Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1680 – ความแข็งแกร่งที่เปลี่ยนไป
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1680 – ความแข็งแกร่งที่เปลี่ยนไป
AST
ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้คือการผสานเข้ารวมเป็นหนึ่งเดียวกันของพลังวิญญาณของเขาและเจี้ยนเก้อ หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของดินแดนหยกในเวลาถัดมา
ในตอนนี้ชิงสุ่ยค่อยๆอ่านลงไปที่แผ่นจากรึกอย่างถี่ถ้วนในตอนนี้ขนดของดินแดนหยกได้ขยายออกไปจากเก่าถึงสิบเท่า สำหรับอัตราส่วนของเวลาในดินแดนหยกก็ได้ขยายเพิ่มขึ้นจากเก่าสองเท่า
เมื่อเห็นมันชิงสุ่ยมีความสุขอย่างมากแม้ว่าในตอนนี้อัตราส่วนเวลาจะเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าแต่ชิงสุ่ยกลับไม่ได้ตื่นเต้นกับมันมากนักสิ่งที่เขาตื่นเต้นก็คือดินแดนหยกได้ขยายใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่าในเวลานี้
ชิงสุ่ยอ่านต่อในเวลานี้รางวัลอย่างแรดคือต้นเก้าหยิน ซึ่งมันต้องใช้เวลากว่าพันปีก่อนที่จะมันจะเติบโต พันปีเพื่อออกผลและพันปีสุกงอม มันเป็นส่วนผสมในการกลั่นยาระดับสูง
เมื่อเห็นชื่อของมันทำให้เขานึกยาเม็ดวิญญาณเก้าหยิน นี่เป็นยาวิเศษในตำนาน กล่าวได้ว่ามันเป็นยาลึกลับระดับเทพ แม้แต่ในตำนานก็กว่าได้ว่ามันเป็นยาในตำนาน
มันมีความสามารถในการช่วยเหลือผู้คนที่ใกล้จะตายได้อย่างไม่มีเหตุผลแต่ถึงอย่างไรก็ตามหัวใจและสมองของคนผู้นั้นต้องไม่ถูกทำลาย หากพวกมันถูกทำลายไปแล้วแม้ว่ายาจะวิเศษอย่างไรมันก็ไร้ความหมาย
อย่างไรก็ตามส่วนผสมของมันก็เป็นวัสดุมายาทั้งหมดเมื่อมองไปที่ส่วนผสมของมัน ชิ่งสุ่ยได้แต่ถอนหายใจ ยิ่งไปกว่านั้นอัตราส่วนความสำเร็จในการกลั่นมันก็ต่ำมากๆ ยิ่งไปกว่านั้นสูตรยาที่เขามีก็ยังไม่สมบูรณ์อีกด้วย อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยรู้สึกว่ามันอาจจะสามารถรักษาอาการของหยวนหวนได้ ดังนั้นเขาจึงต้องทำมันให้สำเร็จ
รางวัลต่อไป:ปลาทองคำสิบตัว มันสามารถใช้ทำอาหารและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายโดยตรง
รางวัลต่อไป:ธูปพันปี ธูปสถิตวิญญาณและต้นไม้อื่นๆ
รางวัลต่อ:อัตราส่วนและความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรที่อยู่ในดินแดนหยกจะเพิ่มขึ้นอีก30%
……
……
ชิงสุ่ยมีความสุขเมื่อลงไปที่ประโยคอ่านนี้แม้ว่าเขาจะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้กับการเปลี่ยนแปลงของดินแดนหยก แต่เขาก็ตั้งตารอคอยมันอยู่เสมอ และแล้วความฝันของเขาก็เป็นจริง
