Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1296
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 1296 – ความสุขของการรวมตัว อีเย่ เจี้ยนเก้ออยากออกเดินทาง โอกาสของนางและ ที่จะครอบครองหัวใจเธอและสัตว์อสูรผลึก 7 เศียร
“ท่านพ่อ!” ชิง เหยี่ยนเรียกชิงสุ่ยอย่างมีความสุข
แม้ว่าเธอจะเป็นเด็กเก็บตัว แต่เธอไม่เหมือนกับสือฉิงจวง และเพราะสือฉิงจวงมีลูกสาวแล้ว เธอจึงร่าเริงกว่าในตอนแรก
“เหยี่ยนเอ๋อ เจ้าคิดถึงพ่อรึเปล่า?”ชิงสุ่ยมองเด็กสาวที่เหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย ต่างจากชิง หมินที่ตัวเปื้อนฝุ่น ท่ามกลางเด็ก ๆ ทุกคนเขาเนื้อตัวมอมแมมที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปทำอะไรมา
“คิดถึง ทุกๆ วันเลย ข้าคิดว่าข้าจะได้เจอท่านอีกครั้งตอนที่ข้าโตขึ้นเสียอีก” ชิง เหยี่ยนโอบคอชิงสุ่ย
“ในอนาคต ข้าจะกลับมาเยี่ยมเจ้าเดือนละครั้ง เจ้าคิดว่าไง?”เมื่อชิงสุ่ยได้ยินคำของชิง เหยี่ยน เขารู้สึกเสียใจ เขารู้ดีว่าพ่อแม่เป็นปัจจัยที่มีผลต่อลูก ดังนั้น ธงสวรรค์ปัญจธาตุ จะช่วยเขาได้ เขาจึงรู้สึกขอบคุณอาจารย์หญิงอยู่ลึกๆ
เพื่อให้เขาได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ลูกๆ และภรรยา ชิงสุ่ยรู้สึกดีใจมากเพราะ บางอย่างไม่เคยรอเวลา อย่างเช่นเด็ก ๆ ก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเขาไม่ได้ใช้ช่วงเวลานั้นกับเด็ก ๆ เขาก็ไม่มีทางหวนคืนเวลาได้อีก
“จริงเหรอ?” ชิง เหยี่ยนเงยหน้ามองชิงสุ่ยด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“แล้วพ่อของเจ้าเคยโกหกเจ้ารึเปล่า? ข้าบอกอย่างนั้น ก็หมายความเช่นนั้น มาเกี่ยวก้อยสัญญากันเถอะ”
ชิงสุ่ยยิ้มและชูนิ้วก้อยให้เด็กสาว
ชิง เหยี่ยนยื่นมาเกี่ยวก้อยกับชิงสุ่ย “เกี่ยวก้อยสัญญา!”
