Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1633 - มาเยือน
บทที่ 1633 – มาเยือน
ชิงสุ่ยมองดูไปที่พวกมัน พวกมันไม่ได้ดูน่าเกียจเลยแม้แต่น้อย พวกมันดูคล้ายกับเต่าในร่างมนุษย์เสียมากกว่า
“ข้าต้องการมาพบกับท่านหญิงของพวกเจ้าเจ้าสามารถส่งข้อความของข้าไปหาท่านหญิงได้ไม่?” ชิงสุ่ยกล่าวออกมา
“ เจ้าคิดว่าท่านหญิงของเรา จะอยากพบเจอกับมนุษย์เช่นเจ้าอย่างนั้นรึ? ออกไปไปซะ เพราะตอนนี้ข้าไม่มีอารมณ์ที่จะจัดการกับเจ้า ไปซะ” กัปปะโบกมือไล่ชิงสุ่ยในตอนนี้
ชิงสุยรู้เศร้าใจเล็กน้อย เมื่อเขาพยายามพูดอย่างสุภาพกับอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ให้เกียรติเขา ด้วยความแข็งแกร่งและชื่อเสียงของเขา มีคนมากมายที่ต้องยอมคุกเขาให้กับเขา แต่นี้อีกฝ่ายกลับไม่ไว้หน้าเขาเลย แต่ถึงอย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ไม่ได้โกรธอะไรเขา ในไม่ช้าชิงสุ่ยได้หยิบเอายาเม็ดเสริมกระดูกออกมาและมอบมันให้กับเขา ก่อนที่จะกล่าวอีกครั้ง “ข้าหวังว่าท่านจะสามารส่งข้อความของข้าให้กับท่านหญิง พอดีข้ามีเรื่องสําคัญอย่างมากที่ต้องพบกับท่านหญิงให้ได้”
เมื่อเห็นยาเม็ดในมือชิงสุ่ยเขารีบรับมันในทันที เขาสามารถบอกได้ว่ายาเม็ดชนิดนี้พิเศษอย่างมาก มันอัดแน่นไปด้วยพลังที่บริสุทธิ์ ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายก็ยังสุภาพอย่างมาก เขาจึงพยักหน้าแล้วกล่าว “ข้าสามารถส่งข้อความไม่หาท่านหญิงได้ แต่ไม่รู้ว่านางจะอนุญาตให้ท่านเข้าพบหรือไม่?
“ถ้าเช่นนั้น พี่ชายจะสามารถให้ข้าพบกับหัวหน้าของท่านได้รึไม่?” ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับหยิบยาเสริมสร้างรากฐานออกมาหนึ่งขวดก่อนที่จะส่งให้เขาอีกครั้ง
โดยทั่วไปยาชนิดนี้จะหายากอย่างมากในโลกใต้น้ำ ดังนั้นกัปปะคนนี้จึงไม่รีรอรีบรับมันไป
“ ตกลง ตามข้ามา” ในตอนนี้กัปปะได้รีบพาชิงสุ่ยไปหาหัวหน้าของเขา ชิงสุ่ยรู้สึกว่ากัปปะคนนี้ต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีไม่น้อยกับหัวหน้าของตัวเอง
“ท่านหัวหน้า เขาต้องการพบท่าน และบอกว่าเขารู้จักท่าน ดังนั้นข้าจึงพาเขามาที่นี่” กัปปะหนุ่มกล่าวออกมาเชิงป้องกันตัว
เมื่อชิงสุยพบเจอหัวหน้ากัปปะ ชิงสุยสามารถบอกได้ทันทีว่าเขานั้นอยู่ในจุดสูงสุดของปราณจักรพรรดิอย่างแน่นอน
หลังจากที่หัวหน้ากัปปะไล่กัปปะหนุ่มไป เขามองไปที่ชิงสุ่ยและมั่นใจว่าเขาไม่รู้จักชายผู้นี้ “ พูดทําไมเจ้าต้องอยากพบข้า
“ ที่จริงแล้วข้าอยากพบกับนายหญิงของท่าน” ชิงสุ่ยตอบอย่างตรงประเด็น
หัวหน้ากัปปะนั้นเป็นคนมีความสามารถเขาสามารถบออกได้ทันทีว่าชิงสุ่ยนั้นแข็งแกร่งกว่าเขาอย่างมาก ด้วยสัญชาตญาณและประสบการณ์ของเขา ทําให้เขาคิดอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะพูดว่า “ท่านช่วยบอกข้าได้ไหม ว่าทําไมท่านถึงต้องการพบนายหญิงของเรา?”
