Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1339
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 1339 – ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 2 ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3 ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 ที่ล้มเหลว
ชิงสุ่ยไม่ได้คิดอะไรมากและเมื่อได้สบสายตากับอวี้ ลู่หยาน อวี้ ลู่หยานก็หันหนีไปด้วยความเขินอาย ระยะเวลาที่เขาจากไปนั้นไม่ได้ถือว่ายาวนานแต่อย่างใดแต่นางกลับรู้สึกคิดถึงเขาอย่างยิ่ง ในตอนนี้ความรู้สึกนั้นก็เริ่มรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่นางก็เป็นหญิงสาวที่รักนวลสงวนตัว แม้ว่านางจะเป็นภรรยาของชิงสุ่ยแล้วและได้ใกล้ชิดกับเขามาหลายครั้ง แต่นางก็ยังคงไม่อาจทำเรื่องนี้ออกไปอย่างเปิดเผยได้
เมื่อมองไปยังวอวี้ ลู่หยานที่งดงามไม่แพ้หมิงเยวี่ย เก้อโหลวและเป็นหญิงสาวที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มที่และสง่างาม หัวใจของชิงสุ่ยก็หลุดลอยไป ความงามของอวี้ ลู่หยานนั้นเป็นความงามของผู้ใหญ่ สงบนิ่ง เมื่อเทียบกับอดีตนางเป็นหญิงสาวที่สง่างามอย่างยิ่ง
ชิงสุ่ยยิ้มและเดินเข้ามานั่ง เขายังรู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วมาก นี่ทำให้เขารู้สึกสุขใจอย่างยิ่ง เมื่อหัวใจของทั้ง 2 คนเต้นระรัวขึ้นพร้อมๆกันนั่นก็เป็นความรู็สึกของการใกล้ชิดกันในตอนนี้ ชิงสุ่ยไม่ได้คาดคิดว่าหญิงสาวผู้นี้จะรักเขามากมายถึงเพียงนี้ แต่นางก็รักนวลสงวนตัวอย่างยิ่งไม่ว่านางจะปราถนามากเพียงใดนางก็จะไม่เป็นคนริเริ่มในเรื่องนี้ นางกลัวว่ามันจะทำให้นางดูมักมากในกามจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากชิงสุ่ยคิดเช่นนั้น
“ลู่หยาน!” ชิงสุ่ยจับมือของนางและลลุกไปนั่งข้างๆนาง
“อื้ม!” อวี้ ลู่หยานเงยหน้าขึ้นและมองไปยังชิงสุ่ย ใบหน้าของนางแดงเล็กน้อย
ชิงสุ่ยอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต้ก็ไม่ได้พูด เขาอุ้มนางออกไปพร้อมกับยิ้มและกระซิบข้างหูนาง “เจ้าหิวหระหายงั้นหรือ?”
“อ๊า!” อวี้ ลู่หยานร้องออกมาอย่างเขินอายและซุกหน้าลงไปที่ลำคอของชิงสุ่ยโดยไม่กล้ายกขึ้นมาอีก
“พวกเราเองก็เป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว เหตุใดเจ้าจึงยังเขินอายเช่นนี้?” ชิงสุ่ยทุกๆครั้งที่เขาอยู่กับอวี้ ลู่หยานนั้นให้ความรู้สึกราวกับครั้งแรกที่เขาได้พบกับนาง ความรู้กสึกนี้ช่างน่าอัศจรรย์ใจและทุกๆครั้งที่เขาได้พบนางก็เหนือความคาดหมาย เขาเองก็รู้สึกว่าหัวใจของตนเองเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย
…
หลังจากทำกันหลายรอบตอนนี้ก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว อวี้ ลู่หยานนั้นนอนอยู่บนหน้าอกของชิงสุ่ยใบหน้าของนางนั้นเต็มไปด้วยความพึงพอใจ หญิงสาวผู้นี้ดูงดงามยิ่งขึ้นเมื่อใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความพึงพอใจ นางมองไปยังชิงสุ่ยด้วยความรักใคร่
