Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1398

ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1398 – รองเท้า 9 เทวายกระดับขึ้นอีกครั้ง การสร้างเสียง

ชิงสุ่ยไม่ได้กินมัน ของสิ่งนี้หลักๆใช้สำหรับการรักษาผิว บำรุง และคงความอ่อนเยาว์ เขาไม่สนใจมันเพราะมันไม่ได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขา ฤทธิ์ต้านริ้วรอยจะผลยาวนานเป็นเวลาหลายร้อยปี เพียงแค่ข้อนี้ก็มีมูลค่าอย่างมาก

ในขณะที่ชิงสุ่ยกำลังพยายามประเมินค่าของยาหอมมรกตทองคำ เขาคิดว่าคุณสมบัติของการต่อต้านริ้วรอยจะมีค่ามากกว่าผลการรักษา ผู้หญิงไม่ได้เป็นเพศเดียวที่อยากจะรักษาความอ่อนเยาว์ไว้ตลอดไป แต่มันเป็นแบบเดียวกันสำหรับผู้ชาย

มนุษย์ไม่สามารถเปลี่ยนผิวได้ พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มองอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ผู้หญิงที่งดงามเหมือนดอกไม้ก็ชอบที่จะหลับนอนกับชายหนุ่มรุ่นเยาว์ แม้ว่าชายชราผมสีเทาอาจดูดีเมื่ออยู่บนเตียงนอน แต่บางสิ่งที่เจริญหูเจริญตาก็ขาดหายไป

ผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการมองอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าหญิงผู้นั้นจะงดงามแค่ไหนตอนที่ยังเยาว์วัย เมื่อเวลาที่ผมของพวกเธอกลายเป็นสีเทาและริ้วรอยหยั่งรากลึกเหมือนแม่น้ำกรรโชก ความสนใจของพวกเขาก็จะจางหายไป ความงามเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่อายุเป็นเรื่องที่สามารถมองข้ามได้ง่ายภายในโลก 9 มหาทวีป เนื่องจากวัฒนธรรมที่นี่แตกต่างจากโลกก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง

แน่นอนว่าชิงสุ่ยหวังว่าเขาจะสามารถรักษาความหนุ่มเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตามเขาตัดสินใจที่จะรอจนกว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บก่อนถึงใช้มัน บางทีอาจมีโอกาสดังกล่าวหลายครั้งในอนาคต

ชิงสุ่ยได้ปลูกยาหอมมรกตทองคำ 2 อันไว้ทันที หลังจากนั้นเขาก็ทำการขัดเกลาสมบัติวิเศษและฝึกตน

เขาหยุดพักและหยิบดาราจันทราทมิฬออกมา เขารู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นสิ่งนี้ มันเป็นของที่ทรงพลังและสามารถยกระดับสมบัติวิเศษขึ้นได้ 1 ระดับ

ดังนั้นเมื่อพิจารณาทางเลือกของเขาแล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะใช้มันในการยกระดับรองเท้า 9 เทวา ทักษะย่างก้าว 9 เทวาเป็นสิ่งที่น่าเกรงขามพอดูในตอนนี้ ถ้าเขาจะยกระดับมันขึ้นอีก บางทีเขาอาจจะเดินทางข้ามทวีปได้จริงๆ

ธงสวรรค์ปัญจธาตุสามารถใช้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างสองทวีปเท่านั้น แต่ละทวีปมีขนาดใหญ่เกินไป เวลาที่พบเจอกับสัตว์อสูรอาจถูกได้ แม้แต่กับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งก็ยังต้องใช้เวลานานในการเดินทางข้ามทวีป

เว้นเสียแต่ว่ามีสัตว์อสูรเช่นเต่าศักดิ์สิทธิ์ของประมุขอสูรที่ไม่เพียงจะมีเคล็ดวิชาสรวงสวรรค์อันน่ากลัวในน้ำ แต่บนท้องฟ้าก็เช่นกัน นอกเหนือจากนี้ยังมีแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาล สิ่งเหล่านี้มักจะอยู่ในความครอบครองของตระกูลที่มีประวัติอันยาวนานมาก แท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาลในปัจจุบันสามารถขนส่งได้ในระยะทางที่ไกลพอตัว ส่วนเคล็ดวิชารูปแบบเคลื่อนย้ายส่วนใหญ่จะสามารถส่งผู้ใช้จากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศอื่นๆได้ แม้กระนั้นก็ถือว่าน่ายกย่องแล้ว จำนวนของผลึกอสูรจำเป็นสำหรับการส่งผ่านโดยตรงของแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาล

ชิงสุ่ยเคยมีประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นกับแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาล อย่างไรก็ตามหลายคนไม่สามารถสร้างแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาลได้ในตอนนี้ ผู้ที่มีมันทั้งหมดได้รับส่งผ่านมาจากบรรพบุรุษ