ความก้าวหน้าครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อเขาอย่างมากโดยเฉพาะพลังวิญญาณที่ขยายตัวออกถึงสองเท่าของเขาในเวลานี้ จะทำให้เขาสามารถต่อสู้ได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งทักษะในการกลั่น ทักษะเบญจธาตุ และแส้มังกรเพลิงแรกเริ่ม ทั้งหมดมันนั้นก็ขึ้นอยู่กับพลังวิญญาณทั้งหมด
ความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชิงสุ่ยนั้นได้มาจากการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด และความน่าเกรงขามของพลังวิญญาณ การเพิ่มพลังจิตวิญญาณในตอนนี้ ไม่ได้เพียงแต่เพิ่มพลังในการจู่โจมเท่านั้น มันยังช่วยเพิ่มความสามารถในการป้องกันของเขามากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ยิ่งไปกว่านั้นมันยังสามารถยกระดับทักษะวชิระทั้งหมดของเขาได้
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สู้ว่าการจู่โจมของเขาได้ยกระดับทั้งหมดด้วยพลังวิญญาณในตอนนี้ หากเขาได้ต่อสู้กับชายชราจากนิกายกระบี่อสูรอมตะอีกครั้ง เขาคงจะสามารถจัดการอีกฝ่ายลงได้โดยไม่ยากเย็นนัก
นอกเหนือจากนี้กลิ่นอายในร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากผลนั้นเกิดมาจากทะเลแห่งปัญญาที่ได้เติบโตมากขึ้น กลิ่นอายที่ไร้ขอบเขตได้ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขาโดยตรง ในเวลานี้กลิ่นอายของชิงสุ่ยดูคล้ายกับพระเจ้าอย่างมาก novel-lucky
ในตอนนี้ชิงสุ่ยมั่นใจมากขึ้นที่จะออกเดินทางเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของทวีปแห่งนี้ทะเลเหนือ เพราะมันเป็นสถานที่ลึกลับที่สุดของทวีปแห่งนี้และยังเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่ง
ในตอนเช้าชิงสุ่ยและนายหญิงทั้งสามได้ร่วมทายอหารด้วยกันในตอนนี้นายหญิงแห่งพระราชวังสุริยา และ มู่หยุนชิงเฉิงจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยตลอดเวลา พลังวิญญาณที่เปลี่ยนไปของเขาได้สร้างกลิ่นอายที่ลึกลับและแตกต่างออกไปจากเก่า หากมีคำทีจะสามารถอธิบายได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็คือ ก็คือคำว่า “กระบี่” (ไม่เข้าใจ??)
นอกจากนี้พวกเธอก็ได้จ้องมองไปที่เจี้ยนซึ่งอยู่ด้านข้างชิงสุ่ยในเวลานี้พวกเธอสามารถสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงภายในตัวของเจี้ยนเก้อ ในเวลานี้เจียนเก้อเขินอายเล็กน้อยเมื่ถูกจับจ้อง ในขณะที่ชิงสุ่ยทำตัวเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในตอนนี้แม้ว่าพวกเธอทั้งสองจะไม่มีประสบการณ์ในเรื่องรักๆใคร่ๆแต่พวกเธอก็สามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจี้ยนเก้อ ทั้งคู่เข้าใจทุกอย่างๆทันที ในตอนนี้นางหยญิงอห่งพระราขวังสุริยาได้ยิ้มออกมาและกล่าว“ วันนี้พวกเจ้าดูดีเป็นพิเศษเลยนะ?”