“ลู่หยาน เสียงร้องของเจ้าช่างไพเราะยิ่งนัก” ทั้ง 2 มือของชิงสุ่ยลูบไล้บั้นท้ายอันกลมกลึงของนาง
“หากเจ้ายังพูดอีก ข้าจะไม่ร้องอะไรอีกในอนาคต…”
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะทนไหวงั้นหรือ?” ชิงสุ่ยยิ้มและจากนั้นก็พลิดตัวทันที
“อื้ม…”
หลังจากผ่านไปอีกหลายรอบอวี้ ลู่หยานก็ขดตัวอยู่ที่หน้าอกของชิงสุ่ยราวกับลูกแมว ร่างกายของนางอ่อนระทวยราวกับของเหลวและสายตาของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามันสัตว์ร้าย…”
ชิงสุ่ยยิ้มอย่างมีความสุข “ลู่หยาน ข้าจะเล่าเรื่องตลกให้ฟัง”
“ตกลง!” อวี้ ลู่หยานรู้สึกยินดีทุกครั้งที่นางได้อยู่ด้วยกันกับชิงสุ่ย
“มีหญิงสาวและชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน หญิงสาวขีดเส้นตรงกลางเตียงและบอกว่าหากชายหนุ่มข้ามเส้นนี้มาเจ้าคือสัตว์ร้าย ท้ายที่สุดชายหนุ่มก็ไม่ได้ข้ามเส้นนั้นไปเลยเขาหลับสนิทตลอดทั้งคือ ในวันถัดมาตบหน้าชายผู้นี้และกล่าวว่า ‘เจ้าเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์ร้าย!’ “
“ลู่หยาน เจ้าคิดว่าข้านั้นเป็นสัตว์ร้ายหรือว่าเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์ร้า?”
“เจ้านั้นเป็นสัตว์ร้าย!” อวี้ ลู่หยานกอดชิงสุ่ยกระซิบเบาๆที่ข้างหูของเขา แม้ว่าอวี้ ลู่หยานจะนักนวลสงวนตัวแต่ก็มีบางครั้งที่นางปล่อยตัวปล่อยใจเมื่ออยู่ด้วยกันกับชิงสุ่ย ทำให้หัวใจที่ยุ่งเหยิงของชิงสุ่ยนั้นรู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง
“ชิงสุ่ย ข้าอยากจะบอกอะไรบางอย่างแก่เจ้า”
“โอ้? อะไรงั้นหรือ?” ชิงสุ่ยเห็นสีหน้าของอวี้ ลู่หยานแปลกไปเล็กน้อย
“จริงๆแล้ว เจ้าเป็นผู้ชายคนแรกของข้า”
หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ชิงสุ่ยก็ตกตะลึงทันทีจากนั้นเขาก็มองไปที่นาง ชิงสุ่ยชอบนางอย่างยิ่งแต่น่าเสียดายที่เขาได้พบกับนางช้าเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอดีตของนาง แต่ชายหนุ่มทุกๆคนย่อมหวังว่าพวกเขาจะเป็นชายหนุ่มเพียงคนเดียวของหญิงสาว แม้ว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นแต่เขาก็ยังพึงพอใจตราบใดที่นางมีความรักต่อเขา แต่เมื่อชิงสุ่ยได้ยินเช่นนี้เขาก็รู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง
ตอนที่พวกเขาได้มีเพศสัมพันธ์กันครั้งแรกที่สระน้ำนมหยกขาว แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าร่างกายของนางนั้นกระชับอย่างยิ่งแต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนั้นมันยากยิ่งนักที่จะเห็นรอยเลือดใดๆ ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับหญิงสาวบางคนแม้ว่าพวกนางจะไม่ได้เลือดออก แม้ว่าพวกนางจะเยื่อบางๆนั่น แต่พวกนางก็ยังคงบริสุทธิ์อยู่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดเขาจึงรู้สึกเสมอว่านางเหมือนกับหญิงสาวที่ไม่เคยมีลูกมาก่อน แต่แล้วสามีกับลูกสาวของนางล่ะ?
แม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่ได้รู้รายละเอียดของเรื่องนี้ ทุกอย่างก็สมเหตุสมผลเมื่อนางบอกว่าเขาเป็นคนแรกของนาง มันไม่จำเป็นต้องถามอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องสงสัยด้วยเช่นกันว่านางพูดความจริงหรือไม่
“ข้าชอบที่เจ้าเป็นเจ้า เช่นเดียวกับที่ข้าชอบเก้อโหลว ข้าทำได้เพียงด่าตัวเองที่ได้พบกับนางช้าเกินไป แต่ข้าก็มีความสุขอย่างยิ่งที่พระเจ้าส่งนางเข้ามาในชีวิตของข้า” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความจริงจัง
“ข้ารู้ ที่ข้าไม่บอกเรื่องนี้แก่เจ้าก่อนหน้านี้เพราะข้ากลัวว่าหลิงฉวงจะไม่อาจทนรับเรื่องนี้ได้”
“เช่นนั้นก็จงอย่าบอกนาง หลิงฉวงนั้นไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้นางมีลูกมีครอบครั้วเป็นของตนเองแล้วและความสำคัญในชีวิตของนางย่อมเปลี่ยนไปแล้ว เข้าไม่ต้องกังวลเรื่องของนางอีกต่อไป แต่ข้าควรจะเป็นห่วงเจ้ามากกว่า” ชิงสุ่ยยิ้มและมองไปที่นาง
“ชิงสุ่ย ข้าอยากมีลูก ข้าอยากมีลูกกับเจ้า” ใบหน้าของอวี้ ลู่หยานซุกไปที่หน้าอกของชิงสุ่ย
“ตกลง เช่นนั้นก็มาเริ่มกันเลย”
…
ในวันถัดมาชิงสุ่ยไม่ได้ตื่นขึ้นมาเช้ามากนัก เมื่อเขาปรากฏพร้อมกับอวี้ ลู่หยาน ทั้งอี่หวง กู่หวู๋และถานท่าย หยวนยิ้มและมองไปยังอวี้ ลู่หยาน มองไปยังหญิงสาวที่ดูเขินอายผู้นี้อย่างมีความสุข
“เอาหละ มาทานอาหารเช้ากันเถอะ ข้าได้ปรุงทั้งยาเม็ดตำรับคู่และยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 1 แล้ว ข้ายังมียาอื่นๆอีกด้วย พวกเข้ามารับมันได้นะ” ชิงสุ่ยพยายามที่จะเปลี่ยนเรื่องที่จะคุย
เมื่อได้ยินที่ชิงสุ่ยกล่าวหญิงสาวเหล่านี้ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง เพราะพวกนางไม่ได้เห็นชิงสุ่ยปรุงยาใดๆ เขาเพียงเข้าไปในห้องพร้อมกับอวี้ ลู่หยานตลอดทั้งคือ พวกนางรู้ว่าชิงสุ่ยก็มีความลับของตนเองและดังนั้นถึงแม้ว่าพวกนางจะประหลาดใจมันก็เป็นเพียงแค่ความประหลาดใจเท่านั้น
หลังจากอาหารเช้าชิงสุ่ยก็วางแผนจะเข้าไปปรุงยาต่อในดินแดนหยกยุพราชอมตะ แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจและตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ก่อนและดูพวกนางรับยาของเขาไป
ชิงสุ่ยมอบยาเม็ดตำรับคู่กว่า 100 เม็ดและยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 1 ในปริมาณที่เพียงพอแก่หญิงสาวแต่ละคน เขาเฝ้ามองพวกนางใช้ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 1 ด้วยเช่นกัน ความสามารถของทั้งอวี้ ลู่หยานและถานท่าย หยวนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล สำหรับอี่หวง กู่หวู๋แม้ว่ายาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 1 จะช่วยเพิ่มพลังของนางได้ถึง 2 สุริยาแต่การเพิ่มขึ้นนั้นก็ถือว่าเล็กน้อยสำหรับนาง
จากนั้นชิงสุ่ยก็มอบยาอื่นๆให้แก่นางด้วยเช่นกัน แต่มันก็ยังมีข้อจำกัดในการได้รับอยู่ แม้ว่าพวกนางจะไม่ได้ใช้ยาชนิดเดียวกันแต่มันก็ไม่ได้มากมายนัก ชิงสุ่ยทิ้งยาไว้ให้พวกนางมากมายเกินกว่าที่พวกนางต้องการ จากนั้นเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปเกือบครึ่งวันแล้วเขาก็ไม่อยากเสียเวลาเพิ่มอีกและเดินตรงกลับไปยังห้องของเขาเพื่อเข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะ
ชิงสุ่ยเริ่มฝึกฝนตามปกติของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มเตรียมตัวที่จะปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 2 และยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3 ในตอนนี้เขาต้องการปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3 ให้สำเร็จเป็นอย่างน้อย สำหรับยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 ชิงสุ่ยไม่ได้หวังมากนัก ตามตำรายาสวรรค์เก้าหยางมีการแบ่งแยกระหว่างยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3 และยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 อย่างชัดเจน การใช้สมุนไพรต่างๆของมันจะเพิ่มมากขึ้นและความเชี่ยวชาญของนักปรุงยาก็ต้องสูงขึ้นเช่นกัน การแบ่งแยกนี้จะมีทุกๆ 3 ระดับ มันยังเขียนเอาไว้ว่ายาเม็ดสวรรค์หยางในระดับที่สูงกว่านั้นจะให้ผล 2 เท่าเป็นอย่างน้อยเมื่อเทียบกับระดับที่ต่ำกว่า 1 ระดับ
ทันใดนั้นชิงสุ่ยเข้าสู่การปรุงยา เขาปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 2 อย่างรวดเร็วด้วยเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเขาปรุงมันออกมาได้ประมาณ 2 เม็ด เมื่อเทียบกับตอนที่เขาปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 1 เวลาที่ใช้นั้นเพิ่มเป็นสองเท่าแต่เขาก็ยังสามารถปรุงมันได้สำเร็จ แน่นอนว่าชิงสุ่ยก็เพิ่มหญ้าอสรพิษทองคำเข้าไปด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 1 ได้สำเร็จโดยไม่ต้องใช้หญ้าอสรพิษทองคำ จากนั้นเขาก็เริ่มปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 2 ด้วยเวลา 2 ชั่งโมงภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ เขาหยุดมือหลังจากที่ระดับความชำนาญของเขาเพิ่มมากขึ้นจนไม่ต้องใช้หญ้าอสรพิษทองคำ เขาเก็บยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 2 เอาไว้ด้วยเช่นกัน ในระหว่างที่ปรุงยานี้เขาล้มเหลวไป 2 ครั้งเมื่อเขาไม่ใช้หญ้าอสรพิษทองคำ ชิงสุ่ยรู้สึกเจ็บปวดกับความล้มเหลว เพราะสนุมไพรต่างๆที่ใช้ในการปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางนั้นล้ำค่าอย่างยิ่ง
เมื่อชิงสุ่ยเตรียมที่จะปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3 เขาก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง ตอนนี้เขาสามารถปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 1 และยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 2 ได้จากตำรานั่น ดังนั้นแม้ว่าเขาจะตื่นเต้นเมื่อเขาได้ปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 1 และยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 2 ก่อนหน้านี้แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมากนัก ระดับของการตื่นเต้นนี้เทียบไม่ได้เลยกับตอนที่เขาปรุงยาเม็ดตำรับคู่ได้
แต่มันแตกต่างจากยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3 มันเพราะว่าชิงสุ่ยรู้สึกว่าตำรายาสวรรค์เก้าหยางสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตระกูลของเขาได้ แม้ว่าเขาจะได้รับประโยชน์จากมันมากมาย ตัวอย่างเช่น ด้วยกายา 9 หยางของเขายาเม็ดสวรรค์หยางไม่เพียงแต่เพิ่มพลังให้แก่เขาได้แต่มันยังสามารถพัฒนากายา 9 หยางของเขาได้เช่นกัน แม้ว่าการพัฒนานั้นจะถือว่าเชื่องช้าอย่างยิ่งแต่ชิงสุ่ยก็สามารถสัมผัสถึงมันได้ เขาเชื่อว่ายาเม็ดสวรรค์หยางในระดับที่สูงขึ้นย่อมทรงพลังยิ่งขึ้น
4 ชั่วโมง!