“ ข้าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร เพียงแค่ข้ามีเรื่องสําคัญที่ต้องคุยกับนางให้ได้ เรียนท่านช่วยแจ้งนางได้รึไม่” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างใจเย็น
“ถ้าเช่นนั้น ก็โปรดรอที่นี่ชักครู่”
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งยาม ชิงสุ่ยค่อยๆส่ายหน้าด้วยความเบื่อหน่ายแต่เขาก็ยังคงอดทนรออยู่
หลังจากผ่านไปครบหนึ่งชั่วยามหัวหน้ากัปปะก็กลับมาพร้อมกับทหารกุ้งทองคํา ทหารกุ้งทองคําและราชาปูโบราณมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก นอกจากนี้พวกเขาทั้งคู่ยังมีสายเลือดอสูรโบราณ ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งอย่ามากในโลกใต้น้ำ
“นายหญิงของข้า ให้ข้ามารับท่านไปพบกับนาง” ทหารกุ้งทองคํากล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์
“ขอบคุณ! ขอโทษที่ทําให้ท่านต้องลําบาก!” ชิงสุ่ยพยักหน้าให้กับหัวหน้ากัปปะ
ขณะที่ชิงสุ่ยรีบตามทหารกุ้งทองคําที่ขี่ปลาสีทองขนาดใหญ่ ว่ายเข้าไปในส่วนที่ปีกกว่าเก่า
หลังจากผ่านไปครึ่งช่วยยามทหารกุ้งทองคําก็ได้หยุดลงและกล่าว “ ท่านหญิงกําลังรอท่านอยู่ แค่มุ่งหน้าตรงไปเท่านั้น เจ้าก็จะพบกับนาง”
ชิงสุ่ยยิ้มออกมาและขอบคุณเขา ก่อนที่จะตรงไปที่พระราชวังสีเขียวข้างหน้า ที่รอบๆนั้นเต็มไปด้วยศาลาและหุบเขาใต้ทะเลมากมาย ทุกๆอย่างนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากหยกและมรกตเกือบทั้งหมด มันจึงทําให้สถานที่แห่งนี้ฉาบไปด้วยแสงสีเขียว
เมื่อผ่านไปสักครู่ชิงสุ่ยพบกับเงาที่อยู่ไม่ไกลมาก ก่อนที่เขาพุ่งไปทางทิศๆนั้น
ปรากฏร่างกายของหญิงสาวที่งดงาม เธอมีคอที่เรียวยาว หน้าอกที่ดูได้สัดส่วน ดวงตาของเธองดงามดังเมล็ดอัลมอนด์ เธอจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสาวงามล้มแผ่นดิน
เมื่อมองไปที่เธอชิงสุยรู้สึกว่าเธอดูคล้ายกับหมิ่งเยวี่ยไม่น้อย เพียงแค่เธอนั้นแข็งแกร่งและทรงภูมิปัญญามากกว่า
ในขณะนี้ผู้หญิงคนนั้นเดินตรงเข้ามาหาเขา เธอขาที่เรียวยาว และดูนุ่มนวลของเธอทําให้หัวใจของเขาสั่นไหว ก่อนที่เธอจะยกมุมปากและกล่าว
“ข้าประหลาดใจจริงๆที่เจ้ามาที่นี่ได้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้คําตอบแล้วนะ ตกลงเจ้าจะมาอยู่กับข้าหรือไม่?” เธอยิ้มขณะที่ค่อยเดินตรงเข้ามาใกล้ๆชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยยิ้มออกมาอย่างเขินอาย ก่อนที่จะกล่าวว่า “ ท่านหญิงมีความงามที่หาใครเทียบได้ มีผู้คนมากมายที่ต้องการอยู่ข้างๆท่าน ท่านไม่จําเป็นต้องให้ข้าอยู่ข้างๆกายท่านหรอก!”
จริงๆแล้วชิงสุ่ยไม่รู้จักชื่อของเธอ และเขารู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยที่มาในครั้งนี้ หากไม่มีเหตุผลจริงๆเขาคงไม่เดินทางมีที่นี่ในวันนี้
“ ดูเหมือนว่าคําพูดที่ข้ากล่าวออกไปในตอนแรกจะยังไม่ชัดเจน ดังนั้นวันนี้ข้าทําให้มันชัดเจน ข้าถามจริงๆเจ้าจะตายไหมรึไง หากให้โอกาสข้าสักครั้ง? “ผู้หญิงคนนั้นมองที่ชิงสุ่ยอย่างขมขื่น
ตอนนี้ชิงสุยรู้ว่า เขากําลังถูกดึงดูดผู้หญิงคนนี้อย่างมาก ชิงสุยได้แต่สายหน้าและรับกล่าว “เรื่องของหัวใจไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถบังคับกันได้ นอกจากนี้ข้าก็มีผู้หญิงข้างกายมากเกินไปแล้วและข้าก็ไม่ต้องการเป็นรู้สึกผิดต่อใครไปมากกว่านี้แล้ว”
“ เจ้าพูดไปว่าเจ้ามีผู้หญิงมากมายข้างกาย แล้วทําไม ถึงไม่นับข้าลงไปในนั้นด้วยละ”
สิ่งนี้ทําให้ชิงสุ่ยตกตะลึงอย่างมาก เขาไม่เคยคิดว่าผู้หญิงที่สูงส่งและสง่างามเช่นเธอจะกล่าวเช่นนี้ออกมา