เจ้าของแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาลมีไม่มากนัก โดยผู้ที่มีมันจะเก็บไว้เป็นความลับ เช่นเดียวกับหยวนสู่ซึ่งสะเพร่าตอนที่มาถึงมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ โชคร้ายที่มันเป็นแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาลแบบทำงานเพียงทางเดียว มันจะดีหากเป็นแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาลที่สร้างแบบบเชื่อมโยงทั้งไปและกลับบ้านของเธอ แบบนั้นมันก็จะกลายเป็นแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาลสองทาง

แม้ว่ามันจะดูเหมือนง่ายมาก แต่ก็เป็นความสำเร็จที่ยากจะประสบความสำเร็จ!

นอกจากนี้เคล็ดวิชาสรวงสวรรค์มากมายของผู้ฝึกตนระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจยังคล้ายคลึงกับทักษะย่างก้าว 9 เทวาของชิงสุ่ย พวกมันสามารถใช้งานได้วันละครั้งเท่านั้นและไม่สามารถใช้งานได้ในระหว่างการต่อสู้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวเป็นเวลาสักครู่หนึ่ง ดังนั้นจึงทำให้ยากมากที่จะใช้ในระหว่างต่อสู้

หลังจากหยุดพักแล้ว ชิงสุ่ยก็เริ่มปรับแต่งดาราจันทราทมิฬและรองเท้า 9 เทวา เขาเสริมด้วยน้ำจากศิลาพระพุทธองค์ศักดิ์สิทธิ์และศิลาเทพสวรรค์ซึ่งได้รับจากชายชราของกลุ่มวิหคอัคคีร่ายรำ รวมทั้งศิลาอำมฤตนับ 10 อีกด้วย

ชิงสุ่ยยังคงฝึกฝนเคล็ดวิชาพันค้อนกัมปนาทเป็นครั้งคราวและเคล็ดบรรพการสรรสร้าง เขาไม่เคยละเลยในการสรรสร้างขณะที่เขาปรารถนาให้สามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์แห่งสวรรค์ได้ในสักวันหนึ่ง…

ขั้นตอนการหลอมนั้นไม่ได้น่าสนใจ แต่ก็ยังต้องจริงจังเพราะดาราจันทราทมิฬจะหายไปถ้าการหลอมนั้นล้มเหลว เขาไม่ได้กังวลเรื่องรองเท้า 9 เทวา เพราะมันไม่มีทางได้รับเสียหาย มิฉะนั้นเขาคงคิดอยากที่จะตาย ถ้าหากเขาสูญเสียรองเท้า 9 เทวาหลังจากการหลอม

เขาเคยรอดมาได้ด้วยรองเท้า 9 เทวา ถ้าจู่มันหายไปจากชีวิตของเขา เขาอาจจะหดหู่จนตาย เขาไม่คิดว่าน้ำจากศิลาพระพุทธองค์ศักดิ์สิทธิ์มีผลต่ออัตราความสำเร็จ ศิลาพระพุทธองค์ศักดิ์สิทธิ์เพิ่งจะระดับขึ้น แม้ว่าจะเพียงไม่กี่วัน แต่มันก็เป็นเวลานานมากในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ดังนั้นจึงมีน้ำสะสมอยู่พอสมควร

ชิงสุ่ยเริ่มกระบวนการขัดเกลาหลังจากที่เตรียมสิ่งจำเป็นเสร็จ!

เขารู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับครั้งล่าสุด ถ้าเขาสามารถประสบความสำเร็จในครั้งนี้ได้ เขาก็สามารถเพิ่มความรวดเร็วในการเดินทางได้ทุกเมื่อ เขาอาจจะประหยัดเวลาได้หนึ่งหรือครึ่งปีหากไปเยือนอาณาจักรอี่หวง

มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำกว้างใหญ่เกินไป แม้ว่ารองเท้า 9 เทวาจะยกระดับสำเร็จ การเดินทางผ่านทั่วทั้งทวีปก็ยังต้องใช้เวลาประมาณครึ่งปี…

1 วัน 2 วัน…

สมาธิของชิงสุ่ยนั้นสำคัญมาก เขาใช้เคล็ดบรรพการสรรสร้างจนถึงขีดสุดและขยายการรับรู้ทางจิตวิญญาณให้มากที่สุด ในขณะที่ควบคุมเคล็ดวิชาเปลวเพลิงขั้นแรกเริ่ม เขาค่อยๆผสมดาราจันทราทมิฬเข้ากับรองเท้า 9 เทวา

ติ่ง!

