Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1355
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่1355 – รักษาได้หรือไม่?
นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ที่เขาป่วยด้วยโรคนี้ เขาไม่รู้ว่าในทุกๆวันนี้เขานั้นอยู่รอดมาได้ยัง อย่างไรก็ตามเขาได้กล่าวออกมาในตอนนี้ว่า “ท่านบรรพบุรุษลืมมันไปเถอะ ไม่มีใครที่สามารถรักษาข้าได้”
เสียงของเทียนฮี่ เรินโม่ นั้นดูอ่อนแอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีความขมขื่นอยู่ในน้ำเสียงของเขา มีหมอมากมายกว่า1หมื่นคนที่เขามารักษาเขา แต่ก็ไม่มีใครเลยที่สามารถรักษาเขาได้
“ตราบเท่าที่มีความหวังเจ้าไม่ควรยอมแพ้ หรือเจ้ายอมรับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ได้แล้ว และเจ้าไม่ต้องการกลับมาเป็นเช่นดังเก่าอย่างนั้นรึ?”
“ป่าว ข้าไม่เคยยอมแพ้ เพียงแค่ตอนนี้ข้าต้องยอมรับความเป็นจริงเท่านั้น”เทียนฮี่เรินโม่กล่าวออกมาอย่างผิดหวัง
เป็นเรื่องยากที่ผู้ชายจะยอมรับความพ่ายแพ้ โดยเฉพาะคนอย่างเทียนฮี่ เรินโม่
“ในเมื่อเจ้าได้พยายามทดลองมาหลายครั้งแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองดูอีกสักครั้งละ นี่คือหมอแห่งปาฏิหาริย์ จากหอคอยจักรพรรดิ เจ้าหน้าจะลองดูอีกสักครั้ง”ชายชรากล่าวออกมา
“ก็ได้ข้าจะเชื่อท่านบรรพบุรุษอีกสักครั้ง แม้ว่าข้าจะอายุเยอะแล้ว ข้านั้นยังทำให้ท่านเป็นกังวลอีกข้าขอโทษจริงๆ”เทียนนฮี่เรินกล่าวอย่างขมขื่น
“เจ้าเด็กโง่ เจ้ารู้ไหมว่าทำไม ข้าถึงตั้งชื่อเจ้าว่าเรินโม่?”
“ไม่ ??”เทียนฮี่เรินโม่ส่ายหัวและกล่าว
“เพราะเจ้านั้นมีหัวใจที่แสนบริสุทธิ์ยังไงละ มันจึงทำให้เจ้านั้นต้องพบเจอกับชะตากรรมที่แสนลำบาก และยากเย็นกว่าคนอื่นหลายเท่า เจ้าจะเป็นที่รักและที่ชังของผู้คนมากมาย นอกจากนี้เจ้านั้นยังต้องแบบรับตระกูลเทียนฮี่ต่อไปในอนาคต”ชายชรากล่าออกมาอย่างหดหู่
“ข้าขอโทษ และต้องรบกวนท่านหมอแล้ว”เทียนฮี่ เรินโม่กล่าวออกมากับชิงสุ่ยและหยวนสู่
“อย่ากล่าวเช่นนั้นเลยหากข้ารักษาท่านได้ ข้าก็จะได้รับรางวัลเช่นเดียวกัน ท่านไม่ต้องนอบน้อมอะไรกับข้ามากนัก”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าชายคนนี้ไม่ได้หวังอะไรในตัวของเขามากนัก เพราะเขาและหยวนสู่นั้นยังดูเด็กอย่างมาก นอกจากนี้นั้นไม่มีใครรู้อาการของเขาดีเท่ากับตัวของเขา เส้นลมปราณที่ถูกทำลายลงไปนั้นเป็นสิ่งร้ายแรงอย่างมาก มันนั้นจะส่งผลโดยตรงต่อตันเถียนของพวกเขา มันเป็นเรื่องแปลกมากที่เขานั้นยังมีชีวิตอยู่ได้ในตอนนี้
หลังจากนั้นกลุ่มของชายชราได้เดินนำพวกเขาไปที่ห้องนั่งเล่น และปล่อยให้ที่ชิงสุ่ยตรวจชีพจรของเทียนฮี่ เรินโม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีหมอคนไหนทำได้ ขณะนี้ชิงสุ่ยใช้เวลาสักพักก่อนที่จะยกมือขึ้นมา
“ท่านหมอชิง เป็นอย่างไรบ้าง”
เมื่อเห็นชิงสุ่ยยกมือขึ้นชายชราได้กล่าวขึ้นมา แม้เสียงของเขาจะเต็มไปด้วยความสงบ แต่มันก็เต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก
“มันสามารถรักษาได้ แต่…”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาขณะที่โก่งคิ้วขึ้น
“แต่?”
