้านี้มีการคุยกันด้วยเสียง มันคงจะแปลกถ้าการแข่งรอบนี้ไม่มี
จากการพิจารณานี้ ผู้รับผิดชอบรายการได้ปิดเสียงวิดีโอและเผยแพร่ โดยไม่เคยคาดหวังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้เกิดความโกลาหลแบบนี้
เฉินโม่รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้หลังจากวิดีโอถูกเผยแพร่เท่านั้น แต่ความคิดเห็นของสาธารณชนบนอินเทอร์เน็ตนั้นควบคุมไม่ได้แล้ว เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยคลิปต้นฉบับและเตือนสมาชิกในทีมเกาหลีโดยสั่งให้พวกเขาขอโทษต่อสาธารณะทันที
……………
Weibo ทางการของ Yan Huang ได้ปล่อยเสียงต้นฉบับออกมา แม้ว่าจะไม่ได้แปลคำสบถภาษาเกาหลีพวกนั้น แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญชาวเกาหลีจำนวนมากในหมู่ผู้เล่น ดังนั้นการแปลจึงตามมาอย่างรวดเร็ว
“ฉันปล่อยท่าไม้ตายใส่ EZ แล้ว EZ กำลังมา! อา รอก่อน!”
“ชนะๆๆ!”
“เครื่องบินๆ!”
“ด้านหลัง ด้านหลังกำลังโจมตีฉัน! Nocturne กำลังโจมตีฉัน!”
“Jarvan!”
“เราชนะ! รอบนี้เราชนะ! เราชนะแล้วๆ!”
“วูวว!”
“ดันๆๆ! ฆ่า Jarvan แล้วดันตรงไปเลย!”
“เตะก้นมันเลย! เตะก้นมันเลยสิ! ไอสารรูปนี่!”
“ฉันจะเตะก้นแก ไอ้เปรต!”
“ฉันจะฆ่าแก ไอเชี่ย!”
“เฮ้ มานี่หน่อย ไอหมาน้อย…”
“ฮ่าๆ ให้ตายเถอะ หมาน้อย!”
“ฆ่ามัน!”
“โอเค เราชนะแล้ว!”
หลังจากที่คำแปลนี้เผยแพร่ ฟอรัมหลักก็ระเบิดทันที!
“ให้ตายเถอะ ไอพวกนี้หมายความว่ายังไง”
“ฮึๆ เห็นธาตุแท้แล้ว เดิมทีฉันรู้สึกประทับใจกับทีม SOT มาก ตอนนี้เหรอ เลิกแล้ว!”
“นี่ไม่ถือเป็นการดูถูกเหรอ แล้วเฉินโม่ล่ะ ผู้จัดงานจะไม่ลงโทษพวกเขาเลยเหรอ แค่แบนการแข่งขันยังเบาไปเลย!”
“คนเหล่านี้ไม่ต้องการกลับประเทศแบบมีชีวิตใช่ไหม”
“ให้ตายเถอะ แค่คิดก็โกรธแล้ว ฉันโทษทีม IF ที่ไม่ทำตามความคาดหวัง มันเป็นแค่คลื่นลูกสุดท้ายของกลุ่ม!”
“ฮ่าๆ ทีม SOT ชนะ คนดูปรบมือให้ แต่ตอนนี้พวกเขากำลังทำแบบนี้เหรอ ผู้ชมน่าจะโยนแท่งไฟลงไปทุบคนโง่เหล่านี้ให้ตาย!”
