Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1648 - กลับบ้าน งานแต่งงานของเหลียนหลิงเฟิง ตระกูลชีแห่งเมืองจักรพรรดิได้มาถึง
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1648 - กลับบ้าน งานแต่งงานของเหลียนหลิงเฟิง ตระกูลชีแห่งเมืองจักรพรรดิได้มาถึง
บทที่ 1648 – กลับบ้าน งานแต่งงานของเหลียนหลิงเฟิง ตระกูลชีแห่งเมืองจักรพรรดิได้มาถึง
การจากไปของทั้งชิงเฟิงและหมิงอ ทําให้หยินเทียนรู้สึกไม่สบายใจแต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเขาก็ ต้องยอมรับมัน เดิมทีพลังของตระกูลหยินก็ไม่ได้มากมายอยู่แล้วในตอนนี้กลับต้องอ่อนแอลงไปอีก
แต่ราชาเฒ่าก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันและมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ไม่ พียงแต่เขาจะชื่นชอบการทําอาหารแต่เขากลับมาฝึกฝนอีกครั้งด้วยเช่นกัน ชิงสุ่ยใช้ยาเม็ดวิศิษฐ์โฉมและยาหอมมรกตทองคําเพื่อทําให้เขาเขาดูแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ราชาเฒ่ารู้สึกไม่คุ้นเคยเล็กน้อยหลังจากได้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง หยินเทียนและเฟิง ซี่มา หาชิงสุ่ยอย่างลับๆเพราะหวังว่าราชาเฒ่าจะสามารถหลุดออกจากอดีตของตนเองได้ ถ้าเขายังจมอยู่กับอดีตชีวิตของเขาก็คงจะไม่มีความสุข
ดูเหมือนความหวังนั้นจะเป็นจริงเพราะชายชราดูเหมือนจะชื่นชอบในชีวิตใหม่และแสดงอารมณ์ออกมาได้มากขึ้น
แม้ว่านิกายจันทรานิรันกาลจะสูญเสียตระกูลหงไปรวมไปถึงชิงเฟิงและหมิงอ แต่ผู้คนที่เหลืออยู่ในตอนนี้นั้นก็ซื่อสัตย์ต่อตระกูลหยิน ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าตระกูลหยินนั้นทรงพลังมากยิ่งขึ้น แม้ว่าหยินเทียนยังไม่หายเป็นปกติก็ตาม
นิกายจันทรานิรันกาลยังไม่อาจรับมือกับนิกายกระบอสูรอมตะได้ในตอนนี้เวลาได้ผ่า นพ้นไปยังไม่รู้ตัวและส่วนใหญ่นั้นชิงสุ่ยจะใช้เวลาเดินทางไปรอบๆที่แห่งนี้กับหญิงสาวทั้งสองคนของเขา เพื่อดูว่ามีของล้ําค่าหรือสมุนไพรใดๆหรือไม่
ดินแดนหยกยุพราชอมตะนั้นกําลังจะยกระดับเข้าสู่ขั้นต่อไปแต่ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์ 9 อสูรนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย ผู้หญิงทั้งสองค่อยๆปรับความแข็งแกร่งและ พลังของตระกูลหยินก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น
พลังของหยินเทียน เฟิง ซี่ และราชาเฒ่าก็เพิ่มขึ้นประมาณ 1 เท่าและนั่นก็เพราะว่าการช่วยเหลือของชิงสุ่ย พลังของหยินเทียนค่อยๆฟื้นฟูขึ้นอย่างช้าๆในตอนนี้
ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าการฟื้นฟูของหยินเทียนจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนและเมื่อถึงตอนนั้นชิงสุ่ยก็จะสามารถกลับไปที่บ้านเขาได้ เขาไม่ได้เร่งรีบที่จะเข้าไปยังส่วนลึกของมหาทวีปอุดรเทวา เรื่องของที่นี่นั้นยังไม่จบและคนส่วนใหญ่ของที่นี่นั้นอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อซึ่งชิงสุ่ยอยากจะเข้ามาช่วย เหลือ