”ใช่ไหม?ฉัข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน” ชิงสุ่ยหัวเราะ
“เอาล่ะมาทานอาหารกันดีกว่า แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็จะมาพูดถึงเรื่องการเดินทางของเรา” เจี้ยนเก้อรีบกล่าวอย่างเร่งรีบ เธอไม่อายในสิ่งที่เกิด เพราะตอนนี้พวกธอก็เป็นเหมือนดังพี่สาวน้องสาวของเธอ แต่เธอกลับอายที่ถูกล้อเล่น
“ให้ข้ากับเจี้ยนเก้อจะล่วงหน้าดูลาดราวก่อนส่วนพวกเจ้าก็รีบจัดการเรื่องทางนี้ให้เรียบร้อย?” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาหลังทานอาหารเสร็จ
”ตามใจเจ้าพวกเราจะรีบจัดการเรื่องทางนี้ ในความเป็นจริงพากเรานั้นสามารถไปได้ตลอดเวลา การจัดการเรื่องในทางนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตเลย” นายหญิงแห่งพระราชวังสุริยากล่าวมั่นใจ
ชิงเฉิงก็พยักหน้าเช่นเดียวกัน
ชิงสุ่ยพร้อมที่จะออกเดินกับเจี้ยนเก้อในตอนนี้มันเป็นครั้งแรกที่เขาเข้าสู่มหาสมุทรทางเหนืออย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เขาต้องไปพบกับนายพลกุ้งทองคำโบราณเสียก่อน เพราะเขาผู้ปกป้องทางเข้าสู่ทะเลเหนือ ในตอนนี้ชิงสุ่ยก็ไม่รู้ว่าเขาแข็งแกร่งเท่าไร
มีกองกำลังนับหมื่นที่เฝ้าทางเข้าเอาไว้ในตอนนี้เพื่อปกป้องทางเข้าทางหนึ่งของทะเลเหนือเอาไว้ ดังนั้นพลังที่อยู่ควรอยู่เบื้องหลังนายพลต้องแข็งแกร่งอย่างมาก อาจอยู่ในระดับเดียวกับพระราชวังมังกรอุดรเลยก็ตาม และพวกเขาก็อาจเป็นหนึ่งในกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลเหนือ
ทางเข้าสาทะเลเหนือไม่ต่างจากทางลงมาจากแดนทะเลน้ำแข็งมากนักยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ ชิงสุ่ยก็มีทักษะทักษะวชิระวารีอยู่กับตัว มันจึงไม่ใช่เรื่องยากของเขา สำหรับเจี้ยนเก้อเธอเป็นถึงผู้ได้รับสืบทอดมรดกแห่งเทพสมุทรเงนั้นความสามารถในการควบคุมน้ำของเธอจึงไม่ได้ด้อยไปกว่าชิงสุ่ยเลย
สำหรับพระราชวังมังกรอุตรนั้นตั้งอยู่อยู่ใกล้กับแดนทะลน้ำแข็งอย่างมากมันเป็นพลังที่ๆทรงพลังที่สุดรอบๆแดนทะเลน้ำแข็ง ก่อนที่มันจะถูกทำลายโดยพระราชวังสุริยา
อย่างไรก็ตามสำหรับพระราชวังและสถานที่ของพระราชวังมังกรอุดรนั้นยังไม่ได้ถูกทำลายแต่หน้าเสียดายที่มันถูกทิ้งร้างอย่างสมบูรณ์หลังจากพ่ายแพ้ กลุ่มคนของพระราชวังมังกรอุดรได้ย้ายออกไปหลังความพ่ายแพ้
ชิงสุ่ยและเจี้ยนเก้อมาถึงที่นี่ภายในครึ่งวัน ด้วยความสามารถของชิงสุ่ย
“ทำเลที่ตั้งที่นี่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ” ชิงสุ่ยกล่าวออกมา แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการวางฮวงจุ้ย แต่ชิงสุ่ยก็เคยศึกษาฮวงจุ้ยมาบ้าง ทฤษฎีเกี่ยวกับภูมิทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและอิทธิพลทางวิญญาณภายนั้นมักส่งผลต่อผู้คนเสมอ หลักดวงดาวทิศทางนั้นเป็นตัวแปรสำคัญในการเลือกทำเลที่ตั้ง ชิงสุ่ยได้เรียบรู้มันมากจากชีวิตก่อนหน้านี้
“เข้าไปกันเถอะเรายังต้องไปต่อ”เจี้ยนเก้อกล่าวออกมา
“บอกข้ามาสิเจ้ามีเป้าหมายอย่างอื่นหรือไม่ที่เลือกที่นี่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเลือกที่นี่โดยไม่มีเหตุผล?” ชิงสุ่ยถามอย่างสงสัย