“แต่ ต้องใช้เวลาสักพัก!”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาสักพัก
“ใช้เวลาสักพัก?แล้วมันจะนานขนาดไหน?นี่เจ้าพยายามจะลากมันไปเรื่อยๆ โดยที่เจ้าไม่สามารถรักษามันได้ใช่รึไม่? ก่อนหน้านี้มีคนมากมายที่ทำตัวเช่นเดียวกับเจ้า”
ชายชราที่ตัวสูงใหญ่กล่าวออกมา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่พึงพอใจ
ชิงสุ่ยหันไปมองหน้าของเขา ด้วยความไม่สนใจ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“หยานซู เจ้าห้ามหยาบคาย” ชายชรากล่าวออกมาขณะมองที่ชิงสุ่ย “ข้าขอโทษแทนเขาด้วย มีผู้คนมากมายที่เขามาหลอกพวกเราด้วยวิธีนี้ หวังว่าท่านหมอจะไม่ถือสา”
ชิงสุ่ยส่ายหน้าและกล่าว “ที่ท่านอาวุโสพูดนั้นถูกแล้ว คงจะเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อเด็กเช่นข้า แต่ข้ารับประกันว่าอาจของเขาจะหายดีหลังจากนี้หนึ่งเดือน ด้วยการรักษาของข้า ข้าสงสัยว่าเวลาประมาณนี้พวกท่านพอที่จะยอมรับได้หรอไม่?”
“หนึ่งเดือน? ”ชายชรากล่าวด้วยความตกใจ เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่อยู่รอบๆตัวของเขา
“มันนั้นนานเกินไปรึ? แล้วถ้าเป็น 25วันละ? ”เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา ชิงสุ่ยรีบกล่าวออกมาในทันที
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น มันเร็วเกินไป?”เมื่อได้ยินสิ่งที่ชิงสุ่ยกล่าวชายชรารีบกล่าวกลับมาในทันที
“ถ้านั้นข้าขอเวลาหนึ่งเดือน แต่ข้านั้นสามารถอยู่ที่นี่ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น หลังจากนั้นข้าต้องกลับไปที่หอคอยจักรพรรดิแล้ว จะเป็นการสะดวกหรือไม่ถ้าตอนนั้น เขาจะถูกย้ายตัวไปรักษาต่อทีหอคอยจักรพรรดิ”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยท่าทางที่จริงๆจัง
“มันไม่สำคัญว่า เราจะรักษากันที่ไหน เพียงแค่รักษาเขาได้ข้ายินดีทุกอย่าง ”ชายชรากล่าวออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่ามีคนที่สามารถรักษาโรคนี้ได้ภายในเวลาหนึ่งเดือน
“เดี๋ยวข้าจะรักษาเขาในขั้นต้นก่อน หลักจากนี้พวกท่านจะไม่รู้ว่าสิ่งที่ข้ากล่าวออกมานั้นเป็นจริงได้หรือไม่?”
ขณะที่ชิงสุ่ยพา เทียนฮี่เรินโม่ตรงเข้าไปในห้อง
…………………….
