Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1413
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 1413 – พบกับประมุขอสูรอีกครั้ง เย็นชาและความเย้ายวนใจเหมือนน้ำแข็ง
“หากข้าจะบอกว่าข้าต้องการติดตามท่านประมุขวัง ท่านจะเชื่อหรือไม่?” ชิงสุ่ยคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะถามขึ้น
ผู้อาวุโสใหญ่ดูเหมือนจะตกตะลึง หลังจากที่เขามองไปยังชิงสุ่ยด้วยสายตาแปลกๆครู่หนึ่งเขาก็กล่าวว่า “หากเป็นก่อนหน้านี้ ข้าคงบอกเจ้าได้ว่าไม่มีทาง แต่ในตอนนี้ข้าไม่รู้ว่าควรจะเชื่อเรื่องนี้ดีหรือไม่”
“ข้าอยากจะเข้าร่วมกับพระราชวังจอมอสูร เช่นนี้ก็ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม?” ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับหัวเราะ
“เอาหละ ข้าจะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นผู้อาวุโส” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวอย่างยินดี สายตาของเขานั้นเป็นประกายสุดจะพรรณนาได้
“เช่นนั้นข้าขอพบท่านประมุขวังได้เลยหรือไม่?” ชิงสุ่ยไม่สนใจตำแหน่งผู้อาวุโสของพระราชวังจอมอสูรแม้แต่น้อย
“ท่านประมุขวังอยู่ที่ใดนั้นพวกเราก็ไม่อาจบอกได้ ยากยิ่งที่จะได้พบนางในพระราชวังแห่งนี้ ส่วนใหญ่แล้วพวกเราได้แต่แจ้งเรื่องเป็นข้อความให้แก่ท่านประมุขวัง มิฉะนั้นพวกเราก็จะไม่อาจพูดคุยกับนางได้เลย” ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะ
ชิงสุ่ยไม่ได้รู้สึกเศร้าใจแต่อย่างใด เขารู้ว่าประมุขอสูรนั้นเดินทางไปมาระหว่างโลก 9 มหาทวีปเสมอ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่านางเดินทางไปที่ใด แต่เขาก็ไม่คิดว่าเขาจะพบนางทันทีที่เขามาถึงพระราชวังจอมอสูร
ตอนนี้ชิงสุ่ยอยู่ในพระราชวังจอมอสูรแล้วเขารู้ดีว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นเป็นเพียงส่วนเล็กๆของยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น พระราชวังจอมอสูรที่แท้จริงนั้นเกินกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้มาก
ผู้อาวุโสใหญ่นำเครื่องแบบ อาวุธ ของที่นี่มาให้ชิงสุ่ย สิ่งเหล่านี้แสดงถึงสถานะของเขาแม้ว่าของพวกนี้จะมีคุณภาพดีแต่ชิงสุ่ยคงจะไม่ได้ใช้มัน
เหรียญตราแห่งผู้อาวุโสของพระราชวังจอมอสูรนั้นงดงามอย่างยิ่ง ตำแหน่งนี้มีเพียงไม่กี่คนของพระราชวังจอมอสูรเท่านั้นก็จะได้รับแต่พวกเขายิ่งคนนั้นล้วนเป็นยอดฝีมือในยอดฝีมือ แม่แต่คนธรรมดาในที่แห่งนี้ก็ไม่อาจมองข้ามได้เลย
เงื่อนไขในการเข้าร่วมกับพระราชวังจอมอสูรนั้นยากยิ่งนัก โดยทั่วไปแล้วคนที่มาที่นี่ล้วนไม่มีทางเลือกหรือมีความแค้นฝังลึกในใจ ไม่สำคัญว่าคนๆนั้นจะอยู่ในระดับใดตามใดที่พวกเขามีพรสวรรค์แต่กำเนิดที่ดีและมีความปราถนาที่จะสังหารและความขยันหมั่นเพียรย่อมสามาราถเข้าร่วมกับที่นี่ได้
พระราชวังจอมอสูรนั้นมีน้ำพุแห่งอสูรอยู่ภายใน ตำนานกล่าวว่าภายในหัวใจของผู้คนนั้นมีความชั่วร้ายอยู่ภายใน เมื่อพวกเขาสำเร็จเงื่อนไขบางประการนั้นก็จะสามารถใช้น้ำพุแห่งอสูรเพื่อปลุกความชั่วร้ายภายในจิตใจขึ้นมาได้
ตำนานเป็นเพียงเรื่องลึกลับเท่านั้น ชิงสุ่ยคิดว่ามันมีวิธีพูดที่จะสามารถสื่อความหมายเรื่องนี้ให้ดีขึ้นได้ เหมือนกับชิงซา ชิงสุ่ยน่าจะเหมาะสมสำหรับน้ำพุแห่งอสูร แต่แน่นอนว่าเขายังไม่จำเป็นต้องใช้มันในตอนนี้
พระราชวังจอมอสูรนั้นเป็นนิกายใหญ่และมี 12 ผู้คุมกฏ สมาคมผู้อาวุโสนั้นเป็นอิสระจากผู้คุมกฏเหล่านี้และรับคำสั่งโดยตรงจากท่านประมุขวัง สมาคมผู้อาวุโสนั้นไม่มีอำนาจมากพอที่จะปฏิเสธคำสั่งของท่านประมุขวังได้
นี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยได้ยินจากผู้อาวุโสใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นการตัดสินใจเรื่องต่างๆจะถูกตัดสินโดยสมาคมผู้อาวุโส 12 ผู้คุมกฏนั้นรับคำสั่งจากท่านประมุขวังแต่สมาคมผู้อาวุโสนั้นไม่ได้มีอำนาจเหนือกว่า 12 ผู้คุมกฏ
โดยทั่วไปแล้วจะเป็นเช่นนี้!