ชีวิตประจําวันในตอนนี้ของเขานั้นสงบสุขอย่างยิ่งและชิงสุ่ยก็ได้มีโอกาสออกไปผ่อนคลายพร้อมกับฉินชิงและถานท้าย หลิงเยียน แม้ว่าหญิงสาวทั้งสองคนจะไม่ได้แสดงออกมากนักแต่ชิงสุ่ยก็รู้สึกได้ว่าพวกนามีความสุข
แต่ชิงสุ่ยต้องพบเจอกับปัญหาบางอย่างในตอนนี้ เขาพบว่าเขาไม่อาจใช้ธงสวรรค์ปัญจธาตุได้ในตอนนี้เพราะมันจะพาเขาไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นเมื่อตอนที่พวกเขากลับไปที่บ้านก็จะต้องใช้ทักษะย่างก้าว 9เทวาและสัตว์อสูรของเขาเท่านั้น
เวลา 1 เดือนได้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วและพลังของหยินเทียนก็กลับมาเป็นปกติดูเหมือนจะมากกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ํา ชิงสุ่ยยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายของเขาอีกด้วย
พลังของหยินเทียนในตอนนี้อยู่ที่ 1500 เต๋และแตกต่างจากชิงสุ่ยอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังมากกว่าคนอื่นๆ พลังของราชาเฒ่านั้นอยู่ที่ 1100 เต่แน่นอนว่ายังไม่ได้รวมกับพลังเพิ่มขึ้นจากรูปแบบต่างๆ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมราชาเฒ่าดูมีความสุขอย่างยิ่งในตอนนี้
“ท่านป้าเฟิงและท่านลุง พวกเราได้อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานานแล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับไปแล้ว” ชิงสุ่ยบอกกล่าวเรื่องนี้กับหยินเทียนและเฟิง ซี่ในวันที่ 3 หลังจากหยินเทียนหายเป็นปกติ
หยินเทียนและเฟิง ซี่รู้ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึงนางจึงกล่าวออกมาด้วยความเสียดายว่า “พวกเราจะกลับไปพร้อมกับเจ้า”
ชิงสุ่ยส่ายศีรษะของเขา “ท่านป้าเฟิงยังเป็นห่วงข้าอีกขั้นหรือ? ท่านไม่ควรออกจากที่นี่แหละ ตอนนี้ท่านควรอยู่ที่นี่และเมื่อถึงเวลาพวกเราก็จะกลับมาที่นี่”
เฟิง ซี่รู้ว่าสิ่งที่ชิงสุ่ยกล่าวนั้นเป็นความจริงและแม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่พูดเรื่องนี้ออกมานางก็คงออกไปส่งเขาไม่ได้ “เช่นนั้นพวกเจ้าก็ต้องระวังให้ดี เมื่อเรื่องในตอนนี้สงบสุขดีแล้วพวกเราจะไปหาพวกเจ้าเอง”
การจากลานําพามาซึ่งความโศกเศร้าอยู่เสมอซึ่งทําให้ชิงสุ่ยต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้วเขาก็อาจจะต้องรู้สึกโศกเศร้าไปอีกนาน
เมื่อขึ้นมาบนวิหคเพลิงนรกานต์ ชิงสุ่ยและหญิงสาวทั้งสองคนของเขาก็มุ่งหน้าไปยังแดนทะเลน้ําแข็ง เมื่อได้มาถึงที่นี่ชิงสุ่ยก็นึกถึงช่วงเวลา 2 เดือนนั้นและการรอคอยให้หยินเทียนหายเป็นปกติกว่าครึ่งปีก่อนที่พวกเขาจะได้กลับมายังเมืองหลินหาย
เมืองหลินห่ายดูไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักแม้เวลาจะผ่านไปกว่าครึ่งปีแล้ว ที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยหิมะและตั้งใจ มันยังคงงดงามเช่นเคย
หอคอยจักรพรรดินั้นก็เจริญรุ่งเรืองมากกว่าก่อนหน้านี้แม้ว่าจะไม่มีชิงสุ่ยแต่เพราะว่าเทียนนั่นทรงพลังอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังสามารถสรรหาหมอที่มีฝีมือมาแทนชิงสุ่ยได้
ชิงสุ่ยได้ทิ้งวิธีการรักษาและสูตรยาจํานวนมากเอาไว้ให้พวกเขาที่นี่ แต่ดูเหมือนยังมีโรคร้ายแรงที่ไม่อาจรักษาให้หายได้รอคอยให้ชิงสุ่ยกลับมา ถึงกระนั้นจะรักษาหายหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาเท่านั้น