“ ข้าไม่ต้องการให้ ท่านประสบกับความอยุติธรรม ทําไมท่านถึงไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปละ” ชิงสุ่ยช่วยส่ายหัวอย่างไร้ประโยชน์ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทําอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ ถ้าเช่นนั้นทําไมเจ้าถึงมาหาข้าในวันนี้กันละ?” เธอไม่ต้องการถามให้มากความอีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงได้ถามเขาออกมาอย่างตรงๆ
“ พอดีข้าต้องการขอความช่วยเหลือจากท่าน” ชิงสุ่ยพูดหลังจากคิดไปครู่หนึ่ง
“ มันเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับพระราชวังเทพสมุทรใช่หรือไม่? เจ้ากําลังกลัวว่าข้าจะโจมตีพวกเขาอย่างนั้นเหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างยั่วยุให้กับชิงสุ่ย
“ปาวเลย ข้าเพียงแค่อยากให้ท่านช่วยปกป้องพวกเขา ยามประสบปัญหาใดๆ ด้วยอํานาจของท่านท่านสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้รึไม่? เนื่องขากภรรยาของข้าอยู่ในกลุ่มของพวกเขา” ชิงสุ่ยพูดอย่างจริงจัง
เมื่อได้ยินสิ่งที่ชิงสุ่ยกล่าวเธอตกใจไม่น้อย เพียงแค่ขอให้เธอไม่จู่โจมพวกเขานั้นก็มากพอแล้ว แต่ผู้ชายคนนี้กล้าที่จะขอให้เธอช่วยปกป้องพระราชวังเทพสมุทรอีกด้วย มันจึงทําให้เธอรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
เธอยิ้มออกมาและกล่าวว่า “ ทําไมข้าต้องช่วยเจ้าด้วยละ ไหนเจ้าลองบอกหตุผลให้ข้าฟังหน่อยได้ไม่?”
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าโลกใบหนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆและฟรีๆดังนั้นชิงสุ่ยจึงกล่าวไป “ข้าไม่ได้ ขอให้ท่านให้ความช่วยเหลือข้าโดยปราศจากสิ่งตอบแทน ท่านสามารถขออะไรก็ตามที่ท่านต้องการ ตราบใดที่ข้าสามารถทํามันได้ ข้าจะทําอย่างแน่นอน”
“เจ้าสามารถทําได้อย่างแน่นอน แต่มันนั้นเป็นสิ่งที่เจ้าไม่ต้องการ” เธอถอนหายใจ
ชิงสุ่ยไม่ทราบว่าเธอพูดอะไรออกมา จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าอะไรคือของจริงหรืออะไรคือของปลอม
ในตอนนี้ชิงสุยได้แต่เงียบอยู่ ก่อนที่เธอจะกล่าวออกมา ” ข้ารู้แล้วว่าทําไมเจ้าถึงมาที่นี่ และข้าก็ไม่ต้องการให้เจ้าตกอยู่ในตําแหน่งที่ยากลําบาก เพื่อประโยชน์ของเจ้า ข้าจะไม่โจมตีพระรางวังเทพสมุทร หากพวกเขาไม่มีสร้างความวุ่นวายให้ข้าก่อน”
“ ข้าเป็นหมอมีอะไรที่ ท่านต้องการให้ช่วยข้าไหม? แต่ข้าไม่สามารถรับประกันได้ ว่าข้าจะสามารถรักษาทุกอย่างได้ แต่อย่างน้อยข้าก็สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งและปรับแต่ความแข็งแกร่งของท่านให้เพิ่มขึ้นอีก50%” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างจริงจัง
“ เนื่องจากเจ้าเป็นหมอที่เก่งกาจข้าเชื่อเจ้า แต่ตอนนี้ข้ายังไม่ต้องการอะไรจากเจ้าเอาเป็นว่าเมื่อไร ที่ข้าต้องการ ข้าจะไปตามเจ้าเอง”
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างมาก นั้นเพราะเธอยอมรับข้อตกลงของเขาแล้ว เท่ากับว่าเป้าหมายในการมาครั้งนี้ของเขาได้ประสบความสําเร็จเป็นที่เรียบร้อย
ในท้ายที่สุดชิงสยได้กล่าวลา เธอก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไป ในความเป็นจริงแล้วชิงสุยรู้สึกผิดกับเธออย่างมาก เขารู้ดีเหตุผลที่เธอยอมรับข้อเสนอนี้นั้นก็เพราะเธอหลงใหลในตัวของเขา
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะทําตามสัญญาที่ให้ไว้ ชิงสุยหากเจ้ามีเวลาว่างเจ้าก็จงมาหาข้าบ้าง เพราะไม่แน่ว่าวันไหนที่ข้าจะลืมสัญญาของเรา หากเจ้าไม่มาเตือนข้า” ผู้หญิงคนนั้นพูดช้า
รอยยิ้มอันขมขึ้นปรากฏบนใบหน้าของชิงสุ่ยเมื่อเขาได้ยินคําพูดของเธอ เขาโบกมือไปด้านหลังและไม่หันไปมองขณะที่เขากําลังมุ่งหน้าไปยังทางออก เรื่องที่นี่เสร็จสมบูรณ์แล้ว แม้เขาไม่รู้ว่าเธอจะรักษาสัญญาหรือไม่ แน่นี้ก็เป็นคําพูดของผู้มีอํานาจสูงสุดในพระราชวังสุริยาแล้ว