สมาคมผู้อาวุโสนั้นปฏิบัติงานโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ มีเพียงสมาคมผู้อาวุโสเท่านั้นที่ทำเช่นนี้ได้ ไม่มีผู้อาวุโสสูงสุด ผู้ปกครอง หรือผู้อาวุโสที่คัดค้านพวกเขาได้ คนพวกนี้มักไม่ค่อยลงมือทำอะไรมีเพียงเรื่องสำคัญเท่านั้นที่พวกเขาจะปรากฏตัวขึ้นมา ทุกๆอย่างล้วนถูกดูแลโดย 12 ผู้คุมกฏโดยไม่ต้องให้ผู้อาวุโสต้องลงมือ
ชิงสุ่ยเข้าไปที่สมาคมผู้อาวุโสได้โดยตรงด้วยพลังและความสามารถด้านการแพทย์ของเขา นี่เป็นข้อตกเว้นมิฉะนั้นเขาย่อมไม่อาจเป็นผู้อาวุโสได้ในทันที
หน้าที่ของผู้อาวุโสคือการปกป้องพระราชวังจอมอสูรทั้งภายในและภายนอก
ชิงสุ่ยได้รับคฤหาสน์หลังเล็กๆเมื่อเขาได้รับสถานะเป็นผู้อาวุโส ตำแหน่งผู้อาวุโสนั้นไม่มีข้อจำกัดแต่อย่างใดแต่มีพื้นที่อยู่ภายในพระราชวังจอมอสูรที่เขาสามารถเข้าไปได้
นอกจากนี้เขายังได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังหอโอสถของพระราชวังจอมอสูร
พระราชวังจอมอสูรนั้นถือว่าผ่อนปรนอย่างยิ่ง หากเขาอยากจะออกไปเขาก็สามารถใช้สัตว์อสูรเวหาของตนเองเดินทางออกไปได้ ชิงสุ่ยรู้สึกเบื่อภายในคฤหาสน์ของเขาบางทีเขาอาจจะหาอะไรทำเพื่อฆ่าเวลา?
หากนางยังไม่กลับมาที่นี่เขาก็จะต้องรอนางอยู่ที่นี่ตลอดนั้นหรือ?
ชิงสุ่ยคิดครู่หนึ่งและหลังจากที่เขาทราบคำตอบแล้ว แม้ว่านางจะกลับมาที่นี่เขาจะทำอะไรต่อไป? ไม่มีอะไรที่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ชิงสุ่ยได้เข้าร่วมกับพระราชวังจอมอสูรแล้วในตอนนี้ หากนางมีศัตรูหรือกลายเป็นศัตรูกับเหล่าขุมพลังในมหาทวีปมังกรอหังกาล เช่นนั้นเขาควรทำเช่นไร?
เขารู้สึกได้ว่าสิ่งที่เขาทำได้นั้นมีไม่มากนัก
เวลา 1 เดือนได้ผ่านพ้นไป ชิงสุ่ยได้กลับไปยังมหาทวีปธรรมไตร 1 ครั้งระหว่างนี้ เขาได้พาสมาชิกครอบครัวอีก 2 คนมาที่นี่อีกครั้ง มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำนั้นทรงตัวอยู่ได้แล้วและเขาก็มีครอบครัวใหญ่อยู่ที่นี่
ความสามารถของหลวนหลวนนั้นพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในทุกๆวัน แม้ว่าความสามารถของทุกคนนั้นจะเพิ่มขึ้นแต่ของนางนั้นน่ากลัวมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์อสูรของนางก็ทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ
……
นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ชิงสุ่ยกลับมายังพระราชวังจอมอสูร เขารู้สึกแปลกๆแต่ก็รู้สึกคุ้นเคย โดยไม่ต้องคิดอะไรมากเขารู้ว่านางน่าจะกลับมาที่พระราชวังแห่งนี้แล้ว
นี่เป็นความแปลกประหลาดที่คุ้นเคย
ในความจริงแล้วนางก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ชิงสุ่ยมองไปทางส่วนลึกของพระราชวังจอมอสูร เขารู้สึกได้ถึงการรับรู้ทางจิตวิญญาณที่คุ้นเคยและก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เขาพยายามอย่างหนักจนมาถึงตอนนี้และหญิงสาวผู้นั้นก็คือเหตุผลของการทำเช่นนี้
เขาเข้าร่วมกับพระราชวังจอมอสูรเพราะหญิงสาวผู้นี้ มิฉะนั้นเขาย่อมไม่เข้าร่วมกับขุมพลังอำนาจไหน แต่เพราะนี่คือสมาคมของหญิงสาวผู้นี้ไม่ว่ามันจะเป็นแบบใดเขาก็ยืนยันที่จะเข้าร่วม เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการกระทำของเขาก็คือเพราะเขาไม่รู้จะใช้วิธีใดที่ทำให้เขาสามารถเข้าใกล้นางได้อย่างง่ายดาย
ด้วยอารมณ์ของหญิงสาวคนนี้ชิงสุ่ยเขาคงยังไม่อาจเข้าหน้านางได้ในตอนนี้ แต่กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะไม่มีเสน่ห์เลยยิ่งไปกว่านั้นเขายังเข้าใจหญิงสาวผู้นี้ทุกอย่าง
แต่ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเขาต้องบอกให้นางรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่และบอกว่านางเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาอยู่ที่นี่
ชิงสุ่ยเดินตามการรับรู้ทางจิตวิญญาณออกไปที่ลานบ้านช้าๆ เขาเดินตามเข้าไปยังส่วนลึกขอองพระราชวังจอมอสูร
เขาไม่ได้เคลื่อนที่ไปเร็วนักแต่เขาถือเป็นยอดฝีมือในด้านรูปแบบประตูมายา ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวกับดักแต่อย่างใด นอกจากนี้ด้วยสถานะผู้อาวุโสของเขา มีหลายที่ที่เขาได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้
ด้วยเหตุนี้ชิงสุ่ยจึงสามารถเดินทางไปที่ต่างๆได้อย่างง่ายดาย พื้นที่โดยรอบของที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความลึกลับและทรงพลังอย่างยิ่งมันถูกปกปิดเอาไว้ด้วยศาสตร์แห่งประตูมายา หากชิงสุ่ยไม่ใช่ยอดฝีมือเขาย่อมไม่อาจผ่านเข้าไปได้
เมื่อเลี้ยวผ่านสันเขาไปที่แห่งนี้ก็กลายเป็นโลกแห่งน้ำแข็ง อุณหภูมิในที่แห่งนี้ลดลงไปต่ำอย่างยิ่งและมันให้ความรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก
พระราชวังน้ำแข็ง!
ทุกๆสิ่งล้วนสร้างขึ้นจากน้ำแข็งบริสุทธิ์ มันเหมือนกับพระราชวังน้ำแข็งที่มาจากโลกในความฝัน ตรงหน้าพระราชวังน้ำแข็งนั้นเป็นต้นไม้น้ำแข็ง ประติมากรรมน้ำแข็ง และอื่นๆ
บางทีนี่อาจเป็นโลกภายในใจของนางโลกที่เหมือนน้ำแข็ง?
“หยุดนะ ที่นี่ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามา ออกไปซะ!”
หญิงสาว 2 คนที่สวมชุดสีดำเข้ามาขวางทางชิงสุ่ยเอาไว้ นี่ทำให้ชิงสุ่ยตกตะลึงไปเล็กน้อย หญิงสาวทั้งสองคนนี้ถือว่าทรงพลังอย่างยิ่ง เย็นชา และสง่างาม แต่เมื่อเทียบกับหญิงสาวผู้นั้นหญิงสาวเหล่านี้อ่อนแอกว่า
หญิงสาวทั้ง 2 คนนี้น่าจะเป็นคนที่นางไว้ใจมากที่สุด พวกนางทรงพลังจนชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าพวกนางเป็นคนของหญิงสาวผู้นั้นจริงๆหรือไม่ แต่ปกติแล้วนางทรงพลังยิ่งกว่าทั้ง 2 คนนี้มาก!