ความเร็วในรักษาของชิงสุ่ยนั้นรวดเร็วอย่างมาก ในตอนนี้ตันเถียนและเส้นลมปราณของเทียนฮี่ เรินโม่นั้นค่อยๆฟื้นฟูขึ้นอย่างเร็วน้อย และเช่นเดียวกันด้วยความแข็งแกร่งที่เทียนฮี่ เรินโม่มีในอดีตทำให้เขาสามารถฟื้นตัวได้เร็วกล่าวที่ชิงสุ่ยคาดการณ์ไว้มาก แม้ว่าเขาจะสามารถเดินลมปราณเพื่อรักษาตัวเองได้ แต่เขานั้นยังต้องพึ่งปราณของชิงสุ่ยในการโคจรปราณรอบร่างๆ
ในตอนนี้ขณะที่ชิงสุ่ยดึงเข็มออกมา เรินโม่รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เขามองไปทิ่ชิงสุ่ยด้วยสายตาแปลกประหลาด กี่ปีมาแล้วที่เขานั้นต้องทนกินยา กี่ปี่มาแล้วที่เขานั้นได้ใช้ของวิเศษมากมายในการรักษา แต่มันก็ไม่เคยช่วยอะไรเขาได้เลย
นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรแห่งคนตาย ที่เขานั้นเคยได้ทดลองกับตัวถึงแม้ว่าสมุนไพรแห่งคนตายจะเป็นสิ่งที่หายากอย่างมากและเป็นสิ่งที่มีค่าเทียบกับเมืองทั้งเมืองก็มิอาจที่จะช่วยอะไรเขาได้ อาจเป็นเพราเส้นลมปราณของเขานั้นได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัสจึงไม่สามารถดูดซับมันได้อย่างงเต็มที่
ในขณะนี้ชิงสุ่ยได้เดินออกไปข้านอก ในขณะที่กลุ่มของชายชราได้รุกเขามาหาเขาและกล่าว
“ท่านหมอตกลงว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง ”
“ท่านสามารถรักษาเขาได้จริงๆใช่รึไม่?”
….
ในตอนนั้นเองชิงสุ่ยไม่ได้กล่าวอะไรออกมา นอกจากยิ้มเล็กน้อย
ในตอนนั้นเองเทียนฮี่เรินโม่ได้เดินออกมาจากห้อง และกล่าว “เขานั้นเป็นหมอแห่งปาฏิหาริย์จริงๆ ในตอนนี้ข้าคิดว่าอาการของข้าสามารถหายขาดได้ในหนึ่งเดือน”เที่ยนฮี่ เรินโม่กล่าวออกมาอย่างมีความสุข ในตอนนี้คงไม่มีใครแล้วที่มีความสุขมากว่าตัวของเขา
“เยี่ยม นี่มันจะเยี่ยมเกินไปแล้ว!”
“นี่เป็นเรื่องใหญ่ รับไปเตรียมงานเลี้ยงเร็ว ท่านหมอชิงเป็นหมอแห่งปาฏิหาริย์จริงๆด้วย ข้าต้องขอโทษ ในสิ่งที่ข้าทำไปในก่อนหน้าจริงๆ หวังว่าท่านจะไม่ถือโทษโกรธข้า”เทียนฮี่ หยานซู กล่าวออกมาด้วยความเขินอาย
“ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจดีว่าท่านเป็นห่วงอาการของพี่เรินโม่”
ในตอนนี้ชิงสุ่ย ได้เดินออกไปและพูดคุยกับเหล่าชายชราอย่างสนุกสนาน เช่นเดียวกับหยวนสู่ที่เดินตามชิงสุ่ยออกมาโดยไม่กล่าวอะไรสักคำ
ในตอนนี้ชายชราเชื่องแล้วว่า ชิงสุ่ยนั้นเป็นหมอแห่งปฏิหาริย์จริง ด้วยความสามารถที่เขามีจะทำให้ผู้คนมากมายนั้นยอมติดตามเขา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม ด้วยความสามารถที่สามารถควบคุมชีวิตและความตายได้ เขานั้นจะต้องการเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้ในอนาคตอย่างแน่นอน
ในตอนนี้งานเลี้ยงนั้นไม่ได้มีผู้คนมากมายนัก แต่ถึงอย่างไรถูกคนที่มาร่วมงานเลี้ยงแห่งนี้นั้นเป็นบุคคลสำคัญทั้งสิ้น แม้แต่ท่านบรรพบุรุษก็มาเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ ในขณะนี่นอกจากนี้เขานั้นยังสามารถสัมผัสความแข็งแกร่งของชิงสุ่ยได้อีกด้วย ด้วยความสามารถที่ไกลเคียงกับเทียนฮี่เรินโม่ และวิชาการแพทย์ที่แสนอัศจรรย์ รวมถึงอายุที่ยังไม่มากนัก ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวชิงุส่ยด้วยใจจริง