แน่นอนว่าพฤติกรรมของผู้เล่นทีม SOT นี้ถือเป็นการดูถูกรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าใครจะมองมันอย่างไร มันก็ขัดต่อจิตวิญญาณของการแข่งขันอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงคุณภาพที่ต่ำของผู้เล่นเหล่านี้ด้วย
ยกเว้น Frost เลนกลางของทีม SOT ที่ยังคงเงียบตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้เล่นอีกสี่คนพ่นคำหยาบคายออกมาไม่มากก็น้อย ตัวจังเกิ้ลในทีมก็พูดมากที่สุด
ทันทีหลังจากวิดีโอถูกเผยแพร่ เฉินโม่ก็โพสต์ข้อความ Weibo โดยสั่งให้สมาชิกในทีมเกาหลีออกมาขอโทษต่อสาธารณะ
ในไม่ช้า ภายใต้แรงกดดัน ผู้เล่นเกาหลีสี่คนที่ดูถูกผู้เล่นทีม IF ทางไมโครโฟนก็ออกมาขอโทษต่อสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม ชัดเจนว่าตัวจังเกิ้ลของทีม SOT ยังคงไม่พอใจอย่างมาก เขาแสดงเป็นการส่วนตัวว่าไม่รู้ว่าจะมีการบันทึกไมโครโฟนนี้ไว้ และเขาทำได้เพียงยอมรับว่าเขาโชคร้าย
ชาวเน็ตต่างพากันตกตะลึง แม้แต่บัญชีทางการในต่างประเทศของทีม SOT ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตที่โกรธแค้น
แต่ในฐานะผู้จัดงาน เฉินโม่ไม่สามารถทำอะไรอย่างอื่นได้ แม้ว่าเหตุการณ์จะเลวร้าย แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติใดๆ มันเป็นเพียงคำหยาบคายเล็กน้อยและไม่ได้ถึงขั้นถูกแบน
เรียกได้ว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ความขัดแย้งระหว่างทีมในประเทศและทีมเกาหลีพุ่งถึงขีดสุด ผู้ชมทุกคนต่างตั้งตารอรอบชิงชนะเลิศ รอคอยทีม NRG ตบหน้ากลุ่มผู้เล่นทีม SOT อย่างโหดเหี้ยม
………………
ในห้องฝึกซ้อมของทีม NRG
เจียงฮ่าว ผู้เล่นจังเกิ้ลของทีม NRG เอนหลังบนเก้าอี้อีสปอร์ตและถอนหายใจยาว
“ไม่เลวเลย กลยุทธ์นี้ได้ผล พักสักสิบนาทีแล้วค่อยสรุปประสบการณ์ของเรา จากนั้นเราจะทดสอบกลยุทธ์ต่อไป” เจียงฮ่าวพูด “ฉันจะแจ้งให้สมาชิกในทีม IF หยุดพักแปปหนึ่ง”
หลังจากนั้นไม่นาน หูจิ่งก็เปิดประตูและเข้ามา
เจียงฮ่าวเงยหน้าขึ้น “กลยุทธ์เมื่อครู่ได้ผล ต้องขอบคุณนายมาก”
หลังรอบรองชนะเลิศ ทีม IF พักที่โรงแรมเพื่อซ้อมซ้อมกับทีม NRG
แน่นอนว่าทั้งสองทีมยังอยู่ในคนละห้องฝึกซ้อม โดยคำนึงถึงปัญหาเรื่องฉนวนกันเสียงเป็นหลัก
หูจิ่งนั่งลงบนที่นั่งข้างเจียงฮ่าว
“ไม่เป็นไร คราวนี้ถ้วยแชมป์ S1 จะต้องอยู่ที่จีน พวกเราควรเป็นทีมที่เข้าใจทีม SOT มากที่สุด นอกจากนี้สไตล์ของเรายังค่อนข้างคล้ายกับทีม SOT มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่สามารถจำลองสไตล์การเล่นของ SOT ได้”
หูจิ่งชะงักแปปหนึ่งแล้วพูดว่า “อีกอย่าง คนเหล่านั้นในทีม SOT สกปรกมากจนเราปล่อยมันไปไม่ได้”
เจียงฮ่าวพยักหน้า “เอาละ ทีม MAD จะต้องทะเลาะกับทีม SOT อย่างแน่นอน”
หูจิ่งพูดเสริม “ยังไงก็ตาม ความสามารถของ AD ทีมนายยังอ่อนอยู่ พรุ่งนี้จะให้หลัวหย่งชางเล่นกับเขา อย่างน้อยต้องแน่ใจว่าเลนล่างจะไม่เสียเปรียบเกินไป”
หูจิ่งตบไหล่เจียงฮ่าว “โชคดี ความหวังของทีมในประเทศตกอยู่กับนายแล้ว ตอนนี้นายคือจังเกิ้ลที่เก่งที่สุดในประเทศ ฉันเชื่อว่าจังเกิ้ลคือตำแหน่งที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้!”
“ฉันเข้าใจแล้ว” สีหน้าของเจียงฮ่าวจริงจัง “ถ้าเราไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ในครั้งนี้ เราทุกคนอาจเสียใจไปตลอดชีวิต”
……………
[1] ที่ตรงนี้ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง : เป็นคำเปรียบเปรยหมายถึง “อยากปกปิดซ่อนเร้น กลับกลายเป็นเปิดเผยให้โลกรู้”
———————————