ชิงสุ่ยก็ได้คาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าอัตราการปรุงยาสำเร็จของเขานั้นถือว่าสูงมาก หลังจากที่ปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3 ไปครู่หนึ่งชิงสุ่ยก็ไม่อาจหยุดความต้องการของตนเองได้และเตรียมที่จะปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 แต่ชิงสุ่ยก็ต้องโศกเศร้าทันที เขาล้มเหลว 3 ครั้งซ้อนแม้ว่าเขาจะใช้หญ้าอสรพิษทองคำร่วมด้วย ในการปรุงยาครั้งที่ 3 เขาล้มเหลวหลังจากปรุงยาไปได้ 2 ชั่วโมง จากการคาดการณ์การปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 ย่อมต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ดังนั้นนี่แสดงให้เห็นว่าเขายังเหลือหนทางอีกยาวไกล นี่เป็นการล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การปรุงยาของชิงสุ่ยเลย
แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกโศกเศร้าจนเกินไป เพราะเหตุผลใหญ่ที่สุดของการล้มเหลวนั้นคือหญ้าสวรรค์หยางและสมุนไพรอื่นๆยังไม่ดีพอที่จะปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็ทำได้เพียงรอคอยต่อไป มันย่อมอีกไม่นานแล้วอย่างแน่นอน
หลังจากที่ปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3 เพิ่มากขึ้นไปอีกมันก็ถึงเวลาที่ชิงสุ่ยต้องออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ
ในยามเย็นอยู่ภายนอกบ้านหลังนี้หญิงสาวทั้ง 3 คนกำลังเดินเล่นไปตามชายหาด เพียงพริบตาชิงสุ่ยก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆพวกนาง พวกนางมี 3 คนแต่เขามีเพียง 2 มือเท่านั้น มันอาจจะดูไม่สำคัญว่าเขาจะจับมือของใคร แต่อวี้ ลู่หยานมองตรงไปที่ชิงสุ่ยทันทีขณะที่นางจับมือของอี่หวง กู่หวู๋อยู่
ชิงสุ่ยยิ้ม กระพริบตา และโอบกอดนาง จากนั้นเขาก็จับมือของหญิงสาวทั้ง 2 คนขึ้นมา พวกนางยังคงเดินต่อไปชายหาดเพื่อชื่นชมกับสายลมและคลื่น พวกนางทั้งหมดยังคงเงียบ เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลงอวี้ ลู่หยานและ ถานท่าย หยวนก็ออกไปเตรียมอาหารค่ำขณะที่ชิงสุ่ยยังคงเดินต่อไปพร้อมกับอี่หวง กู่หวู๋
“เจ้าจะจากไปแล้วหรือ?” อี่หวง กู่หวู๋ยิ้มและถามขึ้น
“ข้าจะจากไปในวันพรุ่งนี้!” ชิงสุ่ยได้วางแผนทุกๆอย่างเอาไว้แล้ว
“เจ้าควรไปที่ห้องของหยวนเอ๋อในคืนนี้ เด็กคนนั้นอาจจะพูดไม่ดีแต่นางชอบเจ้าจริงๆ” อี่หวง กู่หวู๋ยิ้มและพูด
“ข้าจะไปแต่ข้าจะข้าจะยังไม่กลืนกินนาง ข้ารู้สึกว่านางยังไม่พร้อม…” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความกระอักกระอ่วน
“การทำเช่นนั้นให้ความรู้สึกดีจริงหรอ?” ใบหน้าของอี่หวง กู่หวู๋เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีเมื่อนางถามเช่นนี้ขึ้นเบาๆ
ชิงสุ่ยยิ้มและจากนั้นเขาก็กระซิบอะไรบางอย่างข้างหูของนางทำให้นางต้องวิ่งหนีไปทันที
“ลู่หยาน คืน มานอน….”
เมื่อได้เห็นอี่หวง กู่หวู๋และอวี้ ลู่หยานยิ้มและเดินหนีไป ถานท่าย หยวนก็เริ่มรู้สึกกังวลและอยากที่จะหนีไปเช่นกัน แต่นางถูกรั้งเอาไว้โดยชิงสุ่ย “สาวน้อย เจ้าไม่อาจหนีไปไหนได้หรอก”