ตอนนี้เขารู้ดีว่าชิงสุ่ยนั้นร้ายกาจขนาดไหน แม้ตอนนี้ชิงสุ่ยจะไม่สามารถต่อกรกับเขาได้ จาในอนาคตอีกไม่นาน เขานั้นจะไม่มีทางทำอะไรชิงสุ่ยได้เลย มันยิ่งทำให้เขาประทับใจในตัวของผู้ชายคนนี้อย่างมาก และเหนืออื่นใด เขานั้นก็ไม่ได้พยายามที่แสดงท่าทีจองหองเลยสักครั้ง
เป็นปกติที่ชิงสุ่ยจะไม่กล่าวถึงเรื่องนี้ นั้นเพราะเขานั้นให้ความเขาเคารพชายชราและยังต้องการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเทียนฮี่ นั้นก็เพื่อประโยชน์ในการไปไหนมาไหนในอนาคตของเขา
ในตอนนี้เวลากลางคืน ตระกูลเทียนฮี่ได้จัดเตรียมที่พักให้พวกเขา ทั้งหมดในตอนนี้คิดว่าชิงสุ่ยและหยวนสู่นั้นเป็นสามีภรรยากัน พวกเขาจึงจัดให้พวกเขานั้นพักอยู่ในตึกเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรก็โชคดีที่ในตึกแห่งนั้นก็มีห้องพักหลายๆห้อง ทำให้พวกเขาสามารถแยกห้องกันได้
“-ข้าจะไปนอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์ ” หยวนสู่รีบกล่าวออกมาและรีบวิ่งไปที่ห้องของเธอ
ชิงสุ่ยยิ้มออกมา ขณะที่เขาเดินกลับไปที่ห้องของเขา
ในตอนนี้เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการปรุงยา ในการกลับเข้ามาในครั้งนี้ทำให้เขารู้ได้ว่าหากเขาใช้บรรพกาลแรกเริ่ม เขาจะสามารถเข้าไปสู่จุดสูงสุดของปราณจักรพรรดิในทันที
ในตอนนี้จุดสูงสุดของปราณจักรพรรดินั้นมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า5แสนสุริยา หรืออาจมากกว่านั้น
ในตอนนี้หากเขากินยาเม็ดลงไป เขาจะสามารถกินได้อีกครั้งในอีก15วัน นั้นเพราะเขามีดินแดนหยก ซึ่งเป็นสมบัติแห่งสวรรค์ ด้วยความสามารถเช่นนี้ทำให้ชิงสุ่ยมั่นใจได้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และด้วยความสามารถที่เขามีจะไม่มีใครเลยในรุ่นที่จะสามรถเทียบเขาได้ เขานั้นจะกล่าวเป็นสัตว์ประหลาดที่ยังมีชีวิตอยู่
ถึงแม้เวลาในดินแดนหยกจะหมุนเวียนไปมากเท่าไรก็ตามมันก็จะไม่ส่งผลต่อตัวของเขา นั้นเพราะชีวิตจริงๆของเขานั้นขึ้นอยู่ในเวลาภายนอก นั้นหมายความว่าแม้ว่าเวลาในดินแดนหยกจะผ่านไปเป็นหมื่นปีก็ตามที มันก็ไม่ส่งผลอะไรต่อชีวิตภายนอกของเขาเลย อายุของเขานั้นจะเคลื่อนตามเวลาภายนอกเท่านั้น นี้จึงทำให้ชิงสุ่ยได้เปรียบกว่าคนอื่นๆหลายเท่าในเรื่องของเวลา
…………
ในเช้าวันถัดไปชิงสุ่ยได้ออกไปเดินรอบนอกพร้อมๆกับหยวนสู่ แม้จะใช้เวลาไม่น้อยกว่าครึ่งวันพวกเขานั้นก็ยังเดินไปไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเมืองเทียนฮี่เลย เมืองแห่งนี้นั้นมีขนาดใหญ่อย่างมากแลเต็มไปด้วยตระกูลที่ใหญ่โตมากมาย
ในขณะที่พวกเขาเดินอยู่พวกเขาก็ถูกหยุดด้วยใครไม่รู้ ซึ่งในตอนนี้มันสร้างความสบายใจให้ชิงสุ่ยอย่างมากนั้นเพราะคนที่หยุดพวกเขาไว้คือคนที่งดงามอย่างมาก
เธอนั้นงดงามอย่างมาก และมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ขณะที่กายแต่งกายของเธอนั้นดูยั้วยวนอย่างมาก โดยชุดที่ของเธอสวมนั้นเผยให้เห็นหัวไหล่ที่งดงามและ เผยให้เห็นเนินอกสีขาวที่งดงาม ซึ่งมันนั้นเป็นสิ่งที่กระตุ้นอารมของผู้ชายได้ดีอย่างมาก