“ก็ได้ ข้าจะไม่คืนสัญญา พวกเจ้าเป็นพยาน ใช่ไหม?”ชิงสุ่ยหอมแก้ม ชิง เหยี่ยน นี้คือลูกสาวของเขาและหญิงสาวที่เขารัก เมื่อกอดเธอชิงสุ่ยรู้สึกเหมือนได้รับกำลังใจผ่านทางสายเลือด แค่กอดเธอ ชิงสุ่ยก็รู้สึกเหมือนได้ครอบครองเพชรเม็ดงามที่สุดในโลก
เสียงหัวเราะที่มีความสุขของ ชิง เหยี่ยน ทำให้ทุกคนรู้สึกยินดีไปด้วย
ชิงสุ่ยวาง ชิง เหยี่ยน และหันไปจับมือ ชิง อวี้ ชิง อวี้งอนจนเหมือนเธอกำลังอมลูกบอลไว้ในปาก ท่าทางเธอดูไม่พอใจเหมือนจะร้องไห้
“หืม? ใครทำเจ้าโกรธเนี้ย? บอกข้า แล้วข้าจะสั่งสอนเจ้าคนโอหังคนนั้น”ชิงสุ่ยรู้สึกมีความุสขเป็นพิเศษ มีคนพูดว่าความสุขที่ยิ่งใหญ่คือการได้ใช้ช่วงเวลากับครอบครัว ทั้งได้ฟื้นคืนพลังชีวิต พลังแห่งรัก ไร้ซึ่งความเห็นแก่ตัว จนทำได้แม้แต่จะยอมตายเพื่อกันและกัน
หลังจากทุกคนร่วมรัก พวกเขามักเปล่าเปลี่ยว เพราะการร่วมรักก็เป็นเพียงสิ่งที่ตอบสนองอารมณ์ใคร่เท่านั้น…
“ท่านพ่อ ท่านไม่คิดจะมาเจอข้าทั้งๆ ที่เราจากกันไปนานแสนนานเลยหรือ”เธอตอบพร้อมน้ำตานองหน้า
ตั้งแต่เล็ก ๆ ชิง อวี้เป็นเด็กหัวแข็ง และไม่ยอมยกชิงสุ่ยให้ใคร ดังนั้นเมื่อชิงสุ่ยอุ้มเด็กคนอื่นๆก่อนเธอ เธอจึงน้อยใจนั่นเอง และเพราะชิงสุ่ยอุ้มใครต่อใคร แต่ก็ยังไม่อุ้มเธอเสียที ตอนนี้เธอจึงเริ่มเคืองเขา
“มานี่สิ ข้าจะเช็ดน้ำตาให้เจ้าเอง เจ้าโตแล้วนะ แล้วเจ้ายังจะร้องไห้แบบนี้อยู่อีกเหรอ? เป็นความผิดพ่อเองที่ทำให้เจ้าร้องไห้ แล้วเจ้าอยากให้พ่อแก้ไขอย่างไรดี?”ชิงสุ่ยเช็ดน้ำตาให้เธอ
“ข้าอยากให้ท่านพ่อใช้เวลาอยู่กับพวกเรา” สายตาเจ้าเล่ห์ของชิง อวี้เปล่งประกาย
“ก็ได้ ถ้าอวี้เอ๋อต้องการเช่นนั้น พ่อก็ตกลง”
ชิง หยุนเจอชิงสุ่ยก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นชิง หลงจูงมือจรู้ชิงเดินเข้ามาหาชิงสุ่ย ชิงสุ่ยจึงก้มตัวลงไปหา ในที่นี้ชิง หลงมีอายุน้อยที่สุด แต่ดูแข็งแรงดุจลูกเสือ ทั้งยังเป็นเด็กหนุ่มที่น่ารัก
ชิงสุ่ยทำความคุ้นเคยกับเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว ก่อนเขาจะออกไปด้านนอกพร้อมครอบครัว อีเย่ เจี้ยนเก้อ ชางห่าย หมิงเยวี่ย ห่าวหยุน ลิ่วลี่ ติ๊ ชิง ห่าย ตงชิง…ทุกคนรวมตัวอยู่ที่นั่นยกเว้นมู่ ชิง
หลวน หลวนและ อวี้ช่างก็อยู่ที่นั้น หลวนหลวนคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลชิง อีเย่ เจี้ยนเก้อ และหญิงสาวคนอื่นๆ ก็แข็งแกร่งขึ้นมาก อย่างน้อยพวกเธอก็อยู่อันดับต้นๆใน 5 มหาทวีป
แม้ว่าพวกเธอจะแข็งแกร่งมากใน 5 มหาทวีป แต่ความสามารถของพวกเธอยังไม่สามารถเทียบกับผู้ฝึกตนในมหาทวีปอู่เซียตะวันตก ดังนั้นชิงสุ่ยจึงเตรียมบางอย่างเพื่อให้พวกเธอได้ฝึกฝน เขาเตรียมโอสถและของอื่นๆ ไว้
ชิงสุ่ยหยิบขนมและของอื่นๆ มาล่อตาล่อใจเด็ก ๆ ก่อน ชิงเป่ย, ชิงหยูและคนอื่น ๆก็อยู่ที่นั้น ทั้งห้องดูครึกครื้น ชิงสุ่ยมีของดีมากมายจากดินแดนหยกยุพราชอมตะมาแบ่งปันให้ทุกคน
เมื่อมองคนในตระกูลชิง ชิงสุ่ยไม่มีทางล้มเลิกความพยายาม เขาพยายามเพิ่มความสามารถให้ทุกคน แต่ก็ต้องใช้เวลาแม้จะเป็นเพียงการก้าวข้ามไประดับอาณาจักรพลังปราณนักบุญพิโรธ แน่นอนว่าหญิงสาวจากรูปโฉมงามนั้นเป็นข้อยกเว้น ชิงสุ่ยเห็นความสามารถของพวกเธอและรู้ว่าสายเลือดในตัวของพวกเธอตื่นขึ้นแล้ว
ความสามารถของติ๊ เฉินได้ตื่นขึ้นแล้ว อวี้ ลู่หยานและ ถานท่าย หยวนที่อยู่ที่ มหาทวีปอู่เซียตะวันตก เองก็เช่นกัน พลังของคนอื่นๆ ในตระกูลชิงยังไม่ตื่นขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะตอนนี้ทุกคนอยู่ในระดับอาณาจักรพลังปราณจักรพรรดิ
เด็ก ๆ มีพื้นฐานที่ดีและมีความสามารถมาก นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ชิงสุ่ยไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการฝึกฝนของเด็ก ๆ ในอนาคต ส่วนคนที่ชิงสุ่ยเป็นห่วงมากที่สุดคือแม่ของเด็ก ๆ สือฉิงจวง ห่าวหยุน ลิ่วลี่ หยุน ต้วน และคนอื่นๆ
ดังนั้นเขาควรคิดวิธีที่จะเพิ่มระดับของทุกคน
ชิงสุ่ยทำเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆในตระกูลชิง อย่างเช่น ลูกของชิงจือ แม้ความสามารถของเด็กหนุ่มจะไม่ดีพอ แต่ชิงสุ่ยก็คอยช่วยเหลือเขาตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยตัวยา การฝึกฝนจึงง่ายขึ้น
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แต่ละคนแยกย้ายกันไปตามหน้าที่ บ้างก็ไปทำอาหาร บ้างก็ไปดูแลเด็ก ชิงสุ่ยจึงเดินเข้าไปหาชิงอี้
“ท่านแม่ ข้าไม่ได้ข่าวของท่านพ่อ แต่ข้าจะตามหาเขาให้เจอ”ชิงสุ่ยนั่งลงตรงข้ามชิงอี้
“ไม่ต้องรีบร้อน ความปลอดภัยของเจ้าต้องมาก่อน พวกเราอยู่กันมาได้ตั้งนานโดยไม่มีเขา ตอนนี้เจ้าคือเสาหลักของตระกูลชิง ดังนั้นสิ่งอื่นก็ไม่สำคัญอีก เจ้าคือสิ่งสำคัญกว่า แล้วทุกอย่างจะราบรื่นไปด้วยดีเอง”ชิงอี้บอกชิงสุ่ยด้วยท่าทางจริงจัง เพราะเขาคือลูกชายของเธอ
“ท่านแม่ อย่ากังวลเลย ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครทำร้ายลูกชายท่านได้แล้วล่ะ เพียงแต่ตอนนี้ข้ายังเข้าไปหาท่านพ่อไม่ได้..”ชิงสุ่ยยิ้มและตอบ
“เวลาก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ชิงสุ่ย..เจ้าจงตัดสินใจตามใจตัวเองเถอะ เจ้าต้องคิดถึงทั้งตระกูลชิงสิ ตอนนี้เจ้ามีภาระหนักมากพอแล้ว อีกทั้งพวกเรายังช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ด้วย”ชิงอี้ถอนหายใจพลางมองลูกชาย
“ข้าหวังว่าท่านแม่และตระกูลชิงจะอยู่เย็นเป็นสุข เพียงเท่านั้นข้าก็มีกำลังมากพอแล้ว”ชิงสุ่ยตอบ
“แล้วเป็นความจริงรึเปล่าที่เจ้าจะกลับมาบ้านเดือนละครั้ง?”ชิงอี้ถามอย่างไม่อยากเชื่อสักเท่าไรนัก
“ข้ามีของวิเศษที่ช่วยให้ข้าเดินทางไปมาระหว่างทวีปได้เดือนละครั้ง ดังนั้นข้าสามารถกลับมาที่นี้ได้”ชิงสุ่ยตอบ
“เยี่ยมจริง ๆ จากนี้เจ้าก็สามารถใช้เวลาร่วมกับหมิงเยวี่ยและคนอื่นๆได้ ..ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกนางเลยที่จะใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีเจ้า”ชิงอี้ตอบอย่างมีความสุขที่รู้ว่าชิงสุ่ยสามารถกลับมาบ้านได้เดือนละครั้ง เธอดูมีความสุขมากกว่าทุกคน
…
“ท่านอาจารย์!”
“ในเมื่อท่านกลับมา ท่านก็ใช้เวลาร่วมกับพวกเขาเถอะ” อีเย่ เจี้ยนเก้อขมวดคิ้วและมองชิงสุ่ย
“ข้าคิดถึงท่าน!”ชิงสุ่ยเรียกเธอว่าท่านอาจารย์ จนเธอรู้สึกไม่ชอบใจ แต่ชิงสุ่ยก็เดินมากุมมือเธอไว้
ความงามของอีเย่ เจี้ยนเก้อนั้นยากที่จะหาใครเทียบ ด้วยม่านพลังรอบตัวเธอ ทำให้บางครั้งชิงสุ่ยรู้สึกว่าเขาด้อยกว่าเธอ แต่ไม่ใช่ในเรื่องของพลัง ทว่าเป็นความรู้ที่เหมือนเขาไม่สามารถครอบครองเธอได้
ในความจริง ความสัมพันธ์ของชิงสุ่ยและอีเย่ เจี้ยนเก้อเริ่มคงตัว เพียงแค่พวกเขาไม่ได้มีโอกาสแสดงความรักอย่างออกนอกหน้าก็เท่านั้น
“ท่านมาที่นี้เพื่อยั่วโมโหข้าเหรอ?” อีเย่ เจี้ยนเก้อ ปล่อยให้ชิงสุ่ยจับมือและพูดอย่างขุ่นเคือง ตอนนี้รอบตัวเธอทำให้เธอดูเป็นหญิงสาวบอบบาง ม่านพลังรอบตัวเธอเริ่มเบาบางลงเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน แต่ก็ยังคงแข็งแกร่ง เมื่อพวกเขาไม่ได้เจอกันนาน ชิงสุ่ยก็เริ่มทำตัวไม่ถูก
“ข้าจะกล้าทำเช่นนั้นได้อย่างไร?”ชิงสุ่ยคว้ามือเธอและเดินไปรอบ ๆ ตระกูล