นั่นเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ชิงสุ่ยเปิดหอคอยจักรพรรดิขึ้นมาเพราะยังมีคนอีกเป็นจํานวนมากที่ไม่อาจรักษาโรคของตนเองได้
การกลับมาของพวกเขาในครั้งนี้ทําให้ทุกๆคนมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง เหลียนหลิงเฟิงและมีความสุขมากที่สุดเพราะเขากําลังรอคอยให้ชิงสุ่ยกลับมาเพื่อที่เขาจะได้แต่งงานกับซีฉีชา
หลังจากที่ได้ทักทายทุกๆคนพวกเขาก็ตรงไปที่ห้องโถงใหญ่ทันที
“ก่อนหน้านี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?” ชิงสุ่ยยิ้มแล้วถามขึ้น หากเขากลับมาที่นี่คนเดียวโดยไม่มีหญิงสาวทั้งสองคนมาด้วยเขาคงจะตรงไปที่ถ้ําศักดิ์สิทธิ์ใกล้ๆพระราชวังทะเลราชันย์ในตอนนี้
“ไม่มีอะไร ทุกอย่างปกติดี พวกเรากําลังรอคอยให้ท่านกลับมาก่อนที่ข้าจะได้แต่งงานกับซีฉี ชา ท่านจะกลับมานานเท่าไรในครั้งนี้?” เหลียนหลิงเฟิงถามชิงสุ่ยด้วยความกังวล
“ครั้งนี้อาจจะยาวนานหน่อย ไม่ต้องกังวลไปเลยข้าจะออกไปหลังจากเจ้าได้แต่งงานแล้ว” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวขึ้น
เหลียนหลิงเฟิงคํานับชิงสุ่ยและกล่าวว่า “ท่านช่างเป็นพี่ชายที่ดีจริงๆๆ”
ชิงสุ่ยมองไปยังถานท้าย หลิงเยียนและฉินชิงและเขารู้สึกอยากจะแต่งงานกับหญิงสาวทั้งสองคนมากจริงๆเพราะช่วงเวลาที่ยากลําบากพวกเขาผ่านมาได้กันสาคัญอย่างยิ่ง
วันแต่งงานของพวกเขานั้นจะจัดขึ้นก่อนวันปีใหม่ที่ใกล้จะเข้ามาถึงแล้ว มันเหลือเวลาอีกไม่ถึง 20 วันและการแต่งงานของลูกชายคนโตของตระกูลเหลียนและลูกสาวคนโตของตระกูลซีฉียอมถือเป็นงานใหญ่อย่างแน่นอน
งานแต่งงานจะจัดขึ้นที่หอคอยจักรพรรดิซึ่งถูกเตรียมขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความจริงแล้วผู้อาวุโสของตระกูลซีนั้นต้องการให้ซีฉีชาแต่งงานกับชิงสุ่ยแต่น่าเสียดายที่มันไม่อาจเป็นเช่นนั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นเหลียนหลิงเฟิงยังชื่นชอบซีฉีชาเป็นอย่างมาก
ความรู้สึกนั้นไม่สามารถบังคับกันได้ หากเป็นหญิงสาวที่เขาชื่นชอบแล้วละก็เขาก็จะไล่ตามนางไปเรื่อยๆ
ชิงสุ่ยนั้นเข้าใจเหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งเสมอ – หลายสิ่งหลายอย่างไม่จําเป็นต้องพูดแต่ก็สามารถเข้าใจได้ คนที่เหมือนกันมักจะเข้าใจซึ่งกันและกันและชิงสุ่ยก็รู้สึกได้ว่าคนพวกนี้นั้นคล้ายคลึงกันกับเขา
แม้ว่าเหลียนหลิงเฟิงจะเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเหลียนแต่เขาก็ไม่ได้ทําตัวชั่วร้ายแต่อย่างใดและยังมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล นั่นยังเป็นเหตุผลที่ทําให้ซีฉีชาชื่นชอบเขา
วันปีใหม่ใกล้เข้ามาถึงโดยไม่รู้ตัวและงานแต่งงานของเหลียนหลิงเฟิงและซีฉีชาก็ได้มาถึงแล้วแม้ว่าชิงสุ่ยไม่ได้รู้จักใครมากนักแต่ชื่อเสียงที่โด่งดังของหอคอยจักรพรรดิและผู้คนจํานวนมากที่ได้รับการรักษาต่างก็ยกย่องเขาดังนั้นฐานะของเขาจึงไม่ได้ต่ําต้อยเลยผู้คนจํานวนมากมายังที่นี่แม้ จะไม่ได้รับเชิญก็ตาม