7 วันผ่านไป ในวันที่ 7 เสียงอันไพเราะก็ดังขึ้น ชิงสุ่ยซึ่งกำลังตึงเครียดอย่างมากในเวลานี้ผ่อนคลายในทันที แต่เขาไม่ได้หลับทันทีจากความอ่อนเพลีย

ในทางตรงกันข้ามเขาก็มีความสุขมากตอนนี้ เขารู้สึกคันไม้คนมือที่ได้เห็นความสามารถในปัจจุบันของรองเท้า 9 เทวา และตัดสินใจพักผ่อนหลังจากได้ตรวจสอบมันแล้ว!

รองเท้า 9 เทวา!

ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 6 เท่า ลดการสิ้นเปลืองพลัง 6 เท่า แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจขั้นต้นก็ยากที่จะสร้างความเสียหายใดให้มัน มาพร้อมกับทักษะย่างก้าว 9เทวา

ก่อนหน้านี้ความเร็วและลดการสิ้นเปลืองพลังอยู่ที่ 5 เท่า แต่ตอนนี้ทั้งสองได้พัฒนาขึ้นไปที่ 6 เท่า! ไม่เพียงแค่นั้น แม้จะเป็นผู้ฝึกตนระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับรองเท้า 9 เทวา

ทักษะย่างก้าว 9เทวา : การใช้ทักษะย่างก้าว 9เทวาและทักษะย่างก้าว 9เทวาจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเดินทางไปได้ถึง 4 ล้านลี้ในแนวเส้นตรง ขณะนี้อยู่ในระดับที่ 6  สามารถใช้งานได้ 40 ครั้งต่อวัน

ผู้ใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวาสามารถเดินทางไปพร้อมกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในรัศมี 200 เมตรรอบตัว รวมทั้งมนุษย์ สัตว์อสูร และสิ่งอื่นๆ

เงื่อนไข : อยู่ในระดับปราณจักรพรรดิเป็นอย่างน้อย!

ชิงสุ่ยยิ้ม ด้วยเหตุนี้ความเร็วของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นาการเพิ่มขึ้นเพียงเท่าตัว แต่ก็ไม่ควรมองข้ามสิ่งนี้เนื่องจากมันจะทำให้กำลังรบของเขามีความหมายมากขึ้น ความเร็วของชิงสุ่ยเร็วกว่าผู้ที่มีพลังมากกว่าเขา ความเหลื่อมล้ำระหว่างพวกเขามีขนาดใหญ่มากด้วยความช่วยเหลือของรองเท้า 9 เทวา เพียงอย่างเดียว นอกจากทักษะย่างก้าว 9 เทวาแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ใช้เคล็ดวิชาต่อสู้ใดก็ตาม การสังหารผู้ฝึกตนในระดับเดียวกันก็ทำได้ง่ายเหมือนการพลิกฝ่ามือ

ความเร็วคือพลัง ความว่องไวเพียงอย่างเดียวก็ทำให้อยู่ยงคงกระพัน เมื่อมีความเร็ว ฝ่ายตรงข้ามจะไม่มีโอกาสได้แสดงความแข็งแกร่งของเขา

นอกเหนือจากนั้นระยะทางและขีดจำกัดการใช้งานของทักษะย่างก้าว 9 เทวาได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ชิงสุ่ยรู้สึกดีมาก ดูเหมือนว่าการท่องเที่ยวในทวีปอันกว้างใหญ่จะไม่ได้เป็นเรื่องยาก

หลังจากตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของรองเท้า 9 เทวาแล้ว ชิงสุ่ยก็พักผ่อนในทันที!

ครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชายชราทั้งสองคอยควบคุมดูแลหอคอยจักรพรรดิเป็นอย่างดี นี่สร้างความมั่นใจให้กับชิงสุ่ย ในเวลาเพียงแค่ครึ่งเดือนทั้งสองคนก็รู้สึกเหมือนที่นี่เป็นที่อยู่พวกเขาแล้ว

ชิงจุนใกล้ชิดกับชายชราทั้งสองมาก ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถพูดได้ อย่างไรก็ตามชายชราคนหนึ่งได้ให้คำแนะนำแก่ชิงสุ่ยซึ่งทำให้เขารู้แจ้งอย่างฉับพลัน

“เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยโตขึ้น เจ้าสามารถสอนการสร้างเสียงให้นางได้”

การสร้างเสียง!

ในโลกก่อนหน้าของเขา การพูดไม่ได้มีส่วนโดยตรงกับกระเพาะอาหาร ไม่มีใครสามารถพูดด้วยกระเพาะอาหารได้ แต่มันเป็นการเปลี่ยนเสียงของคนผ่านการฝึกบางอย่าง เมื่อคนปกติพูดโดยทั่วไปพวกเขาอาศัยการเคลื่อนไหวของริมฝีปาก ฟัน และลิ้นของพวกเขาในการผลิตเสียง อย่างไรก็ตามในการสร้างเสียง คนผู้หนึ่งจะสามารถออกเสียงด้วยขากรรไกรบนและล่าง แม้ริมฝีปากจะปิดอยู่หลังจากได้รับการฝึกฝน

อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ที่จะพูดกับกระเพาะอาหารในโลก 9 มหาทวีป เขาไม่ได้คิดถึงมันก่อนหน้านี้ แม้แต่ผู้ฝึกตนที่เป็นใบ้ก็ยังสามารถบังคับให้เสียงของเขาดังออกได้ แม้ว่าเสียงจะฟังดูแปลกๆเล็กน้อย

ชิงจุนไม่มีเส้นเสียง เธอยังเด็กอยู่และไม่ได้ฝึกตน เธอจะต้องฝึกตนก่อนที่จะได้รับจุดเตียนเถียนและฝึกฝนลมปราณแรกเริ่ม เธอจะสามารถบังคับให้เสียงออกมาด้วยลมปราณแรกเริ่มที่ก่อตัวภายในท้องของเธอ

นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกใบนี้ มันเป็นไปได้ที่จะส่งเสียงผ่านไปไกล 1,000 ลี้ ชิงสุ่ยชื่นชมยินดีเมื่อคิดถึงเรื่องนี้และแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อชายชรา

“ชิงสุ่ย เจ้าจำเป็นต้องสุภาพกับพวกเรางั้นหรือ? ชิงจุนเป็นลูกสาวของเจ้า สำหรับพวกเราก็เป็นเหมือนลูกหลานเช่นกัน ถ้าเจ้ายังสุภาพกับพวกเรา พวกเราจะทำเช่นนั้นบ้าง” ชายชราดูเหมือนจะโกรธมาก

“ผู้อาวุโส มันเป็นความผิดของข้า มันเพียงเพราะพวกท่านอาวุโสกว่าข้ามาก แน่นอนข้าจะไม่ทำอย่างนี้อีก” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ชายชราหัวเราะ ความสัมพันธ์จากวันแรกของพวกเขาแน่นแฟ้นและสนิมสนมขึ้นมาก

“ผู้อาวุโส ข้าจะออกไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อย ข้าจะมอบทุกอย่างให้อยู่ในความดูแลของพวกท่าน”

“ไปเถอะ มั่นใจได้ ไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นแน่นอนตราบเท่าที่พวกข้าอยู่”

ชิงสุ่ยจากไป หยวนสู่จะเป็นหมอคนเดียวที่เหลือที่นี่…

ธงสวรรค์ปัญจธาตุยกระดับขึ้นและอนุญาตให้นำผู้ติดตามไปได้คนหนึ่ง เขามีเจตนาที่จะนำหยวนสู่กลับบ้าน แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะพูดคุยเรื่องนี้กับหยวนสู่ก่อน

เมื่อเขาพบหยวนสู่ เธออยู่ข้างบ่อน้ำและเฝ้าดูปลา ปลากำลังแวกว่ายกันเป็นคู่ จู่ๆชิงสุ่ยก็ตระหนักว่าหญิงผู้นี้ช่างโดดเดี่ยวแค่ไหน

ตอนนี้เธอยังเชื่อมั่น ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าเธอยังเชื่อมั่นที่จะได้กลับบ้านหรือไม่ เธอเป็นเพียงคนใกล้ชิดของอี่หวงกู่หวู๋และ ชิงสุ่ยที่นี่ แต่ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงอะไรได้บ้าง

ราวกับว่าเธอรู้สึกได้ถึงการมาของชิงสุ่ย เธอพูดโดยไม่หันศีรษะ “เจ้ากำลังมองหาข้าหรือนี่เป็นเรื่องบังเอิญ?”

ชิงสุ่ยเดินไปที่ด้านข้างเธอขณะที่ถูจมูกของเขา “เจ้าดูหดหู่ใจ เจ้าไม่คิดถึงบ้านหรือ?”

หยวนสู่รู้สึกแสบจมูก “เจ้ามันคนใจร้าย! เจ้าจะพูดอะไรก็พูด! ข้าหยุดคิดถึงบ้านอย่างยากลำบาก แต่ตอนนี้เจ้ากลับพูดถึงมัน! “

ดวงตาอันน่ารักของหยวนสู่เป็นประกายระยิบระยับด้วยน้ำตาที่ไหลหลุดอาบลงมาตลอดเวลาขณะที่เธอพูด เธอมองดูเหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวแห้ง ถึงแม้จะเป็นการพูดเกินจริง แต่ตอนนี้เธอดูจะค่อนข้างซีดเซียว