“ชิงสุ่ย ในเมื่อเจ้ากลับมาได้เดือนละครั้ง ข้าอาจจะไม่อยู่ที่นี้นะ” อีเย่ เจี้ยนเก้อ ลังเลใจก่อนจะบอกชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยตะลึง ทำไมหญิงสาวจากรูปโฉมงามมักจะมีปัญหาอยู่เรื่อยไป? ชิงสุ่ยจึงตอบเธออย่างใจเย็น “มีอะไร? เจ้าไม่ชอบที่นี้เหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ..สัตว์อสูรผลึก 7 เศียรบอกข้าว่าจะพาข้าไปสถานที่ฝึกฝนเพื่อสืบทอดพลังในตำนานของสัตว์อสูรผลึกเพื่อกลายเป็นสัตว์อสูรผลึกจิตบรรพกาลที่แข็งแกร่งขึ้น ในตอนแรกข้าไม่ได้ออกเดินทางไปเพราะเจ้าไม่อยู่ที่นี้ แต่เมื่อเจ้ากลับมาที่นี้ได้เดือนละครั้ง ข้าก็คลายกังวล อีกทั้งตระกูลชิงในตอนนี้ก็แข็งแกร่ง ข้าเลยอยากจะลองทำตามที่ตั้งใจ” อีเย่ เจี้ยนเก้อมองชิงสุ่ยด้วยรอยยิ้ม
“นั่นเป็นข่าวดีนี่นา งั้นข้าจะพาเจ้าไปที่นั่นภายใน 2-3 วัน อย่างน้อยให้ข้าพาเจ้าไปที่นั้นเถอะ ข้าอยากรู้เส้นทางให้มั่นใจ”ชิงสุ่ยรู้สึกแปลก ๆ แต่นี่ก็เป็นข่าวดี
เธอฝึกสัตว์อสูรผลึก 7 เศียร ที่การก้าวข้ามมาจากสัตว์อสูรผลึก6 เศียร มันดูบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับเจ้าของมัน
ชิงสุ่ยยังจำภาพที่ อีเย่ เจี้ยนเก้อกำลังฝึกฝน สัตว์อสูรผลึก 7 เศียรได้ดี
“เจ้าไปที่นั้นไม่ได้ ต้องมีความสามารถพิเศษที่จะใช้ได้ครั้งเดียวเพื่อไปยังที่นั่น หลังจากที่ได้รับพลังจากสัตว์อสูรผลึกจะกลายเป็นสัตว์อสูรบรรพกาลที่แท้จริง.” อีเย่ เจี้ยนเก้อส่ายหน้าและตอบชิงสุ่ย
“อย่างนั้นเหรอ”ชิงสุ่ยขมวดคิ้ว เขาเกรงว่าเธอจะตกอยู่ในอันตราย
“ไม่ต้องกังวล ไม่มีอันตรายหรอก”เธอยิ้มและใช้มือจับหน้าผากของชิงสุ่ยอย่างอ่อนโยน
ชิงสุ่ยกุมมือของเธอ เขาสงสัยว่าเขาจะใช้ให้อะไรเธอไป เพื่อจะมั่นใจว่าเธอจะปลอดภัย
“สัตว์อสูรผลึกบอกข้าว่าสถานที่แห่งนั้นคือสถานที่แห่งตำนานและไม่มีอันตราย ยิ่งกว่านั้น ข้าจะได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่และเกิดการก้าวข้ามในทักษะของข้า” อีเย่ เจี้ยนเก้อย้ำอีกครั้ง
“แต่ข้าก็ยังเป็นห่วง”ชิงสุ่ยคิดก่อนจะบอกเธอ
“ที่นั่นคือวังผลึกแก้วลึกลับเป็นซากปรักหักพังโบราณ เจ้าไม่ต้องกังวลเพราะสัตว์อสูรผลึก มีทักษะบางอย่างและมันจะพาข้าไป ที่สำคัญยังมีข้าและสัตว์อสูรผลึกเท่านั้นที่เข้าไปได้ เพราะภาพแผนที่นั้นมาจากสัตว์อสูรผลึก ดังนั้นไม่มีอันตรายใดๆ หรอก”
“ก็ได้ แต่เจ้าก็ต้องระวังตัวด้วย”ชิงสุ่ยรู้ว่าเธอต้องการจะเดินทางไปจริงๆ เขาจึงยอมรับคำขอของเธอ หากที่นั้นเป็นเหมือนซากปรักหักพังทั่ว ๆ ไป เขาก็จะต้องเดินทางไปที่นั้นกับเธอให้ได้ แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตามแต่ นี่ถือเป็นเรื่องน่ายินดี