“ข้ามีเรื่องที่อยากจะขอพบท่านประมุขวัง” ชิงสุ่ยกล่าว
“หากท่านมีอะไรจะพูดจงบอกกับพวกเรามา พวกเราจะส่งต่อข้อความนี้ไปเอง” หญิงสาวที่อยู่ทางซ้ายกล่าวขึ้น
“เช่นนั้นจงบอกว่าผู้คนในอดีตอยากจะพบนาง” ชิงสุ่ยกล่าวขึ้นหลังจากคิดครู่หนึ่ง
หญิงสาวมองมาที่ชิงสุ่ยอย่างแปลกประหลาดจากนั้นก็หายตัวไป การรับรู้ทางจิตวิญญาณของชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ว่ามีหญิงสาวมากกว่า 10 คนที่อยู่ภายในนั้นและมีระดับเดียวกับหญิงสาวผู้นี้ หลายๆคนก็เริ่มมีอายุมากแล้ว
มีเพียงชิงสุ่ยและหญิงสาวที่เฝ้ายามเท่านั้นก็ยังคงอยู่ที่นี่ หญิงสาวผู้นี้เตี้ยกว่าคนอื่นๆเล็กน้อย ร่างกายที่อวบอัดของนางเกือบทำฝห้ชุดสีดำของนางปริออกมา นางจ้องมองมาที่ชิงสุ่ย ชิงสุ่ยเชื่อว่าหากเขาทำอะไรในตอนนี้ หญิงสาวผู้นี้ย่อมลงมือกับเขาอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หญิงสาวคนอื่นๆก็กลับมา สีหน้าของนางแปลกประหลาดอย่างยิ่งแต่นางก็เดินออกมาและกล่าวว่า “เดินตรงไป หลังจากที่ท่านเดินผ่านสวนเล็กๆนี้ไป ท่านจะได้พบกับท่านประมุขวังที่รอคอยท่านอยู่ตรงนั้น”
ชิงสุ่ยตกตะลึงเขาเพียงอยากจะลองดูเท่านั้น เขาไม่คิดว่านางจะพบเขาจริงๆ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง เขาขอบคุณหญิงสาวทั้ง 2 คนและเดินตรงไป
“ท่านประมุขวังอยากจะพบเขาจริงๆหรอ?” เมื่อชิงสุ่ยจากไป หญิงสาวที่เฝ้าชิงสุ่ยไว้ในตอนแรกก็ถามกับหญิงสาวอีกคน
“อืม ดูเหมือนว่าท่านประมุขวังก็ตระหนักได้ว่าเขาอยุ่ที่นี่แล้ว”
“เขากล่าวว่าเขาเป็นผู้คนในอดีตของท่านประมุขวัง เขาเป็นคนแบบไหนกัน?” หญิงสาวถามด้วยความงุนงง
“เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ พวกเราติดตามท่านประมุขวังมาอย่างยาวนาน ย่อมรู้ดีว่าท่านประมุขวังนั้นเป็นคนแบบไหน สิ่งที่เจ้าพูดนั้นเป็นไปไม่ได้”
……
ใต้เท้าของเขานั้นเต็มไปด้วยน้ำแข็งและไม่มีแม้แต่ฝุ่นใดๆ ทุกสิ่งทุกอย่างในเที่ยงนี้เหมือนสร้างขึ้นจากผลึกแก้ว ชิงสุ่ยนั้นไม่ได้เดินเร็วมากนักแต่ระยะทางก็ไม่ได้ไกล ไม่นานนักเขาก็ได้เดินผ่านสวนเล็กๆนี้และเข้าไปยังพระราชวังน้ำแข็ง
ขณะที่เขาเดินผ่านสวนเล็กๆนี้เขาก็ไม่ได้คิดว่าตนเองจะเจออะไรภายในพระราชวังน้ำแข็งแห่งนี้
นี่เหมือนกับโลกที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งที่ไม่มีที่สิ้นสุด น้ำแข็งที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่น้ำแข็งธรรมดา แม้แต่จะจุดไฟเผาที่นี่มันก็จะไม่ละลาย เครื่องประดับในที่แห่งนี้ทั้งหมดล้วนสร้างขึ้นจากผลึกแก้ว ชิงสุ่ยรู้สึกว่าที่แห่งนี้ราวกับไม่ใช่โลกแห่งความจริง
ตรงหน้าของเขาเป็นร่างที่ทรงสง่าเกินกว่าที่เขาจะพบได้ในโลกใบนี้ นี่ทำให้ชิงสุ่ยคิดถึงครั้งแรกที่เขาได้พบกับนาง!
หญิงสาวที่อยู่ในโลงศพแก้ว นางปิดตาและเกล้าผมเป็นมวย ราวกับหญิงสาวที่มาจากสวรรค์ คิ้วของนางงดงามอย่างยิ่งโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางใดๆ ผิวขาวราวหิมะของนางเปร่งประกายราวกับแสงอาทิตย์ยามเช้า ในตอนนี้นางก็ดูเหมือนกับตอนที่นางกำลังหลับอยู่
เสื้อผ้าสีขาวที่ดูธรรมดานั้นไม่อาจปกปิดความงามของนางได้เลย ราวกับว่านางคือรูปปั้นที่ถูกแกะสลักโดยพระเจ้า ร่างกายของนางนั้นดึงดูดหัวใจของชายทุกคนให้หลงใหลถึงระะดับจิตวิญญาณ ความเว้าโค้งบนร่างกายของนางนั้นราวกับเป็นหยกของพระเจ้า เพียงแค่เท้าของนางก็งดงามยิ่งกว่าผลึกแก้วที่อยู่ในที่แห่งนี้
แม้แต่ตอนนี้ที่นางกำลังนอนปิดตาอยู่นั้นความสูงศักดิ์ของนางก็ไม่ได้ลดลงไปเลย หยิงสาวผู้นี้คือคนที่ชิงสุ่ยไม่อาจเอื้อมถึงได้ ไม่ใช่เพราะความเย็นชาของนางแต่เป็นความสูงศักดิ์จนถึงระดับจิตวิญญาณของนาง นี่คือความสูงศักดิ์ที่เป็นธรรมชาติ มีมาตั้งแต่ตอนที่นางยังอยู่ในโลงศพแก้ว แต่พระราชวังน้ำแข็งในตอนนี้ไม่ใช่โลงศพแก้วในรูปแบบที่ใหญ่กว่างั้นหรือ?
หญิงสาวที่สูงศักดิ์ราวกับเทพธิดา!
เมื่อมองไปที่นางชิงสุ่ยก็รู้สึกว่าไม่อาจละสายตาจากนางไปได้เลย ความรู้สึกภายในตัวเขานั้นไม่อาจอธิบายได้เลย
หญิงสาวผู้นั้นหันมาช้าๆ ความเย็นชาปรากฏบนใบหน้าของนาง เทพธิดาที่อยู่ในความเย็นชา!
หญิงสาวมองมาที่ชิงสุ่ยครู่หนึ่ง นางรู้สึกประหลาดใจ ทุกๆครั้งที่นางได้เห็นเขาพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเสมอ 20 ปีที่แล้วเขาอ่อนแอราวกับมดตัวหนึ่ง 20 ปีต่อมาเขามาถึงระดับนี้ได้ นี่ไม่ใช่แค่ความมหัศจรรย์อีกต่อไป
นางถูกผนึกเอาไว้และพลังของนางเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆแต่พลังของเขานั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ชิงสุ่ยรู้ว่าพลังของหญิงสาวผู้นี้ราวกับหลุมที่ไร้ก้นบึ้งแม่แต่ในตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่ามันลึกมากเพียงใด นี่เป็นเรื่องที่เขาควรจะยินดีในตอนนี้
เมื่อได้พบกับหญิงสาวผู้นี้ชิงสุ่ยก็พูดไม่ออก ดูเหมือนคำพูดของเขานั้นหายไปจนหมดสิ้น ตรงหน้าของหญิงสาวผู้นี้เขาราวกับเป็นคนที่ไร้ค่า เขารู้สึกแย่มากกว่าตอนที่เขาเคยพบกับอี่หวง กู่หวู๋ก่อนหน้านี้
“ยินดีที่ได้พบกับท่าน ในที่สุดข้าก็ได้พบกับท่าน” ชิงสุ่ยตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาด้วยท่าทีน่าตลก กล่าวตามตรงการได้พบนางนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คำพูดเหล่านี้เต็มไปด้วยความรู้สึกของเขา
หญิงสาวฟังคำพูดของชิงสุ่ยด้วยความสงบนิ่ง ดูเหมือนนางจะเข้าใจความรู้สึกของชิงสุ่ย นางกล่าวออกมาเบาๆ “เจ้าทุ่มเทไปเพื่ออะไรกัน? เจ้าควรล้มเลิกได้แล้ว”