Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! - บทที่ 97 การวิจัยเกม

บทที่ 97 การวิจัยเกม

เฉินโม่ยืดเส้นยืดสายก่อนจะลงไปข้างล่าง

ไม่กี่วันมานี้ลูกค้าใน Experience Store เพิ่มขึ้นมาก เพราะผู้เล่นหลายคนในเมืองหลวงต้องการ ‘ทักทายอย่างสนิทสนม’ กับเฉินโม่ โดยการเล่นตัวและถ่ายภาพหมู่ภายในร้าน

ท้ายที่สุด ตอนนี้เฉินโม่เป็น ‘นักออกแบบเกมที่มีชื่อเสียง’

ผู้เล่นเหล่านี้ที่ส่งใบมีดให้ทางออนไลน์ในชีวิตจริงพวกเขาเป็นมิตรมาก เฉินโม่ตกลงที่จะให้คุณสมบัติการทดสอบภายในกับเกมต่อไปล่วงหน้าให้กับพวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขาดีใจมาก

ซูจิ่นอวี๋อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวให้กับคนเหล่านี้ “นี่คือสิ่งที่ได้ถูกอ้างถึงในตำราประวัติศาสตร์ ‘ความอ่อนแอและการประนีประนอมของชนชั้นกลาง’ เหรอคะ…”

หลังจากพูดคุยกับลูกค้าใหม่สองสามรายแล้ว เฉินโม่ก็สวมเสื้อแจ็คเก็ตเพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอก

“หืม ผู้จัดการ คุณจะออกไปข้างนอกเหรอคะ” ซูจิ่นอวี๋ถาม

เฉินโม่ไม่ค่อยออกไปข้างนอกและจะใช้เวลาส่วนใหญ่ใน Experience Store ถ้าเขาไม่ได้สร้างเกมใหม่ ก็คงคิดว่าจะสร้างเกมใหม่อะไรดี

ทุกสิ่งที่สามารถทำได้ทางออนไลน์ ซึ่งรวมถึงการซื้อของและจัดส่งอาหาร

นั่นเป็นสาเหตุที่ซูจิ่นอวี๋ตกใจที่เฉินโม่กำลังจะออกไปข้างนอก

เฉินโม่พูด “อืม ผมจะไปเดินเล่นสักหน่อย แล้วจะกลับมาก่อนร้านปิด”

เฉินโม่พูดจบก็ออกจาก Experience Store มุ่งหน้าไปยัง ‘Finger Internet Cafe’ ที่อยู่อีกฝั่งของถนน

เฉินโม่มีประสบการณ์กับเกม VR มาแล้วและมีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับมัน ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบว่าตลาดเกมคอมพิวเตอร์เป็นยังไง

ตั้งแต่เฉินโม่เข้าสู่วงการจนถึงตอนนี้ เขาคลุกคลีอยู่กับแพลตฟอร์มเกมมือถือเป็นส่วนใหญ่ เลยทำให้เขาไม่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และ VR

อย่างไรก็ตามเฉินโม่ไม่พอใจกับการเป็นที่รู้จักของผู้เล่นในฐานะนักออกแบบเกมมือถือและเขาควรพยายามขยายไปสู่ตลาดเกมคอมพิวเตอร์ด้วย

และแน่นอนว่าเขาต้องทำการวิจัยก่อนที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ และวิธีที่ดีที่สุดในการทำวิจัยก็คือการไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่

เป็นเรื่องง่ายที่จะบอกว่าเกมคอมพิวเตอร์ได้รับความนิยมแค่ไหนเพียงแค่ดูจำนวนคนที่เล่นเกมดังกล่าวในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ซึ่งข้อมูลนี้น่าจะเชื่อถือได้มากกว่าในรายการหรือลีดเดอร์บอร์ดออนไลน์ ซึ่งจะทำให้ปลอมข้อมูลได้ง่ายกว่า

เมื่อเดินมาถึงเคาน์เตอร์ จัวเหยากำลังนั่งกินเมล็ดแตงโมไปดูซีรีส์ไป

ทันทีที่เฉินโม่เข้ามา จัวเหยาโยนเมล็ดแตงโมลงถังขยะและพูดว่า “โอ้ แขกที่นานๆ มาครั้ง เข้ามาสิๆ”

เฉินโม่หัวเราะ “คุณเป็นเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณต้องทำงานเป็นแคชเชียร์ด้วย”

จัวเหยาพูด “มันคือการลดค่าใช้จ่าย ฉันมีแคชเชียร์นะ แต่เธอไม่สามารถเฝ้าทั้งวันทั้งคืนได้ ฉันคิดว่าจะจ้างคนอื่นแต่ก็ติดเรื่องค่าใช้จ่ายแลยตัดสินใจทำแทนเองซะเลย”

เฉินโม่หัวเราะ “คุณใช้ชีวิตได้ดี ยังมีเครื่องว่างให้ผมหรือเปล่า”

จัวเหยาพูด “มี รูดบัตรประจำตัวของคุณได้ที่นี่เลย ที่นี่ไม่เคยได้รับความนิยมขนาดนั้น นอกจากวันหยุดแล้วมีเครื่องว่างเสมอ”

เฉินโม่พูด “เอาละ ผมจะไปหาที่นั่ง”

จัวเหยาพูด “ได้ หากมีอะไรให้ถามผู้ดูแลระบบ เด็กคนนั้นนะ”

จัวเหยาพูดแล้วชี้ไปทางเด็กผู้ชายสวมแว่นตา

เฉินโม่พยักหน้า “ได้ ขอบคุณ”

จัวเหยาโบกมือ “ขอบคุณอะไรกัน ฉันรอให้คุณพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ที่สามารถแข่งขันกับเกม VR ได้อยู่นะ”

เฉินโม่ยิ้ม “เอาละ ผมจะเล่นแล้ว”

เฉินโม่รูดบัตรประจำตัวเสร็จก็แสกนจ่ายเงิน 20 หยวน จากนั้นหาที่นั่งเงียบๆ ในร้าน

เนื่องจากปักกิ่งได้ห้ามการสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะทั้งหมด อินเทอร์เน็ตคาเฟ่จึงค่อนข้างสะอาดและไม่มีกลิ่นบุหรี่

ในขณะที่กำลังเดินผ่าน เฉินโม่กวาดสายตาอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับเกมที่ผู้เล่นคนอื่นกำลังเล่น

เกมประเภท MMORPG และ RTS ได้รับความนิยมสูงสุด ประเภทอื่นๆ เช่น เกมกลยุทธ์ เกมจำลองธุรกิจ และเกมแอ็กชันผจญภัยมีผู้เล่นน้อยกว่า

ท้ายที่สุดเกมประเภทหลังมีผู้ชมน้อยกว่าหรือถูกครอบงำโดยเกม VR เลยทำให้ไม่ค่อยมีเกมดีๆ มาให้เห็น

เกม MMORPG เล่นกันค่อนข้างเยอะ เฉินโม่เดินผ่านก็เห็นว่ามีเกมยอดฮิตอยู่สามเกม

‘Legend of Imperial Sword’ ‘Luna Oracle’ และ ‘Warring Three Kingdoms’

‘Legend of Imperial Sword’ เป็นเกมธีมตำนานโบราณที่พัฒนาโดย Chanyi Entertainment ‘Legend of Imperial Sword’ เวอร์ชัน VR เป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในเกม VR ที่ดีที่สุดในประเทศจีนและยังเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ Chanyi Entertainment อีกด้วย

เป็นเรื่องปกติในโลกนี้ที่จะมีเกมทั้งบน VR และคอมพิวเตอร์ เนื่องจากต้นทุนการพัฒนาเกม VR นั้นสูงเกินไป หากล้มเหลว บริษัทอย่าง Chanyi Entertainment ก็คงยากที่จะตีตลาดได้ ดังนั้นบริษัทต่างๆ จึงมีแรงจูงใจให้พัฒนาเวอร์ชันคอมพิวเตอร์เพื่อทำการทดสอบจริง

เป็นเพราะความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ ‘Legend of Imperial Sword’ ในฝั่งคอมพิวเตอร์ ทำให้ Chanyi Entertainment มุ่งมั่นที่จะพัฒนา ‘Legend of Imperial Sword’ เวอร์ชัน VR ทำให้เกมธีมตำนานโบราณนี้กลายเป็นสินค้าหลักที่มีชื่อเสียงของบริษัท

‘Luna Oracle’ เป็นธีมแฟนตาซีตะวันออกที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันโดยนักเขียนอินเทอร์เน็ตระดับเทพ ชิวเจียง นักออกแบบระดับ S ของ Dichao Entertainment เป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง เกม VR ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและอาจเปิดตัวภายในปีนี้

‘Luna Oracle’ มีผู้เล่นมากกว่าและรายได้ดีกว่า แต่ในแง่ของการบอกต่อนั้นยังไม่ดีเท่า ‘Legend of Imperial Sword’

‘Warring Three Kingdoms’ แตกต่างจากสองเกมข้างต้น มันเป็นเกม MMORPG ที่เน้นการรบระดับชาติ มีผู้เล่นน้อย แต่รายได้สูง และมีผู้เล่นที่ภักดี แต่เนื่องจากบริษัทที่พัฒนาเกมนี้ขาดเงินทุน ตอนนี้เลยไม่มีความสามารถในการทำให้เป็นเกม VR ได้

ในต่างประเทศมีเกม RPG แนวแฟนตาซีตะวันตก เช่น ‘Heavenly Ring’ แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือเกมแฟนตาซีตะวันตกต่างประเทศจะไม่ปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในประเทศจีน แม้แต่ IP ขนาดใหญ่เช่น ‘Heavenly Ring’ ก็ถูกโจมตีอย่างทั่วถึง

อาจเป็นเพราะนิสัยของผู้เล่นหรือไม่ก็อาจเป็นเพราะความแตกต่างทางวัฒนธรรม สรุปแล้วเกมนี้ถูกกว่าสำหรับบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ในประเทศหลายแห่ง

นอกจากเกม MMORPG แล้ว ยังมีเกมกลยุทธ์ต่างประเทศแบบเรียลไทม์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจีน ชื่อว่า ‘Legion Conquistador’

“เกมกลยุทธ์เรียลไทม์เป็นที่นิยมมากเลยหรอ เทียบกับ MMORPG เหล่านี้ได้ไหม มันเหลือเชื่อมาก”

เฉินโม่พบเกม ‘Legion Conquistador’ บนคอมพิวเตอร์ของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่จึงคลิกเข้าไปดู

ในชีวิตก่อน หลังจากที่เกม moba ประสบความสำเร็จ เกมกลยุทธ์แบบเรียลไทม์และเกมเล่นตามบทบาทก็ตกต่ำลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การสวมบทบาทนั้นเพราะต้นทุนเวลาสูงเกินไป ในขณะที่กลยุทธ์แบบเรียลไทม์เป็นเพราะการดำเนินการที่ยากเกินไป สองเกมนี้จึงยากที่จะปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้เล่นที่ต้องการความรวดเร็วและใช้งานง่าย ทำให้ค่อยๆ ตกต่ำไป

เฉินโม่รู้สึกสงสัยเล็กน้อย ทำไมเกมกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ถึงได้รับความนิยมในยุคนี้ มันสามารถงัดข้อกันกับ ‘Legend of Imperial Sword’ ใน VR และคอมพิวเตอร์ได้ด้วยเหรอ