ชิงสุยไม่ได้กังวลว่าผู้ใดจะมาขัดขวางเพราะตระกูลเหลียนและตระกูลซีนี่ต่างก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง
นอกจากนี้พลังของเหลียนหลิงเฟิงยังจัดได้ว่าเป็นยอดฝีมือของตระกูลเหลียนแม้แต่บรรพบุรุษในตระกูลก็ไม่อาจต่อกรกับเขาได้ในตอนนี้ นี่เป็นเพราะมรดกแห่งเทพสงครามและด้วยความช่วยเหลือของชิงสุ่ยพลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ตระกูลเหลียนรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งที่เหลียนหลิงเฟิงได้เป็นมิตรสหายกับชิงสุ่ย ผู้อาวุโสของตระกูลเหลียนต่างก็รู้ดีว่าชิงสุ่ยนั้นเป็นหัวใจของหอคอยจักรพรรดิ
หอคอยจักรพรรดิมันมีพื้นที่มากมายและงานเลี้ยงก็จัดขึ้นที่นี่ สุราในงานเลี้ยงก็เป็นสิ่งที่ชิงสุ่ย นําออกมาจากดินแดนหยกยุพราชอมตะไม่นานมานี้ มันเป็นสุราที่มีอายุมากกว่า 100 ปีทั้งสิ้น
เพราะ 1 วันในโลกแห่งความจริงนั้นเทียบได้กับเวลา 1 ปีกว่าในดินแดนหยกยุพราชอมตะของชิงสุย
ลานประลองก็ถูกจัดตั้งขึ้นเช่นเดียวกัน ตระกูลซีฉีจะเป็นผู้ที่ปกป้องเวทีและตระกูลเหลียนจะ ต้องเอาชนะตระกูลชีฉีจึงจะสามารถแต่งงานกับลูกสาวคนโตของตระกูลได้ นี่ถือเป็นพิธีการสําคัญ ในโลกใบนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงการแสดง แต่มันก็เป็นพิธีการ
ไม่นานนักผู้คนในงานเลี้ยงก็ได้รับรู้ว่าอาหารที่นี่อร่อยมากเพียงใดและต่างก็กล่าวชื่นชมมา กมาย อาหารที่อยู่ภายในงานนั้นมีเพียงของที่เรียบง่ายไม่หรูหราแต่มีรสชาติที่อร่อยอย่างยิ่ง โดย เฉพาะสุราที่พิเศษกว่าสิ่งใด แน่นอนว่าชิงสุ่ยเป็นผู้เตรียมทุกอย่างเองทั้งหมด
การต่อสู้บนลานประลองก็ได้เริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังจากที่งานเลี้ยงได้เริ่มต้นขึ้น บรรยากาศของที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน แม้ว่าคนเหล่านี้อาจจะไม่ได้ทรงพลังแต่การต่อสู้ของพวกเขานั้นก็เป็นไปอย่างสนุกสนานและผู้คนจํานวนมากก็มีความสุขที่ได้ชม
เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนประมาณ 30 คนเดินตรงเข้ามาที่หอค อยจักรพรรดิ ผู้นําของคนกลุ่มนี้เป็นผู้อาวุโสที่ดูทรงพลังและเมื่อได้เห็นเขาผู้อาวุโสซีฉีก็ยืนขึ้นแล้ว ต้อนรับทันที “ประมุขของตระกูลชีได้มาถึงแล้ว มาเถอะ นั่งลงก่อน”
ก่อนหน้านี้การพิทักษ์ลานประลองนั้นจะเป็นฝ่ายของเจ้าสาวและฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นจะได้รับสะพานเพื่อข้ามไปหาเจ้าสาว
“ผู้อาวุโสซีฉี!” ใบหน้าของผู้อาวุโสคนนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อผู้อาวุโสซีฉีเข้ามาทักทายเขาสําหรับคนอื่นๆขอตระกูลเหลียนพวกเขาไม่ได้สนใจอะไรในตอนนี้
ตระกูลชีเป็นตระกูลชั้นยอดในเมืองเมืองจักรพรรดิของจักรวรรดิหิมะนิรันดร์และดูเห มือนว่าสิ่งต่าง ๆ จะไม่เป็นไปด้วยดีชิงสุยมองไปยังเหลียนหลิงเฟิงซีฉีชาที่มีใบหน้าไม่ค่อยพอใจ
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าหนึ่งในนายน้อยของตระกูลชีนั้นชื่นชอบซีฉีชา การมาถึงของพวกเขาในครั้งนี้ดูเหมีอนจะไม่ใช่การแสดงความยินดีเพราะพวกเขาไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรเลย